ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
ปกติลูกแมวก็ชอบขับถ่ายในดินในทรายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าคุณฝึกให้ใช้กระบะทราย รับรองว่าลูกแมวจะชอบจนลืมอึฉี่บนพรมของคุณไปเลย ยิ่งคุณฝึกลูกแมวให้ใช้กระบะทรายเร็วเท่าไหร่ ลูกแมวก็จะขับถ่ายเป็นที่เป็นทางเร็วขึ้นเท่านั้น จุดสำคัญคือคุณต้องหากระบะทรายที่เหมาะสมกับลูกแมวของคุณ จากนั้นก็พยายามฝึกฝนจนเป็นนิสัย แต่บอกเลยว่าฝึกแมวให้ "ใช้กระบะทราย" นั้นง่ายกว่าฝึกหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทางเยอะเลย จริงๆ แล้วก็แทบจะไม่ต้องสอนอะไรเลย แค่ลูกแมวเห็นกระบะทราย ก็จะรู้เองตามสัญชาตญาณว่าต้องทำยังไงต่อไป เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องจัดหากระบะทรายที่ใช้ง่ายและเหมาะสมกับลูกแมว [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ The Humane Society of the United States ไปที่แหล่งข้อมูล
ขั้นตอน
-
เลือกกระบะทรายที่ใหญ่หน่อย. จริงๆ กระบะทรายเล็กๆ สำหรับลูกแมวตัวจิ๋วก็มี แต่บอกเลยว่าแมวโตเร็วมาก ถ้าเปลี่ยนกระบะทราย แมวก็ต้องมาทำความคุ้นเคยกันใหม่อีก เพราะงั้นเลือกกระบะทรายที่จะใช้ไปตลอดแต่แรกเลยดีกว่า
- ไม่ต้องห่วง ลูกแมวเข้าออกกระบะทรายใหญ่ๆ ได้สบาย ขอแค่มีฝั่งหนึ่งที่เตี้ยพอให้แมวก้าวเข้าไปได้ หรือถ้าคุณเจอกระบะทรายแจ๋วๆ แต่ไม่แน่ใจว่าลูกแมวจะปีนเข้าไปใช้ได้ไหม ก็ให้ใช้ไม้อัดหรือแผ่นอะไรที่เรียบๆ แต่ไม่ลื่นมาพาดทำทางขึ้นก็ได้ แล้วใช้เทปกาวยึดไว้กับขอบกระบะทราย พอลูกแมวโตพอ เข้าไปเองได้ ก็ค่อยเอาออก
-
เลือกกระบะทรายแบบที่มีหลังคา. กระบะทรายหลายแบบเลยที่มีหลังคา ข้อดีของกระบะทรายแบบนี้คือทรายจะไม่กระเด็น ถึงน้องเหมียวของคุณจะชอบขุดหรือสะบัดแข้งขาแค่ไหนก็ตาม แถมยังลดกลิ่นรบกวนสำหรับคนที่วางกระบะทรายในห้องนั่งเล่นหรือมุมใดก็ตามของบ้าน ที่สำคัญคือน้องแมวชอบด้วย เพราะดูเป็นส่วนตัวปลอดภัยดี [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
- ถ้าเป็นกระบะทรายแบบมีหลังคา ขอให้เลือกไซส์ใหญ่หน่อย เพราะแมวต้องการพื้นที่ไว้ให้กลับตัวง่ายๆ ตอนทำธุระ ก็แมวน่ะตามธรรมชาติชอบดมอึตัวเองแล้วค่อยกลบ กระบะทรายก็เลยต้องใหญ่ตาม จะได้สะดวก [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
- แมวบางตัวอาจไม่ถูกชะตากับกระบะทรายแบบมีหลังคาตอนแรกเห็น เรื่องนี้คุณช่วยได้โดยถอดประตูบานพับของกระบะทรายออกไปก่อนชั่วคราว จนกว่าแมวจะเริ่มเคยชินกับกระบะทราย
-
เลือกทรายแมว. บอกเลยว่าทรายแมวมีด้วยกันมากมายหลายแบบ ซึ่งจริงๆ แล้วจะเลือกแบบไหนก็ใช้กับแมวรุ่นหรือแมวโต (8 เดือนขึ้นไป) ได้ทั้งนั้น แค่ขอให้ฝุ่นน้อยๆ หน่อย (dust-free) เพราะเดี๋ยวจะเป็นอันตรายต่อปอดของแมว [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง นอกจากนี้ เราก็มีหลักง่ายๆ ในการเลือกทรายแมวมาฝากกัน
- อย่าใช้ทรายแมวที่ชอบจับตัวเป็นก้อน เพราะหากแมวกินเข้าไป (ซึ่งจะกินแน่) มันจะไปจับตัวในท้องแมวและทำให้เกิดอาการท้องอืดอย่างรุนแรงได้
- เลือกทรายแมวที่ไม่แต่งกลิ่น เพราะกลิ่นสังเคราะห์อาจรบกวนแมว/ลูกแมวของคุณได้ ถ้ากลิ่นแรงเกินไปนี่แมวอาจหนีไปทำธุระที่มุมอื่นของบ้านแทน [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ที่อันตรายกว่าคือบางกลิ่นอาจทำจมูกและตาของแมวระคายเคืองได้ โดยเฉพาะแมวที่มีปัญหาเรื่องทางเดินหายใจอยู่แล้ว
- เลือกทรายที่จับตัวเป็นก้อน ตักออกง่าย เดี๋ยวนี้คนก็นิยมใช้กัน เพราะอึฉี่จะรวมตัวกับทรายเป็นก้อน หยิบออกง่ายชะมัด แต่เขาก็ว่ากันว่าแมวอาจเป็นอันตรายถ้าเผลอกินทรายแบบนี้เขาไปเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจนแต่อย่างใด [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Society for the Prevention of Cruelty to Animals ไปที่แหล่งข้อมูล
- เลือกทรายแมวยี่ห้อดังหน่อย นอกจากน่าเชื่อถือแล้วยังหาซื้อง่าย เพราะแมวบางตัวนี่ติดทรายเดิมๆ ถ้าคุณไปเปลี่ยนนี่ลืมไปเลยว่ากระบะทรายตัวเอง ไม่ยอมใช้จนกว่าทรายเดิมจะกลับมา
-
ใช้ที่ตักอึและผ้าปูรอง. อุปกรณ์ปิดท้ายก่อนเริ่มฝึกน้องแมวให้ใช้กระบะทราย ก็คือที่ตักอึแมวกับผ้าหรือแผ่นยางไว้ปูรองใต้กระบะทราย ทรายจะได้ไม่กระเด็นไปทั่วจนเลอะเทอะไปหมดโฆษณา
-
วางกระบะทรายตรงมุมสงบ. อย่าไปวางตรงมุมพลุกพล่านของบ้าน อย่างในครัวหรือกลางโถงทางเข้า จุดเหมาะๆ คือจุดที่แมวเข้าไปใช้ง่าย เงียบสงบ ลับตาคนหน่อย และไม่มีเสียงรบกวนจนแมวตกใจกลัว [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
- บางคนอาจมองว่า laundry room หรือห้องซักผ้าน่าจะเป็นจุดที่ดีในการวางกระบะทราย เพราะเงียบสงบกว่าจุดอื่นๆ ของบ้าน นานๆ ทีคนถึงจะแวะเข้ามา แต่บอกเลยว่าเสียงเครื่องซัก-อบผ้าที่อยู่ๆ ก็หยุด อยู่ๆ ก็ดังขึ้นมา จะทำเอาแมวขยาดจนไม่กล้าใช้กระบะทรายอีกเลย [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
- กระบะทรายควรอยู่ในจุดที่ลูกแมวอยู่บ่อยที่สุด เรียกว่าลูกแมวมองไปเห็นกระบะทรายได้ตลอด ถ้าอยากใช้เมื่อไหร่ก็ได้ทันที
- ทั้งลูกแมวและแมวโตรักความเป็นส่วนตัว เพราะงั้นถ้ารู้สึกตรงกันข้าม จะหนีหายไปแอบฉี่อึตามหลังโซฟาหรือมุมหลับตาคนทันที ทีนี้ล่ะยุ่ง [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าฝึกลูกแมวให้เคยชินกับกระบะทรายแล้ว แต่มีเหตุให้ต้องเคลื่อนย้าย ก็ให้ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่างขยับแค่ครั้งละไม่กี่ฟุต ทุก 2 - 3 วัน เพราะถ้าอยู่ๆ วันรุ่งขึ้นก็ย้ายกระบะทรายไปไกลซะอีกห้อง แมวอาจจะสับสนจนอึฉี่ผิดที่ผิดทางเลอะเทอะไปทั่ว อีกวิธีที่น่าสนใจคือเอาชามอาหารของน้องเหมียววางทับที่ที่เคยมีกระบะทราย เพราะแมวส่วนใหญ่จะไม่ขับถ่ายใกล้กับบริเวณที่ตัวเองกินอาหารแน่นอน
-
อุ้มลูกแมวไปวางในกระบะทรายที่จัดเตรียมพร้อมใช้. พาลูกแมวตัวใหม่เข้าบ้านเมื่อไหร่ ให้อุ้มไปวางในกระบะทราย ลูกแมวจะได้ทำความคุ้นเคยกับกลิ่นและสัมผัสของทรายแมว ปล่อยไว้แบบนั้น 2 - 3 นาที ถึงลูกแมวยังไม่อึฉี่ก็ไม่เป็นไร ต่อไปหลังกินอาหารและตอนตื่นนอนก็ให้พาลูกแมวมาที่กระบะทรายอีก รวมถึงเวลาไหนก็ตามที่คุณคิดว่าลูกแมวน่าจะปวดอึปวดฉี่ พูดง่ายๆ คือถ้าเห็นแมวนั่งยองๆ ที่อื่นเมื่อไหร่ ให้รีบอุ้มไปใช้กระบะทรายทันที
- ลูกแมวบางตัวแค่อุ้มไปวางในกระบะทรายก็เข้าใจทันทีโดยไม่ต้องฝึกฝนแต่อย่างใด แต่บางตัวคุณอาจต้องหมั่นอุ้มใส่กระบะทรายเป็นวันละ 10 ครั้งถึงจะเข้าใจ
- อย่าพยายาม "สอน" แมวด้วยการจับขาหน้าแมวไปตะกุยทรายเหมือนที่แมวทำเวลาจะกลบอึ เพราะอาจทำแมวตกใจได้ ให้คุณใจเย็นเข้าไว้ แล้วรอจนกว่าลูกแมวจะเข้าใจเอง [11] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ The Humane Society of the United States ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ชมเมื่อทำถูก เฉยเมื่อทำผิด. พอลูกแมวเริ่มชินกับกระบะทรายจนขับถ่ายเป็นที่เป็นทางแล้ว ให้คุณหมั่นพูดชมทุกครั้งด้วยเสียงใจดี พร้อมลูบแบบอ่อนโยน ที่สำคัญคือห้ามลงโทษเวลาแมวอยู่ในกระบะทราย ไม่งั้นแมวจะเชื่อมโยงกระบะทรายกับความรู้สึกที่ไม่ดี [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- การลงโทษลูกแมวที่อึฉี่นอกกระบะทราย โดยบังคับจับหน้าจ่อตรงจุดที่เลอะเทอะ ไม่ทำให้แมวเข้าใจแต่อย่างใด ถ้าแมวเกิดแอคซิเดนท์ขึ้นมาจริงๆ ก็ปล่อยให้แมวดมเอง ไม่ต้องดุด่าว่ากล่าว แล้วอุ้มไปวางในกระบะทราย แมวจะได้รู้ว่าต่อไปให้มาอึฉี่ที่นี่
- ห้ามลงโทษด้วยการตีหรือตะคอกใส่ลูกแมว นอกจากไม่มีประโยชน์แล้ว ยังทำให้แมวกลัวคุณด้วย
-
เตรียมกระบะทรายให้ครบทุกตัว. ถ้ามีกระบะทรายแยกสำหรับแมวทุกตัวได้จะดีมาก รวมถึงมีกระบะทรายสำรองไว้
- เช่น ลูกแมวหนึ่งตัว ถ้าเป็นไปได้ให้เตรียมกระบะทรายเผื่อไว้ 2 กระบะ ส่วนถ้ามีแมว 3 ตัว ก็ให้เตรียมกระบะทรายไว้ 4 กระบะ
-
ช่วงแรกให้เลี้ยงลูกแมวในพื้นที่จำกัดก่อน. ช่วงแรกที่คุณพาน้องเหมียวเข้าบ้าน ให้กักบริเวณอยู่แต่พื้นที่บางส่วนก่อนสัก 2 - 3 อาทิตย์ ลูกแมวจะได้ค่อยๆ ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ และใช้กระบะทรายสะดวก ถ้าเกิดแอคซิเดนท์จะได้จัดการง่าย [13] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Society for the Prevention of Cruelty to Animals ไปที่แหล่งข้อมูล
- พื้นที่จำกัดที่ว่าไม่ควรปูพรม ถ้าน้องเหมียวทำเลอะเทอะจะได้ทำความสะอาดสะดวก
- ถึงจะอยู่ในพื้นที่จำกัด ก็ต้องแยกกระบะทรายกับชามอาหารและที่นอนไว้คนละฝั่งห้อง [14] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Society for the Prevention of Cruelty to Animals ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
-
เก็บอึฉี่ทุกวัน. แมวเกลียดมาก กระบะทรายที่ระเบิดของตัวเองเต็มไปหมดน่ะ ถ้าคุณไม่หมั่นเก็บอึฉี่ที่จับตัวกับทรายเป็นก้อนแล้วละก็ ลูกแมวจะพาลหนีไปทำธุระที่อื่นที่สะอาดกว่าแทน อย่างตามพรม ที่นี้ล่ะงานเข้า
- เวลาทำความสะอาดกระบะทราย ให้ช้อนตักก้อนอึฉี่ออกไปให้หมด แล้วเอาใส่ในถุงพลาสติกเล็กๆ มัดปากถุงให้แน่น จากนั้นก็ทิ้งไปเลย
- ช่วง 2 - 3 อาทิตย์แรกอาจเหลืออึก้อนจิ๋วๆ ไว้ในกระบะทรายได้บ้าง (แต่ก็ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ นะ) ลูกแมวจะได้รู้ว่ากระบะทรายเอาไว้ทำอะไร
-
เปลี่ยนทราย ล้างกระบะด้วย. ทุก 1 อาทิตย์คุณควรเปลี่ยนทรายใหม่ทั้งกระบะ และล้างทำความสะอาดให้หมดจด พอเอาทรายเก่าออกจากกระบะแล้ว ให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาที่ไม่เป็นอันตรายต่อแมว (หรือใช้แค่น้ำอุ่นผสมสบู่ก็ได้) จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง สุดท้ายก็เติมทรายใหม่เข้าไป [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Society for the Prevention of Cruelty to Animals ไปที่แหล่งข้อมูล
- สำหรับใครที่ใช้ทรายแมวแบบจับตัวเป็นก้อนเวลาโดนอึฉี่ ก็อาจมีชะล่าใจเพราะมันเก็บง่ายเหลือเกิน (ง่ายจนคิดว่าเอาไว้ก่อน) บางทีก็ปล่อยจนเกิน 1 อาทิตย์ แต่บอกเลยว่าทรายแบบนี้ยิ่งต้องหมั่นเปลี่ยนบ่อยๆ
-
ถ้าแมวทำเลอะเทอะให้รีบทำความสะอาด. ถ้าน้องเหมียวอึฉี่นอกกระบะทราย ต้องล้างทำความสะอาดจนแน่ใจว่าไม่มีร่องรอยหรือกลิ่นตกค้าง แมวจะได้ไม่กลับมาใช้บริการซ้ำที่เดิมอีก [16] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Society for the Prevention of Cruelty to Animals ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ต้นไม้กระถางใหญ่เก็บไปดีกว่า. ถ้าพบว่าแมวแปลงดินในกระถางต้นไม้เป็นทรายแมวส่วนตัวไปซะแล้ว ให้เก็บกระถางต้นไม้ไป หรือใช้ฟอยล์สีเงินๆ หุ้มดินในกระถางไว้ชั่วคราวจนกว่าแมวจะใช้กระบะทรายเป็น สัญชาตญาณของแมวคือชอบฝังกลบอึของตัวเอง เพราะงั้นเลยชอบนัก ที่ที่เป็นดินๆ ทรายๆ น่ะ ต้องทำให้แน่ใจซะก่อน ว่าแมวรู้ว่ากระบะทรายคือที่ขับถ่ายแห่งเดียวในบ้าน
-
ให้อาหารแมวเวลาเดิมทุกวัน. แมวจะได้ขับถ่ายเป็นเวลาตามไปด้วย เพราะลูกแมวมักรู้สึกอยากขับถ่ายประมาณ 20 นาทีหลังอาหาร พอคุณจับสังเกตได้ให้รีบอุ้มไปที่กระบะทราย แล้วปล่อยให้แมวปีนเข้าไปเองโฆษณา
เคล็ดลับ
- อีกหน่อยพอลูกแมวโตขึ้น คุณก็ต้องเพิ่มปริมาณทรายในกระบะ พอลูกแมวอายุได้ 6 เดือน ควรเริ่มเททรายให้ได้ประมาณ 2 - 3 นิ้วของกระบะ
- ถ้าลูกแมวดูลังเล ไม่ค่อยอยากใช้กระบะทราย ให้เช็คดูว่าแมวเข้าออกกระบะทรายสะดวกหรือเปล่า ไม่ก็ลองเปลี่ยนยี่ห้อทรายแมวดู โดยเฉพาะถ้าทรายเดิมเป็นแบบแต่งกลิ่น
- ถ้าลูกแมวทำถูกให้หมั่นชม จะเหมือนเป็นการให้กำลังใจ แมวจะได้ทำพฤติกรรมเดิมซ้ำอีกเรื่อยๆ
- ถ้าบ้านหรือคอนโดของคุณค่อนข้างกว้าง ก็ให้เตรียมกระบะทรายไว้หลายๆ จุด เผื่อลูกแมวเกิดต้องทำธุระด่วนจะได้เข้ากระบะทรายที่ใกล้ที่สุด ไม่ปล่อยราดตามจุดต่างๆ ของบ้าน พอลูกแมวใช้กระบะทรายคล่องๆ แล้วก็ลดเหลือกระบะเดียวได้
- ค่อยๆ เปลี่ยนทรายทีละน้อย ถ้าคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนชนิดหรือยี่ห้อทรายแมว ให้เปลี่ยนแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยผสมทรายใหม่เข้าไปในทรายเก่า แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณทราย “ใหม่” ในระยะเวลา 2 อาทิตย์
- จะดีกว่าถ้าบ้านคุณปูกระเบื้องหรือเป็นพื้นไม้ เพราะถ้าแมวฉี่จะได้ถูทำความสะอาดง่าย
โฆษณา
คำเตือน
- ต้องพาลูกแมวตัวใหม่ไปตรวจสุขภาพกับคุณหมอก่อน จะได้รู้ว่าแข็งแรงดีหรือเปล่า บางโรคอาจทำให้ลูกแมวหรือแมวโตขับถ่ายและใช้งานกระบะทรายได้ไม่สะดวก
- ให้ลูกแมวกินอาหารกระป๋อง (อาหารเปียก) สูตรสำหรับลูกแมวโดยเฉพาะ เพราะลูกแมวขาดน้ำได้ง่ายกว่าแมวโต เสี่ยงเกิดปัญหาเรื่องการขับถ่ายและปัญหาสุขภาพอื่นๆ
- อีกสาเหตุที่พบบ่อย ว่าทำไมลูกแมวถึงอึฉี่ราดนอกกระบะทรายในที่ลับตา ก็คือเจ้าของไปทำโทษเวลาลูกแมวขับถ่ายผิดจุด ลูกแมวเลยกลัวการขับถ่าย (โดยเฉพาะในที่โล่ง) กลัวว่าจะโดนทำโทษอีก เลยเลือกฉี่อึแบบหลบๆ ซ่อนๆ แทน เพราะฉะนั้นห้ามคุณดุด่าว่ากล่าวลูกแมวเวลาอึฉี่ผิดที่เด็ดขาด เพราะนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อะไร แล้วยังทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงอีกต่างหาก [17] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://humanesociety.org
- ↑ Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
- ↑ Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
- ↑ http://pets.webmd.com/cats/guide/litter-box-training-cats-kittens?page=2
- ↑ http://pets.webmd.com/cats/guide/litter-box-training-cats-kittens?page=2
- ↑ http://pets.webmd.com/cats/guide/litter-box-training-cats-kittens?page=2
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/cat-care/cat-litter
- ↑ Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
- ↑ Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
- ↑ http://pets.webmd.com/cats/guide/litter-box-training-cats-kittens
- ↑ http://humanesociety.org
- ↑ http://pets.webmd.com/cats/guide/litter-box-training-cats-kittens
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/cat-behavior/remedial-litter-box-training
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/cat-behavior/remedial-litter-box-training
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/cat-behavior/remedial-litter-box-training
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/virtual-pet-behaviorist/cat-behavior/remedial-litter-box-training
- ↑ Feline Behavior for the Veterinarian. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders.
โฆษณา