ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ถ้าอยากรักษาหน้าตาและสภาพของรอยสักเอาไว้ คุณจะต้องดูแลรอยสักอย่างถูกวิธีในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังไปสักมา รอยสักใหม่นั้นถือเป็นแผลเปิด (เนื่องจากวิธีลงหมึกไปบนผิว) และคุณจะต้องปล่อยให้มันหายดี หากดูแลรอยสักอย่างไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดแผลเป็นหรือสีจางไป การดูแลรอยสักหลังสักแล้วนั้นมีหลายขั้นตอน ขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญคือการเรียนรู้วิธีอาบน้ำกับรอยสักใหม่ การอาบน้ำอย่างถูกวิธีจะช่วยให้รอยสักหายเร็วขึ้นและรักษาหน้าตาของมันเอาไว้
ขั้นตอน
ดาวน์โหลดบทความ
-
เอาผ้าปิดแผลที่ช่างสักแปะไว้ออก. เมื่อสักเสร็จแล้ว ช่างสักมักจะทำความสะอาดบริเวณที่สักด้วยสบู่อ่อนๆ ทายาฆ่าเชื้อ และเอาผ้าปิดแผลมาแปะไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ผ้าปิดแผลนี้อาจเป็นผ้ากอซ ผ้าพันแผลแบบที่แพทย์ใช้ หรือแม้แต่พลาสติกห่ออาหารก็ได้ ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยสัก
- คุณควรเอาผ้าพันแผลออกหลังเวลาผ่านไป 4-6 ชั่วโมง เพื่อให้ผิวหนังได้ระบายอากาศ ซึ่งจำเป็นมากต่อการที่รอยสักจะหาย ถ้าคุณอาบน้ำโดยที่ยังแปะผ้าพันแผลไว้อยู่ ผ้าอาจดูดซึมน้ำ ทำให้มีน้ำอยู่ติดกับรอยสักมากเกินไป
-
ใช้สบู่อ่อนๆ และน้ำทำความสะอาดรอยสัก. เมื่อเอาผ้าพันแผลออกแล้ว รอยสักของคุณน่าจะมีคราบกาว ยาฆ่าเชื้อ และคราบเลือดติดอยู่ ให้ล้างสิ่งเหล่านี้ออกก่อนอาบน้ำ
- ใช้สบู่อ่อนมากๆ (อย่างเช่นสบู่เหลวล้างมือ) และน้ำเพื่อทำความสะอาดรอยสัก ให้ใช้นิ้วค่อยๆ ถูสบู่ลงบนผิว อย่าใช้ผ้า อย่าขัดแรง ไม่อย่างนั้นผิวหนังอาจจะถลอกและเกิดแผลเป็นได้ เมื่อเสร็จแล้วให้ใช้ผ้าซับเบาๆ บริเวณรอยสักให้แห้ง
-
อาบน้ำกับรอยสักใหม่. หลังจากไปสักมา คุณควรรออย่างน้อย 48 ชั่วโมงก่อนอาบน้ำเพื่อให้เวลาผิวบริเวณรอยสักสร้างเกราะป้องกันตัวเอง แต่บางทีก็อาจจะรอไม่ไหว ในประมาณช่วงสัปดาห์แรก (โดยเฉพาะในช่วงวันแรกๆ) หลังไปสักมา คุณจะต้องทำตามขั้นตอนพิเศษระหว่างอาบน้ำ
- เปิดน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นๆ ทำแบบนี้มีประโยชน์ 2 ประการ คือป้องกันไม่ให้คุณเจ็บเมื่อน้ำร้อนสัมผัสรอยสักใหม่ และป้องกันไม่ให้รูขุมขนเปิดกว้างเกินไป น้ำร้อนจะทำให้รู้ขุมขนเปิด ซึ่งอาจทำให้สีรอยสักหายไปได้ ถ้าจะระวังเพิ่มเติม ก็เปิดน้ำเย็นให้ไหลผ่านรอยสักก็ได้ในช่วง 30 วินาทีสุดท้ายที่อาบน้ำเพื่อให้รูขุมขนปิด แต่อย่าให้น้ำโดยรอยสักโดยตรง
- อย่าฉีดน้ำให้โดนรอยสักโดยตรง เวลาจะล้างตัว ให้น้ำไหลผ่านรอยสักไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแผลเป็น หรือผิวเป็นรอยย่น
- อาบน้ำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ รอยสักของคุณจะหายเร็วขึ้นถ้าสัมผัสกับไอน้ำ น้ำและสบู่น้อยที่สุด ให้ยื่นร่างกายส่วนที่มีรอยสักออกนอกน้ำให้มากเท่าที่สุดที่จะทำได้ระหว่างอาบน้ำ
-
เช็ดตัวหลังอาบน้ำกับรอยสัก. หลังอาบน้ำเสร็จแล้ว คุณควรเช็ดรอยสักให้แห้งให้เร็วที่สุดเท่าจะทำได้ ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับผิวที่มีรอยสักให้แห้งเบาๆ อย่าถู และอย่าตากรอยสักให้แห้งเองช้าๆ ร่างกายส่วนที่เหลือก็เช็ดตัวได้ตามปกติ
เคล็ดลับ
- หลีกเลี่ยงการให้รอยสักอยู่ในน้ำจนกว่ารอยสักจะหายดี หมายความว่าคุณไม่ควรว่ายน้ำหรือแช่น้ำ ถ้าการแช่น้ำเป็นวิธีเดียวที่คุณจะสามารถอาบน้ำได้ ก็ให้แช่ให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
- อย่าลืมทา A+D, H2Ocean หรือยาทาสำหรับรอยสักอื่นๆ หลังสัก และอย่าใช้ครีมทาแผล Neosporin เด็ดขาด
- อย่าทายาที่รอยสักเยอะเกินไป ให้ทาบางๆ เพื่อที่รอยสักจะได้ยังหายใจได้
สิ่งของที่ใช้
- สบู่
- น้ำ
- ผ้าขนหนู
