ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ถ้าตอนจะเซฟไฟล์ลง microSD card แล้วเจอ error ว่าการ์ดนี้ติด write-protected หรือเป็นแบบ read-only เซฟไฟล์ไม่ได้ แสดงว่าเป็น error ที่ทำให้แก้ไขและย้ายไฟล์สำคัญไม่ได้ เรียกว่าแทบจะใช้งาน microSD นั้นไม่ได้เลย โชคดีที่แก้ไขได้หลายวิธีด้วยกัน แค่ว่าบางวิธีอาจจะยุ่งยากกว่าเล็กน้อย บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการแก้ไข read-only error ให้คุณเซฟไฟล์ลง microSD card ของ Transcend ได้
ขั้นตอน
-
หาสวิตช์ write protection. ถ้าจะเซฟไฟล์จากคอมลง microSD ที่ adapter ของ microSD อาจจะมีสวิตช์ write protection โดยจะอยู่ด้านซ้ายบนของ adapter
-
เลื่อนสวิตช์ไปที่ unlocked. เลื่อนสวิตช์ขึ้นไปจนสุด เพื่อปิด write protection
-
ถ้ามีรอยบากด้านขวาของ adapter ให้ติดด้วยเทป. บางอุปกรณ์ก็เซฟไฟล์ลง microSD card ไม่ได้ ถ้ามีรอยบากนี้ที่ adapter ให้ใช้เทปชิ้นเล็กๆ ติดทับรอย อุปกรณ์อื่นจะอ่านข้อมูลจาก adapter ได้ตามปกติโฆษณา
-
เปิดโปรแกรม Run โดยกด ⊞ Win + R . หน้าต่างใหม่ชื่อ “Run” จะโผล่มาด้านบน โปรแกรม Run นี้ให้คุณเปิดแอปและ run ไฟล์ต่างๆ ได้ทันที แค่พิมพ์ชื่อ
-
พิมพ์ diskpart แล้วคลิก Ok . เพื่อเปิดหน้าต่าง Command Prompt ใหม่ โดยที่เคอร์เซอร์จะไปอยู่หลังข้อความ “DISKPART>” [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
พิมพ์ list disk แล้วกด ↵ Enter . จะเห็นรายชื่อไดรฟ์ต่างๆ ในคอมโผล่มาเป็นแถว โดยมีหมายเลข สถานะ ขนาด และพื้นที่ว่างของแต่ละไดรฟ์ให้ดู
-
หาเลขประจำไดรฟ์ของ microSD card. วิธีเช็คเลขประจำไดรฟ์ของ microSD card ได้เร็วที่สุด คือดูขนาดของแต่ละไดรฟ์ ให้มองหาไดรฟ์ที่ขนาดเท่ากับ microSD card ที่ใช้
-
พิมพ์ select disk (เลขประจำไดรฟ์) แล้วกด ↵ Enter . เพื่อให้คอมรู้ว่าต้องใช้คำสั่งต่อไปกับไดรฟ์นั้น หรือก็คือเจาะจง microSD card นั้นนั่นเอง จะมีบรรทัดข้อความโผล่มาว่า “Disk (เลขประจำไดรฟ์) is now the selected disk.”
-
พิมพ์ attributes clear disk readonly แล้วกด ↵ Enter . เป็นคำสั่งแก้ทุกไดรฟ์ที่ขึ้นว่า read-only เลยทำให้ microSD card นั้นไม่ติด write-protected อีกต่อไป โดยบรรทัดข้อความถัดมาจะขึ้นว่า “Disk attributes cleared successfully.”โฆษณา
-
เปิดโปรแกรม Run โดยกด ⊞ Win + R . หน้าต่างใหม่ชื่อ “Run” จะโผล่มาด้านบน โดยโปรแกรม Run ให้คุณเปิดแอปและ run ไฟล์ต่างๆ ได้ทันที แค่พิมพ์ชื่อ
-
พิมพ์ regedit แล้วคลิก Ok . เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่ชื่อ “Registry Editor” ขึ้นมาด้านบน
-
ไปที่ file path HKEY_LOCAL_MACHINE/SYSTEM/CurrentControlSet/Control . ใน “Computer” ให้คลิกลูกศรขยายลงมาทางซ้ายของ “HKEY_LOCAL_MACHINE” ในโฟลเดอร์นั้น ให้คลิกลูกศรขยายลงมาข้าง “SYSTEM” แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
-
สร้าง key ใหม่ชื่อ “StorageDevicePolicies”. ถ้ามีโฟลเดอร์ชื่อนี้อยู่แล้วในโฟลเดอร์ “Control” ก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้ แต่ถ้าไม่มี ให้สร้างก่อน ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- คลิกขวาที่โฟลเดอร์ Control
- คลิกเมนู New
- คลิก Key
- พิมพ์ StorageDevicePolicies แล้วกด Enter
-
เปิด StorageDevicePolicies แล้วสร้างเอนทรี่ DWORD ใหม่. คุณสร้าง entry ใหม่ได้โดยคลิกขวา panel ที่มีไฟล์ชื่อ “(DEFAULT)” แล้วเลือก DWORD (32-bit) Value จากในเมนู New
-
เปลี่ยนชื่อเอนทรี่ DWORD WriteProtect . ไฟล์นี้จะบอกให้คอมรู้ว่าอุปกรณ์นั้นติด write-protected หรือเปล่า คุณจะได้แก้ไขไฟล์และเปลี่ยนสถานะ protection ได้
-
เปิด WriteProtect แล้วเปลี่ยนค่าเป็น “0”. ดับเบิลคลิกไฟล์แล้วจะมีช่อง “Edit DWORD (32-bit) Value” โผล่มา ถ้าค่า “Value data” ไม่ใช่ “0” ให้เปลี่ยนเป็น “0”
-
คลิก Ok แล้วรีสตาร์ทคอม. รีสตาร์ทคอมแล้วค่าใหม่จะมีผลทันที ต่อไปก็น่าจะเซฟไฟล์ลง microSD card ได้แล้วโฆษณา
-
เปิดโฟลเดอร์ microSD ใน Finder. microSD น่าจะขึ้นในหัวข้อ “Locations” ตรงกรอบซ้ายมือของ Finder
-
หาไฟล์ที่เป็น read-only. คุณเช็คแต่ละไฟล์ได้โดยคลิกขวาที่ไฟล์ คลิก Get Info แล้วมองหาชื่อบัญชีตัวเองในหัวข้อ “Sharing and Permissions” ด้านล่างของหน้าต่าง
- คุณเช็คการอนุญาตสิทธิ์ (permissions) ได้ทีเดียวหลายไฟล์แบบทันใจ แค่คลิกไฟล์ แล้วคลิก ⌘ Command + ⌥ Option + I หน้าต่าง pop-up จะอัปเดททันทีตามไฟล์ที่เลือก ก็เช็คข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว โดยไล่ไปตามแถวของไฟล์ด้วยปุ่มลูกศร
-
เปลี่ยนการอนุญาตสิทธิ์ (permissions) ของไฟล์ read-only ไหนก็ได้. ในหัวข้อ “Sharing and Permissions” ให้หาชื่อตัวเอง แล้วคลิก Read only ข้างๆ จากนั้นเลือก Read & Write จากในเมนูที่โผล่มาโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,626 ครั้ง
โฆษณา