ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แผลไหม้จากไฟฟ้าช็อตเกิดขึ้นเมื่อคนผู้หนึ่งสัมผัสกับแหล่งกำเนิดไฟฟ้า เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่อสายดิน และกระแสไฟฟ้านั้นไหลผ่านสู่ร่างเขา ความรุนแรงนั้นมีความแตกต่างตั้งแต่การไหม้ระดับหนึ่งไปจนถึงระดับสาม ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เหยื่อสัมผัสกับกระแสนั้น ความแรงกับชนิดของกระแสไฟ และทิศทางใดที่กระแสนั้นไหลผ่านร่างกาย หากเกิดแผลไหม้ระดับสองถึงสาม แสดงว่าแผลไหม้นั้นลึกมากและอาจก่อให้เกิดอาการชา แผลไหม้จากไฟฟ้าช็อตสามารถนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนเพิ่มเติมเนื่องจากมันมีผลต่ออวัยวะภายในไม่ใช่แค่ผิวหนังที่สัมผัสโดนอย่างเดียว ด้วยการเตรียมตัวเล็กน้อย คุณสามารถรู้ได้ทันทีว่าจะต้องทำอย่างไรหากคุณหรือใครใกล้ตัวถูกไฟฟ้าช็อต

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

รักษาแผลไหม้จากไฟฟ้าช็อตอย่างหนัก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าแตะตัวเหยื่อถ้าเขายังคงสัมผัสกับกระแสไฟฟ้า. ถอดปลั๊กไฟหรือตัดแหล่งจ่ายไฟตัวหลักของบ้านเพื่อหยุดไม่ให้กระแสไฟฟ้าไหลเข้าตัวเหยื่อก่อนเป็นอย่างแรก [1]
    • หากไม่สามารถตัดไฟในทันทีได้ ให้ยืนบนพื้นที่แห้ง อย่างเช่น พรมยางหรือบนกองกระดาษหรือกองหนังสือ แล้วใช้วัตถุที่ทำจากไม้และแห้ง อย่างด้ามไม้กวาด ดันเหยื่อให้พ้นไปจากแหล่งกระแสไฟฟ้า [2] ห้ามใช้สิ่งของที่เปียกหรือทำด้วยโลหะ
  2. พอเขาคนนั้นไม่ได้สัมผัสกับกระแสไฟฟ้าแล้ว พยายามอย่าเคลื่อนย้ายเขาเว้นเสียแต่มันจำเป็นจริงๆ [3]
  3. เหยื่ออาจหมดสติหรือไม่ก็ไม่มีอาการตอบสนองกับการสัมผัสหรือเวลาเรียกชื่อ ถ้าคนผู้นั้นไม่หายใจ ให้ทำการช่วยหายใจ และทำปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพ [4]
  4. แผลไฟฟ้าช็อตนั้นสามารถส่งผลกับคลื่นไฟฟ้าของหัวใจ [5] โทรแจ้ง 191 หรือหมายเลขรับแจ้งเหตุฉุกเฉินอื่นๆ โดยเฉพาะถ้าบุคคลนั้นไม่มีอาการตอบสนองหรือแผลไหม้นั้นมาจากสายไฟฟ้าแรงสูงหรือมาจากถูกฟ้าผ่า [6]
    • ถ้าหัวใจหยุดเต้น คุณจำต้องทำปฏิบัติการฟื้นคืนชีพ
    • ถึงแม้ว่าเหยื่อจะยังพอมีสติ คุณก็ควรแจ้ง 191 หากเขามีรอยไหม้รุนแรง หัวใจเต้นเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ/หัวใจหยุดเต้น เป็นลม มีปัญหาในการเดินหรือการทรงตัว มีปัญหาในการมองเห็นหรือได้ยิน ปัสสาวะเป็นสีแดงหรือสีแดงดำ สับสน ปวดและเกร็งกล้ามเนื้อ หรือหายใจลำบาก [7] [8]
    • ให้ตระหนักว่าคนผู้นั้นอาจได้รับบาดเจ็บที่ไตหรือระบบประสาทหรือกระดูกด้วยได้
  5. รักษาบริเวณที่เกิดแผลไหม้ในระหว่างรอหน่วยฉุกเฉินมาถึง.
    • ปิดรอยแผลไหม้ด้วยผ้าก๊อซพันแผลที่แห้งและผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว [9] สำหรับรอยแผลที่รุนแรง อย่าพยายามเอาเศษเสื้อผ้าที่ติดกับผิวหนังออก อย่างไรก็ดี คุณสามารถตัดเสื้อผ้าที่ไม่ได้ติดกับเนื้อรอบๆ บริเวณรอยไหม้ได้ โดยเฉพาะถ้าเสื้อผ้าพันรอบบริเวณนั้นซึ่งจะเป็นปัญหาเมื่อแผลเกิดบวมขึ้นมา
    • อย่าใช้ผ้าห่มหรือผ้าขนหนูมาคลุมแผลไหม้ เพราะเนื้อผ้าอาจไปติดกับผิวที่ไหม้ได้ [10]
    • อย่าพยายามใช้น้ำหรือน้ำแข็งทำให้แผลเย็นตัวลง
    • อย่าทาพวกน้ำมันหรือครีมมันๆ ลงบนแผล
  6. เขาอาจรู้สึกเย็น ผิวกายชื้นเย็น หน้าซีด และ/หรือชีพจรเต้นเร็ว ตรวจดูอาการเหล่านี้เพื่อจะได้บอกหน่วยฉุกเฉินทันทีที่มาถึง
  7. พยายามป้องกันคนเจ็บจากการรู้สึกตัวเย็น ซึ่งจะทำให้อาการช็อกแย่ลงกว่าเดิม ถ้าจะใช้ผ้าห่ม ให้ระวังอย่าไปโดนบริเวณแผลไหม้ในระหว่างรอหน่วยพยาบาลมาถึง [11]
  8. แพทย์และทีมพยาบาลฉุกเฉินจะทำการตรวจวัดและรักษาหลายหลากวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการช็อกและรอยไหม้
    • พวกเขาจะสั่งทำการตรวจเลือดกับปัสสาวะเพื่อหาความเสียหายในกล้ามเนื้อ หัวใจ และอวัยวะอื่นๆ [12]
    • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG หรือ EKG) จะบันทึกคลื่นไฟฟ้าในหัวใจเพื่อให้มั่นใจว่าอาการช็อกไม่ได้ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ [13]
    • สำหรับแผลไหม้ที่รุนแรง ทีมแพทย์จะทำการเอ็กซเรย์ถ่ายภาพอวัยวะ ซึ่งจะช่วยหาเนื้อเยื่อที่ตายไปแล้วซึ่งจำเป็นต้องถูกกำจัดออก [14]
  9. แพทย์จะสั่งจ่ายยาลดปวดมาให้เพราะแผลไหม้นั้นจะเจ็บมากในระหว่างการบรรเทาอาการ คุณจะได้รับครีมหรือขี้ผึ้งปฏิชีวนะเพื่อใช้ทาโดยตรงเวลาเปลี่ยนผ้าพันแผลบนบริเวณที่เป็นแผล [15]
  10. การรักษาตามที่แพทย์สั่งจะรวมยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม คุณยังควรสังเกตหาอาการการติดเชื้อและพบแพทย์ทันทีถ้าเชื่อว่าแผลติดเชื้อ แพทย์จะได้สั่งจ่ายยาปฏิชีวนะชนิดที่ออกฤทธิ์แรงขึ้น สัญญาณที่อาจเกิดขึ้นได้แก่: [16]
    • บริเวณรอยไหม้หรือผิวหนังรอบๆ มีการเปลี่ยนสี
    • สีเปลี่ยนเป็นออกม่วงๆ โดยเฉพาะถ้ามีอาการบวมเกิดขึ้นด้วย
    • มีการเปลี่ยนแปลงในความหนาของรอยไหม้ (รอยไหม้นั้นจู่ๆ ก็ขยายกินลึกเข้าไปในชั้นผิว)
    • มีน้ำหนองไหลออกมา
    • มีไข้
  11. เมื่อไหร่ก็ตามที่ผ้าพันแผลเกิดเปียกหรือชื้น ให้เปลี่ยนใหม่ ทำความสะอาดแผลไหม้ (ใส่ถุงมือหรือล้างมือให้สะอาด) ด้วยน้ำกับสบู่สูตรอ่อนโยน ทาขี้ผึ้งปฏิชีวนะเพิ่ม (ถ้าแพทย์แนะนำ) แล้วปิดแผลด้วยผ้าพันแผลใหม่ชนิดไม่ติดผิวที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว
  12. ปรึกษาทางเลือกของการผ่าตัดกับแพทย์หากแผลนั้นสาหัส. สำหรับแผลไหม้ในระดับสามนั้น แพทย์อาจแนะนำการผ่าตัดเป็นทางเลือกขึ้นอยู่กับขนาดกับตำแหน่งของแผล ทางเลือกเหล่านี้ได้แก่ : [17]
    • การตัดเล็มหรือกำจัดเนื้อตายหรือเนื้อเยื่อที่เสียหายหนักเพื่อป้องกันการติดเชื้อ การอักเสบ และเพื่อให้แผลทุเลาเร็วขึ้น
    • การเคลื่อนย้ายหรือปลูกถ่ายผิวหนัง ซึ่งเป็นกระบวนการทดแทนผิวหนังที่หายไปด้วยผิวที่ยังดีจากส่วนอื่นเพื่อช่วยในการฟื้นฟูและป้องกันการติดเชื้อ
    • การผ่าตัดถ่างผิว (Escharotomy) ซึ่งจะเป็นการผ่าลงไปในเนื้อตายจนถึงชั้นไขมันด้านล่างและจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น เช่นเดียวกับช่วยบรรเทาความเจ็บปวดจากความดันที่เกิดจากการบวมของแผล
    • การผ่าตัดเพื่อลดแรงอัดดัน (Fasciotomy) หรือการปลดปล่อยแรงอัดดันอันเกิดจากกล้ามเนื้อที่บวมขึ้นจากการไหม้ ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายในเส้นประสาท เนื้อเยื่อ หรืออวัยวะ
  13. ความเสียหายของกล้ามเนื้อกับข้อต่อที่อาจเกิดขึ้นกับแผลไหม้อย่างรุนแรงนั้นอาจทำให้พวกมันทำหน้าที่ได้ลดลง โดยการพบนักกายภาพบำบัดจะช่วยฟื้นฟูความแข็งแกร่งในบริเวณที่ถูกผลกระทบขึ้นมาใหม่ เพิ่มสมรรถภาพการขยับเคลื่อนไหวและลดอาการปวดเวลาขยับเขยื้อนบางจังหวะ [18]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

การรักษารอยแผลไหม้จากไฟฟ้าช็อตเล็กน้อย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถอดเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับตรงจุดที่เกิดแผลไหม้. แม้กระทั่งแผลไหม้เล็กน้อยก็สามารถเกิดอาการบวมจนไม่สบายตัวได้ ดังนั้นจึงต้องรีบเอาเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับออกทันที [19]
    • ถ้าเสื้อผ้าเกิดไหม้ติดกับผิวหนัง นั่นจะไม่ถือว่าเป็นแผลเล็กน้อยแล้ว และคุณควรต้องเข้ารับการรักษาทันที อย่าพยายามเอาเสื้อผ้าที่ติดกับผิวออก แต่ให้ตัดรอบๆ บริเวณที่ติดเพื่อเอาเสื้อผ้าส่วนที่เหลือออกไป [20]
  2. ล้างบริเวณที่ไหม้ด้วยน้ำเย็นจนกระทั่งแผลหายปวด. น้ำเย็นจะลดอุณหภูมิของผิวลง และยังอาจหยุดแผลไหม้ไม่ให้สาหัสขึ้นกว่านั้น [21] แช่แผลไหม้ในน้ำเย็นที่ไหลผ่านหรือราดไปประมาณ 10 นาที อย่าตกใจตื่นถ้าน้ำเย็นไม่ได้ทำให้หายปวดในทันที มันอาจต้องใช้เวลาถึงสามสิบนาที [22]
    • อย่าใช้น้ำแข็งหรือน้ำแช่น้ำแข็งเพราะอุณหภูมิที่เย็นจัดอาจทำให้เนื้อเยื่อเกิดความเสียหายมากขึ้น [23]
    • คุณสามารถวางแขน มือ เท้า และขาลงในอ่างน้ำเย็น แต่ควรใช้ที่ประคบเย็นสำหรับแผลไหม้ตรงใบหน้าหรือร่างกาย [24]
  3. คุณจำต้องทำความสะอาดแผลไหม้เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม คุณต้องล้างมือให้ถ้วนทั่วก่อนจะทำความสะอาดแผลเพราะแผลเปิดนั้นง่ายต่อการถูกติดเชื้อ [25]
    • นั่นยังรวมไปถึงการใช้เฉพาะเสื้อผ้า ผ้าก๊อซ ถุงมือ หรืออะไรก็ตามที่อาจใช้รักษาแผลที่สะอาด
  4. ตุ่มพองจากการไหม้นั้นไม่เหมือนตุ่มพองจากการเสียดสี ที่ซึ่งการทำให้มันแตกจะช่วยลดอาการปวดลง ห้ามทำตุ่มพองจากการไหม้แตก เพราะถ้าทำไปจะยิ่งเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ [26]
  5. ใช้สบู่กับน้ำเย็นทำความสะอาดบริเวณที่ไหม้ [27] ลูบไล้สบู่เบาๆ เพื่อไม่ให้ตุ่มพองแตกหรือทำให้ผิวเกิดระคายเคือง
    • ผิวที่ไหม้บางส่วนอาจหลุดลอกในตอนที่คุณล้าง [28]
  6. ใช้เฉพาะผ้าสะอาดซับบริเวณนั้นให้แห้ง อย่าใช้ผ้าถูตรงนั้น ถ้าหาผ้าก๊อซที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วได้จะยิ่งดีไปใหญ่
    • สำหรับรอยแผลไหม้ความลึกระดับที่หนึ่งที่แผลไม่ใหญ่นั้น การดูแลเพียงเท่านี้ก็พอเพียงแล้ว
  7. คุณสามารถใช้ขี้ผึ้งอย่าง แบคซิทราซิน (Bacitracin) หรือ โพลีสปอริน (Polysporin) ในแต่ละครั้งที่คุณทำความสะอาดแผล [29] อย่าใช้สเปรย์หรือเนยเพราะมันจะกักเก็บความร้อนไว้ในแผล
  8. ใช้ผ้าพันแผลสะอาดปิดบริเวณแผลอย่างหลวมๆ เปลี่ยนผ้าพันแผลทุกครั้งที่มันเปียกหรือชื้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อ [30] หลีกเลี่ยงการพันแผลจนแน่นเกินไป ไม่งั้นคุณจะเสี่ยงทำให้แผลเสียหายขึ้นกว่าเดิม
    • ถ้าผิวที่ไหม้หรือตุ่มพองไม่ได้แตกเปิดออก บริเวณนั้นอาจไม่ต้องการการพันแผลเลยก็ได้ อย่างไรก็ดี ให้ปิดแผลไว้ก่อนไม่ว่ามันจะอยู่ในจุดที่ง่ายต่อการเกิดสกปรกหรือโดนเสื้อผ้าจนระคายเคืองหรือไม่ [31]
    • อย่าใช้เทปรัดผ้าพันแผลเพื่อที่จะพันรอบมือ แขน หรือขา มันอาจทำให้เกิดการบวมได้ [32]
  9. อะซีตามิโนเฟน (Acetaminophen) หรือไอบูโพรเฟน (ibuprofen) สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเล็กๆ น้อยๆ นี้ได้ ใช้ตามฉลากกำกับยา
  10. แม้แผลไหม้จะดูไม่รุนแรง คุณยังอาจเกิดอาการที่รับประกันว่าได้ไปหาหมอแน่ ให้ไปหาหมอถ้าคุณ: [33]
    • รู้สึกวิงเวียนหรือไร้เรี่ยวแรง
    • รู้สึกข้อแข็งหรือปวดกล้ามเนื้อ
    • รู้สึกสับสนหรือความจำเลอะเลือน
    • มีข้อสงสัยหรือเป็นกังวลเกี่ยวกับสภาพแผลหรือการรักษาแผล
  11. การติดเชื้อเป็นความเสี่ยงเล็กน้อยสำหรับแผลไหม้ความลึกระดับที่หนึ่ง กระนั้น คุณควรจับตาดูแผลหาสัญญาณของการติดเชื้อ โดยเฉพาะถ้าเกิดตุ่มพองหรือมีบาดแผลเปิด ให้ไปหาหมอทันทีเพื่อรับยาปฏิชีวนะถ้าคุณเชื่อว่าแผลไหม้นั้นติดเชื้อ สัญญาณที่เป็นไปได้ก็เช่น: [34]
    • บริเวณรอยไหม้หรือผิวหนังรอบๆ มีการเปลี่ยนสี
    • สีเปลี่ยนเป็นออกม่วงๆ โดยเฉพาะถ้ามีอาการบวมเกิดขึ้นด้วย
    • มีการเปลี่ยนแปลงในความหนาของรอยไหม้ (รอยไหม้นั้นจู่ๆ ก็ขยายกินลึกเข้าไปในชั้นผิว)
    • มีน้ำหนองไหลออกมา
    • มีไข้
  12. ถ้าเกิดตุ่มพองขนาดใหญ่จากแผลไหม้ คุณควรให้หมอรักษา มันยากที่จะปล่อยให้คงสภาพไว้อย่างนั้น และทางที่ดีน่าจะให้หมอกำจัดมันออกด้วยความระมัดระวังด้านการติดเชื้อ [35]
  13. เมื่อไหร่ก็ตามที่ผ้าพันแผลเกิดเปียกหรือชื้น ให้เปลี่ยนใหม่ ทำความสะอาดแผลไหม้ (ใส่ถุงมือหรือล้างมือให้สะอาด) ด้วยน้ำกับสบู่สูตรอ่อนโยน ทาขี้ผึ้งปฏิชีวนะเพิ่ม (ถ้าแพทย์แนะนำ) แล้วปิดแผลด้วยผ้าพันแผลใหม่ชนิดไม่ติดผิวที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้ว
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าพยายามซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าจนกว่าคุณจะได้ตรวจ และตรวจซ้ำอีกทีแล้ว ว่าไม่มีกระแสไฟฟ้าไหลเข้าเครื่อง
  • จัดหาตัวป้องกันเด็กจากไฟดูดมาเสียบตรงปลั๊กไฟทุกหัวในบ้าน
  • เปลี่ยนสายไฟที่ปริขาด
  • เวลาโทรแจ้งขอความช่วยเหลือ อธิบายให้ผู้รับแจ้งว่าคุณกำลังช่วยเหยื่อที่ถูกไฟฟ้าช็อต พวกเขาจะสามารถแนะนำขั้นตอนที่คุณต้องทำได้
  • ให้มีที่ดับเพลิงอยู่ใกล้มือเวลาทำงานกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
  • เพื่อช่วยป้องกันแผลไหม้ ให้สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสมและทำตามขั้นตอนรักษาความปลอดภัยเมื่อใดก็ตามที่ต้องรับมือกับเรื่องกระแสไฟฟ้า
  • เรียนรู้ที่จะระบุอาการของแผลไหม้ความลึกระดับหนึ่ง สองและสาม เพื่อช่วยตัดสินใจว่าคุณต้องทำอย่างไรต่อไปซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของแผลไหม้นั้น
    • แผลไหม้ความลึกระดับที่หนึ่ง เป็นชนิดที่รุนแรงน้อยที่สุด ส่งผลเพียงเฉพาะผิวชั้นนอกสุดของผิวหนัง แผลไหม้ชนิดนี้มีผลทำให้ผิวแดงและมักจะรู้สึกปวด อย่างไรก็ดี แผลไหม้ชนิดนี้นับว่าเป็นการบาดเจ็บเล็กน้อยและสามารถรักษาเองที่บ้านได้
    • แผลไหม้ความลึกระดับที่สอง มีความรุนแรงยิ่งกว่า โดยจะส่งผลทั้งผิวชั้นนอกกับชั้นที่สองของผิวหนัง แผลไหม้ชนิดนี้ส่งผลให้ผิวบวมแดงๆ ด่างๆ พร้อมกับมีตุ่มพอง และจะสร้างความเจ็บปวดกับการไวต่อสัมผัส ในขณะที่แผลไหม้บริเวณเล็กๆ อาจยังคงรักษาเองที่บ้านได้ แต่แผลที่กินบริเวณกว้างนั้นจำต้องรับการดูแลจากแพทย์
    • แผลไหม้ความลึกระดับที่สาม เป็นขั้นที่รุนแรงและอันตรายที่สุด โดยจะส่งผลไปทุกชั้นผิว แผลไหม้ชนิดนี้อาจส่งผลให้ผิวเป็นสีแดง น้ำตาล หรือขาว แต่ส่วนใหญ่มักเป็นสีดำ ผิวหนังบริเวณที่โดนจะดูเหมือนหนังสัตว์ และมักจะชาไร้ความรู้สึก แผลไหม้ชนิดนี้ต้องได้รับการแลจากแพทย์ทันที
โฆษณา

คำเตือน

  • ห้ามแตะตัวคนที่กำลังโดนไฟช็อต มิฉะนั้นคุณนั่นแหละจะโดนช็อตไปด้วย
  • อย่าเข้าไปในบริเวณที่เครื่องใช้ไฟฟ้าโดนน้ำหรือเกิดความชื้น
  • ในกรณีที่เกิดไฟไหม้จากไฟฟ้า ให้ปิดเครื่องจ่ายกระแสไฟฟ้าก่อน แล้วค่อยใช้ที่ดับเพลิงดับไฟ
โฆษณา
  1. http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-electrical-burns/basics/art-20056687
  2. http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-electrical-burns/basics/art-20056687
  3. http://www.drugs.com/cg/electrical-burns-in-adults.html
  4. http://www.drugs.com/cg/electrical-burns-in-adults.html
  5. http://www.drugs.com/cg/electrical-burns-in-adults.html
  6. http://www.drugs.com/cg/electrical-burns-in-adults.html
  7. http://umm.edu/health/medical/altmed/condition/burns
  8. http://www.drugs.com/cg/electrical-burns-in-adults.html
  9. http://www.drugs.com/cg/electrical-burns-in-adults.html
  10. http://www.webmd.com/first-aid/tc/burns-home-treatment
  11. http://www.webmd.com/first-aid/tc/burns-home-treatment
  12. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  13. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  14. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  15. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  16. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  17. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  18. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  19. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  20. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  21. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  22. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  23. http://www.webmd.com/first-aid/tc/home-treatment-for-second-degree-burns-topic-overview
  24. http://www.drugs.com/cg/electrical-burns-in-adults.html
  25. http://umm.edu/health/medical/altmed/condition/burns
  26. http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-burns/basics/art-20056649
  27. http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-burns/basics/art-20056649

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 37,206 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา