ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หากคุณทำน้ำมันหกเลอะบนเสื้อผ้า พรม หรือเบาะ คุณอาจคิดไปว่าของพวกนั้นคงใช้งานต่อไม่ได้แล้วล่ะ โชคดีที่แค่ใช้ของที่มีอยู่ภายในบ้านก็สามารถกำจัดคราบมันออกไปได้ง่ายๆ ไม่ว่าเนื้อผ้าจะสัมผัสกับน้ำมันเครื่อง น้ำมันปรุงอาหาร เนย น้ำสลัด มายองเนส ปิโตรเลียมเจลลี่ เครื่องสำอาง โรลออนกำจัดกลิ่นกาย หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากน้ำมันอย่างอื่นๆ และไม่ว่าคราบนั้นจะเพิ่งเกิดหรือฝังลึก ผ้าก็จะกลับมาสะอาดในพริบตาแน่นอน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ซักผ้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ซับน้ำมันออกจากของชิ้นนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้. ทันทีที่เกิดคราบเลอะ ให้ใช้กระดาษทิชชู่ซับน้ำมันออกจากผ้าให้มากที่สุด อย่าถูหรือขยี้ผ้าเพราะจะยิ่งทำให้น้ำมันเลอะกินวงกว้างขึ้น [1]
  2. ก่อนจะทำการขจัดคราบ อ่านป้ายบนของชิ้นนั้นก่อน ถ้ามันต้องซักแห้งอย่างเดียว ให้นำไปร้านซักแห้งให้เร็วที่สุด นอกเหนือจากนั้นแล้ว ดูว่ามันสามารถซักแบบปกติหรือจำต้องซักมือและเวลาตากต้องวางราบหรือแขวนกับราวได้ โปรดสังเกตอุณหภูมิด้วยแล้วปรับวิธีการขจัดคราบตามความเหมาะสม [2]
    • ตัวอย่าง ถ้ามันบอกให้ซักในน้ำเย็นเท่านั้น ให้ใช้น้ำเย็นแทนที่น้ำร้อนในขั้นตอนต่อจากนี้
  3. คุณสามารถใช้แป้งเด็ก เบกกิ้งโซดา แป้งฝุ่น แป้งข้าวโพด หรือสบู่แบบไม่ต้องใช้น้ำ เพื่อกำจัดน้ำมันออกจากเนื้อผ้า โรยแป้งลงบนน้ำมันแล้วทิ้งไว้สัก 30 นาทีให้มันซึมซับน้ำมันเท่าที่จะทำได้ จากนั้นใช้ช้อนขูดน้ำมันกับแป้งออกจากเนื้อผ้า [3]
    • อีกทางเลือกคือคุณสามารถป่นชอล์กขาวลงบนคราบให้ดูดซับน้ำมันได้
  4. ใช้น้ำร้อนราดให้เปียก แล้วเหยาะน้ำยาล้างจานสองสามหยดลงบนคราบ ถูน้ำยาให้เข้าเนื้อด้วยแปรงสีฟัน แล้วล้างออกในน้ำร้อน [4]
    • น้ำยาล้างจานจะเป็นแบบใสหรือมีสีก็ได้ ขอแค่แน่ใจว่ามันไม่ได้ผสมมอยเจอไรเซอร์
    • ทางเลือกอื่นนอกจากน้ำยาล้างจานแล้ว ยังใช้แชมพู สบู่ซักผ้า หรือเจลว่านหางจระเข้ก็ได้
  5. ถ้าผ้านั้นซักเครื่องได้ คุณก็จับใส่เครื่องซักผ้าแล้วซักปกติได้เลย ทำตามขั้นตอนบนป้ายดูแลเพื่อดูว่ามันทนอุณหภูมิสูงสุดได้ที่เท่าไหร่ ถ้าผ้านั้นเป็นแบบบาง ให้ ซักมือ [5]
    • ถ้าผ้าบอบบาง ใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน
  6. ก่อนจะเอาผ้าใส่เครื่องอบ ตรวจดูก่อนว่าคราบหายไปแล้วหรือยัง คุณอาจจำเป็นต้องผึ่งมันให้แห้งเพื่อจะตรวจดูได้เวลาที่มันแห้ง หากคุณนำมันไปใส่ในเครื่องอบผ้าโดยที่คราบยังไม่หายไป ความร้อนจะทำให้มันยิ่งฝังลึกลงในเนื้อผ้า [6]
    • ให้แน่ใจว่าได้นำผ้าเนื้อบางเบามาผึ่งลมเสมอแทนที่จะเอาใส่เครื่องอบ
  7. ถ้าคุณทิ้งให้แห้งแล้วสังเกตเห็นว่ามันยังมีคราบ หรือคราบนั้นเริ่มฝังตัว คุณก็ยังกำจัดมันออกได้ ฉีดสเปรย์แต่งผมหรือ WD-40 ลงบนคราบ ทิ้งไว้ 20 นาทีแล้วนำไปซักตามปกติ [7]
    • ถึงแม้ว่า WD-40 จะเป็นน้ำมัน แต่มันทำงานโดย “ปลุกการทำงาน” ของคราบที่ฝังแน่น ช่วยให้คราบถูกขจัดได้ง่ายขึ้นตอนซัก
    • อย่าใช้ WD-40 กับผ้าเนื้อบางเบา
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ทำความสะอาดเบาะหรือพรม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ใช้ผ้าเช็ดตัวเก่าๆ หรือกระดาษทิชชู่ซับน้ำมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลีกเลี่ยงการถูผ้าเช็ดตัวกับเนื้อผ้าซึ่งจะยิ่งแผ่คราบกินวงกว้างขึ้น [8]
  2. ใช้เบกกิ้งโซดา แป้งฝุ่น หรือแป้งข้าวโพดมาซับน้ำมัน แค่โรยบนคราบแล้วทิ้งไว้ 15 นาที [9]
  3. ใช้ช้อนกวาดแป้งออกแล้วดูดฝุ่นตาม หากยังมองเห็นคราบน้ำมัน ให้เติมแป้งใหม่ลงบนบริเวณนั้นทิ้งไว้อีก 15 นาที แล้วกวาดพร้อมดูดฝุ่นแป้งออก [10]
  4. ผสมน้ำเย็น 2 ถ้วยตวง (500 มล.) กับสบู่ล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ (15 มล.) ในถ้วยหรือถัง จุ่มผ้าขี้ริ้วที่สะอาดลงในน้ำสบู่แล้วเอามาซับคราบ ซับไปจนกว่าคราบจะหาย [11]
    • อีกทางเลือกคือคุณสามารถใช้น้ำยาซักแห้งหรือ Lestoil แทนที่น้ำสบู่ ให้แน่ใจว่าได้ลองทดสอบตรงบริเวณที่มองไม่เด่นของเนื้อผ้าก่อน
  5. นำฟองน้ำสะอาดมาจุ่มน้ำเย็น กดมันลงไปบนบริเวณที่เปื้อนคราบเพื่อขจัดสบู่ สารทำละลาย หรือ Lestoil และน้ำมันอื่นๆ ที่เหลือออก [12]
  6. เช็ดของเหลวส่วนเกินออกแล้วทิ้งผึ่งลมให้แห้ง. ซับบริเวณที่เปียกด้วยผ้าสะอาดให้ของเหลวส่วนเกินออกให้มากที่สุด แล้วผึ่งไว้ให้แห้ง [13]
    โฆษณา

Things You’ll Need

ซักผ้า

  • กระดาษทิชชู่
  • แป้งเด็ก เบกกิ้งโซดา แป้งฝุ่น แป้งข้าวโพด หรือสบู่แบบไม่ใช้น้ำ
  • ช้อน
  • สบู่ล้างจาน แชมพู สบู่ซักผ้า หรือเจลว่านหางจระเข้
  • แปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้ว
  • ผงซักฟอก
  • WD-40 หรือสเปรย์แต่งผม

ทำความสะอาดเบาะหรือพรม

  • ผ้าเช็ดตัวเก่าหรือกระดาษทิชชู่
  • แป้งข้าวโพด เบกกิ้งโซดา แป้งฝุ่น หรือแป้งเด็ก
  • ช้อนหรือเครื่องดูดฝุ่น
  • สบู่และน้ำ น้ำยาซักแห้ง หรือ Lestoil
  • ผ้าขี้ริ้วสะอาด
  • ฟองน้ำ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,196 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา