ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ความรักคือเนื้อหาหลักของบทเพลง บทกวี ภาพเขียน ภาพยนตร์และวรรณกรรมจำนวนนับไม่ถ้วน ทุกคนต้องการความรักแต่ไม่รู้วิธีที่จะได้มันมา [1] คุณจะรับมือกับการตกหลุมรักอย่างไร? ลองดูขั้นตอนที่ 1

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การเจอคนที่ใช่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องมีความมั่นใจและความเคารพในตัวเองเพื่อที่จะตกหลุมรักและเจอคนที่ใช่ คนที่มีความมั่นใจในตัวเองมักจะมีความสัมพันธ์ที่มีความสุขและยืดยาวกว่าคนที่ไม่มีความมั่นใจ มันอาจจะดูยากที่จะเริ่มรักตัวเองในทันทีแต่มันเป็นส่วนที่สำคัญของความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง
    • "แกล้งทำจนกว่าจะได้" คือประโยคที่เรามักจะได้ยินเวลาที่พูดถึงการสร้างความมั่นใจและความเคารพในตัวเองแต่มันคือเทคนิคที่ได้ผลจริง! ยืนตัวตรงและหลังตรง แม้แต่การยืนด้วยท่าทางที่มีพลังก็สามารถสร้างความมั่นใจของคุณได้ ฝึกแกล้งทำตัวมั่นใจทุกวันและคุณจะพบว่ามันค่อยๆ ง่ายขึ้น [2]
    • ปราณีกับตัวเอง สิ่งที่คุณคิดและพูดเกี่ยวกับตัวเองอาจจะโหดร้าย (และไม่จริง) ยิ่งกว่าสิ่งที่คุณพูดถึงศัตรูตัวฉกาจของคุณเสียอีก ไม่มีใครสมบูรณ์แบบเพราะฉะนั้นปราณีกับตัวเองเกี่ยวกับความไม่สมบูรณ์แบบของคุณสักหน่อย เมื่อคุณพบว่าคุณกำลังคิดในแง่ลบเกี่ยวกับตัวเองจงแทนที่มันด้วยความคิดในแง่บวก [3] เช่น เมื่อคุณเริ่มคิดว่า “จมูกของฉันใหญ่เกินไป” ให้เปลี่ยนเป็นความคิดที่ว่า “จมูกของฉันใช้งานได้ดีตลอดหลายปีที่ผ่านมาและทำให้ฉันได้กลิ่นหอมๆ มากมาย"
    • อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น [4] คุณจะต้องเจอคนที่หน้าตาดีกว่า ประสบความสำเร็จมากกว่าหรือฉลาดกว่าคุณ คุณต้องมุ่งเล็งไปที่การเฉลิมฉลองความสำเร็จของคุณและยกย่องความสำเร็จของคนอื่นโดยที่ไม่เปรียบเทียบตัวเองกับใครๆ
  2. มันไม่คำตอบที่ถูกต้องว่าทำไมคุณถึงอยากตกหลุมรักแต่มันมีเหตุผลหลายอย่างที่บ่งชี้ว่าคุณต้องจัดการกับตัวเองก่อนที่จะพร้อมไปตกหลุมรักคนอื่น มันไม่ผิดที่คุณอยากจะมีความสัมพันธ์ที่ดีแต่การวัดคุณค่าของตัวคุณจากความสำเร็จในความสัมพันธ์นั้นๆ จะทำให้เกิดแรงกดดันมากเกินไปกับอีกฝ่ายและกับความสัมพันธ์นั้น
    • สองสามเหตุผลที่คุณควรจะรอก่อนที่จะเข้าไปข้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์คือ: [5] คุณรู้สึกเหงาหรือคิดว่าคุณต้องคนอื่นช่วยเสริมความเคารพในตัวเองของคุณ เพื่อนของคุณทุกคนมีแฟนหรือคุณเชื่อว่าคุณต้องมีแฟนถึงจะมีความสุข เหล่านี้คืออาการของปัญหาที่ลึกลงไปซึ่งคุณไม่สามารถรักษาได้ด้วยการก้าวไปอยู่ในความสัมพันธ์
  3. ไม่ คุณไม่ต้องเขียนรายการสเป๊คของคุณว่าคุณต้องการคนที่มีผมสีนี้ ทำงานแบบนี้ เรียนจบระดับนี้หรือนิสัยแบบนี้ มันไม่มีประโยชน์อะไรในการสร้างคน “ในฝัน” ที่ไม่มีจริง อย่างไรก็ตามคุณควรจะรู้พื้นฐานเล็กน้อยว่าคุณกำลังมองหาอะไร
    • เช่น ในด้านของนิสัย คุณอาจจะกำลังมองหาคนที่มีอารมณ์ขันและสามารถหัวเราะกับตัวเองหรือคนที่ใจดีและใส่ใจผู้คน
    • คุณควรจะเขียนรายการของสิ่งที่คุณ “ไม่” ต้องการด้วยเช่นกัน เช่น อาจจะมีความเกี่ยวข้องบางสิ่งทางการเมืองที่ไม่ใช่สำหรับคุณหรือคุณไม่ต้องการคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ เพื่องานเพราะเขาจะไม่ได้อยู่กับคุณ
    • คุณสามารถแก้ไขรายการนั้นได้ตลอดเมื่อคุณเจอคนที่หลากหลายแต่มันเป็นความคิดที่ดีที่ได้รู้ว่าสิ่งไหนที่คุณมองหานตัวของคนรักในอนาคต มันจะทำให้คุณกำจัดคนที่คุณไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ยืนยาวด้วยได้ง่ายขึ้น
  4. แน่นอนว่าคุณต้องออกไปเจอผู้คนเพื่อที่จะเจอคนที่จะตกหลุมรักด้วย คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักปาร์ตี้ตัวยงหรือทำสิ่งที่คุณไม่อยากทำแต่มันเป็นความคิดที่ดีที่จะลองออกไปจากขอบเขตที่คุณคุ้นชินเล็กน้อย [6]
    • ทำสิ่งที่คุณชอบและเจอผู้คนด้วยวิธีนั้น เช่น หากคุฯชอบอ่านและเขียนก็ลองเข้าชมรมหนังสือหรือกลุ่มคนรักการเขียน หากคุณชอบปีนหน้าผาก็ลองไปยิมที่มีที่ปีนหน้าผาแถวๆ บ้าน
    • ไปทุกๆ ที่ ไปร้านกาแฟหรือร้านหนังสือ (หรือพิพิธภัณฑ์/ห้องสมุด เป็นต้น) และใช้เวลาที่นั่นเป็นกิจวัตรประจำสัปดาห์ ใครจะรู้ว่าคุณจะเจอใครบ้าง?
  5. การทำสิ่งที่ไม่ค่อยได้ทำสามารถช่วยสร้างความตื่นเต้นให้คุณและจะพาคุณออกจากขอบเขตที่คุณคุ้นชินเพื่อเจอกับคนที่หลากหลาย
    • การทำสิ่งที่เบิกบานใจ เช่น การเข้าร่วมในการเคลื่อนไหวทางการเมือง การแสดงทางศิลปะหรือการดิ่งพสุธาอาจจะช่วยอุ้มชูความสัมพันธ์ได้เพราะคุณเริ่มโยงความตื่นเต้นของเหตุการณ์กับผู้คน เพราะฉะนั้นคุณควรออกไปทำสิ่งที่ตื่นเต้นกับผู้คนและดูว่าความรักแบบใดที่จะผลิบาน
    • คุณไม่ต้องทำอะไรที่อันตราย คุณสามารถทำอะไรง่ายๆ เช่น เข้าคอร์สทำอาหารหรือดูแลรถยนต์ ไม่เพียงแต่คุณจะได้ออกจากขอบเขตที่คุณคุ้นเคยแต่คุณยังจะได้เรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ฉะนั้นถึงแม้ว่าคุณจะไม่เจอคนพิเศษคุณก็ยังจะได้รับบางสิ่งที่สำคัญจากกิจกรรมนี้
  6. [7] ถึงแม้คุณจะไปปาร์ตี้และเพื่อนของคุณแนะนำให้คุณรู้จักกับความสนุกและผู้คนที่น่าดึงดูดแต่คุณก็ควรคาดหวังให้กระบวนการนี้ใช้เวลาสักนิด ใจเย็นๆ มันอาจจะใช้เวลาหลายปีเพื่อจะได้เจอคนที่ใช่ ในระหว่างนี้คุณอาจจะเจอคนที่คุณคิดว่าใช่แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ใช้โอกาสเหล่านี้เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ ในที่สุดคุณจะสัมผัสได้ถึงคนที่คุณกำลังตามหา
    • เป็นมิตรและเปิดตัวเองกับคนที่คุณเจอ. แม้คุณจะไม่ตกหลุมรักทันทีที่คุณเจอใครสักคน คุณอาจจะค่อยๆ ชอบเขามากขึ้นๆ สิ่งนี้เกิดขึ้นแม้แต่กับคนที่คุณมักจะไม่สนใจมากมายในทีแรก มันสามารถเป็นสัญญาณว่าคนๆ นี้มีอะไรบางอย่างที่ลึกซึ้ง
    • จำไว้ว่า คนในแบบตรงข้ามกับคุณอาจจะชอบคุณ ปล่อยให้ทุกสิ่งเปิดเผยเล็กน้อยเมื่อคุณเจอคนใหม่ๆ ความสัมพันธืที่ยืนยาวสามารถเกิดจากคนที่มาจากคนละขั้วนิสัยก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การพัฒนาความสัมพันธ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [8] หลังจากที่คุณเจอคนที่สนใจและคนที่คุณคิดว่าคุณน่าจะตกหลุมรักเขาได้แล้วคุณจะต้องคุยกับเขาเรื่องนี้ คุณจะต้องชวนเขาไปออกเดทและดูว่าเขาสนใจคุณเช่นกันหรือไม่ มันอาจจะน่าประหม่าเพราะคุณต้องเปิดใจตัวเองแต่การตามหารักคือการที่จะต้องเสี่ยงกับอารมณ์
    • จริงใจ บอกเธอตรงๆ ว่าคุณชอบเขามากและต้องการดูว่าความสัมพันธ์จะเป็นไปในทางไหน สิ่งที่คุณต้องพูดคือ “นี่ ฉันชอบเธอมากและอยากจะ (ทำกิจกรรมสนุกๆ) กับเธอ”
    • หากเขาปฏิเสธก็ไม่เป็นไร! มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณว่าคุณน่ารักหรือไม่น่ารัก อย่ากดดันเขาเพราะมันจะทำให้เขารำคาญและรู้สึกว่าคุณไม่เคารพเขาและขอบเขตของเขา
  2. การตกหลุมรักคือกรเปิดใจตัวเองทางอารมณ์ให้กับอีกฝ่าย มันคือการที่ต้องเสี่ยงและการเปิดใจและอ่อนแอให้อีกฝ่ายเห็น [9] มันอาจจะน่ากลัวที่ต้องเปิดใจแบบนั้นแต่มันเป็นทางเดียวที่จะทำให้ความสัมพันธ์ลึกซึ้ง
    • คุณต้องจำว่าคนเราเดินเร็วไม่เท่ากันในแง่ของความสัมพันธ์ เพราะฉะนั้นอีกฝ่ายอาจจะใช้เวลามากหรือน้อยกว่าคุณในการเปิดใจทางอารมณ์ ตราบใดที่คุณสื่อสารกันว่าคุณสองคนอยู่ตรงไหนในความสัมพันธ์ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
    • หากอีกฝ่ายไม่แลกเปลี่ยนความเปิดใจหรือความสนใจในการมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อและเปิดเผยคุณก็ต้องเดินหน้าต่อและมองหาคนที่ต้องการความสัมพันธ์แบบเดียวกับคุณมากกว่า
  3. ความเข้ากันที่ลึกซึ้งนั้นสำคัญมากต่อการรับรองความสัมพันธ์ที่ดี (และไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์) ลองดูคนที่คุณคบด้วยและดูว่าคุณเข้ากันได้แค่ไหน [10]
    • ความเข้ากันทางอารมณ์คือการแสดงความรู้สึกที่อ่อนโยนและรักใคร่ต่อกันในรูปแบบที่สร้างสรรค์และเติมเต็ม สิ่งนี้คือการพูดอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น “ฉันขอโทษ” การถาม (และห่วงใย) ว่าเธอเป็นอย่างไรและแสดงว่าคุณมีความหมายต่อกันอย่างไร
    • ความเข้ากันทางกายคือการแสดงออกของความชอบและความใกล้ชิด (ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องเซ็กส์ ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นส่วนประกอบสำคัญในความสัมพันธ์ของใครบางคน) การกอด การโอบ การจับมือและการจูบคือตัวอย่างของความใกล้ชิดทางกาย
    • ความเข้ากันได้ทางสติปัญญาคือคุณรู้สึกเท่าเทียมกับอีกฝ่ายและคุณพูดคุยในเรื่องเดียวกันซึ่งเติมเต็มต่อทั้งสองฝ่ายโดยที่คุณทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องมีอะไรที่เหมือนกัน
  4. การพยายามฝืนตัวเองหรืออีกฝ่ายให้ตกหลุมรักจะไม่ได้ผลและจะทำให้คุณหรือเขารำคาญความสัมพันธ์นี้ในที่สุด การตกหลุมรักคือการละทิ้งการควบคุม เปิดใจให้กับสิ่งที่อีกฝ่ายรู้สึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์เช่นเดียวกับสิ่งที่คุณต้องการจากความสัมพันธ์
    • ละทิ้งความต้องการในการควบคุมผลลัพธ์ของความสัมพันธ์ คุณไม่สามารถรู้ได้ว่าความสัมพันธ์นี้จะเป็นอย่างไรและมันจะลงเอยที่ความรักหรือจะจบ เปิดใจให้กับโอกาสต่างๆ และปล่อยให้มันเป็นไปตามทาง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การสร้างความสัมพันธ์ที่ยืดยาว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. [11] การไว้ใจคนรักคือหัวใจสำคัญข้อหนึ่งของการคงอยู่ในความรักและความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์จะกลายเป็นระเบิดที่จุดชนวนและไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากเป็นส่วนหนึ่งของมันหากปราศจากความไว้ใจ
    • ดูว่าคนรักของคุณเป็นคนที่น่าเชื่อถือและพึ่งพาได้หรือไม่ เขาทำสิ่งที่บอกว่าจะทำหรือเปล่า? คุณล่ะ? การสร้างความไว้ใจและการเป็นคนที่น่าเชื่อถือได้ต้องมาจากทั้งสองฝ่าย
    • คนรักของคุณควรเป็นคนที่คุณสามารถพึ่งพาได้ หากคุณไม่สามารถพึ่งพาเขาได้หรือเขาไม่รักษาสัญญา (เขาโกหก นอกใจหรือไม่น่าไว้ใจ เป็นต้น) เขาก็อาจจะไม่ใช่คนที่คุณอยากจะมีความสัมพันธ์ที่ยืดยาวด้วย คุณไม่ควรคบใครสักคนเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงหรือทำให้เขา “ดีขึ้น”
  2. [12] ทุกๆ ความสัมพันธ์มีความขัดแย้งทั้งนั้น คุณคงไม่เห็นด้วยกับคนรักในทุกๆ สิ่งตลอดเวลาแต่การรับมือกับการทะเลาะด้วยวิธีที่เหมาะสมก็แปลว่าความสัมพันธ์นี้น่าจะยืดยาว
    • สิ่งที่ “ไม่” ควรทำ: เก็บความไม่พอใจ (คุณต้องบอกปัญหาของคุณออกมาก่อนที่มันจะกลายเป็นความบาดหมางค้างคา) การเก็บอารมณ์และปิดตัว (วิธีนี้จะไม่ช่วยแก้ปัญหา) การหนีการทะเลาะและปัญหา (วิธีนี้จะทำให้ปัญหาสะสมจนมันระเบิด)
    • สิ่งที่ควรทำ: แก้ปัญหาและปล่อยมันผ่านไป รับมือกับปัญหาแทนการเล่นงานคนอื่น (การขอให้คนรักช่วยทำงานบ้านแทนการบ่นว่าเขาขี้เกียจ) ใช้ความขันมาแก้ความตึงเครียด (แน่นอนว่ามันต้องมีเวลาที่เหมาะสมสำหรับทุกสิ่งและความขันไม่ได้เหมาะสมตลอดเวลาแต่บ่อยครั้งที่มันสามารถเป็นวิธีที่ดีในการทำให้คุณทั้งคู่สงบลงเพื่อจัดการกับปัญหาได้ดีขึ้น)
    • อย่าขู่ว่าจะเลิกเมื่อทะเลาะกัน หากคนรักขู่คุณแบบนี้ คุณต้องรอจนกว่าสถานการณ์จะเย็นลงเพื่อเตือนเขาว่าสิ่งนี้บั่นทอนความไว้ใจที่คุณมี
  3. การรับรู้สัญญาณของการตกหลุมรัก . มันไม่มีวิธีที่ตายตัวเพื่อรู้ว่าคุณกำลังตกหลุมรัก คนมักจะพูดว่าคุณจะ “รู้” เองหากคุณตกหลุมรักแต่มีบางอย่างที่บ่งชี้ว่าคุณกำลังไปในทิศทางนั้นหากว่าคุณไม่ตกหลุมรักไปก่อนแล้ว
    • คุณสามารถใช้เวลาเงียบๆ ด้วยกันได้ คุณรู้สึกว่าคุณไม่จำเป็นต้องแทนที่ความเงียบด้วยเสียงใดๆ และคุณสบายใจกับกันและกันเพื่อที่ความเงียบนั้นจะไม่รู้สึกอึดอัด คุณรู้สึกดีที่มีกันและกันโดยไม่ต้องทำอะไร
    • คุณคิดว่าเขาเปิ่นๆ น่ารักๆ และไม่น่ารำคาญ หากคุณคิดว่าการที่คนรักทำเสียงเหมือนหมูเวลาที่เขาหัวเราะหรือการที่เขาชอบนอนชิดกำแพงนั้นน่ารักก็อาจจะแปลว่าคุณกำลังตกหลุมรักกับเขา
    • อีกสัญญาณหนึ่งคือคุณตื่นเต้นที่จะแนะนำเขาให้กับครอบครัวหรือเพื่อนของคุณ มันแสดงว่าเขาคือคนสำคัญสำหรับคุณ
    • คุณสามารถเป็นตัวของตัวเองกับเขาได้ สิ่งนี้สำคัญมากเพราะมันแปลว่าคุณรู้สึกว่าคุณเป็นตัวตนที่ดีที่สุดเวลาอยู่กับเขาและคุณไม่รู้สึกว่าคุณไม่ดีพอ (แม้คุณจะไม่ดูสมบูรณ์แบบและสวยงามตลอดเวลาก็ตาม)
  4. พูดถึงความรู้สึกของคุณและดูว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร การสื่อสารคือหัวใจสำคัญในการรักษาความสัมพันธ์
    • อย่าคิดเอาเองว่าคนรักรู้ว่าคุณรักเขา คุณต้องพูดมันออกมา คุณควรผสานความรู้สึกนั้นด้วยกัน มันสามารถกำจัดความประหม่าและลดความกลัวที่ฝังลึกและการพูดความรู้สึกอย่างชัดเจนจะให้ความแน่นอนกับคุณทั้งคู่
  5. [13] กิจวัตรเป็นสิ่งที่ดีและการทำตัวให้สบายๆ กับคนรักก็ดีเช่นกันแต่คุณคงไม่อยากติดอยู่กับความซ้ำซากจำเจ การทำให้ความสัมพันธ์สดใสเสมอคือวิธีที่ดีในการทำให้คุณสองคนสนใจและตั้งใจทำให้ความสัมพันธ์ไปรอด
    • มีคืนสำหรับออกไปเดทกัน คุณทั้งคู่อาจจะยุ่งกับงานและปัญหาอื่นๆ (แม้แต่เรื่องลูก) และลืมให้เวลากับตัวเอง จู่ๆ คุณทั้งคู่ก็เป็นเหมือนเพื่อนร่วมหอที่ไม่เคยเห็นกันและกันว่าเป็นคู่รัก การไปเดทอาจจะทำได้ง่ายๆ เช่น นั่งกอดกันบนโซฟากับภาพยนตร์และป๊อปคอร์นหรือการไปที่ไหนสักแห่ง เช่น ร้านอาหารหรือไนท์คลับ
    • ลองสิ่งใหม่ๆ อย่าไปร้านอาหารเดิมตลอดเวลาที่ไปเดทกัน ลองสิ่งใหม่ๆ ที่คุณทั้งคู่อาจจะชอบ เช่น ไปดิ่งพสุธา เล่นเกมส์ต่อสู้ด้วยเลเซอร์หรือเรียนทำอาหารด้วยกัน การหัวเราะให้กับสิ่งผิดพลาดและค้นหาทักษะใหม่ๆ สามารถดึงคุณทั้งคู่เข้าหากันและสร้างสีสันให้กับสิ่งต่างโดยการออกไปจากขอบเขตแห่งความสบาย
    • ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่คนรักขอร้อง เช่น ซ่อมเสื้อตัวโปรดของเขา ทำสิ่งเหล่านั้นเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องทำ เช่น ล้างจานหลังจากที่เขาทำอาหารเย็นให้ทาน รอยยิ้มหลังจากวันที่เหนื่อยจากงาน กอดและจูบที่อ่อนหวานเพื่อทักทาย บอกคำว่ารักแบบสั้นๆ เมื่อคุณออกจากบ้าน สิ่งเหล่านี้ทำให้เขารู้ว่าคุณนึกถึงเขา
  6. [14] การชื่นชมเป็นส่วนสำคัญของความสัมพันธ์ การรู้สึกซาบซึ้งต่ออีกฝ่ายและการบอกเขาว่าคุณซาบซึ้งที่เขาอยู่ตรงนี้กับคุณจะทำให้ความสัมพันธ์นี้แข็งแกร่งและลึกซึ้ง
    • คุณสามารถทำวิธีเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขอบคุณเขาสำหรับอาหารที่ทำให้ (แม้จะเป็นเมนูธรรมดาๆ) หรือสำหรับการเป็นคนที่คุณสามารถคุยด้วยได้
    • ทำสิ่งที่บ่งบอกว่าคุณชื่นชมเขา หากมีบางสิ่งที่เขาอยากได้ (ดอกไม้ หนังสือหรือกาใบใหม่) คุณก็สามารถซื้อมันและบอกเขาว่าคุณรักและชื่นชมเวลาที่เขาอยู่ตรงนั้นเพื่อคุณ จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องซื้ออะไรเพื่อให้มันดูพิเศษ คุณเพียงแค่เก็บดอกไม้ป่าหรือเขียนการ์ดที่มีค่าสักใบให้เขา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าตกหลุมรักบางคนเพียงเพราะเขาดีต่อคุณหรือปรนเปรอคุณ แต่ควรตกหลุมรักหากเขาแสดงความรักให้คุณ เช่น เป็นคนที่เคารพ น่าไว้ใจและให้กำลังใจ
  • ความรักนั้นน่ากลัว! การเปิดใจและเป็นคนที่ใสซื่อและเปราะบางกับใครสักคนสามารถทำให้คุณทั้งคู่กลัวจนปกป้องตัวเองในบางครั้ง ใจเย็นและใจดีต่อกันและกันและพยายามจำไว้ว่าหากคุณเคยเจ็บมาก่อนแต่ก็ไม่ใช่คนๆ นี้ที่ทำให้คุณเจ็บ ปล่อยอดีตให้ผ่านไปและใช้เวลาปัจจุบันกับรักครั้งใหม่นี้
  • อย่าพูดให้คนรักเสียหาย คุณสามารถปรึกษาเพื่อนที่ไว้ใจได้หากคุณหงุดหงิดแต่อย่าพูดสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับคนรักลับหลังเขา
  • เคารพกันและกัน อย่าด่าเวลาที่โกรธกัน เรียนรู้ว่าความหงุดหงิดสามารถทำให้คุณทำตัวร้าย แทนที่จะทำเช่นนั้น หากคุณโกรธมากและพร้อมที่จะด่าเขาให้คุณพูดว่า “ตอนนี้ฉันโกรธและหงุดหงิดมากและเราไม่ควรคุยกันสักพัก ฉันไม่ได้เดินหนีไปไหนแต่ฉันต้องการเวลาเคลียสมองสักนิด ฉันอยากออกไปเดิน/กลับบ้านและเดี๋ยวฉันจะโทรมาหา/ขอไปนอนก่อนและพรุ่งนี้เราค่อยคุยกัน”
โฆษณา

คำเตือน

  • การมีความรักสามารถให้ความสุขสุดๆ และความเจ็บปวดสุดๆ กับคุณเช่นกัน
  • การมีความรักไม่ได้ให้ความเป็นเจ้าของกับคุณ การหึงหวงเกินไปนั้นไม่ดีและจะทำลายความรักของเขาที่มีต่อคุณ ไว้ใจเขาให้มากพอที่จะเชื่อในความรักของเขาที่มีต่อคุณ ความเป็นเจ้าของและความหึงหวงนั้นน่ากลัว
  • ความมั่งคั่งของบางคนเป็นคุณค่าที่ไม่ดีที่เราไม่ควรเทิดทูนเช่นเดียวกับความถูกใจทางรูปร่างหน้าตา เงินสามารถหายไปในพริบตา สำหรับความสัมพันธ์ที่ยืดยาวนั้นคุณต้องไม่ผูกติดคุณค่าของบางคนกับรายได้ของเขาหากเขาสามารถหาเงินได้มากพอที่จะใช้ต่อสิ่งที่จำเป็นในชีวิต
  • แม้แต่ความรักที่ดูเหมือนจะยืดยาวก็สามารถจบลงได้ หากเกิดอะไรขึ้นมาและความรักของคุณจบลง คุณต้องรักษาแผลของตัวเอง เรียนรู้เท่าที่คุณสามารถจะทำได้และเยียวยาหัวใจ อย่ากลัวที่จะรักอีกครั้ง บางครั้งเราก็เจ็บแต่เมื่อความรักไปได้สวยเราจะรู้สึกวิเศษสุด
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,366 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา