ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

น้ำส้มสายชูนั้นเป็นกรดอ่อนๆ เลยใช้เป็นน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ได้ทั้งบ้าน โดยคุณใช้น้ำส้มสายชูได้ทั้งขจัดคราบ ขจัดกลิ่น แก้ท่อน้ำอุดตัน ฆ่าเชื้อ กระทั่งใช้เวลาแกะสติกเกอร์เหนียวๆ วิธีใช้มีทั้งเพียวๆ แบบเข้มข้น ผสมเบคกิ้งโซดา และใช้ผสมกับวัตถุดิบอื่นให้ได้น้ำยาทำความสะอาด แล้วใช้ได้กับทุกห้องในบ้านเลย

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ผสมและใช้น้ำยาทำความสะอาดจากน้ำส้มสายชู

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำยาฆ่าเชื้อได้ แค่ผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำในสัดส่วนที่เท่ากัน แล้วกรอกใส่ขวดสเปรย์ไว้ เท่านี้ก็ใช้แทนน้ำยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดบริเวณต่อไปนี้ได้เลย [1]
    • โทรศัพท์ ลูกบิด และพื้นผิวต่างๆ: ฉีดพ่นแล้วเช็ดออก
    • กระจกเงาและกระจกใส: ฉีดพ่นแล้วเช็ดให้แห้ง ด้วยยางปาดน้ำ
    • ตู้เย็นและช่องฟรีซ: ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูที่เจือจางแล้ว ไปเช็ดถูบริเวณที่จะทำความสะอาด ขจัดกลิ่น
    • ไมโครเวฟ: เทน้ำส้มสายชูที่เจือจางแล้วในถ้วยเล็กๆ เอาไปเวฟด้วยความร้อนสูง 2 นาทีด้วยกัน จากนั้นเช็ดภายในเครื่องให้สะอาด
  2. เป็นน้ำยาสูตรเจือจางกว่าแบบที่ใช้ฆ่าเชื้อ แต่ก็ยังใช้ทำความสะอาดบริเวณต่างๆ ของบ้านได้ดี เช่น เคาน์เตอร์ ผนัง ของเล่น โต๊ะ มู่ลี่ และพื้นผิวอื่นๆ โดยฉีดพ่นแล้วเช็ดออก วิธีการคือให้ผสมวัตถุดิบต่อไปนี้เข้าด้วยกัน [2]
    • น้ำ 3 ถ้วยตวง (ประมาณ 700 มล.)
    • น้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 240 มล.)
    • น้ำมะนาว 2 ช้อนชา (10 มล.)
    • น้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาว 10 หยด
  3. โดยน้ำยาสูตรนี้จะเจือจางกว่าแบบที่ใช้ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อด้านบน ให้ผสมตามปริมาณที่เหมาะสมตอนจะถูพื้น ใช้ได้ทั้งกับหน้าเคาน์เตอร์ พื้นกระเบื้อง และใช้ทำความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ รอบบ้าน
    • ให้ผสมน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง (ประมาณ 120 มล.) กับน้ำอุ่น ½ แกลลอน (ประมาณ 2 ลิตร) ในถังใบใหญ่ [3]
    • แช่ม็อบหรือฟองน้ำในน้ำยาที่ผสมแล้ว บิดหมาด จากนั้นใช้ถูพื้นได้เลย
    • ผึ่งลมไว้จนพื้นแห้งสนิท
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    NW Maids

    ผู้ก่อตั้ง NW Maids
    อิลย่า ออร์นาตอฟเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของ NW Maids ผู้ให้บริการเรื่องการทำความสะอาดในซีแอตเทิล วอชิงตัน อิลย่าก่อตั้ง NW Maids ในปี 2014 โดยเน้นที่ราคาเหมาะสม จองเวลาได้ง่ายทางออนไลน์ และบริการทำความสะอาดครบวงจร
    NW Maids
    ผู้ก่อตั้ง NW Maids

    ใช้น้ำส้มสายชูถูพื้นแล้วไม่ต้องล้างน้ำตาม Ilya Ornatov ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ NW Maids อธิบายว่า "คุณใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี เพราะผสมน้ำแล้วถูบ้านได้เลย ไม่ต้องล้างออก แค่ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง กับน้ำอุ่น 1 แกลลอน แล้ว ถูบ้านตามปกติ หรือจะใส่ น้ำมันหอมระเหย ให้บ้านหอมๆ ก็ได้ ถ้าเป็นพื้นไม้ ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1/2 ถ้วยตวง กับน้ำอุ่น 1 แกลลอนก็พอ"

  4. ฟูกหรือที่นอนนี่แหละทำความสะอาดยาก เพราะเอาเข้าเครื่องซักผ้าไม่ได้ ยกไปร้านซักรีดก็ลำบาก เรียกว่าเทอะทะจนทำความสะอาดตามปกติได้ยาก โชคดีที่คุณผสมน้ำยาฆ่าเชื้อแถมขจัดกลิ่นได้ด้วยน้ำส้มสายชู
    • ผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง (240 มล.) กับแอลกอฮอล์ล้างแผล ¼ ถ้วยตวง (60 มล.) และทีทรีออยล์ 10 หยด จากนั้นกรอกใส่ขวดสเปรย์ [4]
    • ถอดผ้าปูที่นอนก่อน แล้วฉีดพ่นน้ำยาที่ผสมแล้วให้ทั่วทั้งที่นอน
    • ผึ่งลมไว้ตลอดวัน
  5. ถ้าโลหะหมอง ก็ขัดให้เงางามเหมือนใหม่ได้ แบบไม่ต้องทนแสบจมูกเพราะใช้ผลิตภัณฑ์ขัดโลหะสำเร็จรูปที่เป็นสารเคมีแรงๆ เพราะคุณผสมเองได้จากน้ำส้มสายชู ใช้ขัดได้ทั้งทองแดง ดีบุก และทองเหลือง วิธีผสมก็ง่ายๆ แค่ [5]
    • ผสมเกลือ 1 ช้อนชา (ประมาณ 5 กรัม) กับน้ำส้มสายชู ½ ถ้วยตวง (ประมาณ 120 มล.) แล้วเติมแป้งตามสมควร จนได้ paste เหนียวข้น
    • ทา paste นี้ให้ทั่วโลหะที่หมอง แล้วขัดด้วยแปรงสีฟันเก่าหรือแปรงขัดเครื่องประดับ
    • ทิ้งไว้ให้ออกฤทธิ์ประมาณ 15 นาที
    • ล้างออกด้วยน้ำอุ่น
    • ขัดโลหะให้ขึ้นเงาด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งๆ
  6. น้ำยาขจัดคราบสูตรน้ำส้มสายชู ใช้ขจัดคราบและสิ่งสกปรกฝังแน่นได้ ทั้งจากพรม เสื้อผ้า ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน กระทั่งจานชามต่างๆ แค่ฉีดพ่นน้ำยานี้บริเวณที่เป็นคราบ ทิ้งไว้ให้ชุ่มประมาณ 2 นาที แล้วซับออกด้วยผ้าได้เลย
    • ถ้าจะผสมน้ำยาขจัดคราบสำหรับใช้กับผ้า ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) กับน้ำยาซักผ้า 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) และน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 240 มล.) เข้าด้วยกัน จากนั้นกรอกใส่ขวดสเปรย์
    • ถ้าจะผสมน้ำยาขจัดคราบตามพื้นผิวต่างๆ ให้ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) กับน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) และน้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 240 มล.) เข้าด้วยกัน จากนั้นกรอกใส่ขวดสเปรย์
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูผสมเบคกิ้งโซดา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ paste ที่ผสมแล้ว ทำความสะอาดบ้านตามจุดต่างๆ. paste ที่ได้จากการผสมน้ำส้มสายชูและเบคกิ้งโซดา นั้นเหมาะจะใช้ทำความสะอาดพรม คราบฝังแน่น คราบเหนียวเป็นก้อน คราบมันที่หัวเตา สีเทียนเลอะผนัง ฉี่/อึสัตว์เลี้ยง และสารพัดคราบที่ขจัดออกยาก แค่ผสมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ (30 ml) กับเบคกิ้งโซดา ¼ ถ้วยตวง (ประมาณ 60 กรัม) เข้าด้วยกัน จนขึ้นฟอง เป็น paste เหนียวข้น [6]
    • วิธีใช้ paste นี้ ก็คือป้ายไม่ต้องมากบริเวณที่เป็นคราบ ขัดด้วยแปรงสีฟันเก่าหรือแปรงอะไรที่ไม่ขัดหยาบ จากนั้นซับด้วยฟองน้ำเปียกหมาด เพื่อขจัดทั้งคราบสกปรกและคราบน้ำยา ส่วนถ้าเป็นพรม ให้ดูดฝุ่นอีกทีหลังแห้งสนิท
  2. ทำความสะอาดฝักบัว อ่างล้างมือ และอ่างอาบน้ำ. สามอย่างที่ว่ามา เป็นบริเวณที่มักมีตะกรัน รา ฝ้า คราบสบู่ และน้ำยาต่างๆ หมักหมมเกาะตัว คุณทำความสะอาดได้ง่ายๆ แค่ใช้ 2 ส่วนผสมอย่างเบคกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู เท่านี้ก็กลับมาสะอาดเงาวับตามเดิม ขั้นตอนคือ [7]
    • เอาผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชูบริสุทธิ์
    • โรยเบคกิ้งโซดาให้ทั่วฟองน้ำ
    • ใช้ฟองน้ำขัดฝักบัว ประตูห้องอาบน้ำ อ่างล้างมือ อ่างล้างจาน และอ่างอาบน้ำ
    • เอาฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชูอีกรอบ แล้วโรยเบคกิ้งโซดาเพิ่มตามต้องการ
    • ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  3. ท่อตัน น้ำไหลช้า เป็นปัญหาที่พบบ่อยแต่แก้ยาก แถมน้ำยาที่ขายกันก็มีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง อันตรายมาก คราวหน้าลองเปลี่ยนมาใช้เบคกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชูแก้ท่อตันแทน ขั้นตอนคือ
    • เทเบคกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง (220 กรัม) ในท่อที่ตัน
    • เทน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 240 มล.) ตามลงไป
    • ปล่อยให้ผสมกันจนขึ้นฟอง ประมาณ 30 นาที
    • ราดน้ำเดือดเต็มกาลงไปในท่อ เพื่อไล่ส่วนผสมลงท่อไป
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชูเพียวๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กรดในน้ำส้มสายชูเหมาะจะใช้ละลายตะกรัน แก้ปัญหาอุดตัน ทั้งตามฝักบัว เครื่องชงกาแฟ และไส้กรอง วิธีใช้ก็คือ [8]
    • ฝักบัว: เทน้ำส้มสายชูใส่ถุงพลาสติก เอาถุงนี้ไปห่อฝักบัว โดยใช้หนังยางรัดให้แน่น เท่านี้หัวฝักบัวก็จะแช่อยู่ในน้ำส้มสายชู ให้ทิ้งไว้ข้ามคืน เช้ามาก็แกะถุงออก แล้วล้างฝักบัวด้วยน้ำสะอาด
    • เครื่องชงกาแฟ: เทน้ำส้มสายชูใส่แทงค์น้ำของเครื่องชงกาแฟ แล้วเปิดให้เครื่องทำงานไปตามปกติเหมือนต้มกาแฟ สุดท้ายเทน้ำส้มสายชูออก เดินเครื่องอีกครั้งโดยคราวนี้ใช้แค่น้ำเปล่า เพื่อล้างทำความสะอาด
    • ไส้กรองเครื่องทำความชื้น: ถอดไส้กรองจากเครื่องทำความชื้น เทน้ำส้มสายชูใส่ถาดก้นตื้นขนาดใหญ่ แล้วแช่ไส้กรองลงไป ทิ้งไว้แบบนั้น 1 - 2 ชั่วโมง หรือจนกว่าตะกรันและสิ่งอุดตันต่างๆ จะละลายหายไป หรือหลุดออกมา
  2. กาวของสติกเกอร์บางทีก็เหนียวจนติดเป็นคราบตามพื้นผิวต่างๆ โดยเฉพาะถ้าติดอยู่นานแล้ว คุณละลายกาวสติกเกอร์ได้ด้วยน้ำส้มสายชู เท่านี้ก็แกะออกได้เลย ถ้ายังมีคราบให้ลงน้ำส้มสายชูโดยใช้พู่กันหรือฟองน้ำ ทิ้งไว้ 10 นาที สุดท้ายขูดกาวออกด้วยเกรียงพลาสติก
  3. คุณเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดให้น้ำยาซักผ้า/ล้างจาน ได้โดยเติมน้ำส้มสายชูเวลาซักผ้าในเครื่อง นอกจากจานและเสื้อผ้าจะสะอาดขึ้นแล้ว ยังช่วยขจัดคราบและกลิ่นตกค้างด้วย
    • ถ้าใช้เครื่องล้างจาน ให้เติมน้ำส้มสายชู 2 ถ้วยตวง (470 มล.) ที่ด้านล่างของเครื่องก่อนเริ่มทำงาน
    • ถ้าใช้เครื่องซักผ้า ให้เทน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 240 มล.) ในถังซักผ้าโดยตรงในขั้นตอนการล้างน้ำยา จะช่วยสลายคราบ ทำให้ผ้านุ่มขึ้น [9]
  4. เขียงนี่แหละแหล่งสะสมแบคทีเรียและจุลชีพต่างๆ ที่ทำคุณและครอบครัวป่วย กำจัดได้โดยรักษาความสะอาดของเขียง ให้ปราศจากเชื้อโรคอยู่เสมอ เริ่มจากเอาผ้าชุบน้ำส้มสายชู เช็ดเขียงทุกครั้งหลังล้าง สุดท้ายผึ่งลมไว้จนแห้งสนิท
  5. เชื้อราต่างๆ ทั้งขาวและดำ มักก่อตัวตามห้องน้ำและอื่นๆ ที่ชื้นแฉะเป็นประจำ ป้องกันไม่ให้ราขึ้นฝักบัว อ่างล้างมือ และผนังอ่างอาบน้ำได้โดยใช้ยางปาดน้ำให้แห้งทุกครั้งหลังใช้งาน แล้วฉีดพ่นพื้นผิวด้วยน้ำส้มสายชูเปล่าๆ
    • คุณป้องกันเชื้อราตามม่านกั้นอ่างได้ โดยสะบัดน้ำส่วนเกินหลังอาบน้ำ แล้วฉีดพ่นด้วยน้ำส้มสายชู [10]
  6. ชักโครกก็เป็นแหล่งของแบคทีเรียร้ายเช่นกัน แก้ได้ด้วยน้ำส้มสายชู ถ้าจะทำความสะอาดและฆ่าเชื้อชักโครก ให้เทน้ำส้มสายชูเพียวๆ 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 240 มล.) ลงในโถชักโครก แล้วทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นขัดโถชักโครกให้สะอาดตอนเช้า สุดท้ายกดน้ำล้างทุกอย่างลงไป [11]
    • จะฉีดสเปรย์น้ำส้มสายชูตรงที่รองนั่ง ฝา และรอบๆ ชักโครกด้วยก็ได้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วเช็ดออกด้วยผ้าหรือผ้าขี้ริ้วเปียกหมาด
  7. กระบะทรายแมวส่งกลิ่นง่ายมาก แถมเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย สำคัญว่าต้องรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เปลี่ยนทรายแมว ให้ทิ้งทรายเก่า ล้างกระบะทรายให้สะอาด จากนั้นเทน้ำส้มสายชูลงไปให้สูง ½ นิ้ว (ประมาณ 1.5 ซม.) ทิ้งไว้แบบนั้น 15 นาที สุดท้ายล้างออกด้วยน้ำสะอาด [12]
    • ผึ่งลมไว้จนกระบะทรายแห้งสนิท ค่อยเติมทรายใหม่
    โฆษณา

คำเตือน

  • ระวังอย่าใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดพื้นแกรนิต พื้นหินอ่อน ไข่ที่หก เหล็ก หรือขจัดคราบเลือดหรือหญ้า และใส่ใจเป็นพิเศษเวลาใช้น้ำส้มสายชูทำความสะอาดพื้นไม้เนื้อแข็ง ให้เจือจางก่อน รวมถึงทดสอบใช้งานบริเวณจุดเล็กๆ ก่อนใช้จริง
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 58,468 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา