ผมที่สุขภาพดีจะนุ่มสลวยดุจแพรไหม ถ้าผมของคุณแห้งและแตกปลาย อาจเป็นเพราะว่าผมคุณขาดน้ำมันธรรมชาติที่ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้น ผมแห้งและแตกปลายเกิดขึ้นได้ง่ายมาก แต่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะรักษา ไม่เชื่อก็ลองอ่านคำแนะนำด้านล่างดูสิ ต้องมีสักข้อแหละที่เหมาะกับสภาพผมของคุณและช่วยรักษาความบกพร่องของเส้นผมของคุณได้
ขั้นตอน
-
ลองหมักผมด้วยมายองเนส. อย่างไรก็ดี อย่าใช้มายองเนสหากคุณแพ้ไข่ ส่วนผสมของมายองเนสคือไข่แดงและน้ำมันซึ่งจะช่วยเสริมน้ำมันซึ่งเส้นผมต้องมีเพื่อคงความเงางามและความสมบูรณ์ ชโลมมายองเนสให้ทั่วเส้นผมและทิ้งไว้สักสามสิบนาที เมื่อมายองเนสซึมเข้าสู่เส้นผมแล้ว ล้างออกด้วยน้ำอุ่นและตามด้วยการสระผมและใช้ครีมนวดผมตามปกติ
-
นวดน้ำมันไข่ให้ทั่วหนังศีรษะและทิ้งไว้ข้ามคืนอาทิตย์ละสองครั้ง. น้ำมันไข่นั้นมีส่วนประกอบดังนี้:
- กรดไขมันโอเมก้าสามชนิดไม่อิ่มตัวห่วงโซ่ยาว เช่น กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) ซึ่งฟื้นฟูเซลล์รูขุมขน
- สารต้านอนุมูลอิสระแซนโทฟิลล์ เช่น ลูเทอินและซีแซนทินซึ่งช่วยยับยั้งผมหงอกก่อนวัยอันควร
- อิมมิวโนโกลบูลินซึ่งช่วยบรรเทาการอักเสบ
- คอเลสเตอรอลซึ่งทำให้ผมเงางามและกำจัดรังแค
-
หมักผมด้วยเจลาติน. เพื่อคืนโปรตีนสู่เส้นผม ผสมเจลาติน (แบบไม่ปรุงรส) หนึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่นหนึ่งช้อนโต๊ะและชโลมให้ทั่วเส้นผม ทิ้งส่วนผสมทิ้งไว้บนหัวประมาณสิบนาทีแล้วล้างออก จากนั้นตามด้วยการสระผมและครีมนวดผมตามปกติโดยควรใช้ยาสระผมและครีมนวดผมที่ประกอบด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ
-
หมักผมด้วยพู่ระหง. ปั่นใบพู่ระหงในเครื่องปั่นจนกระทั่งได้เนื้อเหลว ชโลมให้ทั่วเส้นผมโดยเฉพาะบริเวณหนังศีรษะและรากผม จากนั้นทิ้งไว้สักสามสิบนาทีแล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำอุ่นและแชมพู พู่ระหงสามารถช่วยป้องกันผมหงอกก่อนวัยอันควรได้เช่นกันโฆษณา
-
ใช้อะโวคาโดและกล้วย. บดอะโวคาโดหนึ่งลูกและกล้วยหนึ่งลูกเข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเหลว ๆ นวดครีมเนื้อเหลวให้ทั่วเส้นผม ทิ้งให้ครีมเซ็ตตัวประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้วล้างออก การผสมผสานของอะโวคาโดและกล้วยจะช่วยบรรเทาผมแตกปลายและเพิ่มความยืดหยุ่นให้เกลียวผมด้วย
-
ใช้อะโวคาโดและไข่แดง. ผสมอะโวคาโดและไข่แดงเข้าด้วยกันจนกลืนเป็นเนื้อเดียว ชโลมลงบนผมและทิ้งไว้ประมาณสามสิบถึงสี่สิบห้านาที หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็น การทำเช่นนี้จะทำให้ผมของคุณสดชื่นและมีสุขภาพดี
-
ใช้แอปเปิ้ลต้ม. ต้มแอปเปิ้ลหนึ่งถึงสองลูก (ขึ้นอยู่กับความยาวของผม) จนกระทั้งเนื้อนิ่ม นำออกมาจากน้ำและบดให้เป็นเนื้อเดียว ปล่อยให้ซอสแอปเปิ้ลเย็นลงสักนิดแต่ยังคงความอุ่นเอาไว้เมื่อนำมาชโลมผม ทิ้งไว้สักสามสิบนาทีและล้างออกด้วยแชมพูและครีมนวดผม [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
หลีกเลี่ยงไม่สระผมทุกวัน. ต่อมเล็ก ๆ ในเส้นผมจะผลิตน้ำมันธรรมชาติ (ลิพิด) ที่ทำให้ผมเงางามและนุ่มสลวย การสระผมเป็นประจำด้วยสารเคมีที่รุนแรง (ซึ่งมักเป็นส่วนผสมของแชมพูส่วนมาก) จะกำจัดน้ำมันเหล่านี้ ถึงการกำจัดน้ำมันจะจำเป็นอยู่เหมือนกันเพราะหากทิ้งไว้นานเกินไปจะจับตัวกันและทำให้ผมมันได้ แต่การสระผมทุกวันจะชะล้างน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพผมเหล่านี้ออกไป คุณควรสระผมอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้งและไม่มากเกินกว่าสองครั้งต่ออาทิตย์เพื่อรักษาสมดุลที่ดีไว้
-
หลีกเลี่ยงไม่ย้อมผม. การเตรียมสภาพผมก่อนย้อม (ด้วยแอมโมเนีย) จะทำให้เส้นผมอ่อนแอและทำลายต่อมน้ำมันในผม การย้อมสีผมซ้ำ ๆ จะทำให้ผมแห้ง ทื่อและไร้ชีวิตชีวาได้
-
ถอยห่างจากเครื่องมือที่ให้ความร้อน. การใช้ไดร์เป่าผม ที่หนีบผม หรือที่ม้วนผมไฟฟ้าจะทำให้ผมไหม้และแตกปลาย ผมที่แห้ง เปราะบางและเสื่อมสภาพนี้จะกลับมาลื่นสลวยได้ยากและจะดูทื่อและไม่มีชีวิตชีวา พยายามใช้เครื่องมือที่ให้ความร้อนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้หรือไม่ใช้ซะเลย ปล่อยให้ผมแห้งเองเสมอหลังสระ ถ้าจำเป็นต้องเป่าผมก็เป่าแบบไม่ใช้ความร้อนนะ
-
รับประทานวิตามินเสริม. อาหารเสริมบางประเภท เช่น น้ำมันโอเมก้าสาม ฟอสโฟลิพิดในไข่ปลา หรือวิตามินอีจะช่วยทำให้ผมยาวและเงางาม คุณสามารถหาซื้อแคปซูลเสริมอาหารเหล่านี้ได้ตามร้านอาหารเพื่อสุขภาพในท้องถิ่นและรับประทานเป็นประจำทุกวัน
-
เล็มผมแตกปลาย. เมื่อเวลาผ่านไป ผมจะเสียสภาพและแห้งหากคุณไม่เล็มออกและจะทำให้ผมแตกปลาย เล็มปลายผมทุก ๆ สามถึงสี่เดือนแล้วคุณจะเห็นว่าผมของคุณจะเงางามขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิงโฆษณา
-
ชโลมผมด้วยน้ำมันตอนกลางคืน. ก่อนที่คุณจะเข้านอน เคลือบผมด้วยน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันไข่ คลุมด้วยหมวกอาบน้ำและพันผ้าทับ นวดน้ำมันจากรากสู่ปลายผม เข้านอนขณะที่หมักผมด้วยน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันไข่แล้วล้างออกในตอนเช้า [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ดูแลผมด้วยน้ำมันร้อน. อุ่นน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันอัลมอนด์หรือน้ำมันละหุ่งสี่ช้อนโต๊ะ แต่อย่าให้ถึงกับร้อน ชโลมน้ำมันอุ่น ๆ นี้ลงบนผมและใช้นิ้วนวดให้ทั่วรากผมและหนังศีรษะ เมื่อน้ำมันอุ่น ๆ ปกคลุมทั่วเส้นผมแล้ว ครอบทับด้วยหมวกอาบน้ำและพันหมวกอาบน้ำด้วยผ้าขนหนูร้อน ๆ ความร้อนจากน้ำมันและผ้าขนหนูจะช่วยเปิดรูขุมขนบนหนังศีรษะและทำให้น้ำมันเข้าไปในหนังศีรษะและเยียวยารักษาผมได้อย่างน่าอัศจรรย์ อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันร้อนอาจจะทำให้ผมคุณหงอกก่อนวัยอันควรได้โฆษณา
เคล็ดลับ
- ดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ
- ใช้ครีมนวดผมหลังแชมพูเสมอเพื่อเพิ่มความนุ่มให้เส้นผม
- แปรงผมจากล่างขึ้นบน อย่ายีผมให้ฟูบ่อยนัก นาน ๆ ครั้งพอนะ
- ซื้อแชมพูและครีมนวดที่เหมาะกับเส้นผมของคุณ ผมของแต่ละคนต่างกันไปและคุณต้องซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับชนิดเส้นผมของคุณนะ
- สระผมตามปกติ หวีผมตอนสระผมและทิ้งแชมพูกับครีมนวดทิ้งไว้สักห้านาทีก่อนล้างออก หลีกเลี่ยงความร้อนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันผมจากความร้อน อาจจะยุ่งยากอยู่สักหน่อยแต่จะส่งผลดีต่อเส้นผมในระยะยาวแน่นอน!
- ใช้ครีมนวดผมที่บำรุงผมอย่างล้ำลึกหรือดูแลผมให้ชุ่มชื้นอย่างน้อยสองครั้งต่ออาทิตย์เพื่อให้ผมนุ่ม เงางามและแข็งแรง
- ผมของแต่ละคนนั้นต่างกันไป ดังนั้นถามช่างผมดูว่าผมของคุณต้องได้รับการดูแลอย่างไรบ้างเพื่อที่จะได้ดูแลได้อย่างตรงจุด
- ถักเปียข้างให้แน่นในวันที่เร่งรีบ หากอยากให้ผมดูพลิ้วสลวย แกะเปียออกและปล่อยให้ผมสยายออก
- การถักเปียทิ้งไว้ก่อนนอนจะทำให้ผมไม่พันกันและเรียบลื่น
- ดูแลผมด้วยมะดำดีควาย
- ดูแลผมด้วยน้ำมันมะพร้าว
- แปรงผมเป็นประจำและมัดผมทิ้งไว้ก่อนเข้านอน
- อย่าสระผมด้วยน้ำร้อน
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.indiaparenting.com/beauty/article.cgi?art_id=200
- ↑ http://youqueen.com/beauty/hair/is-your-hair-dry-like-sand-10-proven-home-remedies-that-can-help/
- ↑ http://www.sheknows.com/beauty-and-style/articles/967579/tips-to-nourish-your-hair
- ↑ http://www.makeupandbeautyhome.com/2013/03/how-to-get-soft-and-silky-hair-in-2.html
โฆษณา