ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การรู้ว่าคุณของคุณเป็นแบบไหนนั้นมีประโยชน์ต่อการ เลือกเสื้อผ้า ให้ดึงจุดเด่นของคุณออกมาได้ อันที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะรู้ว่าตัวคุณมีหุ่นแบบไหนโดยไม่ต้องใช้อย่างอื่นเลยนอกจากสายวัด เริ่มจากวัดขนาดหน้าอก เอว และสะโพก จากนั้นนำค่าที่ได้มาเทียบว่ารูปร่างของคุณเป็นแบบไหนจากค่าที่วัดได้ ไม่ว่าคุณจะมีหุ่นแบบไหน ให้รู้ไว้ว่าหุ่นและรูปร่างของทุกๆ คนล้วนมีความสวยงามในตนเอง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

วัดสัดส่วน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    ถอดเสื้อผ้าออกหรือสวมแต่เสื้อชั้นในกับกางเกงชั้นใน. เพื่อให้ค่าที่วัดได้นั่นถูกต้องควรสวมเสื้อผ้าให้น้อยชิ้นที่สุดหรือไม่สวมเลย ถอดกางเกงชั้นในหากสามารถทำได้หรือสวมชุดที่แนบพอดีตัว อย่างเช่น เสื้อสายเดี่ยวคู่กับกางเกงผ้ายืดแนบขา [1]
    • อาจช่วยให้วัดได้ง่ายขึ้นโดยยืนหน้ากระจกขณะวัด จะช่วยให้วัดในตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมยิ่งขึ้น
  2. Watermark wikiHow to รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    เลือกใช้สายวัดที่นิ่มและสามารถวัดได้ไม่ว่าจะเป็นหน่วยนิ้วหรือเซนติเมตร พันสายวัดรอบจุดที่นูนที่สุดของหน้าอก ซึ่งตำแหน่งที่มักวัดขนาดหน้าอกคือระดับหัวนม จับสายวัดให้แนบกระชับรอบหน้าอกแต่ไม่ดึงจนแน่นเกินไปจนบีบเต้านมหรือหน้าอก อ่านค่าที่วัดได้แล้วบันทึกไว้ [2]
    • บางคนจะวัดความกว้างไหล่ด้วยเพื่อดูว่าหุ่นเป็นแบบไหน แต่ก็ไม่จำเป็นนัก โดยถ้าไหล่กว้างกว่าหน้าอก เอว และสะโพก หุ่นของคุณอาจจะเป็นสามเหลี่ยมหัวกลับ [3] เพราะฉะนั้นอาจวัดความกว้างไหล่ก็ช่วยให้ทราบว่าคุณมีหุ่นเป็นแบบไหนได้ [4]

    เคล็ดลับ :หากคุณหาตำแหน่งวัดได้ยากให้เพื่อนมาช่วยวัดให้ได้

  3. Watermark wikiHow to รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    มักเป็นจุดที่อยู่ใต้ต่อซี่โครงและเหนือต่อสะดือประมาณ 2-3 นิ้ว วางสายวัดแล้ววัดรอบส่วนั้นจากนั้นให้บันทึกค่าเป็นหน่วยนิ้วหรือเซนติเมตร [5]
    • สายวัดต้องไม่รัดแน่นเกินไป จับให้กระชับพอดีแต่ยังสามารถสอดนิ้วมือเข้าไป 1 นิ้วระหว่างสายวัดกับผิวหนังได้พอดี
  4. Watermark wikiHow to รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    มักวัดในระดับเดียวกับเป้ากางเกง พันสายวัดรอบสะโพกที่ตำแหน่งนั้นแล้วบันทึกค่าที่ได้ในหน่วยนิ้วหรือเซนติเมตร [6]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

พิจารณาว่าคุณมีหุ่นแบบไหน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เปรียบเทียบสามส่วนที่วัดได้ว่าส่วนใดใหญ่ที่สุดเล็กที่สุด. โดยจัดลำดับจากหน้าอก, สะโพก, และเอว จากใหญ่ไปเล็กเพื่อวิเคราะห์หุ่น อย่างไรก็ตามหากค่าของสองส่วนต่างกัน 1 นิ้วหรือน้อยกว่านั้นให้ถือว่าเท่ากัน [7]
    • ตัวอย่างเช่น หากหน้าอกวัดได้ 34 นิ้ว, เอววัดได้ 38 นิ้ว, และสะโพกวัดได้ 48 นิ้ว ให้ถือว่าสะโพกใหญ่ที่สุดและหน้าอกเล็กที่สุด
    • คุณอาจจะวัดสองส่วนได้ใกล้เคียงกันมากหรือเกือบเท่ากัน จะต่างกันก็ต่อเมื่อมีผลต่อหุ่นของคุณ ตัวอย่างเช่น หากวัดหน้าอกได้ 38 นิ้วและสะโพกได้ 39 นิ้วแต่เอวได้ 42 นิ้ว ดังนั้นหน้าอกและสะโพกถือว่าเท่ากันและเอวเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดอยู่ดี

    เคล็ดลับ : สามารถดูได้อย่างชัดเจนจากในกระจกขณะวัด ว่าหุ่นแบบไหนที่เข้ากับหน้าอก,เอว, และสะโพกเมื่อมองในกระจก

  2. Watermark wikiHow to รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    หุ่นแบบลูกแพร์ถ้าหน้าอกและเอวเล็กกว่าสะโพก. หากสะโพกใหญ่ที่สุดในสามส่วนที่วัด ส่วนหน้าอกและเอวขนาดเท่ากันหรือหน้าอกเล็กกว่าเอว แสดงว่าคุณมีหุ่นแบบลูกแพร์ ซึ่งเรียกกันว่าหุ่นรูปทรงสามเหลี่ยม เป็นหุ่นที่พบได้มากโดยทั่วไป [8]
    • ตัวอย่างเช่น หากหน้าอก 32 นิ้ว, เอว 34 นิ้วและสะโพก 40 นิ้ว แสดงว่าคุณมีหุ่นแบบลูกแพร์
  3. Watermark wikiHow to รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    หุ่นแบบสามเหลี่ยมหัวกลับถ้าหน้าอกใหญ่กว่าเอวและสะโพก. หุ่นแบบนี้เป็นหุ่นที่ตรงข้ามกับลูกแพร์หรือหุ่นสามเหลี่ยม โดยสามเหลี่ยมหัวกลับนี้จะมีขนาดหน้าอกและ/หรือหัวไหล่กว้างกว่าเอวและสะโพก ซึ่งมักเป็นหุ่นที่พบในนักกีฬาชายและหญิง แต่บางคนก็มีหุ่นแบบนี้โดยธรรมชาติ [9]
    • ตัวอย่างเช่น หากหน้าอก 40 นิ้ว, เอว 36 นิ้ว และสะโพก 35 นิ้ว แสดงว่าคุณมีหุ่นแบบสามเหลี่ยมหัวกลับ
  4. Watermark wikiHow to รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    หุ่นแบบสี่เหลี่ยมถ้าหน้าอก, เอว, ขนาดเท่าๆ กัน. ถ้าไม่มีส่วนใดต่างกันมากกว่า 2 นิ้วระหว่างหน้าอก, เอว, และสะโพก หมายถึงหุ่นแบบสี่เหลี่ยม ซึ่งมักเป็นหุ่นที่พบในนักกีฬาและเด็กผู้หญิง แต่บางคนก็มีหุ่นแบบนี้โดยธรรมชาติ [10]
    • ตัวอย่างเช่น หากหน้าอก 36 นิ้ว, เอว 35 นิ้ว และสะโพก 37 นิ้ว แสดงว่าคุณมีหุ่นแบบสี่เหลี่ยม
  5. Watermark wikiHow to รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    หุ่นแบบแอปเปิลถ้าเอวกว้างกว่าหน้าอกและสะโพก. ถ้าเอวขนาดใหญ่กว่า 2 นิ้วเมื่อเทียบกับสะโพกและหน้าอก แสดงว่ามีหุ่นแบบแอปเปิล บางคนที่มีหุ่นแบบแอปเปิลนั้นมีสะโพกเล็กและขาเรียว แต่หากคุณเป็นผู้หญิงก็คืออาจจะมีหน้าอกใหญ่ [11]
    • ตัวอย่างเช่น หากหน้าอก 42 นิ้ว, เอว 48 นิ้ว และสะโพก 40 นิ้ว แสดงว่าคุณมีหุ่นแบบแอปเปิล
  6. Watermark wikiHow to รู้ว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    หุ่นแบบนาฬิกาทรายถ้าเอวเล็กกว่าหน้าอกและสะโพก. หุ่นนาฬิกาทรายมักมีหน้าอกและสะโพกที่ใกล้เคียงกันและวัดเอวได้น้อยกว่าหน้าอกและสะโพกชัดเจน ทำให้มองดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งจากหน้าอกลงมาเอวและสะโพก [12]
    • ตัวอย่างเช่น หากหน้าอก 38 นิ้ว, เอว 30 นิ้ว และสะโพก 40 นิ้ว แสดงว่าคุณมีหุ่นแบบนาฬิกาทราย
  7. หากยังมีสงสัยว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน ให้ลองวาดเส้นแบ่งสเกลลงไปในภาพของคุณ แล้วลากเส้นขนานกัน 3 เส้นลงบนกระดาษ และใช้อัตราส่วนของแต่ละส่วนที่ 1/10 จากที่วัดจริง จากนั้นแบ่งด้วยการขีดเส้น โดยแต่ละเส้นห่างกัน 2 นิ้ว จากนั้นลากเชื่อมปลายเส้นของแต่ละเส้นเข้าด้วยกันเพื่อดูว่าหุ่นของคุณเป็นแบบไหน
    • ตัวอย่างเช่น หากวัดได้ 32 นิ้ว, 36 นิ้ว และ 44 นิ้ว ให้ลากเส้นยาว 3.2 นิ้ว, 3.6 นิ้ว และ 4.4 นิ้ว จากนั้นลากเส้นเชื่อมสามเส้นเข้าด้วยกันก็จะได้รูปลูกแพร์หรือสามเหลี่ยม
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ในแต่ละคนนั้นมีรูปร่างและขนาดหลากลายกันไป และตัวคุณอาจจะไม่ได้พอดีกันกับหุ่นแบบใดแบบหนึ่งอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะมีหน้าอกและสะโพกแบบลูกแพร์ร่วมกับเอวใหญ่กว่าเล็กน้อย
  • หากคุณอยู่ในช่วงวัยรุ่น หุ่นอาจจะเปลี่ยนได้อีกในอนาคต ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะมีหุ่นแบบสี่เหลี่ยมจนกระทั่งเริ่มโตและมีส่วนเว้าส่วนโค้งมากขึ้น
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหากไม่แน่ใจว่าคุณมีหุ่นแบบไหน ลองหาช่างตัดเสื้อหรือช่างเสื้อที่เชี่ยวชาญด้านการวัดขนาด เพื่อช่วยบอกว่าคุณมีหุ่นแบบไหน
  • จงภูมิใจในร่างกายของคุณ อาจดูเป็นสำนวนเชยๆ แต่คือเรื่องจริง จงรักในสิ่งที่คุณเป็นและภูมิใจกับมัน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 104,535 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา