ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เด็กอายุ 6-13 ปีต้องนอนวันละ 9-11 ชั่วโมง ซึ่งคงเป็นเรื่องยากหากคุณนอนไม่หลับ และตัวช่วยให้นอนหลับส่วนใหญ่ก็ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กในวัยนี้ เพราะฉะนั้นคุณจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการธรรมชาติเพื่อช่วยให้ตัวเองหลับ ซึ่งก็มีหลายวิธีที่เด็กอย่างคุณสามารถทำได้เพื่อให้ตัวเองหลับเร็วขึ้น เช่น การใช้เทคนิคผ่อนคลาย สร้างกิจวัตรการนอน สร้างสุขลักษณะการนอนที่ดี และสร้างบรรยากาศที่ช่วยให้คุณนอนหลับสบาย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ใช้เทคนิคผ่อนคลาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในการที่จะทำให้ตัวเองนอนหลับได้นั้น คุณต้องผ่อนคลายจิตใจเสียก่อน และการนับถอยหลังจาก 100 ก็อาจจะช่วยคุณได้ ขณะที่นอนลงบนเตียง ให้หลับตาและเริ่มนับถอยหลังจาก 100 ในใจ (100, 99, 98, 97 ต่อไปเรื่อยๆ) วิธีนี้น่าจะทำให้จิตใจผ่อนคลายขึ้นและช่วยให้คุณนอนหลับได้ [1]
    • ถ้าคุณนับถอยหลังถึง 1 แล้วก็ยังนอนไม่หลับ ให้เพิ่มจำนวน เช่น นับถอยหลังจาก 500 หรือ 1,000 เลยก็ได้
  2. การเขียนบันทึกก็เป็นวิธีที่ดีที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจและเริ่มปรับอารมณ์ก่อนเข้านอน เขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ความกลัวหรือความกังวล หรืออะไรก็ได้ที่คุณอยากเขียน การเรียบเรียงความคิดลงบนกระดาษอาจช่วยให้คุณปล่อยวางได้และหลับง่ายขึ้น [2]
    • เตรียมสมุดบันทึกพิเศษสำหรับเขียนก่อนเข้านอนแต่ละคืน
    • นอกจากนี้คุณยังสามารถเขียนรายการสิ่งที่รบกวนจิตใจของคุณไว้ในสมุดบันทึก หรือคำถามที่คุณอยากถามใครสักคนด้วยก็ได้
  3. นอกจากนี้การฝึกหายใจลึกๆ ยังช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและหลับง่ายขึ้นด้วย ในการฝึกหายใจลึกๆ นั้น ให้นอนหงายในท่าสบายๆ เช่น คุณอาจจะเอาหมอนสักใบสองใบมาหนุนไว้ใต้เท่าและคอ
    • วางมือลงบนหน้าท้อง (ใต้ซี่โครง) โดยการคว่ำมือลงและนิ้วมือชิดกัน
    • จากนั้นหายใจเข้ายาวๆ ช้าๆ เข้าไปในท้อง ระหว่างนั้นหน้าท้องของคุณจะขยายและคุณก็จะรู้สึกได้ว่ามือของคุณขยับขึ้น
    • หลังจากนั้นสัก 2-3 วินาที หายใจออกช้าๆ และรู้สึกถึงหน้าท้องที่ยุบลงระหว่างนั้น
    • ฝึกหายใจซ้ำ 10-15 ครั้ง [3]
  4. การคลายกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นทีละส่วนเป็นวิธีฝึกการผ่อนคลายที่ช่วยปลดปล่อยความตึงเครียดที่อยู่ในร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ถ้าคุณนอนไม่หลับเนื่องจากความรู้สึกตึงเครียดหรือวิตกกังวล วิธีนี้ก็อาจช่วยคุณได้
    • ในการฝึกการคลายกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นทีละส่วนนั้น ให้เริ่มจากการเกร็งกล้ามเนื้อที่นิ้วเท้าก่อน เกร็งไว้ประมาณ 5 วินาที จากนั้นก็คลายและผ่อนคลายนิ้วเท้าประมาณ 30 วินาที [4]
    • ต่อไปก็ให้เขยิบขึ้นมาที่น่อง เกร็งและคลายกล้ามเนื้อตามรูปแบบเดิม ค่อยๆ เกร็งและคลายกล้ามเนื้อไล่ขึ้นมาจนถึงกลางศีรษะ
  5. ขอให้พ่อหรือแม่ชงชาสมุนไพรที่ช่วยผ่อนคลายให้คุณสักถ้วย ชาสมุนไพรหลายชนิดช่วยให้คุณผ่อนคลายและอาจทำให้หลับง่ายขึ้น ชาสมุนไพรที่ควรลองดื่มก็เช่น :
    • ชาคาโมมายล์
    • ชาเปปเปอร์มินต์
    • ชารอยบอส
    • ชาผลไม้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

เริ่มกิจวัตรการนอน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องใช้เวลาในการทำจิตใจให้สบายและเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนเข้านอน การเริ่มกิจวัตรการนอน 30-60 นาทีก่อนถึงเวลานอนจะทำให้ร่างกายของคุณมีโอกาสได้เตรียมพร้อมและผ่อนคลายก่อนเข้านอน [5]
  2. การแช่น้ำอุ่นก่อนนอนช่วยให้คุณผ่อนคลาย คลายกล้ามเนื้อ และทำให้จิตใจสงบ ในการเริ่มกิจวัตรการนอนนั้นให้คุณแช่น้ำอุ่นเป็นอย่างแรก [6] ใช้เจลอาบน้ำที่มีฟองกลิ่นโปรดทำความสะอาดร่างกายและแช่ตัวในอ่างน้ำประมาณ 15-20 นาที จากนั้นใช้ผ้าขนหนูนุ่มๆ และสะอาดเช็ดตัวให้แห้ง
  3. ชุดนอนที่ใส่สบายจะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและนอนหลับได้ดีขึ้น เลือกชุดนอนที่เหมาะกับฤดูกาล เช่น ถ้าเป็นหน้าหนาวและคุณก็มักจะรู้สึกหนาวเล็กน้อยในตอนกลางคืน ให้ใส่ชุดนอนผ้าสำลี แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวที่คุณมักจะรู้สึกร้อนตอนกลางคืน ก็เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าบางๆ เช่น เสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น
    • นอกจากนี้ก็ยังมีสิ่งอื่นๆ ที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้สบายตัวมากขึ้น เช่น ถ้าคุณหนาวเท้า ก็ใส่ถุงเท้า ถ้าคุณรู้สึกว่าห้องร้อน ก็ให้เปิดพัดลม [7]
  4. หลังจากที่คุณสวมชุดนอนแล้ว คุณก็ต้องจัดการธุระส่วนตัวเพื่อให้คุณนอนหลับสนิท แปรงฟัน ล้างหน้า ดื่มน้ำ และเข้าห้องน้ำก่อนเข้านอน [8]
  5. เพลงสามารถช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นตัวเลือกเสริมที่เหมาะกับกิจวัตรการเข้านอนในแต่ละคืน [9] เลือกเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย เช่น เพลงคลาสสิกหรือเพลงแจ๊ซ หรือไม่ก็ฟังเพลงช้าของศิลปินคนโปรดก็ได้ แต่ต้องเป็นเพลงเพราะๆ และสบายๆ เท่านั้น
  6. การหรี่ไฟให้สลัวจะช่วยให้ร่างกายหลั่งเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับที่ร่างกายของเราผลิตขึ้นมา การเปิดไฟสว่างจ้าอาจรบกวนร่างกายไม่ให้สามารถหลั่งเมลาโทนินออกมาได้ [10] คุณไม่จำเป็นต้องปิดไฟทุกดวงก็ได้ เพียงแต่ว่าไฟดวงที่เปิดจะต้องสลัวเท่านั้น [11]
    • เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะเล็กๆ หรือไฟสำหรับเปิดตอนกลางคืนก็จะเป็นไฟสลัวที่ช่วยให้คุณนอนหลับได้
  7. หลังจากที่คุณจัดการธุระต่างๆ ของตัวเองและทำให้ห้องนอนของคุณสบายและน่านอนแล้ว คุณก็สามารถขึ้นเตียงและเริ่มผ่อนคลายตัวเองได้เลย คุณยังไม่ต้องเข้านอนทันทีก็ได้ แต่การขึ้นไปอยู่บนเตียงจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจเริ่มปรับตัวสำหรับการเข้านอน
  8. บางครั้งพอหัวถึงหมอนคุณก็นอนหลับเลย แต่บางครั้งก็ต้องใช้เวลาสักครู่กว่าจะรู้สึกง่วงนอน ถ้าคุณยังไม่ง่วง การพูดคุยกับพ่อ/แม่เบาๆ ก็ช่วยให้คุณผ่อนคลายขึ้นได้ นอกจากนี้คุณก็อาจจะอ่านนิทานก่อนนอนเองหรืออ่านกับพ่อ/แม่เพื่อทำให้ตัวเองง่วงก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

สร้างสุขลักษณะการนอนที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การทำสิ่งอื่นบนเตียงนอกจากการนอนจะทำให้คุณนอนหลับยาก เพราะฉะนั้นอย่าทำอย่างอื่นบนเตียงนอกจากนอน อย่าดูทีวี เล่นวิดีโอเกม หรือทำการบ้านบนเตียง [12]
  2. งดรับประทานอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อยสองชั่วโมง. การรับประทานอาหารใกล้เวลานอนเกินไปจะทำให้หลับยากเพราะร่างกายยังย่อยอาหารอยู่ กำหนดเวลารับประทานของว่างมื้อสุดท้ายก่อนเข้านอนอย่างน้อยสองชั่วโมง เช่น ถ้าเวลานอนของคุณคือสามทุ่ม ก็ให้รับประทานของว่างมื้อดึกประมาณหนึ่งทุ่ม
    • และอย่ารับประทานมากเกินไป รับประทานแค่ของว่างเบาๆ ก็พอ เช่น ขนมปังปิ้งสักแผ่นหรือซีเรียลใส่นมถ้วยเล็กๆ สักถ้วย [13]
    • อย่าดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีกหลังห้าโมงเย็น เพราะมันอาจจะทำให้นอนไม่หลับได้ [14]
  3. ทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายในช่วงครึ่งวันหลัง. การทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานมากๆ หรือทำให้รู้สึกตื่นเต้นอาจจะทำให้คุณนอนหลับในช่วงกลางคืนได้ยาก เพราะฉะนั้นให้ทำกิจกรรมที่ตื่นตัวในช่วงครึ่งวันแรก และครึ่งวันหลังก็เปลี่ยนมาทำกิจกรรมเบาๆ [15]
    • เช่น ขี่จักรยาน เล่นวิดีโอเกม หรือเล่นฟุตบอลตอนบ่าย พอตกเย็นก็อ่านหนังสือและฟังเพลง
  4. การตั้งเวลานอนจะทำให้คุณนอนหลับในช่วงกลางคืนง่ายขึ้น เพราะร่างกายจะเรียนรู้ว่าต้องเข้านอนเวลาไหน คุณต้องเข้านอนเวลาเดียวกันทุกคืนไม่เว้นแม้กระทั่งวันหยุด
    • เช่น ถ้าวันธรรมดาคุณเข้านอนตอนสามทุ่ม ในช่วงวันหยุดก็ให้นอนสามทุ่มเหมือนเดิม
    • นอกจากนี้คุณก็ควรตื่นเวลาเดียวกันทุกวันด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

สร้างบรรยากาศที่เหมาะกับการนอน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ฟูกคุณภาพดี ผ้าปูที่นอนนุ่มๆ และหมอนที่หนุนแล้วสบายสามารถช่วยให้คุณนอนหลับง่ายขึ้น ถ้าฟูกนอนแล้วไม่สบาย ขอให้พ่อแม่ซื้อฟูกหรือท็อปเปอร์ใหม่ให้คุณ ถ้าผ้าปูที่นอนสากหรือนอนแล้วไม่สบายตัว ขอให้พ่อแม่ซื้อผืนที่นอนสบายกว่าเดิมให้ [16]
  2. ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่ที่มีเสียงดังรบกวน คุณก็อาจจะใส่ที่อุดหูหรือเปิดพัดลมเพื่อให้เกิดเสียงสีขาว เสียงสีขาวจะช่วยเพิ่มความดังเสียงที่กลบเสียงรบกวนอื่นๆ และทำให้คุณไม่ตื่นขึ้นมากลางดึก [17]
    • ขอให้พ่อแม่ซื้อม่านกันแสงและเสียงรบกวนให้ เพื่อให้ห้องนอนของคุณเงียบและมืด
  3. คนเราหากนอนในห้องที่อากาศเย็นจะนอนหลับได้สนิทกว่า ซึ่งสำหรับประเทศในเขตร้อนอุณหภูมิห้องควรจะไม่เกิน 27-30 องศาเซลเซียส [18] ถามพ่อแม่ว่าคุณสามารถปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศได้หรือไม่ หรือคุณจะเปิดพัดลมเพื่อให้ห้องเย็นขึ้นก็ได้
  4. การทำให้ห้องนอนเป็นสถานที่ที่น่าอยู่และอบอุ่นจะทำให้คุณนอนหลับสนิทได้ง่ายขึ้น นำภาพถ่ายเพื่อนๆ และครอบครัวไปวางไว้ใกล้ๆ เตียงนอน เลือกภาพที่ทำให้คุณยิ้มได้และมีความสุข [19]
  5. การเข้านอนโดยที่มีของอุ่นใจ เช่น ตุ๊กตา ผ้าห่ม หรือตุ๊กตาสัตว์ยัดนุ่นอยู่ข้างๆ ทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยและหลับได้เร็วขึ้น เพราะฉะนั้นอย่าลืมหยิบของเล่นชิ้นโปรดหรือผ้าห่มมาด้วยก่อนเข้านอน [20]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ยาบางชนิดอาจรบกวนการนอนได้เช่นกัน ปรึกษาพ่อแม่หากคุณคิดว่ายาอาจทำให้คุณนอนไม่หลับ แพทย์อาจจะต้องเปลี่ยนปริมาณยาหรือจ่ายยาตัวอื่นแทน แต่อย่าหยุดยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ถ้าคุณไม่มีไฟสำหรับเปิดตอนกลางคืน การวางไฟฉายไว้ใกล้ๆ (แต่ไม่ต้องเปิด) ตอนเข้านอนจะช่วยให้คุณรู้สึกปลอดภัยขึ้น
  • ถ้าคุณโตเกินกว่าจะให้ตุ๊กตาสัตว์ยัดนุ่นหรือผ้าห่มมานอนเป็นเพื่อนแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นสัตว์เลี้ยงหรือหมอนแทน
  • อาหารเสริมที่ช่วยในการนอนหลับบางชนิด (เช่น เมลาโทนิน) นั้นปลอดภัยสำหรับเด็ก แต่ก็อย่าพึ่งพามันมากเกินไป เพราะถ้าใช้เป็นประจำก็อาจเป็นอันตรายและ/หรือติดได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณยังคงมีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ ให้บอกพ่อแม่และขอให้พ่อแม่พาไปพบแพทย์ เพราะอาจจะมีสาเหตุมาจากความผิดปกติด้านการนอนหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ก็ได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,597 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา