ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ผมของคุณดูชี้ฟูและแห้งกรอบตลอดเวลาเลยหรือเปล่า? เส้นผมเป็นสิ่งที่ซับซ้อน ประกอบไปด้วยชั้น 3 ชั้นและเซลล์นับพัน แต่เหตุผลที่ทำให้ผมชี้ฟูนั้นค่อนข้างง่ายเลยล่ะ ลองนึกภาพเส้นผมชั้นนอกของคุณ หรือส่วนที่เรียกว่าเกล็ดผม ว่าเป็นเหมือนหลังคาที่มุงด้วยไม้ดู [1] เวลาที่ผมเรียบตรง หมายความว่าแผ่นไม้นอนเรียบไปบนหลังคา แต่เมื่อคุณแปรงผมที่แห้งและหยิก แผ่นไม้ก็จะยกขึ้นและสร้างความฟูให้กับเส้นผม ทำให้ผมไม่สวยไปทั้งวัน คุณยังสามารถทดลองใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมชนิดอื่นๆ ได้ เพราะผลิตภัณฑ์ที่พูดถึงในบทความนี้อาจจะใช้การไม่ได้กับสภาพเส้นผมของคุณ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ใช้ผลิตภัณฑ์ใส่ผมมืออาชีพ (วิธีแก้แบบทันที)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เซรั่มเหล่านี้ทำงานโดยการเคลือบผมแต่ละเส้น เพื่อให้เกล็ดผมคงความเรียบไว้ และไม่ชี้ฟูขึ้นมา [2]
    • ใช้หวีซี่ห่างเพื่อใส่เซรั่ม จากนั้นปล่อยให้ผมแห้งหรือไม่ก็จัดทรงด้วยไดร์เป่าผม [3] ผลิตภัณฑ์ซิลิโคนจะใช้ได้ดีเมื่อถูกความร้อน
    คำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ
    ถาม

    ผู้อ่านวิกิฮาวท่านหนึ่งถามมาว่า: "มีอะไรบ้างที่ช่วยป้องกันไม่ให้ผมชี้ฟู?"

    Laura Martin

    ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่มีใบอนุญาต
    ลอรา มาร์ตินเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความงามที่มีใบอนุญาตในจอร์เจีย เธอเป็นนักออกแบบทรงผมมาตั้งแต่ปี 2007 และเป็นครูสอนศาสตร์ด้านความงามตั้งแต่ปี 2013
    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    คำตอบจาก Laura Martin :

    ลอร่า มาร์ติน นักเวชสำอางค์ที่มีใบรับรองตอบว่า: "การลดความตึงเครียดบนเส้นผม การใช้ผลิตภัณฑ์มอยเจอไรเซอร์ และการไม่ไปรบกวนรูปทรงการหยักตามธรรมชาติของเส้นผมล้วนแล้วแต่ช่วยไม่ให้เส้นผมชี้ฟู ลองหวีผมระหว่างอาบน้ำ จัดทรงทันทีตอนที่เสร็จออกมา แล้วทิ้งไว้จนมันแห้งสนิท หลายต่อหลายครั้งที่ผมชี้ฟูเกิดจากการสัมผัสหรือการจัดแต่งเส้นผม"

  2. สเปรย์จะช่วยเพิ่มน้ำหนักให้ผม และทำให้ผมเรียบได้นาน [4]
  3. ใช้สเปรย์แก้ผมพันกันสำหรับเด็กเพื่อให้หวีผมได้ง่ายขึ้น. สเปรย์แก้ผมพันกันสำหรับเด็กจะมันน้อยกว่าผลิตภัณฑ์อื่น และช่วยให้คุณสางผมที่พันกันได้ง่าย
    • คุณยังสามารถทำสเปรย์แก้ผมพันกันเองได้ด้วยการเติมครีมนวดผม 1/3 ส่วนกับน้ำเปล่า 2/3 ส่วนใส่ขวดสเปรย์ [5]
  4. ฉีดสเปรย์เพิ่มความเงางามเพื่อจัดการกับผมที่ไม่เข้าทรง. ฉีดสเปรย์เพิ่มความเงางามใส่ผมเป็นชั้นบางๆ จากนั้นใช้แปรงสีฟันหรือหวีเล็กๆ เพื่อหวีเก็บผมที่ไม่เข้าทรง ประเภทที่ไม่ยอมเรียบซักทีน่ะ [6]
    • คุณสามารถซื้อสเปรย์เพิ่มความเงางามได้ทางอินเตอร์เน็ตหรือที่ร้านขายยาทั่วไป
  5. ถ้าคุณมีเวลาเพียง 5 นาทีเพื่อจัดการกับผมชี้ฟูยามเช้า บางทีวิธีที่ดีที่สุดอาจจะเป็นการทำผมเป็นมวยเก๋ๆ แล้วก็ปล่อยไว้แบบนั้นเลย [7]
    • ผมมวยยังเป็นทางเลือกที่ดีมากสำหรับผมชี้ฟูด้วย เพราะผมทรงนี้ควรจะดูเซอร์ๆ สบายๆ อยู่แล้ว
  6. คุณควรหลีกเลี่ยงแชมพูที่มีสารเคมีรุนแรง เพราะอาจทำให้ผมยิ่งแห้งกว่าเดิมได้ [8]
    • ใส่ครีมนวดผมหลังสระให้เป็นนิสัยซะ
    • ความถี่ที่คุณควรสระและนวดผมจะขึ้นอยู่กับว่าหนังศีรษะของคุณมันหรือแห้ง รวมถึงว่าคุณทำสีผมหรือไม่ และคุณภาพน้ำที่คุณใช้อาบ ลองทำแบบทดสอบหรือแบบสอบถามออนไลน์เรื่องผมดูเพื่อหาคำตอบว่าคุณควรสระผมและนวดผมบ่อยแค่ไหน [9]
  7. มันจะช่วยจัดการผมชี้ฟู และเพิ่มความเงางามอย่างมีสุขภาพดี
    • นอกเสียจากว่าคุณมีผมเส้นเล็กมากๆ คุณควรมองหาครีมนวดผมสูตรเข้มข้นเสมอ และปล่อยทิ้งไว้ 5 นาทีก่อนล้างออก [10] จำไว้ว่าผลิตภัณฑ์ที่บอกไว้แบบนี้มักเข้มข้นเกินกว่าจะใช้บ่อยๆ
  8. โยนผลิตภัณฑ์สำหรับผมที่มีแอลกอฮอล์ทิ้งไปซะ. แอลกอฮอล์ทำให้ผมแห้งได้ ซึ่งจะส่งผลให้ผมยิ่งฟูมากขึ้นอีก ให้เปลี่ยนไปใช้แชมพู ครีมนวดผม และสเปรย์ระดับร้านทำผมถ้าเป็นไปได้ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีอายุการเก็บรักษาไม่นานเท่ายี่ห้อทั่วไป และไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ [11]
    • แอลกอฮอล์ชนิดอื่นที่ถูกใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผมได้แก่ แอลกอฮอล์ไขมันซึ่งจะขจัดออกยาก แอลกอฮอล์พวกนี้มักมีคำลงท้ายว่า lauryl, cetyl, stearyl หรืออะไรทำนองนั้น
  9. ก่อนอาบน้ำสักชั่วโมงให้ฉีดเบาๆ บนนิ้วแล้วถูกับเส้นผม มันจะซึมลงในเส้นผมทำให้เส้นผมอ่อนลงไม่ชี้ฟู พออาบน้ำเสร็จให้ใช้เสื้อยืดเช็ดให้แห้งและเรียบร้อย!
    • ใช้เสื้อยืดแทนที่จะเป็นผ้าเช็ดตัวทั่วไปจะช่วยทำให้เส้นผมนุ่มสลวย
  10. ลองใช้สารให้ความชุ่มชื้นหรือลดความชุ่มชื้นขึ้นอยู่กับสภาพผม. คนที่มีผมหยักศกอาจใช้สารให้ความชุ่มชื้นเพื่อช่วยเกาะความชื้นในอากาศเพื่อลดความชี้ฟู ส่วนการป้องกันการชี้ฟูในผมตรงนั้น ให้ใช้สารต้านความชุ่มชื้นเพื่อกั้นความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจจำเป็นหรือไม่จำเป็นในตลอดทั้งปีขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้วิธีแก้แบบธรรมชาติ (ใช้เวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมง)

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นี่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการจัดการผมชี้ฟู ระดับค่า pH ที่ต่ำของน้ำโซดาจะช่วยแก้ความฟูได้ [12]
    • ใช้แชมพูและครีมนวดผม จากนั้นให้ใช้น้ำโซดาหลายๆ ถ้วยล้างผมเป็นครั้งสุดท้าย [13]
  2. ล้างผมด้วยน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล (Apple Cider Vinegar). ความเป็นกรดในน้ำส้มสายชูช่วยจัดการกับผมชี้ฟูได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังจะเพิ่มความเงางามอย่างสุขภาพดีให้กับเส้นผมด้วย
    • หลังจากสระผมและล้างแชมพูออกหมดแล้ว ให้เทน้ำส้มสายชูใส่ผม จากโคนจรดปลาย
    • ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น จากนั้นใช้ครีมนวดผมตามปกติ ทำซ้ำอาทิตย์ละครั้ง [14]
    • สำหรับคนที่ผมชี้ฟูมาก ให้ผสมน้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิลกับน้ำสองถ้วย แล้วราดบนศีรษะทิ้งไว้ 20 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น ให้แน่ใจว่าล้างจนเกลี้ยงไม่ให้กลิ่นน้ำส้มสายชูติดเส้นผม
  3. ส่วนผสม 2 ชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นครีมนวดผมธรรมชาติ เพราะทั้งอะโวคาโดและน้ำมันมะกอกมีสรรพคุณเพิ่มความชุ่มชื้นได้อย่างดี อะโวคาโดยังมีกรดไขมันดีและวิตามินอีด้วย ซึ่งจะช่วยจัดการผมชี้ฟูได้
    • บดอะโวคาโดในชาม จากนั้นเติมน้ำมันมะกอกซักหน่อย แล้วตีส่วนผสมทั้ง 2 อย่างเข้าด้วยกัน
    • หลังจากสระผมแล้ว ให้เอามาสก์ใส่ผม เอาให้เคลือบผมทั้งหมดเลย ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง จากนั้นล้างออกให้หมด
    • ใส่ครีมนวดผมเพื่อกำจัดกลิ่นอะโวคาโด [15] คุณยังสามารถเติมมายองเนสใส่ในมาสก์อะโวคาโดก็ได้ เพราะไขมันในมายองเนสจะทำให้มาสก์สร้างความชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ [16]
    • ใช้มาสก์ผมนี้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้งเพื่อป้องกันความแห้งและเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม
  4. ไข่มีกรดอะมิโนธรรมชาติ ซึ่งมีประโยชน์มากในการฟื้นฟูเซลล์รากผม และทำให้ผมที่ชี้ฟูเรียบลง ไข่ยังมีเอ็นไซม์ที่ฆ่าแบคทีเรียและกำจัดน้ำมันส่วนเกินบนหนังศีรษะได้ด้วย [17]
    • ตอกไข่และแยกไข่ขาวกับไข่แดงออกจากกัน นำไข่ขาวใส่ชามไว้
    • ผสมน้ำมันมะกอกและน้ำมะนาวใส่ไข่ขาว ปล่อยทิ้งไว้ 30 นาทีให้ส่วนผสมสลายตัวเข้ากัน
    • นำมาใส่ผม ให้เคลือบผมทุกเส้น ปล่อยทิ้งไว้ 20 นาที
    • ล้างไข่ออกและสระผมตามปกติ
  5. ใช้น้ำมันธรรมชาติอย่างเช่นน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันมะกอกใส่ปลายผม. น้ำมันมะพร้าวเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีมาก แถมยังหอมดีอีกด้วย ให้เทน้ำมันมะพร้าวใส่นิ้วแล้วสางผมเมื่อรู้สึกว่าผมแห้งหรือฟูมาก
    • ให้ใส่น้ำมันที่ปลายผม ไม่ใช่โคน ไม่อย่างนั้นหนังศีรษะจะมันจนเกินไป
    • คุณยังสามารถใช้น้ำมันมะกอกด้วยวิธีแบบเดียวกันได้ เทน้ำมัน 2-3 หยดใส่มือแล้วสางปลายผมที่ยังหมาดอยู่เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ [18]
  6. เช็คให้แน่ใจก่อนนะว่าน้ำมันอยู่ที่อุณหภูมิที่ไม่ร้อนเกินไปจะใส่หนังศีรษะ คุณสามารถทำทรีตเมนต์น้ำมันร้อนใส่ผมเองได้ด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันละหุ่ง น้ำมันอัลมอนด์ หรือน้ำมันโรสแมรี่
    • ใส่น้ำมันที่จะใช้ 1 ถ้วยตวงลงในหม้อ ตั้งไฟประมาณ 2-4 นาที
    • ปล่อยให้น้ำมันเย็นลงถึงอุณหภูมิห้อง หรือถึงอุณหภูมิที่ทนไหว ไม่เจ็บหนังศีรษะ จะเติมน้ำผึ้งซัก 2 ช้อนโต๊ะใส่น้ำมันก็ได้ เพราะน้ำผึ้งอุ่นๆ จะช่วยทำให้เส้นผมเรียบได้
    • นำน้ำมันใส่หนังศีรษะ นวดเบาๆ จากโคนจรดปลาย
    • เอาถุงพลาสติกหรือผ้าขนหนูร้อนๆ มาพันศีรษะ เพื่อเก็บรักษาความชุ่มชื้นจากทรีตเมนต์เอาไว้ ปล่อยทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง จากนั้นสระผมและใส่ครีมนวดเพื่อกำจัดน้ำมันทิ้งไป
  7. เอ็นไซม์ธรรมชาติในเบียร์สามารถช่วยจัดการผมชี้ฟูและทำให้ผมดูเงางามสุขภาพดีได้ เบียร์ดำจะมีสารอาหารและความชุ่มชื้นมากที่สุด ฉะนั้นควรใช้เบียร์สีเข้ม ๆ เพื่อนำมาล้างผม [19]
    • ราดเบียร์ใส่ผมและปล่อยทิ้งไว้หลาย ๆ นาที
    • ล้างผมด้วยน้ำเย็น เพราะน้ำเย็นจะช่วยกำจัดกลิ่นเบียร์
    • คุณจะนำเบียร์ใส่ขวดสเปรย์และฉีดเบียร์ใส่ผมก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

รู้ว่าควรหลีกเลี่ยงอะไร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การแปรงผมแห้งนอกจากจะรบกวนเกล็ดผมแล้วยังอาจทำให้ผมยืดจนขาดได้อีกด้วย ทางที่ดีควรใช้ผ้าขนหนูซับผมหลังสระ แล้วแปรง หวี หรือใช้นิ้วสางผมเอา [20]
    • จะใส่ผลิตภัณฑ์บำรุงผมหรือแก้ผมชี้ฟูซักหน่อยก็ดี
  2. ถ้าคุณไม่อยากหวีผมแห้งๆ แต่ก็จำเป็นต้องทำผมให้พอดูได้ในวันที่อากาศชื้นหรือวันยุ่งๆ ให้รองน้ำให้มือเปียกแล้วใช้นิ้วสางผมเพื่อจัดการกับผมชี้ฟูหรือผมพันกัน [21]
  3. แบบนี้คุณจะได้ยังสร้างวอลลุ่มให้กับผม แต่ไม่ทำให้เส้นผมและปลายผมแห้ง
    • พยายามหาไดร์เป่าผมที่มีหัวต่อแบบฝักบัว (Diffuser) เพื่อจำกัดปริมาณความร้อนที่ปะทะโคนผม
  4. เวลาเป่าโคนผม ให้หมุนแปรงกลมผ่านเส้นผมเพื่อช่วยทำให้เกล็ดผมเรียบ [22]
  5. การใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมจะรบกวนเกล็ดผม ทำให้ผมชี้ฟูแทนที่จะดูเรียบ ทางที่ดีควรใช้ผ้าขนหนูไมโครไฟเบอร์ที่ซับน้ำได้ดีมาซับน้ำออกจากผมเบาๆ [23]
  6. อุปกรณ์เหล่านี้จะทำให้ผมของคุณแห้งกรอบแทนที่จะชุ่มชื้น ส่งผลให้ผมชี้ฟูมากขึ้นกว่าเดิม [24]
  7. ทรีตเมนต์เหล่านี้อาจทำให้ผมเปราะ ส่งผลให้ผมขาดได้ ฉะนั้นให้เลี่ยงหรือไม่ก็เลิกทำเลยจะดีกว่า
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 60,663 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา