ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ท้องเสียเป็นปัญหาที่พบได้ทั่วไปในสุนัขเพื่อนยากของเรา อาการท้องเสียในหลายกรณีเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรงและสามารถรักษาได้ด้วยการรักษาอาการเองที่บ้านอย่างถูกต้อง การรักษาที่ถูกวิธีช่วยให้อาการท้องเสียทั่วไปที่ไม่ซับซ้อนสามารถทุเลาลงได้โดยไม่ต้องพาไปคลินิกรักษาสัตว์ แต่บางครั้งอาการท้องเสียก็อาจจะร้ายแรงจนถึงขั้นต้องพาไปหาสัตว์แพทย์ก็ได้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

รักษาอาการท้องเสียในสุนัขด้วยอาหาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาหารที่อยู่ในลำไส้ทำให้ผนังลำไส้หดตัวเพื่อดันอาหารออกมา แต่ถ้าสุนัขท้องเสีย ลำไส้ก็จะยิ่งหดตัวมากเกินไปและดันอาหารออกมาเร็วเกินไปในรูปแบบของอาการท้องเสีย คำตอบของปัญหานี้ก็คือการงดอาหารเป็นเวลา 12–24 ชั่วโมงเพื่อให้ผนังลำไส้ที่ไวต่อการกระตุ้นมากเกินไปหดตัวช้าลงและทำงานได้เป็นปกติ
  2. [1] ระหว่างงดอาหารให้สุนัขดื่มน้ำสะอาดสดชื่น คอยดูชามน้ำว่ามันลดลงบ้างหรือเปล่า (เพื่อให้แน่ใจว่าสุนัขดื่มน้ำ) ถ้ามันดื่มน้ำเยอะ ความเสี่ยงที่จะขาดน้ำก็จะลดลงมาก
  3. หลังช่วงงดอาหารให้สุนัขรับประทานอาหารอ่อนๆ. หลังจากงดอาหารแล้ว อย่าเพิ่งให้สุนัขกลับไปกินอาหารตามปกติเลย แต่ให้อาหารอ่อนๆ ที่ดีต่อท้องและย่อยง่ายก่อน
    • อาหารอ่อนๆ ที่ดีไม่ควรเป็นอาหารที่มีไขมันเยอะและเนื้อแดงเยอะ
    • ให้สุนัขกินไก่ที่เป็นเนื้อไก่จริงๆ ไม่ใช่อาหารสุนัขรสไก่ อย่าให้สุนัขกินหนังไก่ ให้กินแต่เนื้ออย่างเดียว
    • คลุกไก่กับข้าวขาวต้ม
    • เลี่ยงนมและผลิตภัณฑ์นม เพราะสุนัขหลายตัวมีภาวะไม่ทนต่อแล็กโตสซึ่งอาจทำให้ท้องเสีย
    • อาหารอ่อนๆ จะทำให้สุนัขอึน้อย (และมีสีอ่อน) เพราะฉะนั้นอย่าคาดหวังว่าอึของสุนัขจะดูเหมือนอึตามปกติ สิ่งที่คุณต้องคอยดูคือดูว่าอึแข็งพอที่จะเก็บได้ไหม เพราะเป็นสัญญาณที่บอกว่ามันอาการดีขึ้นแล้ว
  4. ปรึกษาสัตวแพทย์เรื่องอาหารประกอบการรักษาโรค. ถ้าคุณรู้ว่าสุนัขตอบสนองต่ออาหารอ่อนๆ ที่ทำเองที่บ้านได้ไม่ดีนัก ปรึกษาสัตวแพทย์เรื่องอาหารประกอบการรักษาโรคที่บรรเทาอาการท้องไส้ปั่นป่วน อาหารเช่น Hills ID และ Purina EN ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำให้สุนัขฟื้นตัวจากอาการท้องเสียได้เร็วขึ้น
  5. [2] มื้ออาหารเล็กๆ จะกระตุ้นลำไส้ให้หดเกร็งน้อยลง หลังจากที่งดอาหารสุนัขแล้ว ให้อาหารปริมาณเท่าเดิมกับที่มันเคยกินเป็นปกติ แต่ให้แบ่งออกเป็นมื้อเล็กๆ 4 มื้อและให้กินตลอดทั้งวัน วิธีนี้ป้องกันไม่ให้กลับมาท้องเสียอีก
  6. เมื่ออาการท้องเสียหายไปแล้วอย่างปลอดภัย คุณก็สามารถเริ่มให้สุนัขกลับไปกินอาหารตามปกติได้ อย่าให้มันกลับไปกินอาหารตามเดิมทันที เพราะลำไส้ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว ให้อาหารอ่อนๆ ก่อนสัก 2 วันเพื่อให้แน่ใจว่าหายท้องเสียแล้ว จากนั้นใช้เวลาอีก 2 วันในการค่อยๆ ให้มันกลับมากินอาหารตามปกติด้วยวิธีการต่อไปนี้ :
    • ผสมอาหารอ่อนๆ ⅔ ส่วนกับอาหารปกติ ⅓ ส่วน
    • วันต่อมาให้เปลี่ยนมาให้อาหารอ่อนๆ ⅓ ส่วนและอาหารปกติ ⅔ ส่วน
    • ในวันที่ 3 ให้กลับมาให้อาหารตามปกติได้
  7. สารเสริมชีวนะคือแบคทีเรียที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารที่ทำให้ฟื้นตัวจากอาการท้องเสียได้เร็วขึ้น แบคทีเรียที่มีประโยชน์อาจเสียไปในช่วงที่สุนัขอึออกมามากช่วงท้องเสีย เพราะฉะนั้นมันจึงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะสร้างประชากรของแบคทีเรียขึ้นมาได้ใหม่และกว่าระบบย่อยอาหารจะทำงานได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง อาหารเสริมชีวนะช่วยกระตุ้นประชากรของแบคทีเรีย โดยทั่วไปจะผสมสารเสริมชีวนะในอาหารสุนัขวันละครั้งเป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์
    • แบคทีเรียธรรมชาติที่อยู่ในลำไส้สุนัขนั้นไม่เหมือนของคน เพราะฉะนั้นอย่าให้สุนัขกินสารเสริมชีวนะของคน
    • สารเสริมชีวนะสำหรับสุนัขชนิดต่างๆ สามารถหาซื้อได้ทั่วไปที่คลินิกสัตวแพทย์และร้านขายของสัตว์เลี้ยงใหญ่ๆ โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา
  8. อาการท้องเสียนิดหน่อยควรรักษาให้หายได้ด้วยวิธีการข้างต้น การให้สุนัขกินยาที่ลดการขับถ่ายอาจซ่อนปัญหาร้ายแรงเอาไว้จนสายเกินแก้ ถ้าอาการเดิมรักษาด้วยวิธีข้างต้นแล้วไม่หายภายใน 2-3 วัน เป็นไปได้ว่าสุนัขของคุณอาจมีปัญหาที่ต้องให้สัตวแพทย์เป็นผู้รักษา [3]
    โฆษณา


ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ตัดสินใจว่าต้องพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์หรือไม่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อาการท้องเสียตามปกติจะเกิดขึ้นเมื่อสุนัขกินอะไรที่มันไม่ควรกินเข้าไป ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นหลังจากที่ร่างกายขับสิ่งที่กินเข้าไปหมดแล้ว
    • แต่ถ้าคุณพบว่าสุนัขกินของที่เป็นพิษเข้าไป เช่น ยาเบื่อหนูหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน ให้พาไปพบสัตวแพทย์ทันที
  2. วัด อุณหภูมิ . อาการท้องเสียทั่วไปมักไม่ค่อยมีไข้ร่วมด้วย ถ้าสุนัขของคุณมีไข้ เป็นไปได้ว่ามันอาจจะติดเชื้ออะไรบางอย่าง ในการวัดอุณหภูมิสุนัขนั้น ให้เพื่อนจับสุนัขไว้ด้วยการเอาแขนสอดไปใต้ท้องสุนัขและดึงขาหลังของมันไว้แนบอกของเขา/เธอ มืออีกข้างของเพื่อนควรจับใต้คางสุนัขไว้แน่นๆ ค่อยๆ จับมันไว้และพูดน้ำเสียงอ่อนโยนกับมันถ้ามันเริ่มจะขัดขืน สวมตะกร้อครอบปากถ้าคุณกังวลว่ามันจะกัดระหว่างวัดอุณหภูมิ
    • ทำให้เทอร์โมมิเตอร์ลื่นก่อน จากนั้นยกหางขึ้น ค่อยๆ สอดเทอร์โมมิเตอร์เข้าไปในก้นของสุนัข ถ้าเป็นสุนัขตัวเมียระวังอย่าสอดเข้าไปในช่องคลอดที่อยู่ใต้ก้น
    • อย่าพยายามยัดเทอร์โมมิเตอร์เข้าไปเพราะอาจทำให้สุนัขบาดเจ็บได้
    • รอจนกว่าเทอร์โมมิเตอร์จะมีเสียงตี๊ดที่บอกให้คุณรู้ว่าวัดค่าเสร็จแล้ว
    • อุณหภูมิปกติจะอยู่ที่ 38 – 39 องศาเซลเซียส
    • อุณหภูมิตั้งแต่ 40 องศาเซลเซียสขึ้นไปถือว่ามีไข้ [4]
  3. [5] การอาเจียนและท้องเสียพร้อมกันถือเป็นอันตรายต่อสุนัขเพราะมันสูญเสียน้ำทั้งทางปากและทางก้น ทำให้เสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ และยิ่งน่าเป็นห่วงมากกว่าเดิมถ้าสุนัขไม่สามารถดื่มน้ำและถ่ายออกมาเป็นน้ำตลอด ในกรณีนี้ให้พาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน
  4. [6] ท้องเสียโดยพื้นฐานก็คือการที่อึประกอบด้วยของเหลวในปริมาณมาก ถ้าสุนัขถ่ายเป็นน้ำมากๆ จากการท้องเสียและไม่ได้รับน้ำกลับเข้าไปทดแทน ก็จะทำให้เกิดภาวะขาดน้ำได้ ภาวะขาดน้ำทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ เช่น ตับหรือไตน้อยลง ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้
    • ในการทดสอบภาวะขาดน้ำ ให้ยกต้นคอของสุนัขออกจากสะบักแล้วปล่อย
    • ผิวหนังที่มีน้ำอยู่เต็มจะเด้งกลับคืนที่เดิมทันที
    • ผิวหนังของสุนัขที่ขาดน้ำจะยืดหยุ่นน้อยกว่า และอาจใช้เวลาถึง 2 – 3 วินาทีหรือมากกว่าในการเด้งกลับคืนที่เดิม
  5. [7] ถ้าคุณพบว่ามีเลือดปนมากับอาการท้องเสีย ก็อาจมีสาเหตุมาจากการอักเสบหรือการตกเลือด แม้ว่าการอักเสบจะทำให้ไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว แต่การตกเลือดนั้นอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต คุณไม่สามารถแยกความแตกต่างได้เองที่บ้าน เพราะฉะนั้นอย่าเสี่ยงดีกว่า พาไปพบสัตวแพทย์ทันทีที่คุณพบเลือดในอึสุนัข
  6. เฝ้าระวังว่าสุนัขดูอ่อนเพลีย เซื่องซึม หรืออาการทรุดหนักหรือไม่. [8] สุนัขที่ท้องเสียนิดหน่อยจะสดใสและกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ถ้าสุนัขแววตาเป็นประกายและกระฉับกระเฉงแต่ท้องเสีย ให้เฝ้าดูอาการอย่างระมัดระวังว่ามีสัญญาณข้างต้นเกิดขึ้นหรือไม่ คุณสามารถลองควบคุมปัญหาด้วยตัวเองก่อนได้
    • แต่ถ้าสุนัขของคุณไม่มีแรง เซื่องซึม และไม่สามารถทรงตัวได้หรือที่แย่กว่านั้นคือทรุดตัวลง ให้ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เวลาไปพบสัตวแพทย์ ให้นำตัวอย่างอึใหม่ๆ ไปด้วยและให้สัตวแพทย์ตรวจการลอยตัวของอุจจาระและทำการละเลงตรวจ
  • สุนัขบางตัวตอบสนองต่ออาหารสุนัขแบบกระป๋องได้ไม่ดีนัก ลองให้อาหารแห้งแบบพรีเมียมหรือผสมอาหารกระป๋องกับอาหารแห้ง
โฆษณา

คำเตือน

  • มูกที่มากับอาการท้องเสียบ่งบอกว่าลำไส้เกิดการระคายเคือง ปรสิต หัวใจหมูดิบ และการเจ็บป่วยอื่นๆ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อึมีเมือก
  • อย่าให้สุนัขกินอาหารใหม่ที่มันไม่เคยกินมาก่อนขณะที่คุณกำลังรักษาอาการท้องเสีย
  • ถ้าคุณจะเปลี่ยนอาหารสุนัข ให้เปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่อย่างนั้นสุนัขอาจจะป่วยหรือท้องเสียมากกว่าเดิม
  • ลูกสุนัขที่ท้องเสียออกมามีสีเขียวปนอาจบ่งบอกว่าเป็นโรคค็อกซิดิโอซิส ให้พาไปพบสัตวแพทย์ทันที
  • ลูกสุนัขที่ท้องเสียเป็นน้ำอาจเสียชีวิตได้ถ้าไม่ได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์ทันที
โฆษณา

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Textbook of Veterinary Internal Medicine. Ettinger. Publisher: Saunders
  2. Textbook of Veterinary Internal Medicine. Ettinger. Publisher: Saunders
  3. Textbook of Veterinary Internal Medicine. Ettinger. Publisher: Saunders
  4. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby
  5. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby
  6. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby
  7. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby
  8. Small Animal Internal Medicine. Nelson & Couto. Publisher: Mosby

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 197,157 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา