ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณถูกแบนใน Tinder อาจจะร้อนใจอยากกลับไปปัดขวาเร็วๆ ก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะเรามี 2 - 3 วิธีทำให้คุณกลับมาใช้แอปได้ในเร็ววัน บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำขั้นตอนการยื่นเรื่องขอปลดแบนไปทาง Tinder ให้คุณเอง รวมถึงทางลัดให้ใช้แอปได้แม้ยื่นเรื่องขอปลดแบนไม่สำเร็จ รับรองแป๊บเดียวกลับมาปัดขวาหารักได้แน่นอน!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

ติดแบนใน Tinder แล้วปลดแบนได้ไหม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นโยบายอย่างเป็นทางการของ Tinder คือแบนแล้วแบนเลย แต่ก็ยังไม่หมดหวังซะทีเดียว. ปกติ Tinder ค่อนข้างเคร่งกฎเรื่องแบนบัญชีผู้ใช้ คือมีกฎการใช้งานชัดเจนว่าแบนถาวร แต่ถ้าลองยื่นเรื่องแย้งไปแล้วเหตุผลฟังขึ้นก็อาจจะยังมีหวัง จะรู้ได้ว่าตัวเองถูกแบน ก็คือล็อกอินเข้าแอปหรือเว็บแล้วมีข้อความขึ้นว่าคุณละเมิด กฎการใช้งานของ Tinder [1]
    • ถ้าเป็นสมาชิกแบบ Tinder Gold หรือ Tinder Plus and โดยสมัครผ่านบัญชี Apple ID หรือ Google Play Store ก็ให้ไป ที่นี่ แล้วยกเลิกสมาชิก จะได้ไม่เสียเงินฟรี
    • ถ้าสมัคร Tinder Gold หรือ Tinder Plus ไว้ผ่านบัตรเครดิตหรือเว็บ Tinder ก็จะยกเลิกสมาชิกอัตโนมัติ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

ยื่นเรื่องขอปลดแบนไปที่ Tinder ได้ผลไหม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ได้ผล เรียกว่าเป็นวิธีเดียวที่จะปลดแบนได้จริง. ถึง Tinder จะอ้างว่าไม่มีขั้นตอนยื่นคำร้องขอแย้งเรื่องถูกแบน แต่จริงๆ มีหน้าส่งคำร้องอยู่ ให้เข้าไปที่ หน้านี้ เลือก “Trouble with account login” แล้วเลือก “Can’t login, my account was banned.” จากนั้นกรอกข้อมูลของคุณ แล้วอธิบายเหตุผลว่าทำไมคุณถึงไม่ควรถูกแบน ถ้า Tinder พิจารณาแล้วเห็นสมควรก็น่าจะปลดแบนให้ [2]
    • ถ้าถูกแบนเพราะเข้าใจผิดกันกับผู้ใช้อื่น ก็ลองอธิบายไป อาจจะเขียนประมาณ “I know one of my matches got upset, but they misinterpreted what I wrote. Can you take a look and please unban me?” (คนที่แมทช์ด้วยเขาไม่พอใจ แต่จริงๆ เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน อยากให้ทาง Tinder ช่วยพิจารณารายละเอียดแล้วปลดแบนให้)
    • ถ้าไม่รู้เลยว่าถูกแบนเพราะอะไร ให้ทาง Tinder ช่วยตรวจสอบบัญชีผู้ใช้ให้ อาจจะเขียนประมาณว่า “I don’t think I’ve violated any rules? Was this a mistake? Can you review my activity to see what the problem is?” (ไม่คิดว่าเราละเมิดกฎการใช้งานของ Tinder ไม่ทราบว่าผิดพลาดตรงไหน อยากให้ช่วยตรวจสอบกิจกรรมการใช้งานจะได้รู้ปัญหา)
    • อธิบายเสร็จให้ลงท้ายด้วยการสัญญาอย่างกระชับและสุภาพ ว่าต่อไปจะระวัง ไม่ทำผิดพลาดอีก ถ้าทาง Tinder พิจารณาแล้วฟังขึ้น หรือบังเอิญเจอเจ้าหน้าที่ที่ใจดีมีเหตุผลหน่อย ก็น่าจะปลดแบนให้
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

ทางลัดปลดแบนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถอนการติดตั้งแอป แล้วตัดการเชื่อมต่อกับบัญชีโซเชียลมีเดียอื่นๆ ที่พ่วงไว้. Tinder จะ track หรือตามรอย IP address เบอร์โทร สัญญาณ Wi-Fi และซิมของคุณ ถ้าถูกแบนแล้วใช้ข้อมูลพวกนี้สมัครบัญชีใหม่อีก ก็อาจจะแบนซ้ำได้ ให้เริ่มจากถอนการติดตั้งแอปในมือถือ ถ้าพ่วง Facebook หรือ IG ไว้กับ Tinder ก็ยกเลิกการอนุญาตตามเว็บโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ โดยล็อกอินแล้วไปที่ security settings [3]
    • ถ้าจะให้ดีต้องใช้มือถือเครื่องใหม่ ซิมใหม่ แล้วค่อยดาวน์โหลดแอป เพราะช่วยลดโอกาสการตรวจเจอว่า อ้าว นี่สมาชิกที่เคยถูกแบนนี่นา
    • รีเซ็ตมือถือ กลับค่าโรงงานก็พอช่วยได้ ถ้าเปลี่ยนเครื่องไปเลยไม่ได้
    • ถ้าใช้คอม ให้ เปิดโหมด Incognito หรือ ใช้ VPN ซ่อน IP address ของตัวเอง
  2. สมัครบัญชีผู้ใช้ใหม่ด้วยเบอร์โทรและอีเมลใหม่. ง่ายที่สุดคือ สมัครใช้เบอร์โทรของ Google Voice ฟรี แต่จะใช้เบอร์โทรของเพื่อนหรือคนในครอบครัวแทนก็ได้ ถ้ามีมือถือหลายเครื่อง ก็ใช้เบอร์เครื่องอื่นแทน อย่าลืมใช้อีเมลใหม่เวลาสมัครบัญชีใหม่ใน Tinder [4]
  3. ห้ามใช้ข้อมูลหรือรูปจากโปรไฟล์เดิมของคุณใน Tinder เพราะ Tinder ย้อนรอยตรวจสอบรูปและข้อมูลเพื่อแบนผู้ใช้ที่ไม่เหมาะสมอยู่เสมอ เลยแนะนำให้ใช้รูปโปรไฟล์และ bio ใหม่ไปเลย จะได้เริ่มปัดขวากันได้อีกครั้งแบบสบายใจ [5]
    • อย่าสมัคร Tinder Gold หรือ Tinder Plus โดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตใบเดิมที่เคยใช้กับบัญชีที่ถูกแบน
    • อาจจะลองปรับอายุเพิ่มจากเดินสัก 1 ปี (เช่น ถ้าอายุ 22 ก็ปรับขึ้นเป็น 23) และเปลี่ยน/เพิ่มชื่อสัก 1 ตัวอักษร (เช่น Kan ก็เปลี่ยนเป็น Gan) เพื่อลดความเสี่ยงการถูกตรวจสอบแล้วแบนซ้ำ
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

เล่น Tinder ยังไงไม่ให้ถูกแบน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Tinder จะแบนเฉพาะผู้ใช้ที่ละเมิดกฎการใช้งาน เพราะงั้นถ้าคุณไม่แหกกฎ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร [6] ที่ห้ามทำคือ
    • แชร์รูปโป๊เปลือยหรือเนื้อหาล่อแหลมทางเพศ
    • คุกคาม กลั่นแกล้ง (บูลลี่) หมิ่นประมาท หรือสร้างความเดือดร้อนไม่สบายใจให้ผู้ใช้ด้วยกัน
    • ใช้ข้อความดูถูกเหยียดหยาม หรือปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชัง (เช่น เหยียดเพศ ผิว เชื้อชาติ ศาสนา ความพิการ เป็นต้น)
    • โฆษณาบริการหรือลงลิงก์สแปมไปยังเว็บอื่น
    • แชร์เนื้อหาที่มีเครื่องหมายการค้า หรือเนื้อหาที่ตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าของ
    • ใช้แอป third-party เช่น auto-swiper (ปัดโปรไฟล์อัตโนมัติ)
  2. ให้ใช้โหมด incognito เสมอ หรือใช้เครื่องใหม่ แล้วอย่าต่อ Wi-Fi. ตลอดการใช้งานบัญชีผู้ใช้ใหม่ อย่าใช้รูปเก่า ข้อมูลเก่า อย่าต่อ Wi-Fi ในบ้านโดยไม่ใช้ VPN หรือโหมด incognito และอย่าล็อกอินในอุปกรณ์เก่าที่เคยถูกแบน ขอแค่ Tinder หาจุดเชื่อมโยงระหว่างบัญชีใหม่กับบัญชีเก่าคุณไม่ได้ คุณก็ปลอดภัยหายห่วง [7]
    • แต่เตือนกันก่อนว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่เคยถูกแบน สุดท้ายมักโดนสกัดอีกจนได้ เพราะ Tinder ค่อนข้างตรวจเก่งจับเก่ง อาจจะต้องทำขั้นตอนพวกนี้ซ้ำอีกจนได้
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

เปลี่ยนไปใช้แอปหาคู่แอปอื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปลี่ยนไปใช้ Bumble, Hinge หรือ Grindr แทนถ้าถูกแบนเรื่อยๆ. Tinder เป็นแอปหาคู่ที่ดังสุดก็จริง แต่ยังมีแอปอื่นให้เลือกใช้อีกเยอะ! ถ้าอยากรู้จักคนใหม่ๆ ลองใช้หนึ่งในแอปต่อไปนี้ดู เป็นแอปฟรีทั้งหมด แต่ก็สมัครใช้บริการแบบ premium ได้ ถ้าอยากได้อะไรที่ใกล้เคียงกับ Tinder Plus และ Tinder Gold [8]
    • Bumble เป็นแอปหาคู่ที่ให้สาวๆ เป็นฝ่ายส่งข้อความไปหาคนที่แมทช์ด้วยก่อนเท่านั้น
    • Hinge เป็นอีกแอปหาคู่ที่เทียบเท่า Tinder เลย แต่จะเน้นหาคนที่สานต่อความสัมพันธ์จริงจังกว่า
    • Grindr เป็นแอปหาคู่สำหรับชาว LGBTQ+ โดยเฉพาะ
    • แอปอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ก็เช่น Coffee Meets Bagel, HER, Plenty of Fish, eHarmony และ OkCupid

เคล็ดลับ

  • ที่น่าเสียดายที่สุดของการถูกแบนบัญชีผู้ใช้ คือไม่มีทางกู้ข้อความและแชทคืนมาได้อีก
โฆษณา

คำเตือน

  • Tinder++ เป็น Tinder เวอร์ชั่น “jailbreak” ที่น่าจะช่วยแก้ขัดเวลาถูกแบนได้ แต่ไม่มีอะไรรับประกันว่าเห็นผลจริง แต่ถึงได้ผลก็ต้องระวัง เพราะผู้พัฒนาก็เชื่อถือไม่ได้ 100% ใครอยากลองก็ต้องยอมรับความเสี่ยง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 80,584 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา