ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เรื่องที่เจ้าของสุนัขทุกคนต่างหวาดกลัวคือเมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วพบว่าสุนัขของตนเองท้องเสียและถ่ายมูลของมันไว้ทั่วพื้นบ้าน การกำจัดมูลสุนัขอย่างถูกต้องนั้นสำคัญ เพราะถ้าเรากำจัดคราบออกไม่หมด ก็จะเหลือคราบที่ไม่น่ามองและกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ติดบ้านแทน นอกจากนี้กลิ่นมูลที่ยังหลงเหลืออยู่อาจทำให้สุนัขกลับมาขับถ่ายซ้ำอีกในคราวหน้า ถ้าไม่อยากเจอปัญหาเหล่านี้ในภายหลัง เราต้องกำจัดและดับกลิ่นมูลให้เร็วและมีประสิทธิภาพ [1]

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

กำจัดมูลเหลวของสุนัขออกจากพื้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สวมถุงมือยางแบบใช้แล้วทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้มือเปื้อนมูลสุนัข อย่าลืมเปิดปากถุงพลาสติกและวางไว้ใกล้ๆ ตัวด้วย เราจะหยิบมูลขึ้นมาใส่ถุงพลาสติก การนำมูลสุนัขใส่ถุงพลาสติกก่อนนำไปทิ้งจะป้องกันไม่ให้มูลหยดเลอะพื้นระหว่างนำไปทิ้งถังขยะ
  2. เราต้องกำจัดมูลสุนัขออกให้หมดก่อนที่มูลนั้นจะแห้ง เพราะถ้ามูลแห้งแล้ว ก็จะกำจัดออกไปได้ยาก การใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์หรือผ้าขนหนูเก่าๆ เช็ดมูลเหลวเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะเราสามารถนำไปทิ้งได้เลยหลังจากเช็ดมูลเหลวออกหมดแล้ว
  3. เราต้องฆ่าเชื้อโรคพื้นบริเวณนั้นและทำให้สุนัขไม่คิดว่าพื้นบริเวณนั้นเป็นที่ขับถ่ายของมัน ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับพื้นผิวบริเวณนั้น เราต้องทำให้พื้นบริเวณนั้นสะอาดหมดจด จากนั้นจึงใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นจากสัตว์เลี้ยง สุนัขจะได้ไม่กลับมาขับถ่ายลงพื้นบริเวณนั้นอีก [2]
    • ผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นจากสัตว์เลี้ยงมีขายตามร้านจำหน่ายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง แต่เราต้องแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้นั้นเหมาะกับพื้นผิวบริเวณนั้นจริงๆ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

กำจัดมูลเหลวของสุนัขออกจากพรม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใส่ถุงมือยางแบบใช้แล้วทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้มือสัมผัสกับมูลสุนัขโดยตรง เตรียมถุงพลาสติกวางไว้ใกล้ๆ ตัว เราจะได้นำมูลสุนัขใส่ในถุงพลาสติกนั้น การทำแบบนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้มูลสุนัขหยดเปรอะเปื้อนบริเวณอื่นภายในบ้านขณะนำไปทิ้ง
  2. กำจัดมูลสุนัขออกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้. เราต้องรีบกำจัดมูลสุนัขก่อนที่มูลจะแห้ง กำจัดมูลสุนัขด้วยการใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์หรือผ้าขนหนูเก่าๆ เช็ด เพราะเราจะสามารถนำไปทิ้งได้ทันทีหลังจากจัดการมูลสุนัขเรียบร้อยแล้ว
  3. เอามูลสุนัขออกจากพรมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้. ถ้ามูลสุนัขติดอยู่บนพรม ใช้มีดปาดเนยหรือที่ตักเค้กแซะมูลสุนัขให้หลุดออกจากพรม และนำมูลสุนัขนั้นใส่ถุงพลาสติกก่อนนำไปทิ้ง
    • เราควรจะเอามูลสุนัขออกจากพรมก่อนที่จะใช้น้ำยาทำความสะอาดพรม
  4. ซับและล้างพรมบริเวณนั้นจนกระทั่งไม่เห็นคราบมูลสุนัขอีกแล้ว. พอเอามูลก้อนออกไปหมดแล้ว ใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์หรือกระดาษที่คล้ายกันนี้กดพรมบริเวณนั้นเบาๆ เพื่อซับน้ำออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อย่ากดแรงเกินไป เพราะอาจทำให้คราบฝังเข้าไปในพรมลึกขึ้น
    • จากนั้นฉีดน้ำเย็นไปที่พรมบริเวณนั้นและซับอีกครั้ง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะจัดการคราบมูลได้หมด เราต้องไม่ทำให้พรมบริเวณนั้นเปียกโชก เพราะหากทำให้พรมบริเวณนั้นเปียกโชก ก็จะยิ่งทำให้คราบฝังลึกลงไปในพรมมากขึ้น
    • พยายามอย่าถูพรม เพราะการถูพรมอาจสร้างความเสียหายแก่เส้นใย จึงทำให้เนื้อและรูปลักษณ์ของพรมเปลี่ยนแปลงไป
  5. ถ้ามีเครื่องซักพรม ให้ใช้เครื่องซักพรมทำความสะอาดพรมบริเวณนั้น เครื่องซักพรมจะฉีดพ่นแชมพูซักพรมในบริเวณนั้นจนเปียกชุ่มและดูดแชมพูกลับเข้ามาอีกครั้ง เราจะต้องใช้เวลามากในการดูดแชมพูกลับเข้ามา เพราะเราจะได้ใช้โอกาสนี้ดูดน้ำออกจากพรมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    • ทำขั้นตอนนี้ซ้ำหลายครั้งเพื่อให้พรมสะอาดหมดจด
    • ถ้าเราไม่มีเครื่องซักพรม เราต้องหาเช่าเครื่องซักพรมหรือจ้างบริษัทที่รับทำความสะอาดพรม แต่มูลเหลวอาจก่อให้เกิดคราบหรือทิ้งคราบไว้ได้ ฉะนั้นถ้าเราไม่สามารถหาเช่าเครื่องซักพรมหรือแจ้งให้บริษัทมาทำความสะอาดพรมภายในระยะเวลาอันรวดเร็วได้ (ก่อนที่มูลจะแห้งสนิท) เราต้องทำความสะอาดพรมด้วยวิธีอื่นแทน
  6. [3] มูลสุนัขมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ น้ำยาซักพรมสูตรชีวภาพสามารถสลายโปรตีนได้ เพราะน้ำยาชนิดนี้มีส่วนประกอบของเอนไซม์
    • ฉีดน้ำยานี้ที่พรมบริเวณนั้นและจากนั้นจึงซับน้ำยาออก
    • วิธีล้างน้ำยาซักพรมออกคือฉีดน้ำสะอาดไปที่พรมและซับน้ำออกเหมือนกับที่ซับน้ำยาซักพรม
    • วิธีนี้มีประโยชน์ตรงที่จะช่วยกำจัดกลิ่น ถึงแม้พรมถูกทำรอยไปแล้ว แต่ก็ลดโอกาสที่สุนัขจะกลับมาขับถ่ายซ้ำ
    • ทดสอบน้ำยาซักพรมก่อนใช้จริง ทดสอบความคงทนของสีพรมในจุดซึ่งไม่เป็นที่สังเกตเห็น ถ้าใช้น้ำยาแล้วสีเปลี่ยนไป ผู้คนจะได้ไม่สังเกตเห็น [4]
  7. นำผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือนมาทำน้ำยาทำความสะอาดพรม ถ้าเราไม่ได้ซื้อไว้. โรยผงฟูลงบนพรม จากนั้นล้างด้วยน้ำ จะใช้น้ำส้มสายชูเจือจางทำความสะอาดพรมก็ได้ [5] เราจะทำน้ำยาทำความสะอาดพรมด้วยการนำน้ำส้มสายชูขาวมาผสมกับน้ำในอัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง นำน้ำส้มสายชูประมาณ 500 มิลลิลิตรมาผสมกับน้ำ 500 มิลลิลิตรและฉีดพรมบริเวณนั้นให้ชุ่มจากนั้นซับน้ำยาออก ทำซ้ำหลายครั้งจนกว่าจะสะอาด
    • สูตรน้ำยาทำความสะอาดพรมที่จะแนะนำต่อไปนี้เป็นสูตรที่สามารถดับกลิ่นได้ดี เราต้องนำไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 500 มิลลิลิตร ผสมกับน้ำยาล้างจาน 1 ข้อนชา และผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ ฉีดน้ำยานี้ใส่คราบและทิ้งไว้สัก 5 นาที ใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์ซับน้ำยาออก จากนั้นใช้น้ำล้างพรมบริเวณนั้นและซับน้ำด้วยวัสดุที่สามารถดูดซับน้ำได้
    • ในขั้นตอนสุดท้ายโรยผงฟูไว้ที่พรมบริเวณนั้นและปล่อยทิ้งไว้สักหนึ่งชั่วโมงหรือนานกว่านั้นก็ได้ การโรยผงฟูทิ้งไว้จะดับกลิ่นที่ยังหลงเหลืออยู่ ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดผงฟูออกเมื่อถึงระยะเวลาที่กำหนดแล้ว
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,017 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา