ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
อูคูเลเล่เป็นเครื่องดนตรีจากฮาวายที่มีเสียงผ่อนคลายและให้ความสนุกสนาน แถมยังเป็นเครื่องดนตรีขนาดเล็กที่สะดวกต่อการพกพาอีกด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถฝึกฝนฝีมือกับเครื่องดนตรีประเภทนี้ได้ ฉะนั้น ลองมาเรียนรู้พื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ ในการเล่นอูคูเลเล่ดูสิ ไม่แน่วันหนึ่งคุณอาจจะกลายเป็นมืออูคูเลเล่ฝีมือฉกาจก็ได้นะ!
ขั้นตอน
-
เลือกอูคูเลเล่. อูคูเลเล่นั้นมีหลายขนาดและแต่ละขนาดก็ให้เสียงที่แตกต่างกันไป และมันก็สำคัญที่คุณจะเลือกในแบบที่เหมาะกับตัวคุณมากที่สุด ในฐานะผู้เริ่มต้น คุณอาจจะต้องเลือกตัวเลือกที่มีราคาถูกก่อน มากกว่าที่จะไปลงทุนกับตัวแพงๆ แต่ว่าจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้เสมอไปก็ได้ โดยอูคูเลเล่จะมีทั้งหมด 4 แบบ
- อูคูเลเล่แบบโซปราโน (soprano) จะเป็นแบบที่คนส่วนใหญ่ชอบเล่นกัน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าอูคูเลเล่โซปราโนนั้นมีขนาดเล็กและให้เสียงในแบบฉบับคลาสสิก ซึ่งนี่เป็นแบบที่ถูกที่สุดและมือใหม่มักจะเลือกใช้กัน ซึ่งความยาวทั้งหมดของอูคูเลเล่ไซส์นี้คือ 21 นิ้ว และส่วนมากจะมี 12-14 เฟรต
- อูคูเลเล่แบบอัลโต (alto) หรืออูคูเลเล่แบบคอนเสิร์ต (concert) เป็นอูคูเลเล่ที่มีขนาดใหญ่ถัดขึ้นมาจากโซปราโน มีความยาว 20 นิ้ว และมี 15-20 เฟรต และด้วยความที่มีขนาดใกล้เคียงกัน คนที่มีมือใหญ่ก็มักจะรู้สึกว่าไซส์นี้เล่นง่ายกว่าแบบโซปราโน นอกจากนี้ยังให้เสียงที่เต็มกว่าโซปราโนด้วย
- ต่อมาก็เป็นอูคูเลเล่ที่มีขนาดใหญ่ถัดขึ้นมาจากอัลโต ซึ่งก็คืออูคูเลเล่แบบเทเนอร์ (tenor) นั่นเอง อูคูเลเล่ไซส์นี้มีความยาว 26 นิ้ว และมี 15 เฟรตขึ้นไป นอกจากนี้ยังให้เสียงที่เต็มกว่าแบบคอนเสิร์ต และสามารถเล่นโน้ตได้เยอะกว่าเพราะว่ามีเฟรตบอร์ดที่กว้างกว่า
- อูคูเลเล่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ อูคูเลเล่แบบบาริโทน (baritone) ซึ่งมีความยาว 30 นิ้วหรือมากกว่านั้น และมี 19 เฟรตขึ้นไป นอกจากนี้ยังตั้งสายแบบเดียวกับสี่สายล่างของกีตาร์ด้วย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ทำให้เครื่องดนตรีสองประเภทนี้มีความคล้ายคลึงกันมาก และด้วยขนาดที่ใหญ่ของอูคูเลเล่ประเภทนี้ ทำให้มันสูญเสียเสียงแบบอูคูเลเล่ดั้งเดิมไป แต่จริงๆ มันก็เป็นตัวเลือกที่ดี ถ้าคุณอยากจะได้เสียงดนตรีที่เต็มจริงๆ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อูคูเลเล่บางตัวนั้นมีทรงที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นทรง fluke ทรง pineapple หรือทรง flea ซึ่งทรง fluke จะเหมือนทรงสามเหลี่ยม ส่วน pineapple จะเหมือนกับสับปะรด (รูปวงรี) และ flea ก็จะเหมือนกับทรงสับปะรดแต่ว่ามีก้นแบน ซึ่งรูปตัวอย่างด้านล่างนี้คือทรงสับปะรด
-
ทำความรู้จักกับส่วนประกอบต่างๆ ของอูคูเลเล่. อูคูเลเล่นั้นมีส่วนประกอบที่แตกต่างจากกีตาร์หรือเครื่องสายชนิดอื่นๆ อยู่เล็กน้อย ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มเล่น ให้คุณดูให้แน่ใจด้วยว่าคุณเข้าใจโครงสร้างพื้นฐานของเครื่องดนตรีประเภทนี้แล้ว
- ลำตัวของอูคูเลเล่นั้นทำมาจากชิ้นส่วนไม้ที่ประกอบกันและข้างในลำตัวจะโปร่ง ซึ่งนี่คือส่วนหลักของเครื่องดนตรีชนิดนี้ และที่ลำตัวก็จะมีรูเล็กๆ อยู่ใต้สายที่คุณใช้ตีคอร์ดนั่งเอง
- คอของอูคูเลเล่จะเป็นชิ้นส่วนไม้ยาวๆ ที่ใช้เป็นที่รองสายด้านบน ซึ่งส่วนล่างของคอจะมีลักษณะกลมเล็กน้อย ในขณะที่ส่วนบนที่เรียกว่าฟิงเกอร์บอร์ดหรือเฟรตบอร์ดนั้นจะมีลักษณะแบนราบ
- เฟรตคือส่วนที่อยู่บนฟิงเกอร์บอร์ดที่ถูกแบ่งด้วยแท่งโลหะที่ติดอยู่กับฟิงเกอร์บอร์ด แต่ละเฟรตจะเป็นตัวกำหนดให้โน้ตแต่ละตัวมีเสียงที่แตกต่างกัน
- หัวของอูคูเลเล่จะอยู่ที่ส่วนบนสุดของตัวอูคูเลเล่ ซึ่งเป็นที่ที่ลูกบิดตั้งสายอยู่ตรงนั้น
- อูคูเลเล่มีสายทั้งหมด 4 สาย ซึ่งบางทีก็อาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณซื้ออูคูเลเล่ประเภทไหนมา สายที่ต่ำที่สุดหรือสายที่หนาที่สุดเรียกว่าสาย 1 เลื่อนขึ้นไปถึงสายที่สูงที่สุดหรือสายที่บางที่สุดเรียกว่าสาย 4 [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตั้งสายอูคูเลเล่. ก่อนที่คุณจะเริ่มเล่น คุณจำเป็นต้องตั้งสายก่อนเสมอ เพราะนี่จะทำให้สายแต่ละสายมีเสียงที่ถูกต้อง และช่วยลดความท้อแท้ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่คุณคิดว่าตัวเองเล่นแย่ได้ เพราะจริงๆ มันเป็นเพราะว่าคุณตั้งสายไม่ตรงก็แค่นั้นเอง ซึ่งการตั้งสายอูคูเลเล่นั้นทำได้ด้วยการหมุนลูกบิดที่หัวอูคูเลเล่เพื่อขึงสายให้ตึงหรือหย่อนสาย
- เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ความตึงของสายจะค่อยๆ ลดลงจนทำให้สายหย่อนลง ซึ่งจะทำให้สายเพี้ยนได้ และนี่หมายความว่าคุณต้องตั้งสายให้ตึงขึ้นบ่อยกว่าที่คุณต้องหย่อนสายลง
- หากคุณกำลังหันหน้าเข้าหาตัวอูคูเลเล่ ลูกบิดตัวซ้ายบนจะเป็นเสียง C และตัวซ้ายล่างจะเป็นเสียง G ส่วนลูกบิดตัวขวาบนจะเป็นเสียง E และตัวขวาล่างจะเป็นเสียง A โดยการตั้งสายเหล่านี้จะช่วยทำให้ได้เสียงที่ถูกต้อง
- ให้คุณใช้จูนเนอร์ไฟฟ้าหรือจะใช้จูนเนอร์ออนไลน์เพื่อฟังว่าเสียงของแต่ละสายเป็นยังไงเวลาที่ดีดก็ได้ จากนั้นให้คุณปรับสายของตัวเองจนกว่าเสียงจะตรงกันกับจูนเนอร์
- หากคุณมีเปียโนหรือคีย์บอร์ดอยู่แล้ว คุณอาจจะกดปุ่มคีย์ที่ตรงกับสายที่คุณกำลังจะตั้ง และตั้งสายให้ตรงกับเสียงที่คุณกดก็ได้ [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
วางท่าเล่นให้ถูกต้อง . หากคุณไม่ถืออูคูเลเล่ให้ถูกต้อง เวลาที่เล่น คุณก็จะไม่ได้เสียงที่ดีเท่าที่มันควรจะเป็น คุณจะรู้สึกไม่ถนัด และอาจจะทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บข้อมือเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ได้ ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มเล่น ดูให้แน่ใจด้วยว่าคุณวางท่าเล่นอย่างเหมาะสมแล้ว
- ไม่ว่าคุณจะนั่งเล่นหรือจะยืนเล่น คุณจะต้องถืออูคูเลเล่ในแบบเดียวกันเสมอ
- ตัวอูคูเลเล่ควรจะอยู่ระหว่างท้องแขนข้างขวาและลำตัวของคุณ และวางอยู่ในข้อศอกของคุณไปพร้อมๆ กัน หากคุณถือได้ถูกต้อง คุณก็จะสามารถขยับมือแบบไหนก็ได้โดยที่อูคูเลเล่ของคุณไม่เปลี่ยนตำแหน่งไปไหน ซึ่งทั้งหมดนี้หมายความว่าอูคูเลเล่ของคุณจะถูกถืออยู่บนลำตัวคุณในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูง ใกล้กับเอวหรือหน้าอกของคุณ
- ส่วนคอของอูคูเลเล่ควรจะวางอยู่บนนิ้วโป้งและส่วนที่เชื่อระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ของมือซ้าย ปล่อยไว้ให้ 4 นิ้วที่เหลือของคุณสามารถไล่ไปถึงทั่วทุกสายได้
- เวลาที่คุณตีคอร์ดด้วยมือขวา ให้คุณใช้หลังเล็บของตัวเองตีสายลงไป และใช้ส่วนที่เป็นเนื้อของปลายนิ้วเวลาที่ดีดกลับขึ้นมา
- ให้คุณตีคอร์ดในตำแหน่งที่สูงกว่ารูตรงกลางของอูคูเลเล่ แม้ว่านี่อาจจะเป็นตำแหน่งที่ถูกต้องในการเล่นกับกีตาร์ แต่สำหรับอูคูเลเล่ การเล่นใกล้ๆ กับคอให้มากขึ้นคือตำแหน่งที่เหมาะกับการเล่นอูคูเลเล่มากที่สุด
- ยืดหลังและไหล่ให้ตรง เพื่อที่คุณจะได้ไม่งอตัวคร่อมอูคูเลเล่ ซึ่งนี่จะช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ของคุณเวลาที่คุณกำลังเล่นอยู่ และยังช่วยลดโอกาสที่คุณจะปวดหลังจากการงอตัวได้ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
เรียนรู้คอร์ดพื้นฐานบางคอร์ด. คอร์ดนั้นหมายถึงการที่คุณเล่นโน้ตมากกว่าหนึ่งโน้ตในครั้งเดียวจนทำให้เกิดเป็นเสียงที่ประสานกัน และเพื่อที่จะเล่นคอร์ด คุณก็ต้องใช้มือซ้ายกดสายในเฟรตต่างๆ ไปพร้อมกัน และวิธีการเล่นคอร์ดนั่นก็ง่ายมากๆ ซึ่งในขั้นตอนต่อไปคุณก็จะได้รู้จักกับเลขประจำสาย หมายเลขของเฟรต และนิ้วที่ใช้เพื่อสร้างเสียงแต่ละเสียง
-
เรียนรู้พื้นฐานของคอร์ด major. คอร์ด major ประกอบไปด้วยโน้ต 3 ตัวที่เล่นพร้อมกัน โดยระยะห่างระหว่างโน้ตตัวที่ 1 และตัวที่ 2 จะห่างกันสองเสียง ซึ่งคอร์ด major นั้นจะเป็นคอร์ดที่ให้อารมณ์สดใส [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วิธีเล่น C Major คือ ให้คุณวางนิ้วนางไปที่สาย 4 บนเฟรต 3
- วิธีเล่น F Major คือ ให้คุณวางนิ้วชี้ไปที่สาย 2 บนเฟรต 1 และวางนิ้วนางไปที่สาย 1 บนเฟรต 2
- วิธีเล่น G Major คือ ให้คุณวางนิ้วชี้ไปที่สาย 3 บนเฟรต 2 และวางนิ้วกลางไปที่สาย 4 บนเฟรต 2 จากนั้นวางนิ้วนางไปที่สาย 2 บนเฟรต 3
- วิธีเล่น A Major คือ ให้คุณวางนิ้วชี้ไปที่สาย 3 บนเฟรต 1 และวางนิ้วกลางไปที่สาย 1 บนเฟรต 2
- วิธีเล่น D Major เล่นได้โดยให้คุณวางนิ้วกลางไปที่สาย 1 บนเฟรต 2 และวางนิ้วนางไปที่สาย 2 บนเฟรต 2 แล้ววางนิ้วก้อยไปที่สาย 3 บนเฟรต 2
- วิธีเล่น E Major ทำได้โดยให้คุณวางนิ้วชี้ไปที่สาย 4 บนเฟรต 1 วางนิ้วกลางไปที่สาย 1 บนเฟรต 2 และวางนิ้วก้อยไปที่สาย 3 บนเฟรต 4
-
เรียนรู้พื้นฐานของคอร์ด minor. คอร์ด minor ประกอบด้วยโน้ต 3 ตัวหรือมากกว่านั้น และโน้ตแต่ละตัวจะเล่นไปพร้อมๆ กัน ซึ่งโน้ตตัวที่ 1 และตัวที่ 2 จะห่างกัน 1 เสียงครึ่ง โดยคอร์ด minor เป็นคอร์ดที่ให้อารมณ์เศร้ากว่าเมื่อเทียบกับคอร์ด major แล้ว
- วิธีเล่นคอร์ด A Minor คือ ให้คุณวางนิ้วกลางไปที่สาย 1 บนเฟรต 2
- วิธีเล่นคอร์ด E Minor คือ ให้คุณวางนิ้วชี้ไปที่สาย 4 บนเฟรต 2 และวางนิ้วนางไปที่สาย 3 บนเฟรต 4
- วิธีเล่นคอร์ด D Minor ทำได้โดยการวางนิ้วชี้ไปที่สาย 2 บนเฟรต 1 และวางนิ้วกลางไปที่สาย 1 บนเฟรต 2 จากนั้นวางนิ้วนางไปที่สาย 3 บนเฟรต 2.
- วิธีเล่น F# หรือ Gb Minor คือ ให้คุณวางนิ้วชี้ไปที่สาย 3 บนเฟรต 1 แล้ววางนิ้วกลางไปที่สาย 1 บนเฟรต 2 จากนั้นวางนิ้วนางไปที่สาย 2 บนเฟรต 2
- วิธีเล่น B Minor ทำได้ด้วยการใช้นิ้วชี้ทาบไปที่สาย 2 สาย 3 และสาย 4 พร้อมกันในครั้งเดียวที่เฟรต 2 และใช้นิ้วนางกดสาย 1 ลงไปที่เฟรต 4 [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ฝึกไทม์มิ่ง. เมื่อคุณรู้คอร์ดและโน้ตพื้นฐานแล้ว การเอาคอร์ดแต่ละคอร์ดมาเล่นต่อกันอาจจะดูง่าย แต่ว่าก็ต้องใช้การควบคุมจังหวะด้วย และเพื่อที่จะทำให้เพลงของคุณลื่นไหลและเพราะได้ คุณจำเป็นต้องมีจังหวะที่ดีก่อน
- การรักษาจังหวะในการตีคอร์ดอาจจะดูยากในครั้งแรกที่คุณลองปรับให้มือซ้ายเล่นคอร์ดและโน้ตต่างๆ ให้ปะติดปะต่อกัน แต่มันจะดีขึ้นเมื่อคุณฝึกไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ให้พยายามหลีกเลี่ยงการหยุดเว้นช่วงระหว่างที่คุณกำลังจะเปลี่ยนคอร์ดหรือโน้ตเพื่อที่คุณจะได้ปรับไทม์มิ่งของตัวเองให้ดีขึ้นได้
- ลองนับจังหวะสี่ตามไปด้วยเวลาที่คุณกำลังเล่น เพื่อช่วยรักษาจังหวะในการตีคอร์ดเอาไว้
- หากคุณมีปัญหาในการตีคอร์ดไม่ตรงจังหวะ ให้คุณลองใช้เมโทรนอมดู ซึ่งเมโทรนอมนั้นหมายถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีเสียงคลิกออกมาในจังหวะที่คงที่ เป็นตัวที่ช่วยนำทางให้คุณตีคอร์ดในจังหวะที่คงที่ได้ โดยคุณสามารถปรับความเร็วของจังหวะตามที่คุณรู้สึกสบายที่จะเล่นได้
- อย่าพยายามเล่นให้เร็วตั้งแต่ทีแรก เพราะนั่นจำยิ่งทำให้คุณสร้างข้อผิดพลาด ฉะนั้น ให้คุณเริ่มแบบช้าๆ ด้วยจังหวะที่คงที่ก่อน จากนั้นค่อยๆ ฝึกไป และเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฝึกจนคล่องแล้ว
-
เรียนรู้วิธีเล่นเพลงทั้งเพลง. เมื่อคุณฝึกคอร์ดพื้นฐานอย่างคอร์ด major และ minor ได้จนคล่องแล้ว ถึงตอนนั้นคุณก็คงสามารถที่จะเล่นได้แทบทุกเพลงที่เป็นเพลงสำหรับมือใหม่แล้ว เพียงแค่ตีคอร์ดให้เป็นจังหวะและวางนิ้วให้ถูกต้อง คุณก็จะสามารถเล่นเพลงดังๆ ได้ภายในเวลาอันรวดเร็วเลยทีเดียว
- หนังสือเพลงอูคูเลเล่หลายเล่มมักจะมีเพลงที่ง่ายพอสำหรับมือใหม่ ดังนั้น ให้คุณไปซื้อหนังสือที่ร้านขายเครื่องดนตรีใกล้ๆ บ้านและลองเล่นดูซะเลย!
- หากคุณอยากจะเล่นเพลงโปรดของตัวเองบ้าง ให้คุณเสิร์ชหา tab อูคูเลเล่ของเพลงนั้นดู ซึ่ง tab นั้นจะเปรียบเสมือนดนตรีสำหรับอูคูเลเล่ ที่จะคอยบอกคอร์ดต่างๆ และตำแหน่งการวางนิ้วที่คุณต้องใช้เอาไว้
-
ฝึกฝนทุกวัน. สิ่งที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อที่จะพัฒนาทักษะการเล่นของตัวเองนั้นก็คือการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง คุณไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิดเพียงเพื่อที่จะเป็นนักเล่นอูคูเลเล่ที่เก่ง แค่คุณมีความมุ่งมั่นและความขยันนั่นก็เพียงพอแล้ว ซึ่งการใช้เวลาอย่างน้อย 20-30 นาทีต่อวันเพื่อฝึกนั้น จะช่วยทำให้คุณกลายเป็นนักดนตรีผู้เชี่ยวชาญในแบบที่คุณอยากจะเป็นมาตลอดได้เลยล่ะ!โฆษณา
เคล็ดลับ
- สายที่เพิ่งจะเปลี่ยนใหม่ที่ยังยืดไม่สุดนั้นมักจะเพี้ยนจากเดิมได้ง่าย และเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ ให้คุณลองขึงสายให้ตึงเยอะๆ ไว้สักคืนเพื่อทำให้สายยืดอย่างเต็มที่
- ให้คุณถามร้านขายเครื่องดนตรีใกล้บ้านว่าควรจะเล่นเพลงไหนดีและขอคำแนะนำเรื่องครูสอนที่น่าจะเหมาะกับคุณดู
- การที่คุณใช้บทเรียนแนะนำที่เป็นหนังสือหรือวิดีโอในการฝึกโดยที่ไม่ได้เรียนกับครูที่มีประสบการณ์นั้น อาจจะทำให้เกิดนิสัยการเล่นแบบผิดๆ จนยากจะแก้ไขก็เป็นได้ แม้ว่าจริงๆ คุณจะสามารถเล่นได้เองโดยที่ไม่ต้องเรียนกับครูก็ตาม แต่ถ้าหากมีคำแนะนำที่เหมาะสมจากผู้ที่มีประสบการณ์จริง นั่นก็อาจจะช่วยแก้ปัญหาในการเล่นหลายๆ อย่างให้กับคุณได้
โฆษณา
คำเตือน
- อูคูเลเล่ไม่เหมาะกับการใช้ปิ๊กกีตาร์เล่น เพราะว่ามันจะไปทำลายสายอูคูเลเล่ได้ ดังนั้น ให้คุณใช้แค่นิ้วหรือปิ๊กสักหลาดแทน
- ระวัง! อย่าให้อูคูเลเล่หล่น เพราะมันเป็นเครื่องดนตรีที่เปราะบางมาก ดังนั้น เวลาที่คุณจะเอาไปตามที่ต่างๆ ให้คุณใส่เคสเอาไว้ด้วย
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.ukuleletricks.com/ukulele-sizes-soprano-concert-tenor-baritone/
- ↑ http://ukuguides.com/guides/parts-of-the-ukulele-explained/
- ↑ http://www.ukeschool.com/ukulele/lessons/uke_tuner.html
- ↑ http://www.ukeschool.com/ukulele/lessons/how_to_hold.html
- ↑ http://idiotsguides.com/static/quickguides/musicperformingarts/music-theory-101-major-minor-diminished-and-augmented-chords.html
- ↑ http://www.ukuleletricks.com/11-must-know-ukulele-chords-for-beginners/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 37,745 ครั้ง
โฆษณา
