ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การแจกใบปลิวนั้นต้องใช้ความพยายามมากกว่าที่คิด การทำให้ลูกค้าสนใจรับใบปลิวของเรานั้นต้องมีการวางแผนมาก เราต้องออกแบบใบปลิวให้มีขนาดกะทัดรัดและเนื้อหาต้องสั้นกระชับ เราต้องแจกใบปลิวในบริเวณที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย พูดคุยกับลูกค้าอย่างสุภาพ และมีความเป็นมืออาชีพ ใช้วิธีการแจกใบปลิวที่สร้างสรรค์ เช่น ส่งใบปลิวไปตามบ้าน หรือนำใบปลิวไปวางตามที่ทำการของธุรกิจต่างๆ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ออกแบบใบปลิวให้ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในการทำและแจกใบปลิวอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเราต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร ใบปลิวโฆษณาหนังสือสำหรับเด็กควรดูแตกต่างจากใบปลิวโฆษณาหนังสือสำหรับคนวัยชรา เพราะคนทั้งสองกลุ่มนี้มีความสนใจและอยู่ในพื้นที่ซึ่งแตกต่างกัน คิดข้อความและหาวิธีการที่จะทำให้กลุ่มลูกค้าของเราสนใจ
  2. ใบปลิวที่มีขนาดเล็กจะเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่าและมีโอกาสถูกโยนทิ้งน้อยกว่า ในใบปลิวต้องมีข้อมูลที่กลุ่มลูกค้าต้องการ แต่อย่าใส่ข้อมูลเยอะเกินไป ไม่อย่างนั้นลูกค้าจะไม่อ่าน ยิ่งใบปลิวมีขนาดใหญ่ ก็ยิ่งนำไปแจกได้ยาก เพราะขนาดเรายังถือแจกลำบาก ลูกค้าก็คงพกใบปลิวติดตัวไปอ่านได้ลำบากเช่นกัน ใช้ถ้อยคำที่เรียบง่าย แต่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่านได้ [1]
  3. ใบปลิวที่ดีต้องมีภาพหรือโลโก้ที่สะดุดตาและมีพาดหัวที่ชัดเจน สีสันที่สะดุดตาจะทำให้ผู้คนสนใจ การเลือกใช้กระดาษที่มีสีสันสดใส การใช้พาดหัวที่ตัวทั้งใหญ่และหนาก็ช่วยได้เช่นกัน คำขวัญหรือวลีที่กินใจจะติดตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้อ่านและทำให้ผู้คนจดจำใบปลิวของเราได้ [2]
    • ตัวอย่างหัวข้อใบปลิวซึ่งบอกว่า “การเนรมิตสวนให้สวยคืองานของเรา” อธิบายเจตนาของใบปลิวนี้ได้ชัดเจนมาก [3]
    • เราอาจรวบรวมใบปลิวต่างๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงแล้วนำมาศึกษาดูสิว่าอะไรทำให้ใบปลิวเหล่านั้นดูโดดเด่น จากนั้นลองออกแบบใบปลิวของตนเองให้สะดุดตาผู้อ่าน
  4. รายละเอียดที่จำเป็นประกอบด้วยหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ และเวลาทำการ อย่าลืมใส่วันหมดเขตของคูปองหรือส่วนลดด้วย ถ้าหากมีการโฆษณากล่าวถึงในใบปลิว การให้แผนที่ขนาดเล็กไว้ด้วยจะช่วยให้ลูกค้ามาเยือนที่ทำการธุรกิจได้โดยไม่หลงทาง ลูกค้าที่สนใจจะได้สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเราได้ [4]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

วางแผนในการแจกใบปลิว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คิดว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะอาศัย ทำงาน และซื้อของอยู่ที่ไหน เราต้องรู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ที่ไหนก่อน ถึงจะรู้วิธีการเข้าหาลูกค้า เราจะได้ไม่ต้องเดินทางไปไกลมากเพื่อจะแจกใบปลิวโฆษณาร้านอาหารใหม่ของเรา [5]
    • สมมติว่าเรากำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มคนที่สนใจกินมังสวิรัติ แต่ขอบเขตที่เรากำหนดนี้ก็ยังถือว่ากว้างไปอยู่ เราต้องกำหนดให้เฉพาะเจาะจงกว่านี้ ตัวอย่างเช่น ถ้าเห็นว่าวัยรุ่นมีโอกาสที่จะเปลี่ยนมาสนใจกินมังสวิรัติมากกว่าคนสูงวัยที่บริโภคเนื้อสัตว์มานาน เราก็มุ่งเน้นที่กลุ่มวัยรุ่น
  2. ก่อนออกไปแจกใบปลิว เราต้องตัดสินใจให้ได้ก่อนว่าจะไปแจกที่ไหน สิ่งที่เราต้องคิดเพื่อการแจกใบปลิวที่มีประสิทธิภาพคือเราต้องเดินแจกใบปลิวหรือขับรถไปแจกใบปลิวไกลแค่ไหน เราต้องไปถึงสถานที่เป้าหมายเมื่อไหร่ และต้องเอาใบปลิวไปแจกกี่แผ่น ถ้าเรามีกลยุทธ์การแจกใบปลิวที่ดี เราก็จะประหยัดเวลาและเงินอีกทั้งสามารถเผยแพร่ข่าวสารไปได้ไกลด้วย
    • ใช้แผนที่วางแผนเส้นทางการแจกใบปลิวเพื่อจะได้ประหยัดเวลาในการเดินทางและรู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่อยู่ที่ไหนกันบ้าง
    • จดบันทึกไว้ว่ามีสถานที่หรือธุรกิจใดบ้างที่ตอบรับการโฆษณาของเราเป็นอย่างดี
  3. เราต้องรุู้ว่าตนเองควรแจกใบปลิวให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเมื่อไหร่ ถ้าเรากำลังจะโฆษณาถึงการลดกระหน่ำสินค้าในวันหยุด เราก็ต้องแจกใบปลิวล่วงหน้าสองสามสัปดาห์ก่อนถึงวันหยุดนั้น ผู้คนอาจเปิดรับและสนใจโฆษณาของเราในบางเวลา ผู้คนที่กำลังเข้าหรือออกจากงานอีเว้นท์ต่างๆ น่าจะสนใจรับใบปลิวมากกว่าคนที่เร่งรีบออกไปทำงาน [6]
    • รู้ว่ามีงานสำคัญอะไรจัดขึ้นในแถบนั้นบ้าง ถ้ามีคอนเสิร์ตร็อกจัดขึ้นที่นั้น ก็อาจมีเด็กวัยรุ่นซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรารวมตัวกันอยู่ที่นั่น เราก็อาจใช้โอกาสนี้แจกใบปลิวโฆษณาร้านอาหารมังสวิรัติของตนเองได้ การโฆษณาร้านอาหารมังสวิรัติต่อคนที่ชอบกินเนื้อสัตว์แต่เกลียดผักอาจยากลำบากสักหน่อย
    • กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเราอาจออกมาเที่ยวข้างนอกในช่วงกลางคืนแทนที่จะเป็นกลางวัน เพราะช่วงกลางวันเป็นช่วงที่พวกเขาต้องทำงาน บาร์และคลับอาจเป็นสถานที่รวมตัวของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เราต้องการโฆษณาร้านอาหารหรือผลิตภัณฑ์ก็ได้
  4. กลับมาแจกใบปลิวอีกครั้งในอีกหลายสัปดาห์ถัดมา. โฆษณาซ้ำอีกครั้งเพื่อให้ผู้คนเริ่มจดจำได้บ้าง กลับไปแจกใบปลิวตามสถานที่เดิมอีกครั้งในอีกหนึ่งหรือสองเดือนต่อมา ถึงแม้เราจะแจกใบปลิวแบบเดิมให้ผู้คนซ้ำหน้าไปบาง แต่เราก็น่าจะเห็นผลที่ดีขึ้น สารหรือธุรกิจของเราเริ่มเป็นที่จดจำ เมื่อเราติดต่อสร้างสัมพันธ์กับผู้คน [7]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

แจกใบปลิวแก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ศึกษากฎระเบียบในการแจกใบปลิวก่อนที่จะเริ่มงาน โดยปกติเราไม่สามารถเข้าไปแจกใบปลิวในทรัพย์สินส่วนบุคคลได้ ทางเดินสาธารณะและห้างสรรพสินค้ามักจะเป็นจุดที่สามารถแจกใบปลิวได้ก็จริง แต่ก็เราต้องขออนุญาตก่อนเข้าไปแจกใบปลิวในสถานที่เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสถานประกอบการต่างๆ และบ้านเรือน เราต้องขออนุญาตเจ้าของสถานที่ก่อนใส่ใบปลิวไว้ในกล่องจดหมาย สอดไว้ที่ประตูรั้ว แต่ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ก็ให้ยอมแต่โดยดี
  2. แต่งตัวให้กลมกลืนกับผู้คนที่อยู่รอบตัวเรา ผู้คนจะเปิดรับโฆษณาของเรามากขึ้นเมื่อเราดุูเป็นมิตรและเข้าถึงง่าย พยายามให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสนใจสารที่เราต้องการสื่อ ไม่ใช่ตัวเรา สถานที่โดยส่วนใหญ่ไม่เหมาะที่เราจะใส่ยีนส์ขาดๆ แจกใบปลิว แต่ถ้าเรากำลังโฆษณาร้านอาหารเปิดใหม่บนถนนคนเดิน เราก็ไม่ควรใส่สูทผูกไทแจกใบปลิวเช่นกัน [8]
    • บางครั้งเราก็ต้องแต่งตัวให้สะดุดตากลุ่มเป้าหมาย เช่น ใส่ชุดคอสตูมเมื่อกลุ่มเป้าหมายของการโฆษณาคือเด็กเพื่อจะได้ดึงดูดให้ลูกค้ากลุ่มนี้สนใจที่จะรับใบปลิวจากเรา แต่คนที่อยู่นอกกลุ่มเป้าหมายอาจสนใจที่จะรับใบปลิวจากเราน้อย
  3. คำเชิญชวนควรสั้นกระชับแต่ชัดเจน เราอาจพูดว่า “สนใจอยากกินอาหารมังสวิรัติไหมคะ” หรือ “มากินพิซซ่าโฮมเมดที่ร้านของเราสิคะ” พร้อมทั้งส่งใบปลิวให้ สิ่งที่เราพูดแสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ของเราโดยไม่ต้องตามตื๊อหรือบังคับผู้อื่น [9]
    • การติดต่อผู้อื่นโดยตรงแบบนี้จะทำให้เรามีโอกาสตอบคำถามและให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้ที่สนใจ
  4. เข้าหาผู้คนด้วยรอยยิ้ม อย่าบังคับให้ผู้คนต้องรับใบปลิวจากเรา อย่าทำให้ผู้อื่นเกิดความไม่พอใจหรือขุ่นเคือง เมื่อเจอผู้คนหยาบคายใส่ ขอตัวออกจากการสนทนาไปซะ การมีมารยาทที่ดีจะทำให้ผู้คนรับใบปลิวจากเรามากกว่า [10]
  5. การเห็นใบปลิวของตนเองถูกทิ้งเกลื่อนถนนนั้นเป็นอะไรที่น่าเจ็บปวดใจ แต่เราก็ต้องเก็บใบปลิวพวกนี้ไว้เพื่อรักษาความสะอาดของท้องถนน การเห็นใบปลิวถูกทิ้งหลายใบเป็นการแสดงให้เห็นว่าโลโก้หรือสารของเรานั้นไม่น่าสนใจ ใบปลิวเหล่านี้มีรูปแบบที่ไม่สะดุดตาผู้อ่าน [11]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ใช้วิธีการแจกใบปลิวที่สร้างสรรค์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใบปลิวที่ถูกส่งไปถึงบ้านมีโอกาสที่คนจะเห็นได้มาก เราอาจจ้างบริษัทให้ส่งใบปลิวไปตามบ้านก็ได้ หรือเราจะไปสอดใบปลิวที่ตู้จดหมายตามบ้านด้วยตนเองก็ได้ ถ้าได้รับอนุญาต เจ้าของบ้านจะสังเกตเห็นใบปลิวที่สอดตามประตูรั้วและประตูหน้าบ้านแน่นอน [12]
    • เราอาจมีรายชื่อที่อยู่ซึ่งต้องส่งใบปลิวอยู่แล้ว เราต้องเตรียมใบปลิวให้ครบตามจำนวนที่ต้องส่ง และอาจต้องใช้แรงในการเดินทางไปส่งใบปลิวถึงที่บ้านแต่ละหลัง
  2. ถ้าเราหีบห่อสินค้าและจัดส่งให้ลูกค้าเอง ให้ใช้โอกาสนี้แนบใบปลิวไปกับสินค้าด้วย นี้เป็นวิธีการโฆษณาที่ง่ายที่สุดแล้ว ใส่ใบปลิวลงไปในหีบห่อสินค้า เพราะลูกค้ารู้จักและติดต่อเราได้อยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องหยิบใบปลิวขึ้นมาดูแน่นอน นี้เป็นวิธีแจกใบปลิวเพื่อโฆษณาคูปองหรือแค็ตตาล็อกที่ได้ผลดีเหมือนกัน [13]
  3. ติดต่อผู้จัดการสิ่งตีพิมพ์เพื่อพูดคุยและตกลงให้ใบปลิวของเราสอดอยู่ในสิ่งตีพิมพ์ของเขา เลือกสิ่งตีพิมพ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาในใบปลิวของเรา เช่น ถ้าเราต้องการโฆษณาวงดนตรีของตนเองหรือสถานที่จัดแสดง ก็เลือกสอดใบปลิวของตนเองในนิตยสารดนตรี มีสิ่งตีพิมพ์มากมายที่เหมาะจะนำมาช่วยกระจายใบปลิว [14]
  4. การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของธุรกิจช่วยเราได้ ขออนุญาตเจ้าของร้านฝากใบปลิวที่เคาน์เตอร์ร้านของพวกเขา บางแห่งจะมีกระดานไว้ติดโฆษณาสาธารณะ เราสามารถติดใบปลิวของเราตรงนั้นได้ หรือการขออนุญาตติดใบปลิวในบริเวณอื่นๆ ที่มีผู้คนพลุกพล่านก็อาจทำให้เราได้กลุ่มลูกค้านอกเป้าหมายเพิ่มก็ได้ [15]
    • การฝากใบปลิวตามสถานประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องนั้นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ตัวอย่างเช่น ถ้าเรากำลังโฆษณาร้านอาหารเพื่อสุขภาพ ยิมต่างๆ ก็น่าจะตอบรับให้เราฝากใบปลิวไว้ที่เคาน์เตอร์ของเขาได้ ส่วนเราก็เสนอช่วยโฆษณาให้ยิมเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
  5. งานต่างๆ ที่จัดขึ้นในท้องถิ่นอย่างเช่น งานแสดงสินค้า เป็นโอกาสที่เราจะแจกใบปลิวให้ผู้คนได้เป็นจำนวนมาก เราควรเลือกแจกใบปลิวในงานที่มีความเกี่ยวข้องกับสินค้าของเราอย่างเช่น แจกใบปลิวโฆษณาร้านงานฝีมือที่งานแสดงสินค้าพวกงานฝีมือ เราสามารถใส่ใบปลิวลงในถุงสินค้าหรือวางใบปลิวไว้ที่โต๊ะเพื่อให้ลูกค้าผู้ที่สนใจหยิบไปดู
    • เราอาจเป็นผู้สนับสนุนการจัดงานแสดงสินค้าของตนเองก็ได้ ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดงานเราจะสามารถโฆษณาสินค้าและแจกใบปลิวของตนเองได้มากขึ้น
    • ติดต่อผู้จัดงานเพื่อพูดคุยและตกลงในเรื่องการโฆษณาและการเป็นผู้สนับสนุน ดูสิว่าในท้องถิ่นของเรามีสถานที่ไหนมีการจัดงานแสดงสินค้าบ้าง ส่วนใหญ่สถานที่จัดงานเหล่านี้จะเป็นห้างสรรพสินค้า ศูนย์ประชุม และสถานที่สำหรับจัดงานเหล่านี้โดยเฉพาะ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ติดตามผลตอบรับหลังจากแจกใบปลิวด้วย เราสามารถวัดกระแสตอบรับจากจำนวนลูกค้าที่มาอุดหนุนสินค้าและบริการ หรือสอบถามว่าลูกค้ารู้จักธุรกิจของเราได้อย่างไร แล้วใช้ข้อมูลเหล่านี้มาปรับกลยุทธ์การตลาด
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 16,613 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา