ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เครื่องหนังเป็นวัสดุที่ทำมาจากหนังสัตว์ที่ถูกนำไปฟอก เรานำหนังมาผลิตแจ็คเก็ต เฟอร์นิเจอร์ รองเท้า กระเป๋า เข็มขัด และอื่นๆ อีกมากมาย แม้หนังจะเป็นวัสดุที่ทนมาก การทำความสะอาดหนังกลับทำได้ยากกว่าเส้นใยธรรมชาติหรือใยสังเคราะห์ ผิวของหนังมีความสามารถในการดูดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น ควัน อาหาร เหงื่อ น้ำหอม รา หรือ “กลิ่นหนังใหม่” จากกระบวนการฟอกหนัง การกำจัดกลิ่นเหล่านี้ออกจากเครื่องหนังอาจต้องอาศัยการลองผิดลองถูกหลายครั้ง และเมื่อคุณเกิดสงสัยไม่แน่ใจขึ้นมา คุณสามารถนำเครื่องหนังของคุณไปให้ร้านทำความสะอาดได้เสมอ เครื่องหนังของคุณจะได้ไม่เสียหาย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ใช้ของที่มีในบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากหนังเปียกหรือเหมือนมีราขึ้น ต้องกำจัดความชื้นให้เร็วที่สุด ความชื้นสามารถทำลายหนังได้อย่างถาวร และยังก่อให้เกิดกลิ่นที่กำจัดยากอีกด้วย มีหลายวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยทำให้หนังแห้ง: [1]
    • วางเครื่องหนังไว้ในบ้านตรงจุดที่แดดไม่ส่องลงมาโดยตรง การที่หนังสัมผัสกับแดดแรงๆ โดยตรงจะทำให้หนังปริ แตก และเสื่อมได้ เลือกตากหนังข้างหน้าต่างที่ติดฟิล์มกรองแสงหรือหลังฉากกั้น
    • เป่าด้วยไดร์เป่าผมที่ระดับความร้อนต่ำ เลี่ยงการเอาไดร์มาจ่อใกล้หนังเกินไป เพราะนั่นจะทำให้หนังปริแตกได้ เป่าให้ห่างสักหน่อยเพื่อป้องกันไม่ให้หนังมีรอยด่างใหญ่
    • ใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดหนังให้แห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นรองเท้า แจ็คเก็ต หรือกระเป๋าสตางค์ผู้หญิงที่ทำจากหนัง อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น เช่น น้ำหอม และใช้ผ้าแห้งสะอาดเช็ดให้เรียบร้อย สารเคมีจากผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาอาจซึมเข้าไปในหนัง และอาจทำให้หนังเสียหายได้
  2. ห่อเครื่องหนังในหนังสือพิมพ์หรือกระดาษห่อของ. ทั้งหนังสือพิมพ์และกระดาษห่อของ ต่างมีคุณสมบัติเป็นวัสดุที่มีรูพรุน จึงเหมาะมากในการดูดซึมกลิ่นเหม็นต่างๆ ออกจากเครื่องหนังของคุณ ตรวจดูเป็นประจำว่าเครื่องหนังของคุณแห้งสนิทดีหรือไม่ และหนังสือพิมพ์ที่ใช้แห้งดีหรือยัง เส้นใยที่ไม่หนาแน่นนักของหนังสือพิมพ์ทำให้กระดาษมีความอ่อนตัวกว่าและซึมซับดีกว่ากระดาษประเภทอื่น เช่น กระดาษสำนักงาน [2]
    • ขยำกระดาษหนังสือพิมพ์หลายๆ แผ่นใส่ในกล่องและวางเครื่องหนังลงในหนังสือพิมพ์ ปิดกล่องให้สนิทและทิ้งไว้สักวันสองวัน
    • ตรวจดูว่าหนังสือพิมพ์ดูดกลิ่นออกไปหมดเรียบร้อยดีหรือไม่ คุณอาจต้องทิ้งไว้อีกวันหนึ่ง
  3. กรดในน้ำส้มสายชูจะช่วยจัดการกลิ่นไม่พึงประสงค์ และกลิ่นของสำส้มสายชู ซึ่งอาจไม่ใช่กลิ่นที่ดีนักสำหรับบางคนก็จะบางเบาลงไปพร้อมๆ กับกลิ่นเหม็นจากหนังด้วย [3]
    • ก่อนคุณจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีกรดเป็นส่วนผสมกับเครื่องหนัง ให้ทดลองกับจุดเล็กๆ ดูก่อนว่ามันจะไม่ทำให้หนังเปลี่ยนสี ให้ผสมน้ำส้มสายชูใสกลั่นกับน้ำในปริมาณเท่าๆ กัน เลือกจุดเล็กๆ และป้ายส่วนผสมลงบนหนัง หากสียังเหมือนเดิมหรือหนังไม่แตก ให้นำไปใช้ได้เลย
    • ใช้ผ้าสะอาดเช็ดบริเวณผิวของเครื่องหนังด้วยสารละลายน้ำส้มสายชู
    • คุณสามารถฉีดสเปรย์ก็ได้เช่นกัน ให้นำสารละลายน้ำส้มสายชูไปใส่ขวดสเปรย์ นำมาฉีดลงบนหนังและใช้ผ้าเช็ดให้สะอาด
    • ถ้ากลิ่นหนังแย่มาก คุณอาจลองทาหนังให้เปียกชุ่มด้วยสารละลายน้ำส้มสายชูสักห้าถึงสิบนาที ให้แน่ใจว่าหนังแห้งสนิทดีหลังที่จากที่คุณทำให้หนังเปียกชุ่มไปแล้ว หนังจะได้ไม่ขึ้นรา [4]
  4. เบคกิ้งโซดาเป็นตัวดูดกลิ่นที่ยอดเยี่ยม และไม่ทำอันตรายต่อหนัง คุณต้องใช้เบคกิ้งโซดาและปลอกหมอนหรือถุงซิปล็อกที่ใหญ่พอที่จะใส่เครื่องหนังลงไป [5]
    • ใส่เครื่องหนังลงปลอกหมอนหรือถุงซิปล็อก โรยผงเบคกิ้งโซดาบางๆ บนหนัง คุณอาจโรยเบคกิ้งโซดาข้างในเครื่องหนังเพื่อจำกัดกลิ่นด้านในด้วยก็ได้
    • มัดปลายปลอกหมอนหรือปิดถุงซิปล็อกให้เรียบร้อย ทิ้งข้ามคืน หรือ 24 ชั่วโมง
    • กำจัดเบคกิ้งโซดาโดยการใช้เครื่องดูดฝุ่นเล็กๆ หรือใช้ผ้าสะอาดช่วย แปรงผงเบคกิ้งโซดาออกอย่างนุ่มนวลเพื่อเลี่ยงไม่ให้หนังเป็นรอย
    • โรยเบคกิ้งโซดาซ้ำใหม่ ทำตามขั้นตอนเดิมจนกว่ากลิ่นจะหายไป
  5. ปล่อยให้หนังเปลี่ยนสภาพไปตามกาลเวลาเพื่อช่วยลดกลิ่น. ด้วยธรรมชาติของหนัง กลิ่นที่หนังกักเก็บไว้ ตั้งแต่กลิ่นควันบุหรี่ไปจนถึง “กลิ่นใหม่” จากกระบวนการฟอกหนังจะค่อยๆ จางหายไปเมื่อเวลาผ่านไป แทนที่จะพยายามระงับกลิ่นด้วยน้ำหอมหรือผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน ซึ่งจะทำให้กลิ่นอยู่นานขึ้น ให้คุณใช้งานเครื่องหนังนั้นให้บ่อยขึ้น หากคุณทนกลิ่นได้ ให้ใส่แจ็คเก็ตหนังหรือสวมรองเท้าหนังของคุณเป็นประจำเพื่อช่วยให้หนังเปลี่ยนสภาพไวขึ้น [6]
    • กระบวนการเปลี่ยนสภาพของหนังจะทำให้หนังนุ่มขึ้น เป็นการช่วยช่องว่างในผืนหนังให้กว้างขึ้น และทำให้กลิ่นออกจากหนังได้ดีขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับหนังโดยเฉพาะ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหนังโดยเฉพาะได้ตามร้านขายอุปกรณ์ใกล้บ้าน หรือที่ร้านซ่อมรองเท้าเจ้าประจำ ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับหนังโดยเฉพาะกับเครื่องหนังของคุณเสมอ [7]
    • คุณต้องใช้ผ้าสะอาดแห้งๆ เช็ดหนังด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ผลิตภัณฑ์ส่วนมากสามารถขจัดกลิ่น รักษาสีหนังให้อยู่สภาพเดิม รักษาสภาพหนังให้มันเงา และยังช่วยปกป้องหนังไม่ให้แตกด้วย
  2. คุณควรปรับสภาพเครื่องหนังหลังจากทำความสะอาดแล้ว การปรับสภาพหนังจะช่วยกำจัดกลิ่นและช่วยรักษาสีและความมันเงาของหนัง มีหลายทางวิธีที่จะใช้ปรับสภาพหนัง: [8]
    • น้ำมันซักแห้งคุณภาพดี: วิธีนี้ใช้ได้ผลดีมากสำหรับการปรับสภาพเสื้อผ้าหนังและผลิตภัณฑ์หนังอื่นๆ เลี่ยงการใช้น้ำมันซักแห้งถูกๆ เพราะมันจะไม่ได้ผลดีเท่าไหร่ ให้ใช้ผ้าเช็ดถูหนังด้วยน้ำมันซักแห้ง ให้หนังดูดซับน้ำมันไว้
    • น้ำยาขัดรองเท้า: วิธีดั้งเดิมที่สุดในการปรับสภาพหนังนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ดีที่สุด ให้ใช้น้ำยาขัดรองเท้าแบบน้ำกับรองเท้าหนัง เสื้อแจ็คเก็ตหนัง และกระเป๋าสตางค์หนัง คุณอาจใช้ผลิตภัณฑ์ขัดรองเท้าหนังแบบกระปุกสำหรับรองเท้าบูทและรองเท้าหนังอื่นๆ หากคุณขัดหนังธรรมชาติ ซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคาร์นูบาแว็กซ์และส่วนผสมจากธรรมชาติอื่นๆ
    • ผลิตภัณฑ์สำหรับปรับสภาพหนังโดยเฉพาะ: ผลิตภัณฑ์นี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์ใกล้บ้านคุณ ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพหนังเกือบทุกชนิดอยู่ในรูปแบบสเปรย์ ให้ฉีดสเปรย์ลงบนเครื่องหนังและให้สารเคมีซึมผ่านหนังลงไป วิธีนี้จะช่วยขจัดกลิ่นและช่วยดึงความันเงาของหนังออกมา
    • เลี่ยงการใช้สบู่ฟอกเครื่องหนังกับหนังโดยตรง วิธีนี้จำเป็นต้องใช้การชะล้างอย่างมาก และอาจทำให้หนังเป็นลายและเหนียว [9]
  3. ลองเลือกใช้บริการทำความสะอาดและปรับสภาพหนังจากผู้เชี่ยวชาญ. หากสิ่งที่มีอยู่ในบ้านหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่สามารถกำจัดกลิ่นได้ อาจถึงเวลาแล้วที่จะต้องนำเครื่องหนังของคุณไปเข้าร้าน ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญทำความสะอาดและปรับสภาพหนังให้ ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องหนังและความรุนแรงของกลิ่น คุณอาจกำจัดกลิ่นหนังได้ด้วยการเสียเงินสักหน่อย
    โฆษณา


เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 55,781 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา