พุดเดิ้ลทอยนั้นทั้งสดใส ฉลาด ชอบจะเรียกร้องความสนใจและรักที่จะอยู่ข้างเจ้าของของมันอยู่ตลอด มันเป็นสุนัขตัวเล็กที่อดทนและสามารถใช้ชีวิตได้ดีในช่วงวัยรุ่น แต่ในช่วงที่มันเป็นผู้ใหญ่ มันก็อาจจะต้องได้รับการดูแลจากสัตวแพทย์เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะใช้ชีวิตในช่วงชราได้มีความสุข [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Breed Predispositions to Disease in the Canine and Feline. Gough. Publisher: Wiley-Blackwell. 2nd edition การดูแลสุนัขพุดเดิ้ลทอยนั้นหมายถึงการให้ความสนใจและมีความสามารถทางการเงินที่จะมอบสิ่งที่จำเป็นกับมัน เช่น การตัดขนเป็นประจำ การดูแลสุขภาพเมื่อมันอายุมาก และดูแลเพื่อป้องกันโรคต่างๆ เช่น การถ่ายพยาธิ
ขั้นตอน
-
เลือกอาหารสูตรที่เหมาะกับอายุของสุนัข. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุของมัน สุนัขนั้นก็ต้องการระดับของโปรตีน แคลอรี่ และสารอาหารอื่นๆ แตกต่างกัน มีอาหารสุนัขหลายประเภทที่เป็นสูตรสำหรับลูกสุนัข สุนัขโต และสุนัขสูงวัย
- ลูกสุนัข : ลูกสุนัขนั้นต้องการโปรตีนสูงสำหรับกล้ามเนื้อ ต้องการแคลอรี่เพื่อการเติบโต และแคลเซียมเพื่อกระดูกที่มีสุขภาพดี หากเจ้าพุดเดิ้ลทอยของคุณเป็นลูกสุนัขที่มีอายุน้อยกว่า 12 เดือน ก็ควรให้อาหารที่ผลิตมาสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ ปกติแล้วมันจะระบุที่ฉลากว่า "อาหารสำหรับลูกสุนัข" หรือ "สูตรเติบโต" [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Canine Nutrition. Case, Daristotle et al. Mosby. 3rd edition. ให้เลือกอาหารสุนัขสำหรับพุดเดิ้ลทอยโดยเฉพาะ นี่เป็นเพราะว่าขนาดของอาหารเม็ดนั้นจะเล็กกว่าและสำหรับฟันเล็กๆ ของลูกสุนัขแล้วก็จะทำให้เคี้ยวง่ายกว่า
- สุนัขโต : เมื่อสุนัขของคุณมีอายุประมาณ 12 เดือน ให้อาหารเป็นสูตรสำหรับสุนัขโตเต็มวัย ให้อาหารแบบนี้จนมันอายุประมาณ 7 ปี อาหารสุนัขชนิดนี้จะมีคุณค่าทางอาหารที่สมดุลเพื่อมอบสารอาหารที่จะเป็นของสุนัขโตเต็มวัย
- สุนัขสูงวัย : เมื่อพุดเดิ้ลทอยของคุณมีอายุ 7 ปี ให้เปลี่ยนไปเป็นอาหารสูตรสำหรับสุนัขสูงวัย มันจะมีแร่ธาตุอย่างฟอสเฟสที่น้อยลงเพราะไตของสุนัขจะย่อยยาก เมื่อเปลี่ยนไปใช้อาหารสูตรนี้แล้ว มันจะช่วยปกป้องการทำงานของไตของพุดเดิ้ลทอยด้วย [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Canine Nutrition. Case, Daristotle et al. Mosby. 3rd edition.
-
เลือกเป็นอาหารแบบแห้ง. อาหารที่ควรจะให้สุนัขทานนั้นควรเป็นอาหารเม็ดแห้งๆ หรือแบบเปียกที่อยู่ในกระป๋องที่มีบิสกิตผสมเพิ่มด้วย อาหารแบบแห้งนั้นดีต่อสุขภาพฟันของสุนัขมากกว่า เพราะว่าการเคี้ยวบิสกิตนั้นจะช่วยทำให้ฟันสะอาด อาหารเปียกนั้นอาจจะดึงดูดพุดเดิ้ลทอยได้มากกว่า แต่อาหารที่ถุงหรืออาหารกระป๋องเนื้อเหนียวๆ จะติดที่ฟันและทำให้เกิดคราบได้
- หากเป็นไปได้ ให้ฝึกลูกสุนัขให้ทานอาหารแบบแห้งเพื่อช่วยรักษาสุขภาพฟัน
- มองหาอาหารสุนัขที่ผลิตเพื่อสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลทอยโดยเฉพาะ ซึ่งก็จะทำให้การเคี้ยวอาหารเม็ดเป็นปัญหาน้อยลง
-
กำหนดความถี่ของการให้อาหารตามอายุของสุนัข. เมื่อสุนัขของคุณเป็นแค่ลูกสุนัข กระเพาะของมันก็จะยังเล็กและก็จะต้องกินอาหารบ่อยกว่าสุนัขโตเต็มวัย
- ลูกสุนัข : ให้อาหารลูกสุนัขเป็นมื้อเล็กๆ แต่สำหรับกฎปกติจะเป็น 4 มื้อต่อวันจนกว่าลูกสุนัขจะอายุ 3 เดือน อาหาร 3 มื้อต่อวันจนกว่าจะอายุ 6 เดือน อาหาร 2 มื้อต่อวันเมื่อลูกสุนัขอายุ 6 เดือนและตลอดช่วงที่มันโตเต็มวัย
- สุนัขโตเต็มวัยและสุนัขสูงวัย : ให้อาหารสุนัขโตเต็มวัยหรือสุนัขชรา 2 มื้อต่อวัน การให้อาหาร 2 มื้อนั้นเป็นสิ่งที่แนะนำเพราะว่าพุดเดิ้ลทอยนั้นมีเนื้อที่กระเพาะเล็กซึ่งหมายความว่ามันชอบกินอาหารมื้อเล็กๆ แต่บ่อยๆ มากกว่า [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Canine Nutrition. Case, Daristotle et al. Mosby. 3rd edition.
-
ให้สุนัขกินน้ำเยอะๆ. ให้มีถ้วยน้ำสำหรับสุนัขตั้งไว้เสมอ เปลี่ยนน้ำทุกวันและทำความสะอาดชามน้ำทุกๆ 2-3 วันโฆษณา
-
ดูแลขนของสุนัขให้ปราศจากสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ . พุดเดิ้ลนั้นมีขนหยิกเป็นเกลียวและก็จะยาวขึ้นเรื่อยๆ พุดเดิ้ลจะไม่ผลัดขนเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ขนของมันจะร่วงก็จริง แต่ก็จะไปพันกับขนส่วนอื่นๆ ซึ่งนี่หมายความว่าขนของพุดเดิ้ลจะพันกันและเป็นปมได้ง่าย [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง The Dog Groomer's Manual. Gould. Publisher: Crowood.
- ลูกสุนัขนั้นมีขนนุ่ม และก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นขนชุดใหม่ของสุนัขโตเต็มวัยเมื่ออายุประมาณ 6-9 เดือน การเปลี่ยนเป็นขนแบบสุนัขโตเต็มวัยแบบสมบูรณ์นั้นจะเกิดขึ้นจนกว่าสุนัขจะอายุ 18 เดือน
-
ดูแลขนของสุนัขทุกวัน. ใช้เวลา 2-3 นาทีในการดูแลขนของสุนัขทุกวัน ที่ทำเช่นนี้เพราะมีจุดประสงค์ 2 อย่าง นั่นก็คือคุณสามารถทำให้ขนของมันหายพันกันและก็จะเป็นการให้ความสนใจกับมันมากๆ ด้วย
-
ใช้หวีหรือแปรงแข็งๆ. ในการแปรงสิ่งที่ติดอยู่ที่ขน ให้ใช้หวีหรือแปรงที่หาซื้อได้ตามร้านค้าของสัตว์เลี้ยง คุณอาจจะต้องใช้ทั้งสองแบบ โดยใช้หวีตรงบางส่วนของร่างกายของสุนัขและใช้แปรงตรงส่วนอื่นๆ
-
ฉีดพรมน้ำไปที่ขนของสุนัข. ก่อนที่จะเริ่มหวี ให้ฉีดพรมน้ำไปที่ขนของเจ้าพุดเดิ้ลทอย มันจะเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้ขนเกาะกัน มันยังช่วยป้องกันเรื่องขนแห้งจากการพันกันแน่นด้วย
-
หวีไปทีละส่วน. แยกขนออกเป็นส่วนๆและใช้นิ้วมือจับไว้ หวีที่ขนโดยใช้แปรงจากโคนถึงปลาย
- แปรงขนทั้งหมดและขอให้แน่ใจว่าได้หวีที่หลังหูและใต้ท้อง
-
เล็มขนสุนัขทุกๆ 3-8 อาทิตย์. ขนของพุดเดิ้ลทอยนั้นยาวขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องดูแลให้มันเรียบร้อยโดยการเล็ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่ว่าคุณอยากจะให้ขนของพุดเดิ้ลทอยมีความสั้นยาวแค่ไหน แต่เน้นที่การเล็มขนของมันทุกๆ 3-8 อาทิตย์
- ปกติแล้วจะให้ช่างตัดแต่งขนสุนัขเป็นผู้เล็มให้ แต่หากมีกรรไกรตัดขนสุนัขดีๆ การฝึกฝนอยู่ตลอด และใช้เวลาว่างๆ คุณก็สามารถเล็มขนสุนัขด้วยตนเองได้
โฆษณา
-
ลองถอนขนที่หูของพุดเดิ้ลทอย. พุดเดิ้ลทอยนั้นมีแนวโน้มที่จะมีขนเยอะมากๆ ที่รูหู ขนที่ร่างของมันจะยาวมาถึงรูหูและจะทิ่มที่หู ซึ่งก็จะเหมือนการสวมหูฟังที่มีขนตลอดเวลา ให้ตรวจกับสัตวแพทย์เพื่อหาตารางเวลาที่เหมาะสมในการถอนขนที่หู
- ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญก็แตกต่างกันไปว่าควรถอนขนหรือไม่ ผู้ที่สนับสนุนให้ถอนขนนั้นบอกว่าเพื่อให้อากาศหมุนเวียนดีขึ้นและก็ช่วยลดโอกาสที่จะติดเชื้อที่หู และขจัดขนที่จะกักขี้หูออกไปด้วย แต่บางคนก็แย้งว่า การถอนขนที่หูจะทำให้สุนัขเจ็บหูและหูอักเสบ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Canine Internal Medicine Secrets. Ruben. Publisher: Hanley and Belfus.
-
เฝ้าระวังที่หูของสุนัขสำหรับปัญหาต่างๆ. เฝ้าระวังเรื่องหูของสุนัขโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่ถอนขนที่หู ให้ระวังเรื่องการติดเชื้อที่หู (จะมีอาการคือมีกลิ่นเหม็น ขี้หูดำและหนา และมีของเหลวไหลออกมาทางหู) หรือมีวัตถุแปลกปลอมในหู (เกาหูตลอดเวลาหรือเอียงหูไปด้านใดด้านหนึ่ง)
-
ไปพบสัตวแพทย์เพื่อดูว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่. หากคุณสังเกตสัญญาณว่าสุนัขของคุณมีปัญหาที่หู ให้ถามสัตวแพทย์เพื่อตรวจสอบปัญหาสุขภาพ สัตวแพทย์จะแนะนำว่าคุณควรถอนขนที่หูบ่อยขึ้นหรือน้อยลงโฆษณา
-
ใช้แปรงสีฟันของเด็กแปรงฟันสุนัข. เป็นที่รู้กันว่าพุดเดิ้ลทอยนั้นจะชอบมีคราบฟันก่อตัวขึ้น คราบฟันที่ก่อตัวนั้นจะทำให้พุดเดิ้ลทอยมีลมหายใจเหม็นและทำให้เหงือกเสื่อมและฟันหลอ ในการแปรงฟันของมัน ให้ใช้แปรงสีฟันเด็กที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม
- คุณอาจจะใช้แปรงแบบ finger brush ซึ่งสามารถหาได้จากสัตวแพทย์หรือร้านขายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงขนาดใหญ่
- คุณสามารถลดการก่อคราบฟันได้โดยการให้มันกินอาหารแบบแห้ง การกินอาหารแบบเปียกที่จะทำให้เกิดปัญหาที่ฟันยิ่งขึ้น หากสุนัขของคุณกินอาหารเปียก ก็ต้องแปรงฟันให้สุนัขทุกวันเป็นประจำ [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Veterinary Dentistry: A Team Approach. Holmstrom. Publisher Saunders. 2nd edition.
-
ใช้ยาสีฟันสำหรับสุนัข. ยาสีฟันที่ผลิตขึ้นเพื่อสุนัขโดยเฉพาะสามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง อย่าใช้ยาสีฟันของคนกับสุนัข หากสุนัขกลืนยาสีฟันที่มีส่วนผสมอย่างฟลูออไรด์ มันก็จะปวดท้องได้
-
ค่อยๆ แปรงที่พื้นผิวด้านนอกของฟัน. ใช้ยาสีฟันแค่นิดเดียวบนแปรงสีฟัน จัดตำแหน่งของหัวสุนัขเพื่อที่คุณจะได้แปรงฟันให้มันได้ถนัด
-
ให้มันเคี้ยวขนมขัดฟันสุนัข (dental chew) ทุกวัน. หากสุนัขไม่ยอมให้คุณแปรงฟัน ให้มันใช้ขนมขัดฟันทุกวัน มันจะช่วยทำความสะอาดฟันที่ใช้เคี้ยว (ฟันกราม) ที่ด้านในช่องปาก
- มันเป็นเรื่องคุ้มค่าที่จะเสียแรงและเวลาในการดูแลฟันของสุนัขให้สะอาดเพื่อลดจำนวนครั้งของการทำความสะอาดฟันที่สุนัขต้องการ
โฆษณา
-
พาสุนัขที่อายุน้อยไปหาสัตวแพทย์ทุกปี. การดูแลสุขภาพของสุนัขของคุณนั้นก็ต้องพึ่งในส่วนของการไปพบกับสัตวแพทย์อย่างเป็นประจำ สำหรับสุนัขที่มีอายุน้อยกว่า 7 ปี สัตวแพทย์จะตรวจหาสัญญาณของอาการเจ็บป่วย ฉีดวัคซีนใหม่ และรักษาเรื่องเชื้อปรสิตและพยาธิ
-
พาสุนัขที่มีอายุมากไปหาสัตวแพทย์ทุกๆ 6 เดือน. สุนัขที่มีอายุมากกว่า 7 ปีควรไปหาสัตวแพทย์ทุกๆ 6 เดือน สัตวแพทย์จะตรวจหาสัญญาณของอาการเจ็บป่วย ฉีดวัคซีนใหม่ และรักษาเรื่องปรสิตและพยาธิ
-
พาสุนัขไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ และรักษาปรสิต. เจ้าของสุนัขที่มีความรับผิดชอบจะต้องพาสุนัขไปฉีดวัคซีนอย่างเป็นประจำ ถ่ายพยาธิ และรักษาปรสิต อย่าง เห็บ
- การฉีดวัคซีนนั้นเป็นสิ่งสำคัญแม้ว่าคุณจะพาเจ้าพุดเดิ้ลทอยไปทุกๆ ที่หรือมันไม่ค่อยจะออกจากบ้านเท่าไหร่ นี่เป็นเพราะว่าการติดเชื้ออย่างพาร์โวไวรัสที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่ดื้อสุดๆ สามารถติดมาจากรองเท้าของคุณได้ ดังนั้น มันก็ยังเสี่ยงแม้ว่ามันจะเจ้าพุดเดิ้ลที่ได้รับการดูแลดีที่สุด
- พูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับการติดตั้งไมโครชิพให้กับสุนัข ไมโครชิพจะช่วยให้คุณตามรอยสุนัขของคุณได้เมื่อมันหลงไป
-
ทำหมันพุดเดิ้ลทอยเพศเมีย. ปัญหาสุขภาพหนึ่งที่พุดเดิ้ลทอยมักจะเป็นเมื่อมีอายุมากขึ้นก็คือโรคเบาหวาน (diabetes mellitus) ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความต้องการทางเพศในพุดเดิ้ลทอยตัวเมียที่จะกระตุ้นให้เกิดเบาหวานได้ ดังนั้น จะดีกว่าถ้าคุณพาพุดเดิ้ลทอยไปทำหมัน
- หากทำหมันก่อนการติดสัดครั้งที่สองของพุดเดิ้ลทอยตัวเมีย นี่จะมีผลดีในการลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งเต้านมอย่างมากเมื่อมันอายุมากขึ้น พุดเดิ้ลทอยมักจะใช้ชีวิตไปสู่ช่วงวัยรุ่นของมัน เมื่อตัวเมียนั้นติดสัด มันจะทำให้เมือกที่มดลูกอ่อนแอและทำให้มันมีแนวโน้มที่จะมดลูกอักเสบ ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่มดลูกที่มีอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น การทำหมันแม้ว่ามันจะยังแข็งแรงและสุขภาพดีเพื่อลดความเป็นไปได้ที่จะต้องผ่าตัดฉุกเฉินในเวลาต่อมาเมื่อมีการใช้ยาสลบ ซึ่งก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้น [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Breed Predispositions to Disease in the Canine and Feline. Gough. Publisher: Wiley-Blackwell. 2nd edition
- การทำหมันพุดเดิ้ลทอยเพศผู้นั้นไม่ได้ให้ผลดีด้านสุขภาพดีเท่าตัวเมีย การทำหมันตัวผู้นั้นหลักๆ ก็เพราะว่าป้องกันการผสมพันธุ์ที่ไม่ต้องการและเพื่อควบคุมปัญหาด้านพฤติกรรม เช่น นิสัยเกรี้ยวกราด หรือนิสัยชอบใช้อำนาจ
- พูดคุยกับสัตวแพทย์เพื่อเรียนรู้เพิ่ม. ลองถกกับสัตวแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพของสุนัขก็จะทำให้คุณมีไอเดียดีๆ เกี่ยวกับวิธีที่คุณใช้
-
จับตาดูอาการป่วยของสุนัขสูงวัย. ถึงตัวเล็กแต่ก็หายป่วยเร็ว พุดเดิ้ลทอยนั้นมักจะใช้ชีวิตได้ดีในช่วงวัยเด็กและช่วงวัยรุ่น อย่างไรก็ตาม มันมักจะมีปัญหาสุขภาพเมื่อมันมีอายุมากขึ้น เบาหวาน สุขภาพฟันที่แย่ลง และโรคหัวใจ นั้นเป็นสิ่งที่พบได้มากที่สุด ปัญหาสุขภาพเหล่านี้เมื่อระบุได้แล้วก็มักจะสามารถควบคุมได้เพื่อช่วยให้เจ้าสัตว์เลี้ยงของคุณมีอายุยืนนานและใช้ชีวิตอย่างคึกคักอยู่ [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Breed Predispositions to Disease in the Canine and Feline. Gough. Publisher: Wiley-Blackwell. 2nd edition
- มองหาสัญญาณที่บ่งบอกถึงอาการป่วย เช่น กระหายน้ำกว่าเดิม กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ไอ ไม่มีแรง กลิ่นปากเหม็น เคี้ยวลำบาก หรือน้ำหนักลด หากคุณพบอาการเหล่านี้ใดๆ ก็ตาม ให้ไปปรึกษาสัตวแพทย์ [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Breed Predispositions to Disease in the Canine and Feline. Gough. Publisher: Wiley-Blackwell. 2nd edition
โฆษณา
-
ฝึกสุนัขให้นั่งหรือยืนนิ่ง. พุดเดิ้ลทอยนั้นฉลาดมากและชอบที่จะถูกกระตุ้นในการฝึก ทุกครั้งที่คุณให้อาหารมัน ลองสั่งให้มันนั่งหรืออยู่นิ่งๆ ก่อนที่จะวางอาหารในจานของมัน เมื่อมันนั่งหรือยู่นิ่ง ก็วางจานลง การออกคำสั่งทุกครั้งก็จะเป็นการฝึกพุดเดิ้ลทอยให้นั่งและอยู่นิ่งเองโดยที่ไม่ต้องใช้อาหารอื่นเป็นรางวัลเลย
-
ฝึกสุนัขให้วิ่งมาหาเมื่อเรียกมัน. เมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน ใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 นาทีทุกชั่วโมงฝึกสอนให้ลูกสุนัขรู้ชื่อของมัน ให้ทำเช่นนี้โดยการเรียกชื่อของมัน เมื่อมันตอบสนองและวิ่งมาหาคุณ ให้เรียกชื่อมันซ้ำและให้มันกินขนมเป็นรางวัล [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง The Happy Puppy Handbook : Your Definitive Guide to Puppy Training and Early Care. Pippa Mattinson. Ebury Digital Publishing
-
ให้รางวัลสำหรับพฤติกรรมดีๆ. การฝึกทั้งหมดนั้นควรเน้นที่การให้รางวัลซึ่งหมายความว่าให้เพิกเฉยต่อพฤติกรรมที่ไม่ดีและให้รางวัลเมื่อทำดีแทน อย่าพยายามไปดุลูกสุนัขเพราะสิ่งที่คุณสนใจนั้นอยู่ที่รางวัล ไม่ต้องสนใจพฤติกรรมที่ไม่ดีและกระตุ้นให้มันมีพฤติกรรมที่ดี
- ตัวอย่างเช่น ให้เรียกมันมาหาคุณและเมื่อมันมาหา ก็ให้ขนมมัน [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง The Happy Puppy Handbook : Your Definitive Guide to Puppy Training and Early Care. Pippa Mattinson. Ebury Digital Publishing
-
ฝึกสุนัขให้มันใช้เวลากับตัวเอง. พุดเดิ้ลทอยนั้นจะผูกพันกับเจ้าของของมันมากและจะรู้สึกทุกข์ทมและกังวลที่ต้องแยกจากกันเมื่อตอนที่มันต้องอยู่ตัวเดียว ในการป้องกันเรื่องนี้ ให้ฝึกลูกสุนัขของคุณให้ใช้เวลากับตัวเองเป็นตั้งแต่อายุน้อย มันอาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ อย่างเช่นทิ้งมันไว้ในลังเป็นเวลา 10 นาทีขณะที่คุณอยู่อีกห้องหนึ่ง หรือให้มันคุ้นเคยกับการอยู่บ้านตัวเดียวเมื่อคุณออกจากบ้านเพื่อไปทำธุระ [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง BSAVA Manual of Canine and Feline Behaviour. Horwitz & Mills. BSAVA Publications.
-
เล่นกับสุนัขทุกวัน. พุดเดิ้ลนั้นชอบที่จะถูกกระตุ้นทางด้านจิตใจ ดังนั้นให้ใช้เวลาอย่างน้อย 20 นาที 2 ครั้งต่อวันเพื่อเล่นกับมัน
- ให้สุนัขของคุณเล่นจิ๊กซอว์สำหรับสุนัขเพื่อให้มันมีส่วนร่วม มันมีขายในร้านขายสินค้าสำหรับสัตว์หรือทางออนไลน์ [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง The Happy Puppy Handbook : Your Definitive Guide to Puppy Training and Early Care. Pippa Mattinson. Ebury Digital Publishing
- พุดเดิ้ลทอยหลายตัวนั้นชอบที่จะเล่นวิ่งไล่ เช่น การฝึกความคล่องตัวโดยวิ่งไปตามกรวยซึ่งเป็นการฝึกที่ดัดแปลงให้เหมาะกับสุนัขพันธุ์เล็ก [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง BSAVA Manual of Canine and Feline Behaviour. Horwitz & Mills. BSAVA Publications.
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ Breed Predispositions to Disease in the Canine and Feline. Gough. Publisher: Wiley-Blackwell. 2nd edition
- ↑ Canine Nutrition. Case, Daristotle et al. Mosby. 3rd edition.
- ↑ Canine Nutrition. Case, Daristotle et al. Mosby. 3rd edition.
- ↑ Canine Nutrition. Case, Daristotle et al. Mosby. 3rd edition.
- ↑ The Dog Groomer's Manual. Gould. Publisher: Crowood.
- ↑ Canine Internal Medicine Secrets. Ruben. Publisher: Hanley and Belfus.
- ↑ Veterinary Dentistry: A Team Approach. Holmstrom. Publisher Saunders. 2nd edition.
- ↑ Breed Predispositions to Disease in the Canine and Feline. Gough. Publisher: Wiley-Blackwell. 2nd edition
- ↑ Breed Predispositions to Disease in the Canine and Feline. Gough. Publisher: Wiley-Blackwell. 2nd edition
- ↑ Breed Predispositions to Disease in the Canine and Feline. Gough. Publisher: Wiley-Blackwell. 2nd edition
- ↑ The Happy Puppy Handbook : Your Definitive Guide to Puppy Training and Early Care. Pippa Mattinson. Ebury Digital Publishing
- ↑ The Happy Puppy Handbook : Your Definitive Guide to Puppy Training and Early Care. Pippa Mattinson. Ebury Digital Publishing
- ↑ BSAVA Manual of Canine and Feline Behaviour. Horwitz & Mills. BSAVA Publications.
- ↑ The Happy Puppy Handbook : Your Definitive Guide to Puppy Training and Early Care. Pippa Mattinson. Ebury Digital Publishing
- ↑ BSAVA Manual of Canine and Feline Behaviour. Horwitz & Mills. BSAVA Publications.
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,928 ครั้ง
โฆษณา