ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

คุณสามารถขอเนื้อคู่จากจักรวาลได้หรือเปล่า การอธิษฐานต่อจักรวาลคือการ ใช้กฎแรงดึงดูด เพื่อให้คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการ ที่ผ่านมาคุณก็เคยอธิษฐานขอสิ่งต่างๆ ในชีวิตมามากมายไม่ว่าคุณจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เพราะฉะนั้นทำไมถึงไม่ขอในสิ่งที่คุณต้องการละ การเรียบเรียงคำพูดเสียใหม่จะช่วยให้คุณได้ยกระดับแรงสั่นสะเทือนของพลังและสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตเพื่อดึงดูดสิ่งต่างๆ รวมถึงความรักด้วย ในบทความนี้เรามาแนะแนวทางที่ดีที่สุดในการอธิษฐานต่อจักรวาลให้ใครบางคนรักคุณ เพื่อให้คุณได้ดึงดูดคนรักที่ใช่เข้ามาในชีวิต

1

นึกภาพตัวเองคบกับคนที่คุณชอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การนึกภาพเป็นวิธีอธิษฐานขอสิ่งที่คุณต้องการจากจักรวาลที่ทรงอานุภาพ. เริ่มจากการนั่งลงท่ามกลางบรรยากาศที่สงบและหลับตา หายใจลึกๆ เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย จากนั้นจินตนาการว่าถ้าคุณกับคนที่คุณชอบคบกันจะเป็นอย่างไร คุณสองคนจะทำอะไรด้วยกัน ความรู้สึกเมื่อได้คบกับเขาเป็นอย่างไร นึกภาพคุณสองคนใช้เวลาร่วมกัน ไปเดต และคุยกัน [1]
    • ยิ่งคุณนึกภาพได้แจ่มชัดเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น รายละเอียดจะช่วยให้คำอธิษฐานของคุณทรงพลังยิ่งขึ้น
    • นอกจากนี้คุณก็อาจจะลองสร้างกระดานภาพในฝันว่า ความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบของคุณหน้าตาเป็นอย่างไร วิธีนี้ช่วยได้มากหากคุณไม่สามารถนึกภาพในใจได้
    โฆษณา
2

เขียนชื่อคนๆ นั้นและลักษณะนิสัยของเขาลงไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อธิบายว่าคุณชอบอะไรในตัวคนรักที่คุณหมายปอง และทำไมคุณถึงคิดว่าคุณสองคนเหมาะสมกัน ใส่รายละเอียดเยอะๆ เพราะมันจะช่วยให้กฎแรงดึงดูดทำงาน [2] อ่านรายการที่ตัวเองเขียนซ้ำหลายๆ รอบเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่คุณสื่อสารกับจักรวาลนั้นถูกต้อง
    • เราสามารถอธิษฐานกับจักรวาลให้ใครบางคนรักเราได้ไหม บางคนมองว่าเราไม่ควรอธิษฐานให้ใครบางคนมารักเราอย่างเจาะจง เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าถ้าคบกันแล้วจะเป็นอย่างไร บางครั้งคุณอาจจะได้คบกับคนๆ นั้นจริงๆ แต่กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วเป็นพิษหรือไม่ใช่คนที่เหมาะกับคุณ
    • คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นคนที่ใช่สำหรับคุณ แทนที่จะเขียนชื่อเขา ให้เขียนลักษณะนิสัยที่คุณชอบเกี่ยวกับเขาลงไป ถ้าคนที่คุณชอบเหมาะสมกับคุณ เท่ากับว่าคุณอธิษฐานขอให้เขามารักคุณเพราะว่านิสัยของเขาตรงกับรายการที่คุณเขียน แต่ในขณะเดียวกันคุณก็ได้ดึงดูดคนที่ดีกว่าเข้ามาด้วยหากคนๆ นั้นไม่เหมาะกับคุณ [3]
3

ตั้งเจตจำนงให้ชัดเจนและเจาะจง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เจตจำนงช่วยให้คุณขับเคลื่อนพลังไปสู่ที่คุณต้องการ. สรุปสิ่งที่คุณต้องการให้ชัดเจนและกระชับภายใน 1-2 ประโยคเพื่อให้คุณเขียนซ้ำได้ง่าย เขียนเจตจำนงประจำวันเพื่อให้เป้าหมายมีพลังยิ่งขึ้นหรือจะแค่พูดออกมาดังๆ ก็ได้ คุณอาจจะถึงขั้นหลับใหลไปพร้อมกับเจตจำนงด้วยการนำไปวางไว้ใต้หมอนเพื่อให้มันมีพลังมากขึ้น สิ่งที่คุณเขียนลงไปอาจจะเป็น :
    • “ลิลลี่กับผมรักกัน เธอเป็นเนื้อคู่ของผม”
    • “ลีโอกับฉันเป็นคู่รักที่มีความสุขมาก”
    • “อ้นกับฉันคบกัน และเราอยู่ด้วยกันเป็นส่วนใหญ่”
    โฆษณา
4

เรียบเรียงเจตจำนงของคุณในทางบวก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ภาษาเชิงลบอาจดึงดูดสิ่งที่ไม่ใช่โดยที่คุณไม่ตั้งใจ. การพูดว่า “ฉันไม่อยาก” หรือ “ไม่” อาจทำให้การส่งสัญญาณผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้นให้บอกเสมอว่าคุณต้องการอะไร ไม่ใช่ว่าคุณไม่อยากได้อะไร ตัวอย่างการทำขั้นตอนนี้คือ :
    • พูดว่า “ฉันอยากได้คนรักที่ซื่อสัตย์” ไม่ใช่ “ไม่เอาคนโกหก”
    • เขียนว่า “เอาใจใส่ความสัมพันธ์ของเรา” แทนที่จะเป็น “ไม่ขี้เกียจ”
    • พูดว่า “ตอบข้อความฉันทันที” แทนที่จะเป็น “ไม่รอเป็นชาติกว่าจะตอบ”
5

เชื่อมโยงเจตจำนงกับอารมณ์.

ดาวน์โหลดบทความ
  1. แรงสั่นสะเทือนที่เพิ่มขึ้นนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่จะช่วยให้คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการ ตั้งจิตให้มั่นและจินตนาการว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรเมื่อได้อยู่กับเนื้อคู่ของคุณ ปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้นซึมซาบเข้าไปในตัวคุณเพื่อเพิ่มพลังให้กับแรงอธิษฐาน คุณอาจจะรู้สึก :
    • มีความสุข
    • ใจหวิว
    • ตื่นเต้น
    • เป็นที่รัก
    • อิ่มเอิม
    • พอใจ
    โฆษณา
6

บรรยายความสัมพันธ์ในอุดมคติของคุณลงในคำอธิษฐานบนกระดาษ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เขียนบรรยายลงในกระดาษด้วยลายมือของตัวเองเพื่อให้คำอธิษฐานมีพลังมากขึ้น. ใส่วันที่เขียน จากนั้นบรรยายความสัมพันธ์ในอนาคตกับคนรักในอุดมคติราวกับว่าคุณกำลังเขียนบันทึก ใช้คำที่บ่งบอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปัจจุบันราวกับว่าความฝันของคุณเกิดขึ้นจริงแล้วเพื่อให้คำอธิษฐานมีพลังมากขึ้น ใส่รายละเอียดเกี่ยวกับประสาทสัมผัสลงไปเยอะๆ เพราะยิ่งคำอธิษฐานของคุณเจาะจงมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเป็นจริงมากขึ้นเท่านั้น คุณอาจจะเขียนว่า :
    • “แมนกับฉันคุยกันทุกวันและเดตของเรานั้นโรแมนติกที่สุด คืนนี้เราจะนอนกอดกันและดูหนัง เขารู้จักฉันดีกว่าใคร และฉันมีความสุขมากที่เราได้อยู่ด้วยกัน”
    • “บัวกับผมเข้ากันได้ดีมาก วันนี้เธอเอาคุกกี้ที่เธอทำมาเซอร์ไพรส์ผม เธอน่ารักมากเลย! เราสนุกมากเวลาอยู่ด้วยกัน และผมรอให้ถึงวันนัดเดตครั้งหน้าไม่ไหวแล้ว เสาร์อาทิตย์นี้เราจะไปโยนโบว์ลิ่งกัน”
    • “ลิตาเป็นคนรักในฝันของฉันเสมอ ฉันรู้สึกพิเศษทุกครั้งที่เราไปเดตกัน และเธอทำให้ฉันมีความสุขมาก พรุ่งนี้เราจะไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน จากนั้นก็ไปนั่งเล่นกันต่อที่บ้านของฉัน เธอเป็นคนตลกและฉลาดมาก”
7

ทำเหมือนว่าคุณมีคนรักในแบบที่คุณต้องการอยู่แล้ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คำอธิษฐานจะทำงานได้ดีขึ้นเมื่อคุณทำเหมือนว่าคุณได้ในสิ่งที่คุณปรารถนาแล้ว. แกล้งทำเป็นว่าคุณมีคนรักและมีความสัมพันธ์ที่ดีมากๆ ซึ่งไม่ได้หมายความว่าให้คุณเดินไปหาคนๆ นั้นแล้วดึงมือเขามากุมหรือพยายามจะจูบเขา แต่ให้คุณ :
    • สังสรรค์กับเพื่อนๆ และไล่ตามเป้าหมายของตัวเอง
    • ยิ้มและคุยกับคนรักในอุดมคติของคุณทุกครั้งที่เจอเขา
    • กดไลก์และคอมเมนต์ในโซเชียลมีเดียของเขา
    • เลิกบอกว่าตัวเองโสดหรือหว่านเสน่ห์ใส่คนอื่น แต่ให้เปลี่ยนมา หว่านเสน่ห์ ใส่คนที่คุณชอบคนเดียวเท่านั้น
    • ถ้าคุณมีเบอร์เขา ให้ ส่งข้อความไปชวนคุยเรื่อยเปื่อย
    โฆษณา
8

ท้าทายความเชื่อที่มีขีดจำกัดด้วยคำพูดยืนยัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คำพูดยืนยันเชิงบวกเตือนให้คุณรู้ว่า คุณมีคุณค่าพอที่จะได้รับสิ่งที่คุณต้องการ. อันที่จริงมันช่วยให้คุณเปลี่ยนวิธีคิดได้ด้วยซ้ำ แถมยังช่วยให้คุณทำสิ่งดีๆ เพื่อไปสู่อนาคตที่ใฝ่ฝัน เพราะฉะนั้นการใช้คำพูดยืนยันตัวเองนั้นมีประโยชน์มหาศาล [4] เขียนรายการคำพูดยืนยันเชิงบวกที่คุณคิดว่าตรงกับตัวเอง และเมื่อคุณเริ่มไม่แน่ใจ ให้อ่านคำพูดยืนยันเชิงบวกซ้ำเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น คุณอาจจะเขียนว่า :
    • “ฉันมีค่าพอที่จะได้รับความรัก”
    • “ฉันกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง”
    • “ฉันสมควรได้รับความสุข”
    • “ฉันเป็นคนมีเสน่ห์และน่ารัก”
    • “ฉันดีพอ”
  1. การรักตัวเองเป็นการสื่อสารให้จักรวาลรู้ว่าคุณสมควรได้รับความรัก. สิ่งที่เหมือนกันจะดึงดูดเข้าหากัน เพราะฉะนั้นการรักตัวเองอย่างแท้จริงจะเพิ่มแรงสั่นสะเทือนไปถึงระดับที่คุณสามารถดึงดูดให้คนอื่นรักคุณตอบได้ ฝึกรักตัวเอง ด้วยการย้ำเตือนถึงด้านที่ดีของตัวเองและทำในสิ่งที่คุณมีความสุข [5] ความมั่นใจจากภายในจะช่วยให้เนื้อคู่ของคุณเห็นว่าคุณเป็นคนพิเศษมากแค่ไหน
    • ปฏิบัติกับตัวเองเหมือนเป็นเพื่อนสนิท สิ่งไหนที่คุณไม่พูดกับเพื่อนก็อย่าพูดกับตัวเอง
    • การพูดคำพูดยืนยันเชิงบวกก็ช่วยให้คุณรักตัวเองได้เช่นกัน
    โฆษณา
10

เริ่มลงมือไล่ตามคำอธิษฐานของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การอธิษฐานไม่ใช่เวทมนตร์ มันไม่มีทางเกิดขึ้นหากคุณไม่ลงมือทำ [6] เมื่อคุณอธิษฐานขอความรัก นั่นหมายความว่าคุณจะต้องหว่านเสน่ห์ แต่งตัวให้ดูดีที่สุด และพูดคุยกับคนที่คุณชอบ นอกจากนี้คุณก็ต้องปฏิเสธเมื่อคนอื่นที่ไม่ใช่คนรักในฝันของคุณมาชวนไปเดต คุณต้องไล่ตามเป้าหมายของตัวเองเท่านั้น
    • แต่คุณก็สามารถตอบ “ตกลง” กับคนที่มีลักษณะนิสัยเหมือนคนที่คุณแอบชอบก็ได้ เพราะเป็นไปได้ว่าจักรวางอาจจะส่งคนๆ นี้มาในเส้นทางของคุณเพราะว่าเขาจะทำให้คุณมีความสุขได้มากกว่าคนที่คุณอธิษฐานให้มารักคุณ
11

แสดงความรู้สึกขอบคุณเพื่อดึงดูดพลังบวก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ความรู้สึกขอบคุณเพิ่มแรงสั่นสะเทือนของพลังเพื่อดึงดูดสิ่งดีๆ มาสู่ตัวคุณ. สร้างแนวทางในการแสดงความรู้สึกขอบคุณเพื่อช่วยย้ำให้คุณเห็นสิ่งที่ดีในชีวิต [7] พยายามจดรายการสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณเพื่อช่วยให้คุณจดจำทุกสิ่งที่คุณเห็นคุณค่า และเพิ่ม 2-3 สิ่งลงในรายการของคุณทุกวัน สิ่งที่คุณเขียนอาจจะเป็น :
    • บ้านที่อบอุ่น
    • เพื่อนที่ดี
    • ครอบครัวที่น่ารัก
    • วันนี้อากาศดี
    • อาหารอร่อย
    • สัตว์เลี้ยงของฉัน
    • หนังสือที่จะอ่าน
    • ช็อกโกแลต
    โฆษณา
12

เชื่อมั่นว่าจักรวาลจะนำพาความรักมาสู่ชีวิตของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องเชื่อว่าคุณจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ คำอธิษฐานของคุณถึงจะมีพลัง. นอกจากนี้ก็ให้ปล่อยวางผลลัพธ์ในอุดมคติด้วย เพราะบางครั้งจักรวาลก็เตรียมสิ่งที่ดีกว่าที่คุณจะจินตนาการได้ไว้ให้ เชื่อมั่นว่าทุกสิ่งจะต้องดำเนินไปอย่างดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ [8]
    • ถ้าคำอธิษฐานของคุณไม่สัมฤทธิ์ผล เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะไม่ได้เชื่อมั่นในกระบวนการอย่างหมดใจ ในขณะเดียวกันคุณก็อาจจะเหมาะกับสิ่งที่ดีกว่านี้ ดังนั้นจักรวาลเลยไม่นำพาให้คนที่คุณต้องการเข้ามาในชีวิต บางครั้งคุณก็ไม่อาจเห็นแผนการสุดพิเศษที่จักรวาลเตรียมไว้ให้คุณได้

เคล็ดลับ

  • กลับมาอ่านคำอธิษฐานของคุณอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังต้องการสิ่งนี้อยู่ ถ้าคุณเริ่มมีใจให้ใครคนใหม่ คุณอาจจะตัดสินใจเปลี่ยนไปอธิษฐานให้ได้ความรักจากคนนั้นแทน
โฆษณา

คำเตือน

  • ระมัดระวังเวลาที่คุณดึงดูดใครบางคนเข้ามาในชีวิต เพราะเขาอาจจะเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วเป็นพิษก็ได้ คุณต้องแน่ใจว่าตัวเองรู้จักเขาดีก่อน นอกจากนี้เขาก็อาจจะไม่ได้แสดงธาตุแท้หรือไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูด หรือไม่ใช่คนที่เหมาะกับคุณ เพราะฉะนั้นอย่ามองข้ามสัญญาณเตือน [9]
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,004 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา