ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หมัดคือปรสิตที่พบได้ทั่วไป เมื่อหมัดกัด จะทำให้สุนัขเกิดอาการคันและไม่สบายตัว หมัดไม่เพียงน่ารำคาญและกำจัดยาก แต่ยังเป็นอันตรายต่อสุนัขอีกด้วยหากปล่อยทิ้งไว้ ไม่รักษา โดยส่วนใหญ่แล้วเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าสุนัขมีหมัดหรือไม่ด้วยการจับตาดูพฤติกรรมของสุนัข ตรวจดูระหว่างแปรงขนสุนัข และตรวจดูบริเวณที่สุนัขอยู่เพื่อหาหมัดหรือมูลของหมัด
ขั้นตอน
-
จับตาดูว่าสุนัขเกาหรือกัดตัวเองบ่อยมากเกินไปไหม. เมื่อหมัดกัด สุนัขจะคันมากทีเดียว ฉะนั้นอาการแรกที่เรามักจะสังเกตเห็นคือสุนัขเกาหรือกัดตัวเองบ่อยกว่าปกติ [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Kennel Club ไปที่แหล่งข้อมูล
- อาการอื่นๆ ได้แก่ สะบัดศีรษะ ขนร่วง มีสะเก็ดแผล หรือผิวหนังอักเสบ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตรวจดูผิวหนังของสุนัขว่ามีตุ่มนูนเล็กๆ สีแดงไหม. โดยปกติรอยกัดของหมัดจะเล็กกว่ารอยกัดของแมลงชนิดอื่น เราอาจสังเกตเห็นรอยกัดของหมัดได้ยาก ฉะนั้นเราจึงต้องมองดูให้ดี [3] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Kennel Club ไปที่แหล่งข้อมูล
- สุนัขบางตัวอาจแพ้น้ำลายหมัดอย่างรุนแรง ทำให้เกิดผื่นแดงขนาดใหญ่และเกิดอาการระคายเคืองอย่างรุนแรงมาก [4] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Kennel Club ไปที่แหล่งข้อมูล
- เราอาจสังเกตเห็นจุดเล็กๆ สีแดงบนผิวหนังของตัวเอง นั่นอาจเป็นรอยกัดของหมัดก็ได้
-
ใช้นิ้วแหวกขนสุนัขเพื่อหาหมัดตัวเต็มวัย. ใช้นิ้วแหวกขนสุนัขเพื่อจะได้มองเห็นผิวหนังของสุนัขได้ เราจะมองหาหมัดตัวเต็มวัยกัน หมัดมักจะชอบอยู่บริเวณโคนหาง ท้อง และหลังหู แต่เราก็สามารถเจอหมัดบนตัวสุนัขตรงบริเวณอื่นได้เช่นกัน [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หมัดตัวเต็มวัยมีขนาดประมาณไส้ดินสอ หมัดเป็นแมลงตัวเล็กที่มีลำตัวแบน มีสีตั้งแต่น้ำตาลแดงไปจนถึงดำ
- ขอเตือนว่าขณะที่แหวกไปตามขนของสุนัขหมัดจะขยับตัวหนีนิ้วของเรา จึงทำให้หาตัวเจอได้ยากขึ้น
- หมัดส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวสุนัข ฉะนั้นเราอาจหาหมัดบนตัวสุนัขเจอได้ยาก หากสุนัขมีหมัดอยู่บนตัวน้อย
-
ให้สุนัขมายืนบนผ้าขนหนูสีขาวแล้วแปรงขน. การแปรงขนสุนัขสามารถก่อกวนหมัดที่อยู่บนตัวสุนัขได้ ถ้าหมัดกระโดดออกมาจากตัวสุนัข เราก็จะสังเกตเห็นหมัดบนผ้าขนหนูสีขาวได้ง่าย [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใช้หวีสางหมัดกับน้ำสบู่ตรวจดูตามขนของสุนัขเพื่อหามูลหมัด. วางหวีสางหมัดที่ขนของสุนัข จากนั้นค่อยๆ กดลงจนกระทั่งหวีสัมผัสกับผิวหนังของสุนัข ค่อยๆ แปรงไปตามเส้นขนของสุนัข ให้หวีสัมผัสกับผิวหนังของสุนัขเข้าไว้เวลาแปรงไปตามเส้นขนของสุนัข [7] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Kennel Club ไปที่แหล่งข้อมูล
- หลังจากแปรงขนแต่ละครั้ง ตรวจดูหวีเพื่อหาหมัดและมูลหมัด จากนั้นนำหวีมาจุ่มน้ำสบู่อุ่นๆ เพื่อทำความสะอาด
- มูลหรือขี้หมัดจะมีลักษณะเหมือนผงเล็กๆ สีดำ แต่ที่จริงมีเลือดที่แห้งแล้วอยู่ในนั้น ถ้าเรานำหวีสางหมัดมาจุ่มลงในน้ำสบู่ เราก็จะเห็นผงสีดำค่อยๆ เปลี่ยนสีจากสีดำเป็นสีแดง
- ถ้าผงเล็กๆ สีดำนั้นยังคงเป็นสีดำหลังจากจุ่มน้ำ แสดงว่าอาจเป็นดินธรรมดา
- จะเลือกนำผงมาวางไว้บนสำลีแผ่นที่ชุบน้ำพอหมาดแทนก็ได้ จากนั้นสังเกตดูสิว่าผงนั้นเปลี่ยนสีหรือไม่ ถ้ามีรอยวงกลมสีแดงสนิมปรากฏขึ้นรอบๆ ผงนั้น นี้เป็นร่องรอยที่บ่งบอกว่าผงนั้นคือมูลหมัด
-
ตรวจดูเหงือกของสุนัขว่าซีดไหม. เหงือกซีดเป็นอาการของภาวะเลือดจางที่ชี้ว่าสุนัขเสียเลือดเพราะมีหมัดดูดเลือดของสุนัขอยู่ [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- อาการอื่นๆ ของภาวะเลือดจางได้แก่ อุณหภูมิร่างกายลดลงและซึม [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ภาวะเลือดจางเพราะมีหมัดดูดเลือดอยู่บนตัวเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อลูกสุนัขและสุนัขพันธุ์เล็ก
โฆษณา
-
ตรวจดูบริเวณที่สุนัขนอนและกินอาหารว่ามีมูลหมัดไหม. ถ้าเห็นว่ามีผงเล็กๆ สีดำ อยู่บนที่นอนของสุนัข ใช้ผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาดสีขาวหรือกระดาษชำระอเนกประสงค์ที่ชุบน้ำพอหมาดเช็ดผงสีดำออกจากบริเวณเหล่านั้น ถ้าผงสีดำเปลี่ยนสีเป็นสีแดงหลังจากผ่านไปไม่กี่นาที แสดงว่าผงนั้นคือมูลหมัด [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ตรวจดูบริเวณที่สุนัขใช้นอน กินอาหาร และบริเวณที่สุนัขอยู่เป็นประจำ
- เราอาจเจอหมัดตัวเต็มวัยในบริเวณเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
-
สวมถุงเท้าสีขาวและเดินไปในบริเวณที่สุนัขใช้นอน. ถ้าหากมีหมัดหรือมูลหมัดอยู่ในบริเวณนั้น ก็จะติดถุงเท้า เมื่อสวมถุงเท้าสีขาว เราก็จะสังเกตเห็นหมัดหรือมูลหมัดได้ง่าย [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ตั้งชามที่ใส่น้ำสบู่และเปิดโคมไฟกลางคืนเพื่อทำกับดักแมลง. นำน้ำสบู่มาใส่ชามเล็กๆ แล้วตั้งไว้บนพื้นตรงบริเวณที่สุนัขใช้นอน เปิดโคมไฟกลางคืน ถ้ามีหมัดอยู่ในบริเวณนั้น มันก็จะเข้าหาแสงไฟ จึงทำให้หมัดตกลงไปในน้ำสบู่แล้วจม [12] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- เราอาจให้สุนัขไปนอนข้างนอกบ้านหรือในบริเวณอื่นหนึ่งคืน มันจะได้ไม่ไปกินน้ำสบู่เข้า
โฆษณา
-
ติดต่อสัตวแพทย์หากแน่ใจแล้วว่าสุนัขมีหมัดอยู่บนตัว. สัตวแพทย์จะแนะนำแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสุนัขของเรา สัตว์เลี้ยงที่บ้านของเราจะต้องได้รับการรักษาทุกตัว รวมทั้งแมวที่เลี้ยงแบบระบบปิดและระบบเปิดด้วย [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- วิธีการรักษาโดยทั่วไปเพื่อกำจัดหมัดได้แก่ ใช้ยาหยอดที่หลังคอของสุนัขเดือนละครั้ง ใช้แชมพูกำจัดหมัด ใช้ยาพ่นกำจัดหมัด และใช้แป้งกำจัดหมัด
- เราต้องมีแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสุนัขและสภาพแวดล้อมของมัน เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่างควบคู่กันไปอาจเป็นพิษต่อสุนัขได้
-
ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดตามท้องตลาดหรือใช้สารจากธรรมชาติ กำจัดหมัด . สเปรย์และแป้งกำจัดหมัดตามท้องตลาดสามารถนำมาใช้กำจัดหมัดบนตัวสุนัข บริเวณที่สุนัขนอน และทุกบริเวณในบ้านอย่างได้ผล เรายังสามารถป้องกันไม่ให้หมัดมาเกาะบนตัวสุนัขได้โดยการจุ่มหวีแปรงขนสุนัขในน้ำมะนาวก่อนนำมาแปรงขนของสุนัข
-
ทำความสะอาดบ้านให้ทั่ว. เราจะต้องดูดฝุ่นและนำพรมปูพื้น พรมประดับ เครื่องนอน และเบาะไปซักเพื่อกำจัดหมัดและไข่ของหมัด [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ซักเครื่องนอนของสุนัขอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้หมัดกลับมาอีก [15] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Society for the Prevention of Cruelty to Animals ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ฉีดหรือพ่นสารเคมีกำจัดหมัดหากหมัดบุกบ้านอย่างหนัก. สารเคมีกำจัดหมัดนั้นมีอันตรายมาก ฉะนั้นจึงควรนำมาใช้ในตอนที่เราใช้วิธีอื่นทุกวิธีแล้ว แต่ไม่ได้ผล [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- สารเคมีกำจัดหมัดบางยี่ห้อจะอยู่ในรูปแบบกระป๋องสเปรย์ แต่ถ้าเป็นกระป๋องสเปรย์แบบระเบิดแมลง (bugbomb) หรือแบบพ่นหมอกควัน (fogger) กระป๋องสเปรย์แบบนี้จะปล่อยสารเคมีออกมาเองเมื่อเราได้เปิดการใช้งาน เราจะมีเวลาออกจากพื้นที่ ฉะนั้นจึงไม่สัมผัสกับสารเคมี
- ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตนเองไว้ขณะใช้สารเคมีหรือเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดแมลงกำลังใช้สารเคมีกำจัดหมัดในบ้าน
- ในระหว่างที่ฉีดหรือพ่นสารเคมีกำจัดหมัดเราจะต้องออกไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว ฉะนั้นเราจะต้องวางแผนว่าจะทำยังไงกับสุนัขและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ด้วย โดยปกติเรากับสัตว์เลี้ยงต้องไปอยู่ที่อื่นสัก 3-6 ชั่วโมง ฉะนั้นอ่านฉลากอย่างละเอียดเพื่อจะได้รู้ระยะเวลาที่แน่นอน
-
ตัดหญ้าในสนามสัปดาห์ละครั้งเพื่องป้องกันไม่ให้หมัดเข้ามาอาศัยอยู่. การตัดหญ้าในสนามให้สั้นจะช่วยป้องกันไม่ให้หมัดกระโดดขึ้นมาบนตัวสุนัข เมื่อมันออกไปเดินเล่นที่สนามหญ้า
- หมัดชอบที่มืด การตัดหญ้าให้สั้นจะทำให้หมัดโดนแสงแดด จึงป้องกันไม่ให้หมัดเข้าไปอาศัยอยู่ในสนามหญ้าได้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ดูดฝุ่นในบ้านอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อลดโอกาสที่หมัดจะขึ้นตัวสัตว์เลี้ยง การดูดฝุ่นสามารถกำจัดหมัด ดักแด้ ไข่ และตัวอ่อนของหมัดออกจากพรมปูพื้น พรมประดับห้อง และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้
โฆษณา
คำเตือน
- ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตนเองขณะใช้สเปรย์หรือเครื่องพ่นสารเคมีกำจัดหมัด หรือเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดแมลงกำลังใชสารเคมีกำจัดหมัดในบ้าน
- อย่านำผลิตภัณฑ์ที่ใช้กำจัดหมัดบนตัวแมวมาใช้กับสุนัข
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- หวีสำหรับแปรงขนสุนัข
- ผ้าขนหนูสีขาว
- หวีสางหมัด
- น้ำสบู่
- โคมไฟกลางคืน
- ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัด
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.akc.org/expert-advice/health/flea-tick/flea-bites-on-dogs/
- ↑ https://pets.webmd.com/dogs/guide/fleas-dogs-what-look-for#1
- ↑ http://www.akc.org/expert-advice/health/flea-tick/flea-bites-on-dogs/
- ↑ http://www.akc.org/expert-advice/health/flea-tick/flea-bites-on-dogs/
- ↑ https://pets.webmd.com/dogs/guide/fleas-dogs-what-look-for#1
- ↑ https://www.petmd.com/dog/parasites/evr_dg_does_my_dog_have_fleas
- ↑ http://www.akc.org/expert-advice/health/flea-tick/flea-bites-on-dogs/
- ↑ https://pets.webmd.com/dogs/guide/fleas-dogs-what-look-for#1
- ↑ https://pets.webmd.com/dogs/guide/fleas-dogs-what-look-for#1
- ↑ https://www.petmd.com/dog/parasites/evr_dg_does_my_dog_have_fleas?page=2
- ↑ https://www.petmd.com/dog/parasites/evr_dg_does_my_dog_have_fleas?page=2
- ↑ https://www.petmd.com/dog/parasites/evr_dg_does_my_dog_have_fleas?page=2
- ↑ https://pets.webmd.com/dogs/guide/fleas-dogs-what-look-for#1
- ↑ https://pets.webmd.com/dogs/guide/fleas-dogs-what-look-for#1
- ↑ https://www.aspca.org/pet-care/general-pet-care/fleas-and-ticks
- ↑ https://pets.webmd.com/dogs/guide/fleas-dogs-what-look-for#1
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 765 ครั้ง
โฆษณา