ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ตัวรีดติดเสื้อ (iron-on transfer) ใช้ตกแต่งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและของใช้ต่างๆ ตามสไตล์ได้ ติดแล้วดูเก๋เท่ขึ้นอีกเยอะ แต่ถ้าเบื่อแล้วล่ะ ข่าวร้ายคือตัวรีดติดเสื้อส่วนใหญ่จะติดแล้วติดเลย ลอกออกไม่ได้ แต่ถ้าอยากลอกจริงๆ เราพอมี 2 - 3 วิธีมาฝากกัน
ขั้นตอน
-
เอาผ้าที่ติดตัวรีดไว้ไปอบในเครื่อง. เอาของใช้ที่จะลอกตัวรีดใส่เครื่องอบผ้า อบด้วยความร้อนสูง 2 - 3 นาที เผื่อกาวจะละลายได้บ้าง
-
กลับด้านผ้าก่อน. ให้ตัวรีดอยู่ด้านใน แล้วใส่ผ้าเข้าไปโดยที่ตัวรีด (ข้างใน) อยู่ด้านบน (จินตนาการว่าด้านหลังของตัวรีดหงายขึ้นมาทางคุณ) [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง -
ทดสอบบางจุดของผ้า. ก่อนจะลงน้ำยาทั่วทั้งผ้า ให้ทดสอบบางจุดก่อน จะได้แน่ใจว่าสารเคมีไม่ทำผ้าเสีย
-
ฉีดน้ำยาให้ชุ่ม. บริเวณที่มีตัวรีดคว่ำหน้าอยู่ด้านใน [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เป้าหมายคือให้น้ำยาซึมลงไปในผ้า และละลายกาวที่อยู่ระหว่างผ้ากับตัวรีดออกมา
-
ดึงผ้าให้ตึง. ยืดๆ ดึงๆ ผ้าหน่อยจะช่วยให้น้ำยาซึมทะลุผ้าไปละลายกาวได้ดีขึ้น พอยืดผ้าแล้วจะลงน้ำยาอีกก็ได้ [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ลอกตัวรีดออก. ถ้าน้ำยาหรือตัวทำละลายใช้ได้ผล คุณก็น่าจะลอกตัวรีดติดเสื้อออกจากเนื้อผ้าได้ อาจจะต้องใช้มีดช่วยแซะหน่อย หรือใช้ความร้อนจากไดร์เป่าผมร่วมด้วย
-
ขจัดคราบกาวที่เหลือ. พอลอกตัวรีดออกแล้ว อาจจะมีคราบกาวหลงเหลืออยู่บ้าง ให้ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลหรือสเปรย์ขจัดคราบกาว (Goo Gone) เช็ดออก โดยทดสอบที่จุดเล็กๆ ก่อนเช่นกัน แล้วค่อยใช้เต็มๆ
-
ซักผ้าผืนนั้นเดี่ยวๆ. ซักผ้าด้วยมือหรือใส่เครื่องก็ได้ แต่ห้ามซักรวมกับผ้าชิ้นอื่น เพราะตัวทำละลายอาจทำเนื้อผ้าเสียหายได้ เวลาซักให้ใส่น้ำยาซักผ้าเยอะๆ แล้วซักให้สะอาดหมดจด ค่อยเอากลับมาใส่ จะได้ไม่เหลือตัวทำละลายมาระคายผิวโฆษณา
-
วางผ้าบนโต๊ะหรือพื้นราบ. ดีที่สุดคือบนโต๊ะรีดผ้า หรือบนโต๊ะที่ปูผ้ารองไว้ แต่จุดสำคัญคือพื้นผิวนั้นต้องทนความร้อน
-
เอาผ้าขนหนูสอดในเสื้อ. ให้ใช้ผ้าขนหนูหรือเศษผ้าสอดในเสื้อ เนื้อผ้าอีกฝั่งจะได้ไม่เสีย ถ้าบุผ้าแล้วทำงานยากเพราะไม่เรียบแข็ง ให้หากระดาษลังหรือไม้อัดแผ่นบางๆ มารองแทน
-
อ่านคำแนะนำในการซักของเสื้อผ้าชิ้นนั้น. ต้องระวังอย่าใช้ความร้อนเกินที่แนะนำ เพราะจะทำเนื้อผ้าเสียหายได้ ผ้าบางชนิดอย่างโพลีเอสเตอร์ถึงขั้นละลายได้เลยถ้าใช้ความร้อนเกิน
-
เอาไดร์เป่าตัวรีดให้ร้อน. ใช้ไดร์เป่าผมปรับความร้อนสูงสุด มาเป่าจ่อที่ตัวรีด อาจช่วยให้กาวด้านหลังละลายจนลอกตัวรีดออกได้ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้ไอร้อนแทน. ถ้าไม่ใช้ความร้อน ก็เปลี่ยนมาใช้ไอร้อนแทน โดยเอาผ้าเปียกโปะตัวรีด แล้วเอาเตารีดร้อนจัดนาบด้านบน [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ไอร้อนน่าจะทำให้กาวละลายจนลอกตัวรีดออกได้
-
แซะด้วยมีด. พอกาวเริ่มละลายตัวรีดเริ่มหลุดลอก ให้ใช้ใบมีดแซะออกจากเนื้อผ้า [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง พอมุมหรือด้านหนึ่งเผยอขึ้นมา ก็ลอกส่วนที่เหลือได้ง่ายขึ้นแล้ว ค่อยๆ แกะไป
-
ใช้ความร้อนต่อไปจนลอกตัวรีดสำเร็จ. อาจจะต้องค่อยๆ ลอกไปทีละจุด จุดนั้นจะได้ร้อนจัดลอกง่ายขึ้น
-
ใจเย็นๆ. วิธีนี้อาจต้องใช้เวลากว่าจะเสร็จ ก็ฟังเพลงที่ชอบไปพลางๆ แล้วแกะไปเพลินๆ เดี๋ยวก็เสร็จเอง
-
ขจัดคราบกาวที่เหลือ. พอลอกตัวรีดออกแล้ว อาจจะมีคราบกาวหลงเหลืออยู่บ้าง ให้ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลหรือสเปรย์ขจัดคราบกาว (Goo Gone) เช็ดออก โดยทดสอบที่จุดเล็กๆ ก่อนเช่นกัน แล้วค่อยใช้เต็มๆ
-
ซักผ้าตามปกติ. พอลอกตัวรีดและขจัดคราบกาวเรียบร้อยแล้ว ให้ซักผ้าชิ้นนั้นตามปกติ ถ้าใช้สารเคมีหรือน้ำยาอะไรกำจัดคราบกาวที่เหลือก็ยิ่งต้องซักให้สะอาด เพราะเดี๋ยวจะระคายเคืองผิวได้โฆษณา
-
วางผ้าบนโต๊ะรีดผ้า. ให้ตัวรีดหันขึ้นด้านบน แล้วเอามือรีดให้ผ้าแนบสนิทไปกับโต๊ะ ถ้าไม่มีโต๊ะรีดผ้า ให้เอาผ้าปูบนพื้นผิวแข็งๆ ราบๆ เช่น โต๊ะ เคาน์เตอร์ หรือด้านบนของเครื่องซักผ้า/เครื่องอบผ้า
-
เอาผ้าขนหนูสอดในเสื้อ. ให้ใช้ผ้าขนหนูหรือเศษผ้าสอดในเสื้อ เนื้อผ้าอีกฝั่งจะได้ไม่เสีย ถ้าบุผ้าแล้วทำงานยากเพราะไม่เรียบแข็ง ให้หากระดาษลังหรือไม้อัดแผ่นบางๆ มารองแทน
-
อ่านคำแนะนำในการซักของเสื้อผ้าชิ้นนั้น. ต้องระวังอย่าใช้ความร้อนเกินที่แนะนำ เพราะจะทำเนื้อผ้าเสียหายได้ ผ้าบางชนิดอย่างโพลีเอสเตอร์ถึงขั้นละลายได้เลยถ้าใช้ความร้อนเกิน ที่สำคัญคือวิธีนี้ใช้ความร้อนโดยตรง เลยอาจเสี่ยงทำผ้าเสียหายได้มากกว่าวิธีอื่นๆ
-
รอเตารีดร้อน. ปรับความร้อนให้สูงสุด ซึ่งก็อาจจะร้อนกว่าคำแนะนำที่ป้ายของเสื้อผ้า ถ้ากลัวเนื้อผ้าเสีย คงต้องเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นแทน หรือเริ่มจากความร้อนกลางๆ ก่อน แล้วค่อยปรับสูงขึ้นจนเจออุณหภูมิที่ทำให้ตัวรีดหลุดลอกได้โดยไม่ทำร้ายผ้า
-
วางกระดาษไขทับบนตัวรีดไวนิล. ถ้าตัวรีดของคุณทำจากไวนิล ต้องปูกระดาษไขทับก่อนแล้วค่อยใช้เตารีดรีด ตัวรีดจะได้ละลายติดกระดาษไข แค่ดึงกระดาษออก ตัวรีดก็จะลอกติดมาด้วย แต่ย้ำอีกทีว่าใช้ได้เฉพาะกับตัวรีดที่เป็นไวนิลเท่านั้น
-
นาบเตารีดที่มุมของตัวรีด. ความร้อนจะทำให้กาวละลาย [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ให้เริ่มจากตรงมุมก่อน แล้วขยับขยายไปจนครบทั้งตัวรีด
-
รีดเร็วๆ บนตัวรีด. พอมุมเริ่มลอก ให้รีดเร็วๆ ไปทางตัวรีด [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง จะทำให้ลอกออกมาทั้งหมด อาจมีไหม้ด้วยนิดหน่อย
-
ทำซ้ำจนตัวรีดหลุดลอกทั้งหมด. รีดซ้ำบนตัวรีดจนหลุดลอกออกมาหมด ถ้าเนื้อผ้าบางส่วนเปลี่ยนแปลงไป ให้รีบลดความร้อนลง
-
ขจัดคราบกาวที่เหลือ. พอลอกตัวรีดออกแล้ว อาจจะมีคราบกาวหลงเหลืออยู่บ้าง ให้ใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลหรือสเปรย์ขจัดคราบกาว (Goo Gone) เช็ดออก โดยทดสอบที่จุดเล็กๆ ก่อนเช่นกัน แล้วค่อยใช้เต็มๆ
-
ซักผ้าตามปกติ. พอลอกตัวรีดและขจัดคราบกาวเรียบร้อยแล้ว ให้ซักผ้าชิ้นนั้นตามปกติ ถ้าใช้สารเคมีหรือน้ำยาอะไรกำจัดคราบกาวที่เหลือก็ยิ่งต้องซักให้สะอาด เพราะเดี๋ยวจะระคายเคืองผิวได้โฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าจำเป็นก็ให้ใช้หลายวิธีผสมกัน เพราะแค่วิธีเดียวอาจไม่พอจะลอกตัวรีดออกได้หมด
- ยิ่งติดตัวรีดไว้บนเสื้อนานแค่ไหน ก็ยิ่งใช้น้ำยาละลายกาวออกได้ยากขึ้นเท่านั้น
- จะลอกตัวรีดได้ยากง่ายและมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับวัสดุและกาวของตัวรีด แต่ส่วนใหญ่ตัวรีดจะเป็นแบบติดถาวรทั้งนั้น
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.stahls.com/lettering-remover-solvent
- ↑ http://exclusivepro.com/products/65/stripping_and_customizing/
- ↑ http://www.stahls.com/lettering-remover-solvent
- ↑ http://www.stahls.com/lettering-remover-solvent
- ↑ http://www.stahls.com/lettering-remover-solvent
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=9z4aemfDdAc
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=9z4aemfDdAc
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=9z4aemfDdAc
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=9z4aemfDdAc
โฆษณา
