ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าอยากลองนำกฎแห่งแรงดึงดูดมาใช้ ให้เริ่มต้นด้วยการผ่อนคลายจิตใจและนั่งสมาธิเป็นเวลา 5-10 นาที เพราะคุณจะต้องรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร จากนั้นจึงส่งภาพสิ่งที่ต้องการไปยังจักรวาล เขียนความปรารถนาของคุณลงในกระดาษและรับรู้ถึงมัน จากนั้นจึงเขียนสิ่งต่างๆ ทั้งมวลที่จักรวาลเคยมอบให้แก่คุณ และที่สำคัญ จงเชื่อมั่นในจักรวาล

  1. นั่งสมาธิ ประมาณ 5-10 นาที เพื่อกระตุ้นพลังสมองและทำให้จิตใจเข้าสู่สภาวะผ่อนคลาย ขั้นตอนนี้จะทำหรือไม่ก็ได้ แต่อยากแนะนำให้ลองทำกัน
  2. ต้องแน่ใจในสิ่งที่คุณต้องการ และในระหว่างที่ตัดสินใจ อย่านึกสงสัยในตัวเองเป็นอันขาด. ให้จำไว้ว่า คุณกำลังส่งคำขอถึงจักรวาลซึ่งสร้างขึ้นจากความคิดและตอบสนองต่อความคิด คุณจึงต้องรู้ให้แน่ชัดว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ เพราะถ้าคุณไม่ชัดเจน/ไม่แน่ใจ จักรวาลก็จะได้รับคลื่นความถี่ที่ไม่ชัดเจน และอาจส่งผลลัพธ์ที่คุณไม่ต้องการมาให้ คุณจึงต้องแน่ใจในตัวเองก่อนว่า สิ่งที่คุณปรารถนาอย่างแรงกล้านั้นคืออะไร
  3. สร้างคำขอขึ้นมา และส่งภาพสิ่งที่ต้องการไปยังจักรวาล แล้วจักรวาลจะตอบรับคำขอนั้นเอง ให้คุณคิดว่าสิ่งนั้นกลายเป็นของของคุณแล้ว ยิ่งภาพที่คิดมีรายละเอียดชัดเจนมากเท่าไรก็ยิ่งดี เช่น ถ้าอยากได้เครื่องเล่นเกม Wii ของนินเทนโด ให้คิดภาพตัวเองกำลังเล่นเกมด้วยเครื่องเล่นนี้ จินตนาการว่าตัวเองสามารถรับรู้ได้ถึงจอยควบคุม ว่าตัวเองกำลังนั่งเล่นเกมโปรด กำลังสัมผัสเครื่องคอนโซล หรือถ้าคุณกำลังแอบปิ๊งใครสักคน ก็ให้จินตนาการว่าคุณกำลังเดินเคียงคู่เขา กำลังสัมผัสหรือคลอเคลียเขา หรือกำลังจูบเขา พอจะได้แนวทางกันแล้วใช่ไหม
  4. เริ่มต้นด้วยคำว่า “ตอนนี้ฉันมีความสุขมาก และรู้สึกขอบคุณที่...” และปิดท้ายประโยค (หรือย่อหน้า) ด้วยการบอกสิ่งที่ต้องการให้จักรวาลรับรู้ โดยให้เขียนลงไปในรูปของประโยคปัจจุบัน เหมือนคุณมีสิ่งนั้นอยู่ในมือแล้วตอนนี้ และพยายามหลีกเลี่ยงคำเชิงลบ (อ่านเพิ่มเติมได้ในหัวข้อ “คำเตือน”) และทุกๆ วันจนกว่าความปรารถนานั้นจะกลายเป็นจริง ให้คุณหลับตาและจินตนาการถึงสิ่งที่ปรารถนาราวกับมันกำลังเกิดขึ้นแล้ว ณ ตอนนี้ และพยายามจินตนาการภาพให้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
  5. เริ่มรับรู้ถึงความรู้สึกเมื่อได้รับสิ่งที่เฝ้าปรารถนาเสียตั้งแต่ตอนนี้ คุณจะต้องแสดง พูด และคิดราวกับตัวเองกำลังได้มันมา จริงๆ แล้วนี่ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญและมีอำนาจมากที่สุดในการใช้กฎแห่งแรงดึดดูดเลยล่ะ เพราะมันเป็นขั้นตอนที่กฎของเราจะเริ่มทำงาน นอกจากนี้ หลังจากผ่านขั้นตอนนี้ไป คุณอาจไม่รู้สึกต้องการสิ่งนั้นแล้วก็ได้ เพราะคุณรู้สึกราวกับตัวเองมีมันอยู่ในมือแล้ว! ในขณะที่จักรวาลจะทำให้ความคิดและความรู้สึกนี้ปรากฏผล และคุณก็จะได้รับในสิ่งที่ต้องการ
  6. แสดงความรู้สึกขอบคุณ. เขียนรายการทุกสิ่งทุกอย่างที่จักรวาลเคยมอบให้แก่คุณ จงขอบคุณในสิ่งที่คุณมีอยู่แล้ว และขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่จักรวาลได้มอบให้ เพราะจักรวาลทำสิ่งต่างๆ มากมายให้แก่คุณ การตอบแทนจักรวาลด้วยความรู้สึกขอบคุณจะช่วยดลบันดาลให้จักรวาลมอบสิ่งต่างๆ ให้คุณมากยิ่งขึ้น และนำสิ่งดีๆ อีกมากเข้ามาในชีวิตคุณ เช่น ถ้าคุณเคยถูกใครสักคนรังแก แต่เขาหยุดระรานคุณไปแล้ว ก็ถือเป็นหนึ่งเหตุผลให้คุณรู้สึกขอบคุณได้ หรือถ้าคนที่คุณเคยแอบปิ๊งตอบรับรัก หรือถึงแม้จะไม่รับรัก แต่เขาก็ไม่ส่งคนรักตัวจริงมาทำร้าย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลให้คุณขอบคุณจักรวาล คุณควรขอบคุณจักรวาลสำหรับกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ด้วยเช่นกัน เพราะการแสดงความขอบคุณจะเป็นการติดเทอร์โบให้จักรวาลช่วยทำตามคำขอเร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง
  7. ลองจินตนาการถึงอีกมิติซึ่งมีลักษณะคล้ายโลกจริงมากๆ แต่เป็นโลกที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราปรารถนาจากใจจริงจะกลายเป็นจริงในชั่วพริบตา ลองจินตนาการว่าตัวคุณอยู่ในมิตินั้น มิติที่ทุกสิ่งที่คุณขอจากจักรวาลจะมาหาคุณในพริบตา แต่จงอย่า “มองหา’’ สิ่งที่คุณขอ เพราะนี่แหละคือช่วงที่หลายๆ คนมักทำพัง เพราะถ้าคุณต้องคอยสอดส่องหาสัญญาณบ่งชี้ว่าคำขอกลายเป็นจริงแล้วหรือยัง จักรวาลจะได้รับสารว่าคุณยังไม่มีสิ่งนั้น และลงเอยด้วยการดึงดูดความไม่มีมาหาคุณแทน คุณจะต้อง ใจเย็นเข้าไว้ อย่าหงุดหงิดโวยวายถ้าสิ่งต่างๆ ไม่เกิดขึ้นในทันที อย่าเอาแต่มองหา “วิธีการ” สร้างสิ่งต่างๆ จงปล่อยให้มันเป็นหน้าที่ของจักรวาล เพราะการที่คุณเป็นกังวลแทนจักรวาลเรื่อง “วิธีการ” ต่างๆ นั้น มันเป็นการบอกว่าคุณขาดศรัทธา และคุณก็กำลังบอกจักรวาลว่าเขาต้องทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ทั้งที่จักรวาลมีความรู้และพลังอำนาจมากกว่ามนุษยชาติเป็นไหนๆ

เคล็ดลับ

  • ถ้าโลกแห่งความจริงตอนนี้ไม่ค่อยจะดีนัก ต้องพยายามอย่าคิดถึงมันมากเกินไป เพราะคนส่วนใหญ่มักจดจ่อแต่ความเป็นจริงในปัจจุบัน จนลงเอยด้วยการดึงดูดสิ่งเดียวกันเข้าหาตัว ลองหันมาโฟกัสถึงสิ่งที่คุณปรารถนาจะพบพาน เพราะมันได้ผลจริงๆ
  • สร้างกระดานภาพอนาคตหรือตัดภาพจากนิตยสาร เพื่อให้คุณมองเห็นและสัมผัสสิ่งที่ต้องการได้ ให้คุณมองไปที่ภาพนี้ทุกๆ วัน (ทำช่วงเช้าจะดีที่สุด เพราะจะช่วยให้คุณรู้สึกดีไปตลอดทั้งวัน) และตั้งจิตจดจ่อไปที่การส่งความรู้สึกสุขใจไปยังจักรวาล
  • พยายามตั้งจิตจดจ่อถึงสิ่งที่ต้องการให้บ่อยที่สุด แทนที่จะจับจ้องแต่สิ่งที่ไม่ต้องการ เช่น ถ้าคุณรู้สึกโกรธหรือหงุดหงิดเรื่องสงคราม/ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาสักระยะ ลองทุ่มความพยายามเพื่อเปลี่ยนตัวเองเป็น ‘ผู้สนับสนุนสันติภาพ’ แทนที่จะเป็น ‘ผู้ต่อต้านสงคราม’ พูดอีกอย่างก็คือ คุณควรหันมาโฟกัสเรื่องสันติภาพ ตลอดจนทางออกรูปแบบต่างๆ ที่อยากจะเห็น แทนที่จะสนใจแต่สิ่งที่คุณไม่ชอบเกี่ยวกับสถานการณ์นั้นๆ
  • ความรู้สึกดีๆ = ความเป็นจริงดีๆ เพราะฉะนั้น จงทำให้ตัวเองรู้สึกดีเข้าไว้ เช่น อาจจะฟังเพลงโปรด ระบายสีภาพ เล่นสนุกกับสัตว์เลี้ยง หรือคิดถึงใครหรืออะไรก็ตามที่คุณรัก อะไรก็ตามที่ทำให้คุณมีความสุข จากนั้นก็เพียงหลับตาและปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งนั้น เราอาจจะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า “เครื่องมือปรับจูนความถี่” ก็ได้ โดยต้องไม่ลืมเตรียมทีเด็ดไว้สัก 2-3 อย่าง เพราะความคิดต่างๆ จะใช้ได้ผลในสถานการณ์ที่ต่างกันไป เราจึงควรเตรียมไว้บ้างตั้งแต่ตอนนี้ คราวหน้าจะได้หยิบขึ้นมาใช้ได้ทันที
  • มีหนึ่งข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ นั่นคือ แม้แต่คนดังอย่างเลดี้ กาก้าก็ยังใช้กฎแห่งแรงดึงดูด และหลายๆ คนก็ประสบผลสำเร็จมาแล้วด้วย
  • ลองวิธีนี้กันดู... ถ้าคุณพบเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกมีความสุขสุดๆ และดีใจแบบเหลือล้นจนอยากจะดึงดูดเหตุการณ์แบบนี้เข้ามาในชีวิตอีก ให้พยายามจดจำความรู้สึกที่คุณมีข้างใน (หัวใจเต้นเร็วขึ้น/หน้าท้องสั่น) ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ให้พยายามปลุกสิ่งนั้นขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยการจดจำเหตุการณ์นั้นๆ จากนั้น ถ้าพลังงานสั่นสะเทือนมีลักษณะเดียวกับที่คุณรู้สึกในช่วงเวลาแห่งความปิติ สิ่งนั้นจะปรากฎเด่นชัด และคุณจะดึงดูดมันเข้ามาในชีวิตได้อีกครั้ง
  • วิธีที่ได้ผลดีที่สุด คือ การจดจ่อเพียงความปรารถนาเดียวในแต่ละครั้ง
  • ครั้งแรกที่ลองทำอาจใช้เวลานานสักหน่อย (เช่น อาจจะเป็น 10 เดือน) แต่การฝึกฝนจะทำให้คุณทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
  • ในครั้งแรก ให้ลองปรารถนาในสิ่งที่ได้มาไม่ยากนักและสามารถวัดตวงได้ เมื่อความปรารถนานั้นกลายเป็นจริง คุณจะได้รู้แน่ชัดว่าตนเองได้รับสิ่งที่เฝ้าปรารถนาแล้ว เพราะสิ่งนี้ช่วยเพิ่มแรงศรัทธาของคุณได้นั่นเอง
  • พยายามรักษาทัศนคติเชิงบวกเข้าไว้ ไม่ว่ากระบวนการสร้างผลให้ปรากฏจะใช้เวลานานแค่ไหน จงเชื่อเสมอว่า สิ่งที่เฝ้ารอจะมาหาคุณในที่สุด แล้วความฝันของคุณจะกลายเป็นจริง! อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญในกระบวนการสร้างผลให้ปรากฏ คือ พลังใจ ซึ่งหมายถึง ความรู้สึกรักและขอบคุณในจักรวาล ตลอดจนเปิดใจรับความดีงามต่างๆ

คำเตือน

  • คำพูดที่ว่า ”จงระวังในสิ่งที่คุณปรารถนา เพราะคุณอาจจะได้มันมาจริงๆ” ไม่ใช่สิ่งที่จะเอาล้อเล่น เพราะกฎนี้มีพลังอำนาจมากจนคำขอของคุณอาจปรากฏผลอย่างทรงพลังในทันทีโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ จงจำไว้ว่า กฎนี้อาจถูกนำมาใช้เพื่อสร้างหรือทำลายก็ได้
  • คุณจะต้องไม่มีความรู้สึกต่อต้านอยู่ในใจ เช่น ถ้าเพิ่งลองใช้กฎแห่งแรงดึงดูด แล้วพูดออกมาว่า “วิธีนี้มันไม่ได้ผล” จักรวาลจะยิ่งมอบเครื่องยืนยันว่า ‘สิ่งนี้ไม่ได้ผล’ มาให้คุณ
  • ถ้ามีเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานานและรู้สึกอยากให้เธอมาหา แทนที่จะพูดว่า “ฉันอยากให้เพื่อนมาปรากฏตัวที่หน้าประตู” ให้พูดเพียงว่า “ฉันอยากเห็นเธอเดินผ่านมาในระหว่างที่ฉันเดินอยู่บนถนน” หรืออะไรทำนองนี้
  • หลีกเลี่ยงการใช้คำเชิงลบ เช่น ถ้าอยากหลุดพ้นจากภาระหนี้สินแล้วพูดว่า “ฉันอยากหลุดพ้นจากภาระหนี้สิน” จักรวาลจะได้ยินแค่คำว่า ‘หนี้’ และจะยิ่งส่งหนี้มาบนเส้นทางของคุณ เพราะจักรวาลจะไม่ใส่ใจคำเชิงลบอย่าง ‘ไม่’ ‘ไม่มี’ ‘ไม่เหลือ’ ‘หลุดพ้น’ หรือไม่ว่าคำใดๆ เพราะฉะนั้น ให้พูดว่า “ฉันกำลังร่ำรวย/มั่งคั่งและมีเงินเยอะแยะมากมาย” แทน
  • รู้หรือไม่ว่า ถ้าคุณยังเอาแต่กังวลกับผลลัพธ์ในทางลบหรือเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้น คุณกำลังใช้กฎแห่งแรงดึงดูดเพื่อต่อต้านตัวคุณเองโดยไม่รู้ตัว เพราะการกังวล คือ การใช้ขั้นตอนเกือบทั้งหมดข้างต้นเพื่อดึงดูดผลลัพธ์ร้ายๆ เข้าหาตัว เพราะคุณกำลังจินตนาการถึงผลลัพธ์ร้ายๆ และร้องขอสิ่งร้ายๆ จากจักรวาลผ่านภาพร้ายๆ ในใจคุณ คุณกำลังรู้สึกถึงความรู้สึกของการเจอผลลัพธ์ร้ายๆ จงหยุดความกังวลนั้นซะและมุ่งมั่นทำตามขั้นตอนทั้ง 7 ที่เราพูดไปก่อนหน้านี้
  • ถ้าอยากให้บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น เช่น อยากได้จักรยานสักคัน อย่าเพียงแต่พูดว่าฉันอยากได้จักรยานคันนั้น แต่จงเชื่อว่าคุณกำลังจะได้จักรยานคันนั้น และแทนที่จะบอกตัวเองว่าอยากได้จักรยาน ให้นึกภาพว่าตัวเองกำลังปั่นจักรยานคันนั้น คุณจะรู้หรือไม่ว่าจะได้มันมาเมื่อไรนั้นไม่สำคัญ ขอเพียงเชื่อว่าคุณจะได้รับมันโดยปราศจากข้อสงสัยใดๆ และเมื่อไรที่เกิดความสงสัย ให้รีบเปลี่ยนรูปแบบความคิดเป็นเชิงบวก และตั้งจิตจดจ่อไปที่การได้รับหรือได้มีในสิ่งที่คุณต้องการ


เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 110,810 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม