ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ขณะที่เลือกซื้อน้ำขวดอยู่นั้น มันอาจเป็นการยากที่จะเลือกว่าจะซื้อแบบไหนดี และจะยิ่งจริงเข้าไปใหญ่ถ้าคุณไม่รู้ความหมายของคำศัพท์ทางการตลาดบนฉลากหรือบนขวด บริษัทผลิตน้ำขวดหลายบริษัทจะโปรโมทว่าผลิตภัณฑ์ของตนมีความเป็นธรรมชาติกว่า ดื่มแล้วสุขภาพดีกว่า หรือเหนือกว่าเมื่อเทียบกับน้ำก๊อก แต่ในประเทศไทยไม่แนะนำให้ดื่มน้ำก๊อก จึงไม่มีบริษัทไหนโฆษณาแบบนี้ [1] อย่างไรก็ตาม การที่ค้นคว้าเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยให้คุณได้พบกับประเภทของน้ำขวดที่มีมากมาย ข้อมูลพื้นฐานบางอย่างสามารถช่วยให้คุณซื้อน้ำขวดที่มียี่ห้อหรือประเภทตามที่เหมาะสมกับคุณที่สุดได้เช่นกันนะ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

การซื้อน้ำขวด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บริษัทที่ผลิตน้ำขวดก็มีประเภทของน้ำมากมายออกวางจำหน่าย อย่างไรก็ตาม คุณอาจต้องการซื้อน้ำขวดที่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ อย่างน้ำที่มีแหล่งน้ำมาจากใต้ดินหรือน้ำบาดาล ลองดูน้ำเหล่านี้ดูสิ
    • น้ำจากบ่อบาดาล . เป็นน้ำบรรจุขวดจากบ่อที่มีทรายและหินซึ่งมีหน้าที่เป็นชั้นหินอุ้มน้ำอยู่ [2] ชั้นหินอุ้มน้ำนั้นสำคัญในการเป็นตัวกรองจากน้ำใต้ดินจากธรรมชาตินั่นเอง [3]
    • น้ำแร่ . เป็นน้ำที่มีของแข็งละลายได้ไม่เกินกว่า 250 ส่วนต่อล้าน ซึ่งเป็นน้ำที่มีทั้งแร่ธาตุและจุลธาตุ จะไม่สามารถเพิ่มแร่ธาตุหรือธาตุใดที่ไม่ได้มีอยู่แล้วได้ไม่ว่าเมื่อไร [4] แร่ธาตุปกติที่พบเจอนั้นได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม และโพแทสเซียม [5]
    • น้ำจากแหล่งใต้ดิน . เป็นน้ำที่ถูกเก็บมาจากแหล่งใต้ดิน ซึ่งผุดขึ้นมาเหนือผิวพื้นดินโดยธรรมชาติ น้ำชนิดนี้จะต้องถูกเก็บมาจากแหล่งน้ำตกหรือระบบน้ำก๊อกที่รับมาจากน้ำตกโดยตรงเท่านั้น [6]
    • น้ำแร่ชนิดมีฟอง . น้ำชนิดนี้จะมีแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์จากธรรมชาติเป็นส่วนประกอบ หลังจากที่นำมากลั่นกรองแล้ว ทางบริษัทอาจเติมคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มอีกได้ [7]
  2. หลีกเลี่ยงน้ำบรรจุขวดที่มีแหล่งมาจากน้ำประปา. บางบริษัทก็ออกจำหน่ายน้ำที่เป็น "น้ำประปา" หรือมาจากแหล่งไม่ธรรมชาติ ถ้าคุณกำลังมองหาน้ำจากแหล่งธรรมชาติหรือน้ำจากแหล่งบาดาล น้ำประปาบรรจุขวดก็ไม่ใช้ตัวเลือกที่คุณควรซื้อมา
    • น้ำบริสุทธิ์ต้องได้มาตรฐานของ US Pharmacopoeia (เภสัชตำรับของสหรัฐอเมริกา) ต้องผ่านการกลั่น การกรองผ่านระบบ RO (Reverse osmosis) หรือผ่านกระบวนการ DI (Deionization) ก่อนที่จะนำมาบรรจุขวด [8] อย่างไรก็ตาม มันมักจะได้รับการจากแหล่งน้ำประปาและเหมือนกับน้ำที่ออกมาจากก๊อกน้ำ
    • มันอาจเขียนบนฉลากไว้ว่า "น้ำที่ผ่านการกลั่น" หรือ "น้ำดื่มบริสุทธิ์"
    • น้ำบริสุทธิ์ที่บรรจุขวดทั่วไปนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าน้ำบรรจุขวดแบบอื่นเลย อย่างไรก็ตาม ก็ควรรู้ไว้ว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติและไม่ใช่น้ำจากแหล่งบาดาลอีกด้วย
  3. ถ้าคุณดูที่ใต้ขวดหรือหลังขวด คุณจะเห็นฉลากที่บอกถึงชนิดของพลาสติกของขวดที่ใช้ ขวดน้ำส่วนใหญ่จะใช้พลาสติกที่รู้จักกันในชื่อ PET พลาสติกชนิดนี้ถูกใช้ในการทำบรรจุภัณฑ์พลาสติกหลากลายชนิด และได้รับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาเป็นที่เรียบร้อย [9]
    • สาร Bisphenol A (รู้จักกันในชื่อ BPA) เพิ่งได้ผ่านการตรวจสอบมาเร็วๆ นี้ ซึ่งเหมือนกับพลาสติก PET คุณอาจพบฉลากบนขวดที่บอกว่ามีส่วนผสมของพลาสติก BPA ผสมอยู่ [10] อย่างไรก็ตาม องค์การอาหารและยาได้ศึกษางานวิจัยและกำหนดแต่งตั้งให้พลาสติก BPA นั้นปลอดภัยด้านการบริโภค [11]
  4. คำนวณงบประมาณในการซื้อน้ำบรรจุขวดโดยประมาณ. บางครั้งน้ำขวดอาจมีราคาค่อนข้างแพง โดยเฉพาะถ้าหากว่าบรรจุภัณฑ์มีความแปลกตาหรือเป็นน้ำที่มาจากบ่อบาดาลแล้วก็จะยิ่งแพง
    • เมื่อคิดถึงการซื้อน้ำขวด คุณอาจต้องตัดสินใจว่าปกติในแต่ละวัน คุณดื่มน้ำวันละกี่ขวด หรือมีแผนการดื่มน้ำอย่างไร การนับจำนวนการดื่มน้ำในแต่ละวันจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าควรใช้เงินในการซื้อน้ำขวดเท่าไรต่อสัปดาห์
    • อาจเป็นการประหยัดกว่า ถ้าหากว่าซื้อน้ำขวดเป็นขวดแกลลอน มีร้านค้าหลายร้านที่จะลดราคาเมื่อซื้อในปริมาณที่มากกว่า
    • คุณอาจอยากสั่งซื้อน้ำขวดให้มาส่งที่บ้าน บางบริษัทก็จะส่งน้ำขวดขนาดใหญ่และเครื่องจ่ายน้ำที่คุณสามารถใช้ที่บ้าน เพื่อเติมน้ำลงขวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกด้วย
  5. น้ำบรรจุขวด ก็เหมือนกับอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ควรเก็บไว้อย่างเหมาะสมเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของตัวผลิตภัณฑ์ [12]
    • เก็บขวดน้ำเอาไว้ให้ห่างจากแสงแดดและความร้อน ควรเก็บไว้ในที่เย็นและมืด
    • น้ำขวดนั้นไม่มีวันหมดอายุ ตราบใดที่เก็บไว้อย่างมิดชิดในที่ที่มืดและเย็น [13]
    • จำไว้ว่าขวดน้ำถูกเก็บเอาไว้หรือได้รับการจัดการอย่างไร คุณอาจอยากล้างฝาหรือส่วนบนของขวดก่อน โดยเฉพาะถ้ามันไม่มีฟิล์มพลาสติกหุ้มป้องกันเอาไว้ ส่วนบนและฝาของขวดอาจมีแบคทีเรียหรือสารปนเปื้อนปนมาระหว่างทำการจัดส่งได้ [14]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ตัดสินใจใช้น้ำที่มาจากแหล่งอื่น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ระบบกรองน้ำอาจทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว และลดการทิ้งขวดน้ำพลาสติกเป็นจำนวนมาก ระบบกรองน้ำนั้นมีอยู่ด้วยกันสองประเภท ได้แก่ ประเภททั้งบ้าน (กรองน้ำที่เข้ามาในบ้านทั้งหมด มักจะแพงกว่ามาก) และใช้เฉพาะที่ (ซึ่งจะกรองน้ำเฉพาะที่ เช่น กรองน้ำฝักบัว หรือกรองก๊อกน้ำของอ่างล้างจาน) [15] หลายคนเลือกที่จะใช้แบบกรองเฉพาะที่เพราะราคาถูกกว่า นั่นรวมไปถึง
    • ขวดน้ำส่วนตัวที่มีฟิลเตอร์กรองอยู่ภายใน เป็นการดีสำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าถึงน้ำสะอาดเป็นประจำ
    • เหยือกน้ำที่มีตัวกรองด้านใน และจะกรองน้ำออกมาผ่านตัวกรอง
    • เครื่องกรองก๊อกน้ำที่ต่อโดยตรงกับอ่างล้างจาน อย่างไรก็ตาม ก๊อกน้ำแบบพิเศษอาจไม่สามารถใช้ร่วมกับเครื่องกรองแบบนี้ได้ [16]
    • เครื่องกรองตู้เย็น/ช่องแช่แข็ง มันมักจะถูกติดตั้งเอาไว้ด้านในตู้เย็น และทำให้คุณได้น้ำกับก้อนน้ำแข็งที่มาจากน้ำสะอาดนั่นเอง
  2. เลือกซื้อขวดน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ไร้สาร BPA. เมื่อคุณตัดสินใจจะดื่มน้ำก๊อกหรือตู้กดน้ำสะอาด คุณอาจอยากซื้อขวดน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
    • การใช้ขวดที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้จะช่วยลดปริมาณขยะและการทิ้งขวดพลาสติกได้
  3. แม้น้ำก๊อกหรือน้ำประปาจะไม่น่าดื่มเท่าน้ำขวด แต่มันก็ดีต่อสุขภาพและประหยัดเงินได้มากกว่าน้ำขวด น้ำก๊อกส่วนใหญ่นั้นสามารถดื่มได้ ถ้าหากว่าคุณกังวล ก็ให้ซื้อเหยือกกรองมาติดตู้เย็นเอาไว้ เพื่อที่จะได้กรองไปอีกขั้นหนึ่ง แต่วิธีนี้ไม่แนะนำสำหรับประเทศไทย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้างบของคุณไม่พอสำหรับน้ำขวด หรือถ้าคุณหายี่ห้อน้ำที่เข้ากับคุณภาพที่คุณต้องการไม่ได้ คุณอาจต้องใช้ที่กรองน้ำแทน
  • บริษัทผลิตน้ำดื่มขวดบางบริษัทอาจทำให้เข้าใจผิดจากฉลากบนขวดหรือจากโฆษณาเกี่ยวกับแหล่งน้ำที่ได้มา โปรดรับข้อมูลจากแหล่งที่เป็นกลาง
  • น้ำดื่มขวดอาจมีราคาสูงหน่อย แม้ว่าจะซื้อยี่ห้อที่ราคาถูกกว่าแล้วก็ตาม ให้คำนวณเงินรายเดือนสำหรับการดื่มน้ำ และใช้อย่างเป็นระบบระเบียบ
  • ระวังวลีที่ใช้ในการขายอย่าง "น้ำแร่ธรรมชาติ" หรือ "น้ำพุบริสุทธิ์" วลีเหล่านี้อาจไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าน้ำประปาบริสุทธิ์เลย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,478 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา