ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

มันเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะรักเพื่อนแต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณไม่ได้รักเพื่อนแบบคนรัก? บางครั้งคุณไม่สามารถบอกความแตกต่างระหว่างมิตรภาพกับความรักแบบอื่นได้ ถ้าหากคุณรู้สึกสับสน คุณต้องใช้เวลาตรวจสอบความสัมพันธ์ของคุณ นึกถึงบางสถานการณ์ตัวอย่างที่คุณมีความรู้สึกรัก คุณยังสามารถพิจารณาสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณ คุณมองหาอะไรในตัวคนรัก? คุณต้องการพัฒนาความสัมพันธ์ไปอีกขั้นหรือไม่? มีหลายวิธีที่คุณสามารถทดสอบสิ่งนี้ได้โดยไม่เสี่ยงกับการสูญเสียมิตรภาพ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

การพิจารณามิตรภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปรียบเทียบความสัมพันธ์นี้กับความสัมพันธ์อื่น. นึกว่าความสัมพันธ์นี้เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับความสัมพันธ์อื่นในชีวิตของคุณ คุณอาจจะมีเพื่อนเยอะแต่มีเพียงคนเดียวที่คุณรัก คุณอาจจะให้คุณค่าความสัมพันธ์กับคนๆ นี้มากกว่าคนอื่นในชีวิต คุณยังอาจจะรู้สึกถึงสายสัมพันธ์ที่เข้มข้นกับเขาคนนี้ [1]
    • บางทีคุณอาจจะไม่สามารถนึกถึงการไม่พูดกับเขาเป็นเวลา 1 วัน ถ้าเป็นกับเพื่อน คุณอาจจะรู้สึกเฉยๆ ที่ไม่ต้องเจอกันหนึ่งหรือสองสัปดาห์แต่กับคนที่คุณรัก คุณอาจจะรู้สึกว่ามันช่างยาวนาน
  2. ใช้เวลานึกว่าอารมณ์ของคุณมีความเข้มข้นขนาดไหน คุณสามารถรู้สึกหลายอย่างกับสิ่งเดียวกันสำหรับทั้งเพื่อนและคนรักแต่เมื่อคุณกำลังมีความรัก ความรู้สึกเหล่านี้อาจจะเข้มข้นมาก โดยทั่วไป ยิ่งคุณรู้สึกอ่อนไหวกับใครบางคนมากแค่ไหนก็ยิ่งเป็นไปได้ว่าคุณกำลังมีความรักมากเท่านั้น
    • เช่น คุณอาจจะรู้สึกถึงเคมีที่ตรงกันกับเพื่อนเพราะคุณหัวเราะกับสิ่งเดียวกันและพูดคุยกับอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย เมื่อคุณรักใครบางคนความรู้สึกเหล่านี้จะเข้มข้นมา คุณอาจจะรู้สึกหัวหมุนหรือตื่นเต้น [2]
    • อีกวิธีในการพิจารณาความรู้สึกที่คุณมีต่อใครบางคนว่าลึกซึ้งหรือไม่คือการพิจารณาว่าคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน เมื่อคุณมีความรัก คุณจะไม่อยากอยู่ห่างจากเขาคนนั้นเป็นเวลานาน
    • ถ้าหากคุณมีความรัก คุณจะรู้สึกพิเศษเมื่อได้อยู่กับเขาคนนั้น [3]
  3. ร่างกายของคุณจะสามารถช่วยให้คุณรู้ได้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร เมื่อคุณอยู่กับคนที่คุณน่าจะรัก หัวใจของคุณจะเต้นเร็วผิดปกติหรือคุณอาจจะรู้สึกปั่นป่วนในท้อง บางทีคุณอาจจะรู้สึกตื่นเต้นและทำอะไรไม่ถูก คุณอาจจะไม่หัวเราะหรือเริ่มเหงื่อแตกเมื่อคุณอยู่กับเพื่อน
    • เมื่อคุณเจอกับเพื่อน คุณอาจจะรู้สึกตื่นเต้น อย่างไรก็ตามคุณจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทางกายเมื่อคุณจะเจอหรือกอดเพื่อน
    • คุณอาจจะไม่สามารถควบคุมการโต้ตอบของร่างกายได้เมื่อคุณอยู่กับคนที่คุณรัก มือของคุณจะชุ่มเหงื่อ เสียงสั่นและหัวใจเต้นแรงขึ้น [4]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

การตัดสินใจว่าคุณต้องการอะไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตัดสินใจว่าคุณต้องการมีความสัมพันธ์แบบคนรักหรือไม่. คุณสามารถบอกความแตกต่างระหว่างความรักและมิตรภาพได้โดยการนึกถึงความใส่ใจที่คุณมอบให้ใครบางคน ถ้าหากคุณรักใครบางคน คุณจะนึกถึงเขาบ่อยครั้งและต้องการสื่อสารกับเขาตลอดเวลา คุณอาจจะไม่นึกถึงเพื่อนมากขนาดนั้นระหว่างวันและอาจจะไม่ได้อยากคุยมากมาย
    • คุณอาจจะนึกถึงเพื่อนเมื่อมีบางอย่างทำให้คุณนึกถึงเขาระหว่างวัน อาจจะเป็นเพลงที่คุณทั้งคู่ชอบฟังหรือเรื่องราวที่ทำให้คุณนึกถึงประสบการณ์ที่มีกับเพื่อน
    • เมื่อคุณรักใครบางคน คุณจะนึกถึงเขาตลอดทั้งวันไม่ว่ามีบางอย่างทำให้คุณนึกถึงเขาหรือไม่ก็ตาม คุณยังอาจจะฝันกลางวันถึงเขาอีกด้วย [5]
  2. คุณมีความสุขกับวิธีที่เขาปฏิบัติต่อคุณหรือไม่? ถ้าหากเขาแค่แปะมือกับคุณเป็นการทักทาย คุณอาจจะต้องการบางอย่างที่ใกล้ชิดมากกว่านั้น บางทีคุณอาจจะหวังว่าเขาส่งข้อความมาหาคุณบ่อยขึ้น การไม่ได้ยินข่าวคราวจากเพื่อนตลอดวันจะไม่น่าหดหู่เท่ากับการไม่ได้ยินข่าวคราวจากคนที่คุณรัก
    • ถ้าหากคุณตื่นเต้นที่ได้ยินข่าวคราวจากเพื่อนคนหนึ่งบ่อยครั้งตลอดวันหรือรู้สึกปั่นป่วนในท้องเมื่อเห็นชื่อของเพื่อนคนนี้บนหน้าจอโทรศัพท์ก็อาจเป็นสัญญาณว่าคุณต้องการมีความสัมพันธ์แบบคนรัก [6]
  3. มันยากที่ต้องพิจารณาชีวิตของตัวเอง ลองปรึกษาใครบางคนที่คุณไว้ใจ เช่น เพื่อนสนิทหรือพี่น้องซึ่งอาจจะให้มุมมองจากคนนอกว่าเพื่อนคนนี้ปฏิบัติต่อคุณอย่างไรและเชื่อว่ามันเป็นเพียงมิตรภาพหรือเป็นความรัก
    • เช่น เพื่อนอาจจะสังเกตว่าคนที่คุณรักแอบมองคุณเวลาที่คุณไม่ได้ใส่ใจ พวกเขาอาจจะยังสังเกตด้วยว่าเขาคนนั้นพูดถึงคุณบ่อยๆ เวลาที่คุณไม่ได้อยู่ด้วยซึ่งเป็นอีกสัญญาณหนึ่งว่าเขาคิดกับคุณมากกว่าเพื่อน
  4. การสังเกตอารมณ์ของตัวเองอาจเป็นเรื่องที่ยากและต้องใช้การทบทวนจำนวนมาก คุณต้องซื่อสัตย์กับตัวเองเกี่ยวกับความรู้สึกที่คุณมีเพื่อดูว่าคุณกำลังมีความรู้สึกแบบเพื่อนหรือแบบคนรักกับใครบางคน
    • เขียนรายการความรู้สึกที่คุณมีตลอดทั้งสัปดาห์ เขียนว่าคุณรู้สึกอย่างไรเวลาที่คุณคุยกับเขาคนนั้นหรือคุณนึกถึงเขา เช่น คุณสามารถเขียนว่าคุณรู้สึกตื่นเต้นเวลาที่เขาโทรมาหรือคุณรู้สึกกระอักกระอ่วนเมื่อคุณไปเที่ยวกับเขา
    • พิจารณาว่าอะไรที่ทำให้เขาดึงดูดคุณ เช่น คุณอาจจะมีความต้องการที่เขาสามารถเติมเต็มได้ เช่น ถ้าหากคุณไม่รู้สึกมีชื่อเสียงและเขาเป็นนักกีฬาดาวเด่นของโรงเรียน คุณก็อาจจะชอบเขาเพราะคุณชอบความรู้สึกที่ได้อยู่กับใครบางคนที่คุณคิดว่ามีชื่อเสียง ในกรณีส่วนใหญ่ ความรู้สึกที่ตั้งอยู่บนปัจจัยภายนอกไม่ใช่ความรักที่แท้จริง
  5. ใช้เวลา 2-3 นาทีทุกวันเพื่อเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำกับคนที่อยู่รอบตัวคุณ วิธีนี้สามารถช่วยให้คุณเห็นได้ว่าคุณกำลังทำตัวแตกต่างกับเขาและกับเพื่อนๆ หรือไม่ มันยังสามารถช่วยให้คุณเห็นว่าเขากำลังปฏิบัติกับคุณเหมือนเป็นเพื่อนหรือคนรัก
    • ลองทบทวนสถานการณ์บางอย่าง เช่น นึกถึงเวลาที่คุณเจอเขาคุยกับคนอื่นแล้วทบทวนสิ่งที่คุณรู้สึก คุณรู้สึกหึงหรือเปล่า? คุณไม่ได้รู้สึกอะไรหรือเปล่า? [7]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

การพัฒนาความสัมพันธ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจจะรู้สึกตื่นเต้นที่ต้องพยายามเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมดา อย่างไรก็ตาม คุณต้องทำตัวมั่นใจ ความมั่นใจสามารถช่วยให้คุณหาคำพูดที่ถูกต้องและดูว่าต้องจัดการกับกรณีนี้อย่างไร [8]
    • พูดให้กำลังใจตัวเอง ลองพูดว่า “ฉันเป็นคนที่สนุกและใส่ใจคนอื่น วินจะต้องโชคดีที่ได้ฉันเป็นแฟน”
  2. คุณสามารถทดสอบสถานการณ์โดยการยั่วยวนคนที่คุณชอบ เริ่มด้วยการสบตานานกว่าที่คุณมักจะทำตามปกติ คุณยังสามารถใส่ใจเขามากขึ้น ถ้าหากคุณอยู่ในกลุ่มก็ลองสนใจสื่อสารกับเขา [9]
    • ลองสัมผัสแบบเรียบง่าย วางมือของคุณบนมือของเขาในขณะที่คุณหัวเราะให้กับมุกตลก
  3. เพื่อนมักจะพูดกันด้วยภาษาที่เรียบง่ายซึ่งอาจจะเป็นการใช้ชื่อเล่น เช่น “พวก” “เพื่อน” หรือ “หนู” เมื่อคุณพบว่าคุณใช้คำเหล่านี้ก็ควรสำรวจตัวเอง คำเหล่านี้มักจะใช้กับคนที่เป็นเพื่อนกันเท่านั้น ลองเรียกพวกเขาโดยใช้ชื่อ [10]
    • เมื่อคนกำลังมีความรักก็มักจะเรียกกันด้วยชื่อเล่นของสัตว์เลี้ยงซึ่งมีความหมายที่ลึกซึ้งและโรแมนติกสำหรับคู่รัก เช่น พวกเขาอาจจะเรียกกันว่า “สุดที่รัก” “ที่รัก” หรือ “เบบี้”
  4. พูดตรงๆ และชวนไปออกเดท คุณไม่มีทางรู้ว่าคุณทั้งคู่จะไปกันรอดหรือไม่ถ้าหากคุณไม่ชวนกันไปออกเดท จริงใจและเปิดใจ ทำให้ชัดเจนว่าคุณต้องการใช้เวลาตามลำพังด้วยกัน
    • คุณสามารถพูดว่า “ฉันอยากใช้เวลาตามลำพังกับเธอ เราไปทานมื้อเย็นด้วยกันวันศุกร์ดีไหม?” [11]
  5. คุณอาจจะรู้สึกเจ็บปวดถ้าหากคนที่คุณรักไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับคุณ คุณอาจจะรู้สึกถูกปฏิเสธและเสียใจกับอีกฝ่าย พยายามเข้าใจว่าเขาอาจจะไม่ได้พยายามทำร้ายความรู้สึกของคุณแต่เขาจำเป็นต้องซื่อสัตย์กับคุณ อย่าทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ที่ไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับคุณ ถ้าหากคุณไม่แน่ใจว่าต้องพูดอย่างไร ลองใช้ประโยคเหล่านี้:
    • “ขอบคุณที่จริงใจกับฉัน ฉันแค่หวังว่าเธอจะรู้สึกแตกต่างออกไปแต่ฉันเข้าใจว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกตัวเองได้”
    • “ฉันขอบคุณความจริงใจที่เธอมี ฉันยังอยากเป็นเพื่อนกับเธอแต่หวังว่าเธอจะเข้าใจถ้าหากฉันต้องใช้เวลาสักพักเพื่อจัดการกับความรู้สึกของตัวเอง” [12]
    โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 6,996 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา