ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเช็ค Random Access Memory (หรือ RAM) ที่ติดตั้งไว้ในคอมหรือ iPad โดย RAM นั้นเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คุณเปิดและใช้งานโปรแกรมต่างๆ ได้อย่างลื่นไหลไม่สะดุด RAM จะเก็บข้อมูลที่โปรแกรมต่างๆ ใช้เพื่อเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว คุณสามารถเช็ค RAM ใน Windows, macOS, และ chromeOS โดยใช้เมนูที่มีมาให้ การเช็ค RAM ใน iPad นั้นจำเป็นต้องทราบหมายเลขรุ่น

สิ่งที่คุณควรรู้

  • สำหรับผู้ใช้ Windows ตรวจ RAM ที่ติดตั้งมาโดยไปที่ Settings > System > About > Installed RAM อีกทางเลือกคือเปิด Task Manager ด้วย Ctrl + Shift + Esc เพื่อดูการใช้หน่วยความจำของคุณ
  • สำหรับ macOS จะเช็ค RAM ให้ไปที่ Apple menu > About This Mac > Overview > Memory
  • หากคุณใช้ Chromebook ไปที่ chrome://system ใน Google Chrome และขยายส่วนของ meminfo
  • ในการหาจำนวนหน่วยความจำของ iPad ไปที่ https://support.apple.com/en-us/HT201471 และมองหาเลขรุ่นของ iPad จากนั้นคลิกลิงก์เพื่อดูข้อมูลจำเพาะและจำนวน RAM
วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

Windows

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คลิกไอคอนรูปฟันเฟือง ที่ด้านซ้ายล่างของหน้าต่าง Start เพื่อเปิดหน้าต่าง Settings
  2. ที่เป็นไอคอนรูปแล็ปท็อป ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง
  3. ที่มุมซ้ายล่างของหน้าต่าง System เพื่อเปิดรายการข้อมูลของคอม
  4. ในหัวข้อ "Device specifications" แถวๆ กลางหน้าอีกที เลขทางขวาของหัวข้อ "Installed RAM" คือ RAM ที่ติดตั้งไว้ในคอม
  5. เช็ค RAM usage ของคอม . ถ้าอยากรู้ว่าคอมใช้ RAM ไปเท่าไหร่ (หรือใช้อยู่ ณ ตอนนั้น) ให้ใช้โปรแกรม Task Manager
    • ถ้าเช็ค RAM ตอนกำลังเปิดโปรแกรม จะเห็นเลยว่าโปรแกรมนั้นต้องใช้ RAM มากแค่ไหน ถึงจะทำงานได้ลื่นไหล
    เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

    Spike Baron

    วิศวกรเครือข่ายและดูแลคอมพิวเตอร์
    สไปค์ บาร์รอนเป็นเจ้าของ Spike's Computer Repair ซึ่งด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปีในด้านเทคโนโลยีของเขา ทำให้ร้านมีความเชี่ยวชาญในการซ่อมดูแลคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบ PC และ Mac การกำจัดไวรัส การกู้คืนข้อมูล การอัพเกรดทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ และการขายคอมพิวเตอร์มือสอง เขาได้รับประกาศนียบัตร CompTIA A+ และเป็นช่างซ่อมที่ทาง Microsoft ให้การรับรอง
    Spike Baron
    วิศวกรเครือข่ายและดูแลคอมพิวเตอร์

    จะรู้ได้อย่างไรว่า RAM นั้นเสียหาย? สไปค์ บารอน (Spike Baron), วิศวกรเครือข่ายอธิบายว่า: "สองวิธีหลักๆ ที่จะดูว่า RAM เสียหายคือถ้าคอมพิวเตอร์ของคุณไม่บู้ตเครื่องหรือถ้าคุณเห็นหน้าจอสีฟ้า นี่คือสองสิ่งหลักที่จะเกิดขึ้นหาก RAM เสียหาย"

    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

Windows Task Manager

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นี่จะแสดงเมนูว่ามีเครื่องมือใดกำลังทำงานบนคอมพิวเตอร์บ้าง คุณสามารถตรวจจำนวนหน่วยความจำที่ใช้ได้ที่นี่
  2. เปอร์เซนต์ด้านบนแสดงว่า RAM กำลังใช้ไปแค่ไหนในขณะนี้ จำนวนในแท่งบอกปริมาณหน่วยความจำที่ใช้อย่างละเอียด
  3. นี่จะเปิดแถบการทำงานของ Task Manager.
  4. นี่จะแสดงว่าคอมพิวเตอร์ใช้ RAM ไปแค่ไหนและมีทั้งหมดเท่าไหร่ ตัวเลขอาจน้อยกว่า RAM ที่บอกในเครื่องเล็กน้อย ทั้งนี้เพราะ RAM บางจำนวนถูกใช้ในเครื่องมือของระบบที่ไม่แสดงบน Task Manager หรือเพราะอาจถูกสำรองไว้ในระบบโดยเครื่อง
  5. คุณสามารถดู RAM ในส่วน Memory ของแถบ Performance ว่า:
    • Speed - ความเร็วที่ใช้สำหรับ RAM ที่ถูกติดตั้งมา
    • Slots ที่ใช้ - จำนวน RAM slots ที่ติดตั้ง RAM มา เช่น คุณอาจมี RAM 4 GB สองแท่งติดตั้งมา รวมกันได้ 8 GB
    • Form factor - ชนิดของ RAM ที่ติดตั้งมา
    • Hardware reserved - นี่คือหน่วยความจำที่ถูกสำรองไว้ในระบบโดยเครื่อง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

Mac

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเปิดหน้าต่าง About This Mac
  2. ที่เป็น tab ด้านซ้ายบนของหน้าต่าง About This Mac
    • ปกติ tab Overview จะเปิดขึ้นมาตามค่า default เวลาเปิด About This Mac
  3. เลขทางขวาของหัวข้อ "Memory" คือ RAM ที่ติดตั้งไว้ใน Mac รวมถึงมีประเภท RAM ที่ใช้อยู่ด้วย
  4. เช็ค RAM usage ของ Mac . ถ้าอยากรู้ว่า Mac ใช้ RAM ไปเท่าไหร่ (หรือใช้อยู่ ณ ตอนนั้น) ให้ใช้โปรแกรม Activity Monitor
    • ถ้าเช็ค RAM ตอนกำลังเปิดโปรแกรม จะเห็นเลยว่าโปรแกรมนั้นต้องใช้ RAM มากแค่ไหน ถึงจะทำงานได้ลื่นไหล
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

Chromebook

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นี่เป็นเบราเซอร์พื้นฐานบน Chromebooks เป็นไอคอนที่มีวงกลมสีแดง เขียวและเหลืองล้อมรอบวงกลมสีฟ้าที่เล็กกว่า
  2. แล้วกด enter เพื่อเปิดหน้า system specifications
  3. นี่จะเปิดลิสต์ที่แยกหน่วยความจำของ Chromebook ออกมา
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

หมายเลขรุ่น iPad

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มักจะอยู่ทางฝาหลังของอุปกรณ์ คุณจะใช้ตัวเลขนี้หาข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคสำหรับอุปกรณ์
  2. ไปที่ https://support.apple.com/en-us/HT201471 . นี่เป็นเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple ที่จะแสดงหมายเลขรุ่นของ iPad ทุกรุ่น
  3. ใช้ find feature ของเบราเซอร์หาหมายเลขรุ่น
    • ปุ่มลัดบน Windows PC เพื่อหาข้อความบนหน้าเว็บคือ ctrl + f
    • สำหรับ macOS มักเป็น cmd + f
    • บนเบราเซอร์ของโทรศัพท์มือถือ เครื่องมือค้นหามักอยู่ตรงเมนู More
  4. เมื่อ <iPad Model> เป็นชื่อรุ่นของอุปกรณ์แท็บเล็ตของคุณ
  5. ตรงนี้จะพบจำนวน RAM ของรุ่น
    • อีกทางคือลองแอป Smart Memory Lite สำหรับ iPad มันจะแสดง RAM ทั้งหมดและหน่วยความจำที่ถูกใช้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • แอพ Smart Memory Lite นั้นใช้ได้ทั้งใน iPad และ iPhone
  • RAM เรียกอีกอย่างว่า "memory" ซึ่งเป็นคนละอย่างกับพื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์ ถ้า hard disk space นั้นจะเรียกว่า "storage"
  • คุณ เช็คพื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์ของคอม ได้ด้วย
โฆษณา

คำเตือน

  • คอมแบบ 32-bit จะติดตั้ง RAM ได้แค่ 4 GB เพราะงั้นติดตั้งเพิ่มไปก็เสียเงินและเสียเวลาเปล่า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 153,590 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา