ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
Minecraft เป็นอีกเกมดังที่เล่นคนเดียวก็สนุกได้ แต่พอผ่านไปสักพัก อาจมีเริ่มเหงาบ้างเล็กน้อย ถ้าคุณเป็นแบบนั้น ก็คงถึงเวลาชวนเพื่อนๆ มาร่วมแชร์ประสบการณ์ Minecraft กัน! โชคดีที่เกมนี้เขาออกแบบมาให้เล่นพร้อมกันหลายๆ คนได้สบาย
ขั้นตอน
-
หาเซิร์ฟเวอร์ที่จะเล่น. จะเริ่มเล่น Minecraft แบบ multiplayer หรือเล่นที่เดียวพร้อมกันหลายคนได้ คุณต้องหาเซิร์ฟเวอร์ที่จะใช้เล่นซะก่อน คุณหาเซิร์ฟเวอร์จากใน Minecraft ไม่ได้ ต้องหาผ่านเบราว์เซอร์ มีหลายเว็บด้วยกันที่รวบรวมรายชื่อเซิร์ฟเวอร์ไว้ แถมพวกเซิร์ฟเวอร์ดังต่างๆ ก็มีเว็บเป็นของตัวเอง พวกเว็บดังๆ ใหญ่ๆ ที่รวมรายชื่อเซิร์ฟเวอร์ไว้เต็มไปหมดก็เช่น
- MinecraftServers.org
- MinecraftForum.net เข้าไปที่ส่วนของ Server
- PlanetMinecraft.com เข้าไปที่ส่วนของ Server
-
มองหา IP address ของเซิร์ฟเวอร์. จะหน้าตาประมาณ mc.wubcraft.com หรือ 148.148.148.148 บางทีก็มีพอร์ทพ่วงท้ายมาด้วย เช่น :25565
-
เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใช่. มีหลายปัจจัยที่คุณต้องคำนำถึงเวลาจะเลือกเซิร์ฟเวอร์ แต่ละเซิร์ฟเวอร์ก็เล่นแล้วสนุก ได้ประสบการณ์แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่จะมาพร้อมคำอธิบายให้คุณได้อ่านแล้วพิจารณา ให้ลองมองหารายละเอียดสำคัญๆ ก่อนเลือกเซิร์ฟเวอร์
- ระบบการเล่น - เซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่ให้คุณเล่น Minecraft ในระบบพื้นฐานทั่วไป แต่อีกหลายเซิร์ฟเวอร์ก็มีระบบการเล่นหลากหลายโหมด ตั้งแต่ชิงธง ไปจนถึงสวมบทบาทแบบ RPG และอื่นๆ อีกมากมาย
- Whitelist - ถ้าเซิร์ฟเวอร์ไหนใช้ระบบ whitelist แปลว่ารับแต่ผู้เล่นที่ลงทะเบียนยืนยันตัวตนแล้ว หรือก็คือคุณต้องสร้างบัญชีในเว็บของเซิร์ฟเวอร์ก่อนถึงจะเล่นได้
- ความหนาแน่น - หรือก็คือจำนวนผู้เล่น ณ เวลานั้น รวมถึงจำนวนผู้เล่นสูงสุดที่กำหนด อย่าลืมว่าถึงจะไม่อยากเล่นคนเดียว แต่คนเยอะไปก็ใช่ว่าจะดี เซิร์ฟเวอร์ก็เลยมักจะแบ่งผู้เล่นจำนวนมหาศาลออกเป็นกลุ่มๆ ตามเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ
- PvP - หรือก็คือ "Player vs. Player" เป็นระบบที่ผู้เล่นโจมตีอีกฝ่ายได้ ถือเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่เล่นยากไม่น้อยทีเดียวถ้าคุณเป็นมือใหม่หัดเล่น Minecraft น่ะ
- Uptime - จะบอกว่าเซิร์ฟเวอร์นั้นออนไลน์พร้อมให้คุณเล่นบ่อยแค่ไหน ถ้าคุณคิดจะออนไลน์เล่นเซิร์ฟเวอร์นี้ตลอด ก็ต้องหาเซิร์ฟเวอร์ที่มี uptime 95% ขึ้นไป
-
Copy IP address ของเซิร์ฟเวอร์มา. จะเชื่อมต่อเข้าเล่นเซิร์ฟเวอร์นั้นได้ ต้องมี IP address ของเซิร์ฟเวอร์ซะก่อน หาได้จากรายชื่อเซิร์ฟเวอร์นั่นแหละ โดย IP จะเป็นกลุ่มตัวอักษรและ/หรือหมายเลข มีจุดคั่นเป็นระยะ ให้คุณลากแล้ว copy ไว้ใน clipboard
-
เช็คเวอร์ชั่นเกมของเซิร์ฟเวอร์นั้น. เซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่มักเป็น Minecraft เวอร์ชั่นเก่าๆ เพราะต้องใช้เวลากว่าเครื่องมือของเซิร์ฟเวอร์จะอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นใหม่ ให้คุณเช็คดูว่าเซิร์ฟเวอร์นั้นให้บริการ Minecraft เวอร์ชั่นไหน
-
เปิด Minecraft Launcher แล้วเลือกเวอร์ชั่นเกมให้ตรงกัน. ก่อนจะเริ่มเล่น Minecraft ให้คุณเปิด Launcher ขึ้นมาแล้วสังเกตเวอร์ชั่น Minecraft ที่ขึ้นตรงมุมขวาล่าง ถ้าเป็นเวอร์ชั่นต่างจากเวอร์ชั่นของเซิร์ฟเวอร์ ก็ต้องแก้ profile ของคุณให้เวอร์ชั่นตรงกัน
- คลิกปุ่ม Edit Profile ที่มุมซ้ายล่าง
- คลิกเมนู "Use version" ให้ขยายลงมา แล้วเลือกเวอร์ชั่นที่ตรงกับของเซิร์ฟเวอร์ เสร็จแล้วคลิก Save Profile เพื่อเซฟค่าใหม่
- หรือจะสร้าง profile ใหม่สำหรับเล่นเซิร์ฟเวอร์นั้นโดยเฉพาะก็ได้ ถ้าคุณอยากเล่นเกมหลายเวอร์ชั่นในหลายเซิร์ฟเวอร์แตกต่างกันไป ก็น่าจะลองสร้าง profile สำหรับเล่นเกมแต่ละเซิร์ฟเวอร์แยกไปเลย เวลาจะเลือกเล่นเซิร์ฟเวอร์ไหนจะได้สะดวก
-
เปิด Minecraft แล้วคลิก "Multiplayer". เพื่อเปิดเมนู Multiplayer
-
คลิกปุ่ม "Add server". เพื่อเปิดหน้าจอ Edit Server Info
-
Paste IP address ลงไปในช่อง "Server Address". แล้วใส่ชื่อเซิร์ฟเวอร์ในช่อง "Server Name" จริงๆ จะตั้งว่าอะไรก็ได้ แต่เราแนะนำให้ใส่ชื่อเซิร์ฟเวอร์นั้นลงไปเลย คุณจะได้เลือกใช้ง่าย
- คลิก "Done" เพื่อเซฟข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ เซิร์ฟเวอร์ที่คุณเพิ่งเพิ่มเข้าไปจะไปโผล่ในรายชื่อเกม
- แต่ถ้าไม่เห็น ให้เช็คดูดีๆ ว่าใส่ Server Address ถูกแล้ว
-
เลือกเซิร์ฟเวอร์ที่จะเล่นแล้วคลิกปุ่ม "Join Server". Minecraft จะเริ่มเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์นั้น แล้วโลกในเกมจะโหลดขึ้นมา ถ้ามีข้อความขึ้นเตือนว่าเกมในเซิร์ฟเวอร์นี้เป็นคนละเวอร์ชั่น ให้คุณกลับไปเช็คว่าเลือกเวอร์ชั่นในเมนู Profile ถูกแล้ว
-
เริ่มเล่นเกมในเซิร์ฟเวอร์นั้น. เซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่จะให้คุณโผล่มาใน Welcome area ก่อน คุณจะเห็นกฎและคำแนะนำต่างๆ ในการเล่นเกมเซิร์ฟเวอร์นั้น รวมถึงวิธีการเข้าร่วมกับผู้เล่นคนอื่นๆ ด้วย
- เวลาเล่นเกมในเซิร์ฟเวอร์สาธารณะ ห้ามไปทำลายสิ่งก่อสร้างหรือผลงานของคนอื่นเขาล่ะ นอกจากจะเสียมารยาทแล้ว ระวังจะโดนแบนจากเซิร์ฟเวอร์นั้นไปเลย
- เล่นตามกฎของเซิร์ฟเวอร์นั้นๆ Minecraft จะสนุกมากถ้าทุกคนทำตามกฎระเบียบเหมือนๆ กัน ซึ่งกฎที่ว่าก็จะแตกต่างกันไปแต่ละเซิร์ฟเวอร์ เพราะฉะนั้นอย่าลืมอ่านรายละเอียดพวกนี้ใน Welcome area กับเว็บของเซิร์ฟเวอร์นั้นๆ ก่อนล่ะ
-
จะแชทกับผู้เล่นคนอื่นๆ ให้กด T. เพื่อเปิดหน้าต่างแชทแล้วพิมพ์ข้อความ อย่าลืมว่าเวลาเล่นเกมในเซิร์ฟเวอร์สาธารณะ คนที่คุยด้วยก็คนแปลกหน้าทั้งนั้น เพราะงั้นอย่าบอกเรื่องส่วนตัวเขาล่ะ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
เปิดเบราว์เซอร์ในเครื่อง. คุณเล่น Minecraft PE กับคนอื่นๆ ได้ผ่านเซิร์ฟเวอร์ Minecraft PE คุณหาเซิร์ฟเวอร์พวกนี้ได้ด้วยแอพเบราว์เซอร์ โดยในแต่ละเซิร์ฟเวอร์ก็จะมีระบบการเล่นและโหมดแตกต่างกันออกไป ทำให้เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ทีก็สนุกสนานไม่ซ้ำกัน มีหลายเว็บเลยที่รวบรวมรายชื่อเซิร์ฟเวอร์ดังๆ ไว้ เช่น
- Minecraftpocket-servers.com
- MCPEstats.com
- MCPEhub.com/servers
- MCPEuniverse.com/pocketmine/
-
เปรียบเทียบฟีเจอร์ต่างๆ ของแต่ละเซิร์ฟเวอร์. เว็บรวมเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่จะลงรายละเอียดของแต่ละเซิร์ฟเวอร์ไว้ด้วย รวมถึงโหมดเกมที่เล่นได้ จำนวนผู้เล่น ที่อยู่เซิร์ฟเวอร์ และอื่นๆ ให้คุณพิจารณาเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่ใช่จากข้อมูลพวกนี้
- เช็คเวอร์ชั่นเกมของเซิร์ฟเวอร์นั้นด้วย Minecraft Pocket Edition จะไม่ยอมให้คุณเปลี่ยนไปเล่นเวอร์ชั่นอื่นๆ ของเกม เพราะงั้นจะเลือกได้เฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่ให้คุณเล่นเกมเวอร์ชั่นเดียวกับที่คุณติดตั้งไว้เท่านั้น เซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่จะอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดภายใน 24 ชั่วโมงหลังเวอร์ชั่นนั้นถูกปล่อยออกมา
-
เช็ค IP address กับหมายเลขพอร์ทของเซิร์ฟเวอร์. IP address หรือ server address จะเป็นกลุ่มตัวอักษรและ/หรือตัวเลขที่มีจุดคั่นกลางเป็นระยะ ส่วนหมายเลขพอร์ทจะแยกจาก address หลัง colon ( : )
-
เปิดแอพ Minecraft PE แล้วแตะ "Play". เพื่อเปิดรายชื่อโลกต่างๆ ในเกม
-
แตะปุ่ม "Edit". ที่มุมขวาบน
-
แตะปุ่ม "External" แล้วแตะ "Add Server". เพื่อเข้าไปกรอกรายละเอียดของเซิร์ฟเวอร์
-
กรอกรายละเอียดของเซิร์ฟเวอร์ตามช่องต่างๆ. คุณต้องกรอกรายละเอียดตามช่อง แล้วแตะ "Add Server" เพื่อเพิ่มเซิร์ฟเวอร์นั้นลงรายการ
- Server Name - คือชื่อเซิร์ฟเวอร์ ตั้งเองได้เลย แต่ถ้าใส่ชื่อเซิร์ฟเวอร์ไปตามจริง ทีหลังจะได้หาง่าย
- Address - ให้ใส่ IP address ในช่องนี้
- Port - ช่องนี้ให้ใส่หมายเลขพอร์ท หรือก็คือหมายเลขที่อยู่หลัง : ใน IP address
-
แตะเซิร์ฟเวอร์ใหม่ที่คุณเพิ่งเพิ่มเข้าไปเพื่อเชื่อมต่อได้เลย. เกมจะเริ่มเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์เอง พอเรียบร้อยแล้วคุณก็จะไปโผล่ใน Welcome area ของเซิร์ฟเวอร์
- แต่ถ้าต่อไม่ติด แสดงว่าอาจเป็นได้จาก 2 - 3 สาเหตุ เช่น ถ้าเซิร์ฟเวอร์เต็ม ก็จะเชื่อมต่อไม่ได้ ไม่มีขึ้นแจ้งเตือนด้วย หรือถ้าเซิร์ฟเวอร์นั้น offline ก็เชื่อมต่อไม่ได้เช่นกัน รวมถึงกรณีที่ชื่อคุณซ้ำกับชื่อของผู้เล่นอื่นที่เชื่อมต่อเล่นเกมอยู่แล้วด้วย
- คุณเปลี่ยนชื่อในเกมได้ที่เมนู Settings ในเมนูหลักของ Minecraft PE
-
ถ้าจำเป็นก็ต้องลงทะเบียนใช้เซิร์ฟเวอร์นั้นด้วย. บางเซิร์ฟเวอร์คุณต้องลงทะเบียนก่อนถึงจะเล่นหรือใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ ในเกมได้ ให้คุณลงทะเบียนเซิร์ฟเวอร์ด้วยอีเมล ตามขั้นตอนที่ปรากฏขึ้นมา อย่าลืมไปเปิดข้อความยืนยันที่ส่งไปทางอีเมลด้วยล่ะโฆษณา
-
อย่าลืมเชื่อมต่อคอมทุกเครื่องที่จะใช้เข้าด้วยกัน. คุณเล่น Minecraft แบบ multiplayer ได้ง่ายๆ แค่เชื่อมต่อคอมทุกเครื่องเข้าด้วยกันผ่าน LAN
- ถ้าเล่นอยู่บ้าน ปกติคอมทุกเครื่องก็ใช้เครือข่ายเดียวกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเล่นที่โรงเรียนหรือที่ทำงานก็จะยากขึ้นอีกหน่อย ลองอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในเน็ตดูเรื่องการตั้งค่าเชื่อมต่อ
- คุณใช้ VPN (Virtual Private Network) เชื่อมต่อคอมหลายเครื่องจากระยะไกลได้ในเครือข่ายเดียว สะดวกมากเวลาจะรวมตัวเพื่อนๆ จากหลายๆ ที่โดยไม่ต้องมานั่งสร้างเซิร์ฟเวอร์ ลองศึกษาเพิ่มเติมในเน็ตดูเรื่องรายละเอียดการใช้ VPN เชื่อมต่อกันระหว่างคอม
-
ทุกคนต้องเล่น Minecraft เวอร์ชั่นเดียวกัน. จะเชื่อมต่อเกมได้ ทุกคนต้องเล่น Minecraft เวอร์ชั่นเดียวกัน ให้เลือกมาว่าจะใช้เครื่องไหนเปิดเกม แล้วค่อยใช้ profile editor ในคอมเครื่องอื่นๆ เลือกเวอร์ชั่นให้ตรงกัน
- เปิด Minecraft Launcher แล้วคลิกปุ่ม Edit Profile
- เลือกเวอร์ชั่นจากเมนู "Use version" ที่ขยายลงมาให้ถูกต้อง
-
เริ่มเกมในคอมเครื่องตั้งต้น. โดยคอมเครื่องนี้เราจะเรียกว่า "host" จะเลือกคอมเครื่องไหนก็ได้ ขอแค่ให้แรงสุด จากนั้นให้โหลดโลกหนึ่งในเกมแบบเล่นคนเดียว (single-player mode) ขึ้นมาใน host
-
กดคีย์ Escape เพื่อเปิดเมนู Pause. พอโหลดโลกเสร็จแล้ว คุณก็เปิดให้คนอื่นที่เชื่อมต่อผ่าน LAN เข้ามาเล่นกันได้แล้ว โดยเลือกจากในเมนู Pause
-
คลิก Open to LAN . เพื่อเริ่มขั้นตอนตั้งค่าเล่นเกมผ่านเครือข่าย จะมีเมนูใหม่โผล่ขึ้นมา
-
ตั้งค่าการเล่นเกมแบบ multiplayer. คุณเลือกได้ว่าจะเล่นโหมด Survival (เอาตัวรอด), Adventure (ผจญภัย) หรือ Creative (สร้างสรรค์) รวมถึงเปิด-ปิดสูตรโกงได้ด้วย ให้คลิกปุ่มต่างๆ เพื่อสลับตัวเลือกไปมาได้เลย
-
คลิก Start LAN World เพื่อเริ่มเล่นเกมแบบ multiplayer. ตอนนี้คอมเครื่องอื่นๆในเครือข่ายก็เข้าเล่นเกมเดียวกันได้แล้ว
-
เปิด Minecraft ในคอมเครื่องที่สอง. เช็คให้ดีว่าคอมเครื่องที่ว่าเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายแล้ว และเล่น Minecraft เวอร์ชั่นเดียวกันกับเครื่อง host
-
คลิกปุ่ม Multiplayer ในเมนูหลักของ Minecraft. Minecraft จะสแกนเครือข่ายของคุณหาเกมปัจจุบันที่เล่นอยู่ เกม Minecraft ที่เปิดอยู่ในเครื่อง host ก็จะโผล่ขึ้นมาในรายการ
- แต่ถ้าไม่มี ให้คลิกปุ่ม Direct Connect แล้วใส่ local IP address ของเครื่อง host ลงไป ลองศึกษาเพิ่มเติมในเน็ตดู ว่าจะหา IP address ของเครื่อง host ได้ยังไง
-
เลือกเกมที่ว่า แล้วคลิก Join Server . ตอนนี้ที่หน้าจอต้องขึ้นว่า LAN World เหนือชื่อเกม หลังเลือกและเข้าเกมแล้ว โลกในเกมจะโหลดให้คุณเริ่มเล่นได้เลย [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ให้ host เทเลพอร์ททุกคนมารวมกัน. พอผู้เล่นทุกคนเข้าเกมแล้ว อาจจะไปโผล่ไกลกันจาก host โดยเฉพาะถ้า host รออยู่แล้วสำรวจโลกในเกมไปพักหนึ่งแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงเพราะ host สามารถเทเลพอร์ททุกคนมาหาได้ จะได้มาเจอแล้วเริ่มเล่นด้วยกัน
- ในเครื่อง host ให้กด T เพื่อเปิดหน้าต่างแชท จากนั้นพิมพ์ /tp PlayerName HostName แล้วกด Enter เพื่อเทเลพอร์ทผู้เล่นชื่อ PlayerName มาที่ host เสร็จแล้วก็ทำซ้ำเพื่อเทเลพอร์ทคนอื่นๆ
- อย่าลืมให้ผู้เล่นแต่ละคนนอนที่เตียงในสถานที่ใหม่นั้น ถ้าเกิดตายขึ้นมาจะได้ถูกส่งกลับมาที่เดิม
โฆษณา
-
ดาวน์โหลดไฟล์เซิร์ฟเวอร์ของ Minecraft ลงคอมที่จะใช้เปิดเซิร์ฟเวอร์. พอสร้างเซิร์ฟเวอร์ Minecraft แล้วคุณกับเพื่อนก็จะได้โลกถาวรไว้เข้าเล่นได้ตลอดเวลา แถมยังเป็นเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว มีแค่คุณกับเพื่อนๆ จะติดตั้ง mod ต่างๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน ขอแค่มีคอมเครื่องหนึ่งที่เปิดและต่อเน็ตไว้ตลอดเวลา
- ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ของ Minecraft นั้นฟรี โดยเข้าไปที่ minecraft.net/download แล้วดาวน์โหลด minecraft_server.X.X.X.exe มา
- ในบทความส่วนนี้เราจะแนะนำแค่การสร้างเซิร์ฟเวอร์ง่ายๆ ของ Windows เท่านั้น ถ้าคุณใช้ Linux, OS X หรืออยากสร้างเซิร์ฟเวอร์เองทั้งหมดใน Windows ก็ให้ลองค้นเพิ่มเติมในเน็ตดู
-
สร้างโฟลเดอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์. เซิร์ฟเวอร์ Minecraft จะติดตั้งไฟล์ทั้งหมดลงโฟลเดอร์ที่ต้องใช้เปิดเซิร์ฟเวอร์ ให้คุณสร้างโฟลเดอร์ไว้ที่หน้า desktop หรือตำแหน่งอื่นที่หาง่ายๆ แล้วตั้งชื่อว่า "Minecraft Server" หรืออะไรที่ใกล้เคียง จากนั้นให้ copy ไฟล์ minecraft_server.X.X.X.exe ไปใส่ไว้ในโฟลเดอร์นี้
-
เปิดโปรแกรมเซิร์ฟเวอร์. คุณจะเห็นว่ามีบางไฟล์โผล่ขึ้นมาในโฟลเดอร์ แล้วโปรแกรมจะปิดลงอัตโนมัติ ถือว่าปกติ ไม่ต้องตกใจ
-
เปิด . eula.txt . ไฟล์นี้จะอยู่ในโฟลเดอร์ Minecraft Server นั่นแหละ
-
เปลี่ยน . eula=fasse เป็น eula=true . เซฟค่าใหม่ของไฟล์แล้วปิดได้เลย ขั้นตอนนี้เป็นการยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานโปรแกรมเซิร์ฟเวอร์ Minecraft
-
เปิดโปรแกรมเซิร์ฟเวอร์ขึ้นมาอีกครั้ง. ถ้ามีหน้าต่าง Windows Firewall โผล่ขึ้นมา ให้คลิกปุ่ม Allow access จะมีไฟล์โผล่ขึ้นมาในช่องเซิร์ฟเวอร์ Minecraft อีกหลายไฟล์ ให้ปิดหน้าต่างเซิร์ฟเวอร์ไปก่อนระหว่างปรับเปลี่ยนค่าอื่นๆ
-
คลิกขวาที่ไฟล์ . server.properties แล้วเลือก "Open With" . หา Notepad ในรายชื่อโปรแกรมเพื่อเปิดไฟล์ปรับแต่งของเซิร์ฟเวอร์มาปรับเปลี่ยนค่า
-
หา . white-list=false . แล้วเปลี่ยนเป็น white-list=true เพื่อเปิด white-list หรือก็คือรายชื่อผู้เล่นที่ได้รับอนุญาต ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อนี้ ก็จะไม่สามารถเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ของคุณได้ ทำให้กลายเป็นเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวของคุณและผองเพื่อนไปโดยปริยาย
- วันหลังถ้าคุณอยากปรับเปลี่ยนค่าอื่นๆ ของเกมก็มาปรับที่นี่ได้เลย แต่ตอนนี้ขอให้เซฟแล้วปิดไฟล์ไปก่อน
-
เปิดเซิร์ฟเวอร์แล้วเพิ่มผู้เล่นเข้าไปใน white-list ของคุณ. รวบรวม username ใน Minecraft ของเพื่อนๆ มา แล้วเพิ่มเข้าไปใน white-list ทีละชื่อ โดยใช้คำสั่ง whitelist add playerName
-
ต้อง forward พอร์ท 25565 ด้วย คนอื่นๆ จะได้เชื่อมต่อได้. ตอนนี้คุณเปิดเซิร์ฟเวอร์พื้นฐานและเพิ่มรายชื่อเพื่อนๆ ลง white-list เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่ปรับแต่งเราเตอร์ให้เพื่อนเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์แล้วเข้าเล่นเกมได้ ซึ่งแปลว่าคุณต้อง forward พอร์ทซะก่อน
- ล็อกอินเข้าเครื่องมือปรับแต่งเราเตอร์ ปกติทำได้ด้วยเบราว์เซอร์ โดยให้คุณใส่ address 192.168.1.1 , 192.168.0.1 หรือ 192.168.2.1 ลงไป address ที่ว่าจะแตกต่างกันไปตามรุ่นเราเตอร์ของคุณ
- ต้องใส่ username กับรหัสผ่านแอดมินของเราเตอร์ด้วย ลองหาดูในคู่มือเราเตอร์ น่าจะเจอข้อมูลล็อกอินตั้งต้น ในกรณีที่คุณไม่เคยเปลี่ยน username กับรหัสผ่านตรงนี้ไปน่ะนะ
- เปิดส่วนของ Port Forwarding ในหน้าปรับแต่งค่าเราเตอร์ขึ้นมา น่าจะอยู่ใน Advanced ไม่ก็ Admin
- สร้างกฎใหม่ด้วย local IP address ของคอมที่เปิดเซิร์ฟเวอร์. Forward พอร์ท 25565 ทั้งของ TCP และ UDP
- ส่วนวิธีเปิดพอร์ทแบบละเอียดให้ลองไปอ่านเพิ่มเติมในเน็ตดู
-
เปิด Google ในคอมที่เปิดเซิร์ฟเวอร์ แล้วพิมพ์ . my ip . จะเห็น public IP address ของคอมอยู่เหนือผลการค้นหา ให้ copy หรือจดไว้ จากนั้นเอาไปให้เพื่อนเพื่อใช้เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์
- หมายเหตุ: ถ้าคุณมี dynamic IP address (ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้) หมายความว่า IP address ของคุณจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เปลี่ยน คุณก็ต้องบอก IP address ใหม่ให้เพื่อนรู้ถึงจะเชื่อมต่อได้ ถ้ารู้สึกว่าวุ่นวายก็ให้ติดตั้ง dynamic DNS ไว้แต่เนิ่นๆ แต่ต้องสมัครบัญชีแบบเสียเงินด้วย เพื่อนๆ ถึงจะเปลี่ยนเส้นทางไปที่ IP address ใหม่โดยอัตโนมัติ
-
เชื่อมต่อเข้าเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง. ตอนนี้เซิร์ฟเวอร์ของคุณก็ออนไลน์แล้ว รายชื่อ white-list ก็เรียบร้อย แถมยัง forward พอร์ทแล้วอีกต่างหาก ทีนี้เพื่อนๆ ก็เชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ด้วย IP address ที่คุณให้ไปได้เลย แต่ตัวคุณเองต้องใช้ IP address ที่แตกต่างออกไปนะ
- เปิดเมนู Multiplayer ใน Minecraft ที่อยู่ในรายชื่อเกม แต่ถ้าไม่มี ให้คลิกปุ่ม "Add Server" ถ้าคุณจะเล่นในคอมเครื่องเดียวกับที่มีเซิร์ฟเวอร์ ให้พิมพ์ว่า 127.0.0.1 แต่ถ้าเล่นจากคอมเครื่องอื่นในเครือข่ายเดียวกัน ให้ใส่ local IP address ของเซิร์ฟเวอร์ไป (อันเดียวกับที่ใช้ forward พอร์ทน่ะ) ถ้าคุณเล่นจากคอมในเครือข่ายอื่น ให้ใส่ public IP address ของเซิร์ฟเวอร์แทน
โฆษณา
-
ต้องเล่นใน HDTV. จะใช้ฟีเจอร์ splitscreen ได้ คุณต้องเล่นด้วย resolution อย่างน้อย 720p เราถึงบอกว่าต้องเล่นใน HDTV ผ่านสาย HDMI หรือสาย component
-
เริ่มเล่นโลกใหม่ หรือโหลดโลกเก่าที่เคยเล่น. คุณเล่นเกมแบบแบ่งหน้าจอในโลกไหนก็ได้ โดยเอาติ๊กออกจากช่อง "Online game" ก่อน
-
กด . ▷
START ในจอยที่สอง . เพื่อเปิดหน้าต่าง Sign-In -
เลือก profile ของผู้เล่นคนที่สอง. คุณต้องสร้าง profile ก่อนเริ่มเล่นเกม ในกรณีที่ไม่มี profile ของผู้เล่นคนที่สอง
-
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าผู้เล่นคนอื่นเริ่มเถื่อน ให้คุณลองขอร้องให้เขาเล่นดีๆ หน่อย ไม่งั้นก็ต้องเชิญออกจากเซิร์ฟเวอร์ ถ้าเป็นเซิร์ฟเวอร์สาธารณะทั่วไปจะมี moderator หรือแอดมินคอยดูแลเฝ้าระวังคนที่ก่อเรื่อง ก้าวร้าว หรือทำคนอื่นยุ่งไปหมด แต่ถ้าเป็นเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัว คุณก็ควรจะเล่นกันเฉพาะเพื่อนๆ ที่รู้จักกันดี ถึงมีปัญหาก็ปรับความเข้าใจกันง่าย
- ระวังพวก griefer หรือคนที่สะใจเวลาได้ทำลายสิ่งก่อสร้างหรือผลงานของคนอื่นเขา แถมทำลายแบบไร้เหตุผลซะด้วย ถ้าคุณเล่นเซิร์ฟเวอร์ไหนแล้วเจอคนแบบนี้เต็มไปหมด ก็เปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์ซะเถอะ
- แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าคุณเป็นพวกก่อกวนคนอื่นเพื่อความบันเทิง หรือก็คือเป็น griefer ซะเอง เราขอเถอะให้ย้ายไปเล่นใน PVP raid server ทีนี้ก็ลุยเละตามสบาย แต่อย่าโกรธแล้วกันตอนคนอื่นเขามาพังอะไรที่คุณสร้างบ้างน่ะ ประมาณว่าดาบนี้คืนสนองไง!
- บางเซิร์ฟเวอร์จะมี plug-in เพิ่มความบันเทิงในแบบที่คุณไม่เคยพบเวลาเล่นคนเดียวและไม่ใช้ mod ลองเลื่อนไปอ่าน "คำเตือน" ข้างล่างดู เรามีข้อมูลเรื่อง plug-in ป้องกันพวก griefer ด้วย
- mod บางตัวที่คุณใช้ในเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง ก็ใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ multiplayer ได้เหมือนกัน แต่จะรู้ก็ต่อเมื่อลองเล่นโหมด multiplayer ดู
โฆษณา
คำเตือน
- เวลาจะเล่นเซิร์ฟเวอร์ multiplayer แบบสาธารณะ อย่าลืมเตรียมใจไว้ก่อน ลองอ่านข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้งานดู และควรรู้วิธีติดต่อผู้ดูแลระบบ (moderator หรือ admin) ที่สำคัญลองอ่านรีวิว (ถ้ามี) ของเซิร์ฟเวอร์ที่จะเล่นไว้บ้าง ก่อน ตัดสินใจ
- mod บางตัว อย่าง TMI กับ X-Ray ใช้ไม่ได้ในหลายเซิร์ฟเวอร์ multiplayer เพราะเป็น mod ที่ทำให้คุณโกงไอเท็มหรือได้วัสดุต่างๆ มาแบบไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ ถ้าใช้ก็จะโดนเด้งออกจากเซิร์ฟเวอร์ ดีไม่ดีจะถูกแบนด้วย
- เวลาเล่นเกมออนไลน์กับคนแปลกหน้า มันก็เสี่ยงเจอพฤติกรรมน่ารังเกียจหรือคุกคามได้ตลอดแหละ ถ้าเจอพฤติกรรมแบบนี้เมื่อไหร่ก็อย่าไปใส่ใจ แค่ติดต่อและขอความช่วยเหลือจากผู้ดูแลระบบไป ระหว่างนั้นก็ไปให้พ้นจากผู้เล่นคนนั้น อย่าไปต่อปากต่อคำ เดี๋ยว mod หรือแอดมินเขาก็จัดการเอง น่าอนาถใจที่เดี๋ยวนี้มีคนแบบนี้เต็ม Minecraft ไปหมด เขาเลยต้องคิด plug-in ป้องกัน griefer กับพวก spam ทั้งหลายขึ้นมาไง จะได้หมดปัญหากวนใจระหว่างเล่น ซึ่ง plug-in แบบนี้ถ้าเซิร์ฟเวอร์ไหนใช้ ก็จะเป็นแบบบังคับใช้ ถ้าอยากรู้ว่าใช้ยังไง ให้ลองอ่านกฎข้อบังคับและเงื่อนไขการใช้งานของเซิร์ฟเวอร์นั้นดู
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา