ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ไม้กระถางนอกจากปลูกเอาสวยงามแล้ว ยังช่วยฟอกอากาศในบ้านให้บริสุทธิ์อีกด้วย แต่ข้อเสียคือบางครั้งราก็ขึ้นไม้กระถางที่อุตส่าห์ปลูกไว้ซะดิบดี จนกลายเป็นมลพิษทางอากาศซะงั้น เชื้อราขึ้นไม้กระถางได้เพราะหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ดูแลไม่ดีพอ รดน้ำมากเกินไป หรือไม่ค่อยถูกแดด ไม่ว่าราจะขึ้นที่ใบหรือที่ดินในกระถาง ก็อันตรายต่อทั้งไม้กระถางและสมาชิกครอบครัวในบ้านด้วยกันทั้งนั้น บทความวิกิฮาวนี้เลยจะมาแนะนำวิธีการกำจัดเชื้อราในไม้กระถางให้คุณเอง
ขั้นตอน
-
ตักราออกไป. ถ้าสังเกตเห็นราขึ้นที่ดิน แสดงว่าเป็นแค่เฉพาะผิวดิน แบบนี้ใช้ช้อนตักดินส่วนที่ขึ้นราทิ้งไปได้เลย ปกติราที่เห็นในดินจะเป็นแบบ saprophyte คือไม่อันตรายต่อคุณและครอบครัว แต่ถ้าทิ้งไว้นานๆ ระวังต้นไม้จะรากเน่าได้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าราขึ้นเยอะเป็นพิเศษ แสดงว่าลามไปถึงกระถางแล้ว ให้รีบย้ายกระถาง โดยใช้ดินปลูกไม้กระถางคุณภาพดีๆ
-
ตากดินให้แห้ง. พอตักเชื้อราออกไปหรือย้ายกระถางแล้ว ต้องตากดินให้แห้งก่อนกลับมารดน้ำ ถ้าปกติไม้กระถางชอบดินชุ่มน้ำ ให้รอจนผิวดินแห้งซะก่อน แต่ถ้าชอบดินปกติ ให้รอจนดินแห้ง 2 - 3 นิ้วลงไป ทุกครั้งก่อนรดน้ำต้องทำขั้นตอนนี้เสมอ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ป้องกันเชื้อราด้วยวัสดุธรรมชาติ. สปอร์ของเชื้อรามักกระจายตามดิน ถ้าไม่ทำขั้นตอนนี้ก็เสี่ยงกลับมาเป็นอีก ให้โรยผงซินนามอน (อบเชย) เบคกิ้งโซดา หรือน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ลที่ผิวดิน เพราะช่วยป้องกันเชื้อราได้ตามธรรมชาติ นอกจากเชื้อราไม่โตแล้วยังไม่ทำร้ายไม้กระถางด้วย [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดินต้องสะอาด. เก็บใบไม้และส่วนต่างๆ ที่ร่วงจากไม้กระถางลงไปในดินออกให้หมด เพราะจะเน่าเสียได้ง่ายจนเกิดเชื้อรา อย่าลืมเล็มใบตามสมควรด้วย [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ระบุประเภทเชื้อรา. ก่อนจะลงมือ ให้สำรวจว่าเชื้อรานั้นอยู่ในระยะลุกลาม (active) หรือระยะแฝง (dormant) ถ้าเป็นอย่างหลัง จะมีสีอ่อนและเป็นผงๆ เหมือนแป้ง แต่ถ้าดูนุ่มฟู แสดงว่าอยู่ในระยะลุกลาม [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
เอาต้นไม้ไปไว้นอกบ้าน. พอสำรวจจนรู้แน่แล้วว่าราขึ้นต้นไม้ ให้รีบเอาออกไปนอกบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราแพร่กระจายถ้าอยู่ในระยะลุกลาม เวลาอยู่ข้างนอก ให้เลือกมุมที่อยู่ห่างจากต้นไม้หรือพืชสวนอื่นๆ เพราะถ้าไปกำจัดเชื้อราแถวนั้น ก็เสี่ยงติดได้
-
เอาทิชชู่ชุบน้ำ. ให้ทิชชู่เปียกหมาด แล้วใช้เช็ดราออกจากใบ ทุกครั้งที่เช็ดเสร็จให้เปลี่ยนมุมใหม่ พอไม่เหลือส่วนที่สะอาดแล้ว ให้เปลี่ยนแผ่นได้เลย ไม่งั้นจะกลายเป็นเช็ดรากระจายไปทั่ว ขั้นตอนนี้จะช่วยกำจัดเชื้อราระยะแฝงได้เกือบหมด [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตัดใบที่ขึ้นรา. ถ้าเช็ดใบด้วยทิชชู่เปียกหมาดแล้วยังมีราหลงเหลือ แสดงว่าเป็นราแบบลุกลาม ให้สำรวจว่าใบไหนที่ขึ้นรา ก็ใช้มีดตัดทิ้งได้เลย [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ฉีดสเปรย์แล้วย้ายที่. พอกำจัดราหมดแล้ว ให้ฉีดสเปรย์ป้องกันและฆ่าเชื้อรา (fungicide) ที่หาซื้อได้ตามร้านเคมีภัณฑ์หรืออุปกรณ์ทำสวน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราย้อนกลับมาอีก ให้ฉีดสเปรย์นอกบ้าน แล้วค่อยย้ายไม้กระถางกลับเข้าบ้าน โดยจัดวางในมุมที่สว่าง แล้วคอยติดตามผลจนแน่ใจว่าราไม่ขึ้นซ้ำ ถ้ามาอีกก็ทำตามขั้นตอนเดิมได้เลย [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ไม้กระถางควรอยู่ในอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส
- ดินต้องแห้งกว่าปกติถึงจะปลอดภัย
- ไม้กระถางต้องอยู่ในห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก
โฆษณา
-
เลือกดินให้ถูก. เริ่มจากดินที่ฆ่าเชื้อแล้วเพื่อป้องกันเชื้อรา เวลาเอาต้นไม้ใหม่เข้าบ้าน ให้ย้ายจากดินเก่าที่ติดมาไปใส่ในกระถางและดินใหม่ เพราะดินเก่าอาจจะมีเชื้อราได้ ให้ค่อยๆ ย้ายต้นไม้มาใส่ในกระถางที่มีดินใหม่ที่ฆ่าเชื้อแล้ว [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
สภาพแวดล้อมต้องเหมาะสม. เพิ่มแสงและลมให้ไม้กระถาง ยิ่งสว่างก็ยิ่งป้องกันเชื้อรา เพราะงั้นพยายามตั้งไว้ในมุมที่แสงส่องถึง และแน่นอนว่าโอกาสขึ้นราคงมีน้อยถ้าอากาศบริเวณนั้นไหลเวียนดี ให้ใช้พัดลมตั้งพื้นเล็กๆ เปิดเบอร์ต่ำๆ เป่าไว้ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รดน้ำเมื่อจำเป็น. ถ้ารดน้ำเยอะไป ไม้กระถางจะขึ้นราได้ เพราะงั้นต้องหมั่นสำรวจ ให้แน่ใจว่าผิวดินแห้งแล้วค่อยรดน้ำ บางทีก็นานกว่าจะแห้งสนิทดี แนะนำให้เอามือจับดู อย่าไปเคร่งว่าต้องรดน้ำตามเวลาเป๊ะๆ [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รักษาความสะอาด. คอยเก็บใบไม้และเศษผงต่างๆ ที่ร่วงออกจากหน้าดิน เพราะถ้าเน่าจะราขึ้นได้ทั้งที่ดินและต้นไม้ ส่วนไหนของต้นไม้แห้งตายอย่าลืมเล็มออกเรื่อยๆ ที่สำคัญคือรักษาความสะอาด โดยเช็ดใบเพื่อกำจัดฝุ่นผงและสิ่งสกปรกตกค้างโฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ทิชชู่
- น้ำเปล่า
- อบเชย (ซินนามอน)
- สเปรย์ป้องกันเชื้อรา
- ดินปลูกต้นไม้ใหม่ที่ฆ่าเชื้อแล้ว
- สเปรย์ฆ่าเชื้อรา
เคล็ดลับ
- ให้ใส่หน้ากากกันฝุ่นด้วยตอนกำจัดเชื้อราที่ต้นไม้ จะได้ไม่หายใจเอาเชื้อราหรือสเปรย์ป้องกันกำจัดเชื้อราเข้าไป
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://homeguides.sfgate.com/rid-mold-plant-soil-49070.html
- ↑ http://homeguides.sfgate.com/rid-mold-plant-soil-49070.html
- ↑ http://www.livingforestfarm.com/treating-plants-natural-organic-remedies/# .Vg1g8XpViko
- ↑ http://homeguides.sfgate.com/rid-mold-plant-soil-49070.html
- ↑ http://www.gardenguides.com/68449-kill-mold-house-plants.html
- ↑ http://www.gardenguides.com/68449-kill-mold-house-plants.html
- ↑ http://www.gardenguides.com/68449-kill-mold-house-plants.html
- ↑ http://www.gardenguides.com/68449-kill-mold-house-plants.html
- ↑ http://www.gardeningknowhow.com/houseplants/hpgen/preventing-mold-in-the-soil-of-a-houseplant.htm
โฆษณา