ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

หมัดคือปรสิตที่พบได้ทั่วไป เมื่อหมัดกัด จะทำให้สุนัขเกิดอาการคันและไม่สบายตัว หมัดไม่เพียงน่ารำคาญและกำจัดยาก แต่ยังเป็นอันตรายต่อสุนัขอีกด้วยหากปล่อยทิ้งไว้ ไม่รักษา โดยส่วนใหญ่แล้วเราสามารถพิสูจน์ได้ว่าสุนัขมีหมัดหรือไม่ด้วยการจับตาดูพฤติกรรมของสุนัข ตรวจดูระหว่างแปรงขนสุนัข และตรวจดูบริเวณที่สุนัขอยู่เพื่อหาหมัดหรือมูลของหมัด

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

จับตาดูพฤติกรรมและตรวจหาหมัดบนตัวสุนัข

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จับตาดูว่าสุนัขเกาหรือกัดตัวเองบ่อยมากเกินไปไหม. เมื่อหมัดกัด สุนัขจะคันมากทีเดียว ฉะนั้นอาการแรกที่เรามักจะสังเกตเห็นคือสุนัขเกาหรือกัดตัวเองบ่อยกว่าปกติ [1]
    • อาการอื่นๆ ได้แก่ สะบัดศีรษะ ขนร่วง มีสะเก็ดแผล หรือผิวหนังอักเสบ [2]
  2. ตรวจดูผิวหนังของสุนัขว่ามีตุ่มนูนเล็กๆ สีแดงไหม. โดยปกติรอยกัดของหมัดจะเล็กกว่ารอยกัดของแมลงชนิดอื่น เราอาจสังเกตเห็นรอยกัดของหมัดได้ยาก ฉะนั้นเราจึงต้องมองดูให้ดี [3]
    • สุนัขบางตัวอาจแพ้น้ำลายหมัดอย่างรุนแรง ทำให้เกิดผื่นแดงขนาดใหญ่และเกิดอาการระคายเคืองอย่างรุนแรงมาก [4]
    • เราอาจสังเกตเห็นจุดเล็กๆ สีแดงบนผิวหนังของตัวเอง นั่นอาจเป็นรอยกัดของหมัดก็ได้
  3. ใช้นิ้วแหวกขนสุนัขเพื่อจะได้มองเห็นผิวหนังของสุนัขได้ เราจะมองหาหมัดตัวเต็มวัยกัน หมัดมักจะชอบอยู่บริเวณโคนหาง ท้อง และหลังหู แต่เราก็สามารถเจอหมัดบนตัวสุนัขตรงบริเวณอื่นได้เช่นกัน [5]
    • หมัดตัวเต็มวัยมีขนาดประมาณไส้ดินสอ หมัดเป็นแมลงตัวเล็กที่มีลำตัวแบน มีสีตั้งแต่น้ำตาลแดงไปจนถึงดำ
    • ขอเตือนว่าขณะที่แหวกไปตามขนของสุนัขหมัดจะขยับตัวหนีนิ้วของเรา จึงทำให้หาตัวเจอได้ยากขึ้น
    • หมัดส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวสุนัข ฉะนั้นเราอาจหาหมัดบนตัวสุนัขเจอได้ยาก หากสุนัขมีหมัดอยู่บนตัวน้อย
  4. การแปรงขนสุนัขสามารถก่อกวนหมัดที่อยู่บนตัวสุนัขได้ ถ้าหมัดกระโดดออกมาจากตัวสุนัข เราก็จะสังเกตเห็นหมัดบนผ้าขนหนูสีขาวได้ง่าย [6]
  5. ใช้หวีสางหมัดกับน้ำสบู่ตรวจดูตามขนของสุนัขเพื่อหามูลหมัด. วางหวีสางหมัดที่ขนของสุนัข จากนั้นค่อยๆ กดลงจนกระทั่งหวีสัมผัสกับผิวหนังของสุนัข ค่อยๆ แปรงไปตามเส้นขนของสุนัข ให้หวีสัมผัสกับผิวหนังของสุนัขเข้าไว้เวลาแปรงไปตามเส้นขนของสุนัข [7]
    • หลังจากแปรงขนแต่ละครั้ง ตรวจดูหวีเพื่อหาหมัดและมูลหมัด จากนั้นนำหวีมาจุ่มน้ำสบู่อุ่นๆ เพื่อทำความสะอาด
    • มูลหรือขี้หมัดจะมีลักษณะเหมือนผงเล็กๆ สีดำ แต่ที่จริงมีเลือดที่แห้งแล้วอยู่ในนั้น ถ้าเรานำหวีสางหมัดมาจุ่มลงในน้ำสบู่ เราก็จะเห็นผงสีดำค่อยๆ เปลี่ยนสีจากสีดำเป็นสีแดง
    • ถ้าผงเล็กๆ สีดำนั้นยังคงเป็นสีดำหลังจากจุ่มน้ำ แสดงว่าอาจเป็นดินธรรมดา
    • จะเลือกนำผงมาวางไว้บนสำลีแผ่นที่ชุบน้ำพอหมาดแทนก็ได้ จากนั้นสังเกตดูสิว่าผงนั้นเปลี่ยนสีหรือไม่ ถ้ามีรอยวงกลมสีแดงสนิมปรากฏขึ้นรอบๆ ผงนั้น นี้เป็นร่องรอยที่บ่งบอกว่าผงนั้นคือมูลหมัด
  6. เหงือกซีดเป็นอาการของภาวะเลือดจางที่ชี้ว่าสุนัขเสียเลือดเพราะมีหมัดดูดเลือดของสุนัขอยู่ [8]
    • อาการอื่นๆ ของภาวะเลือดจางได้แก่ อุณหภูมิร่างกายลดลงและซึม [9]
    • ภาวะเลือดจางเพราะมีหมัดดูดเลือดอยู่บนตัวเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อลูกสุนัขและสุนัขพันธุ์เล็ก
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ตรวจดูบริเวณที่สุนัขอยู่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ตรวจดูบริเวณที่สุนัขนอนและกินอาหารว่ามีมูลหมัดไหม. ถ้าเห็นว่ามีผงเล็กๆ สีดำ อยู่บนที่นอนของสุนัข ใช้ผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาดสีขาวหรือกระดาษชำระอเนกประสงค์ที่ชุบน้ำพอหมาดเช็ดผงสีดำออกจากบริเวณเหล่านั้น ถ้าผงสีดำเปลี่ยนสีเป็นสีแดงหลังจากผ่านไปไม่กี่นาที แสดงว่าผงนั้นคือมูลหมัด [10]
    • ตรวจดูบริเวณที่สุนัขใช้นอน กินอาหาร และบริเวณที่สุนัขอยู่เป็นประจำ
    • เราอาจเจอหมัดตัวเต็มวัยในบริเวณเหล่านั้นด้วยเช่นกัน
  2. สวมถุงเท้าสีขาวและเดินไปในบริเวณที่สุนัขใช้นอน. ถ้าหากมีหมัดหรือมูลหมัดอยู่ในบริเวณนั้น ก็จะติดถุงเท้า เมื่อสวมถุงเท้าสีขาว เราก็จะสังเกตเห็นหมัดหรือมูลหมัดได้ง่าย [11]
  3. ตั้งชามที่ใส่น้ำสบู่และเปิดโคมไฟกลางคืนเพื่อทำกับดักแมลง. นำน้ำสบู่มาใส่ชามเล็กๆ แล้วตั้งไว้บนพื้นตรงบริเวณที่สุนัขใช้นอน เปิดโคมไฟกลางคืน ถ้ามีหมัดอยู่ในบริเวณนั้น มันก็จะเข้าหาแสงไฟ จึงทำให้หมัดตกลงไปในน้ำสบู่แล้วจม [12]
    • เราอาจให้สุนัขไปนอนข้างนอกบ้านหรือในบริเวณอื่นหนึ่งคืน มันจะได้ไม่ไปกินน้ำสบู่เข้า
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

กำจัดและป้องกันไม่ให้มีหมัด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ติดต่อสัตวแพทย์หากแน่ใจแล้วว่าสุนัขมีหมัดอยู่บนตัว. สัตวแพทย์จะแนะนำแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสุนัขของเรา สัตว์เลี้ยงที่บ้านของเราจะต้องได้รับการรักษาทุกตัว รวมทั้งแมวที่เลี้ยงแบบระบบปิดและระบบเปิดด้วย [13]
    • วิธีการรักษาโดยทั่วไปเพื่อกำจัดหมัดได้แก่ ใช้ยาหยอดที่หลังคอของสุนัขเดือนละครั้ง ใช้แชมพูกำจัดหมัด ใช้ยาพ่นกำจัดหมัด และใช้แป้งกำจัดหมัด
    • เราต้องมีแผนการรักษาที่เหมาะสมกับสุนัขและสภาพแวดล้อมของมัน เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่างควบคู่กันไปอาจเป็นพิษต่อสุนัขได้
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัดตามท้องตลาดหรือใช้สารจากธรรมชาติ กำจัดหมัด . สเปรย์และแป้งกำจัดหมัดตามท้องตลาดสามารถนำมาใช้กำจัดหมัดบนตัวสุนัข บริเวณที่สุนัขนอน และทุกบริเวณในบ้านอย่างได้ผล เรายังสามารถป้องกันไม่ให้หมัดมาเกาะบนตัวสุนัขได้โดยการจุ่มหวีแปรงขนสุนัขในน้ำมะนาวก่อนนำมาแปรงขนของสุนัข
  3. เราจะต้องดูดฝุ่นและนำพรมปูพื้น พรมประดับ เครื่องนอน และเบาะไปซักเพื่อกำจัดหมัดและไข่ของหมัด [14]
  4. ฉีดหรือพ่นสารเคมีกำจัดหมัดหากหมัดบุกบ้านอย่างหนัก. สารเคมีกำจัดหมัดนั้นมีอันตรายมาก ฉะนั้นจึงควรนำมาใช้ในตอนที่เราใช้วิธีอื่นทุกวิธีแล้ว แต่ไม่ได้ผล [16]
    • สารเคมีกำจัดหมัดบางยี่ห้อจะอยู่ในรูปแบบกระป๋องสเปรย์ แต่ถ้าเป็นกระป๋องสเปรย์แบบระเบิดแมลง (bugbomb) หรือแบบพ่นหมอกควัน (fogger) กระป๋องสเปรย์แบบนี้จะปล่อยสารเคมีออกมาเองเมื่อเราได้เปิดการใช้งาน เราจะมีเวลาออกจากพื้นที่ ฉะนั้นจึงไม่สัมผัสกับสารเคมี
    • ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตนเองไว้ขณะใช้สารเคมีหรือเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดแมลงกำลังใช้สารเคมีกำจัดหมัดในบ้าน
    • ในระหว่างที่ฉีดหรือพ่นสารเคมีกำจัดหมัดเราจะต้องออกไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว ฉะนั้นเราจะต้องวางแผนว่าจะทำยังไงกับสุนัขและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ด้วย โดยปกติเรากับสัตว์เลี้ยงต้องไปอยู่ที่อื่นสัก 3-6 ชั่วโมง ฉะนั้นอ่านฉลากอย่างละเอียดเพื่อจะได้รู้ระยะเวลาที่แน่นอน
  5. ตัดหญ้าในสนามสัปดาห์ละครั้งเพื่องป้องกันไม่ให้หมัดเข้ามาอาศัยอยู่. การตัดหญ้าในสนามให้สั้นจะช่วยป้องกันไม่ให้หมัดกระโดดขึ้นมาบนตัวสุนัข เมื่อมันออกไปเดินเล่นที่สนามหญ้า
    • หมัดชอบที่มืด การตัดหญ้าให้สั้นจะทำให้หมัดโดนแสงแดด จึงป้องกันไม่ให้หมัดเข้าไปอาศัยอยู่ในสนามหญ้าได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ดูดฝุ่นในบ้านอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อลดโอกาสที่หมัดจะขึ้นตัวสัตว์เลี้ยง การดูดฝุ่นสามารถกำจัดหมัด ดักแด้ ไข่ และตัวอ่อนของหมัดออกจากพรมปูพื้น พรมประดับห้อง และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ใส่หน้ากากเพื่อป้องกันตนเองขณะใช้สเปรย์หรือเครื่องพ่นสารเคมีกำจัดหมัด หรือเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการกำจัดแมลงกำลังใชสารเคมีกำจัดหมัดในบ้าน
  • อย่านำผลิตภัณฑ์ที่ใช้กำจัดหมัดบนตัวแมวมาใช้กับสุนัข
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • หวีสำหรับแปรงขนสุนัข
  • ผ้าขนหนูสีขาว
  • หวีสางหมัด
  • น้ำสบู่
  • โคมไฟกลางคืน
  • ผลิตภัณฑ์กำจัดหมัด

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 765 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา