บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเปลี่ยนหรือรีเซ็ตรหัสผ่านบัญชี Gmail ให้คุณเอง ทำได้ทั้งในคอมพิวเตอร์, iPhone และ Android เลย ถ้าลืมรหัสผ่าน Gmail ก็ต้องใช้แบบฟอร์มรีเซ็ตรหัสผ่านของ Google เพื่อตั้งรหัสผ่านใหม่
ขั้นตอน
-
เปิด Gmail. ที่เป็นไอคอนสีขาว มีตัว "M" สีๆ ข้างใน ปกติอยู่ในหน้า home ใน App Library หรือค้นหาเอง
- ถ้าไม่รู้รหัสผ่าน ให้ รีเซ็ตรหัสผ่าน แทน
- เปลี่ยนรหัสผ่าน Gmail แล้ว เท่ากับรหัสผ่านทุกบริการของ Google จะเปลี่ยนไปด้วย เช่น Google Drive และ Google Photos
-
แตะรูปโปรไฟล์. ปกติรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อจะอยู่มุมขวาบนของหน้าจอ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าไม่ได้ใส่รูปโปรไฟล์ไว้ จะเป็นชื่อย่อแทน
-
แตะ Manage your Google Account . ทางด้านบนของหน้าต่าง ล่างที่อยู่อีเมล Gmail
-
แตะ tab Personal info . ทางด้านซ้ายบนของหน้าจอ
-
แตะ Password . ทางด้านล่างของหัวข้อ "Basic info"
-
พิมพ์รหัสผ่านปัจจุบัน แล้วแตะ Next . พอยืนยันรหัสผ่านเดิมแล้ว ก็เปลี่ยนรหัสผ่านได้เลย
-
พิมพ์รหัสผ่านใหม่ 2 ครั้ง. พิมพ์รหัสผ่านใหม่ในช่อง "New password" แล้วพิมพ์ซ้ำอีกครั้งในช่อง "Confirm new password"
-
แตะปุ่ม Change password . ที่เป็นปุ่มมุมขวาล่างของหน้า เท่านี้รหัสผ่านใหม่ก็มีผลใช้งานโฆษณา
-
เปิด Settings ของ Android. ปกติจะเป็นไอคอนฟันเฟืองใน app drawer [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง หรือเปิด Settings โดยปัดหน้า home ลงมาจากด้านบน แล้วแตะไอคอนฟันเฟืองมุมขวาบน
-
เลื่อนลงไปแตะ Google . อันนี้แล้วแต่ว่าใช้มือถือหรือแท็บเล็ต ปกติจะมีตัว "G" ที่ตัวเลือก Google
-
แตะ Manage your Google Account . เพื่อเปิด Google account settings
-
แตะ Security . ทางด้านบนของหน้าจอ
-
เลื่อนลงไปแตะ Password . ในหัวข้อ ″Signing in to Google″
-
พิมพ์รหัสผ่านปัจจุบัน แล้วแตะ Next . เพื่อไปยังหน้า ″Password″
-
พิมพ์รหัสผ่านใหม่ในช่องด้านบน. รหัสผ่านต้องยาวอย่างน้อย 8 อักขระขึ้นไป โดยมีทั้งตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์
-
พิมพ์รหัสผ่านใหม่ในช่อง ″Confirm new password″. ให้พิมพ์เหมือนในช่องแรกเป๊ะๆ
-
แตะ Change Password . ที่เป็นปุ่มสีฟ้าด้านล่างของหน้า เท่านี้ก็เปลี่ยนรหัสผ่าน Gmail เรียบร้อยโฆษณา
-
เข้าเว็บ https://myaccount.google.com ในเบราว์เซอร์. หรือก็คือหน้าล็อกอินของ Google ถ้าล็อกอินไว้แล้ว ก็จะเห็น account settings ถ้ายังไม่ได้ล็อกอิน ให้ล็อกอินตอนนี้ ตามขั้นตอนในหน้าจอ
-
คลิก Personal info . ในกรอบซ้าย
- ถ้าไม่เจอตัวเลือกนี้ ให้แตะเมนูมุมซ้ายบนของหน้า เพื่อขยายตัวเลือกเพิ่มเติม
-
คลิก Password . ในกรอบขวา ทางด้านล่างของหัวข้อ "Basic info"
-
พิมพ์รหัสผ่านปัจจุบัน แล้วคลิก Next . เพื่อเปิดหน้า ″Password″
-
พิมพ์รหัสผ่านใหม่ในช่องด้านบน. รหัสผ่านต้องยาวอย่างน้อย 8 อักขระขึ้นไป โดยมีทั้งตัวอักษร ตัวเลข และสัญลักษณ์
-
พิมพ์รหัสผ่านใหม่อีกรอบในช่อง ″Confirm new password″. ให้พิมพ์เหมือนในช่องแรกเป๊ะๆ
-
คลิก Change Password . ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ล่างแบบฟอร์ม เท่านี้รหัสผ่านใหม่ก็มีผลใช้งานทันทีโฆษณา
-
เข้าเว็บ https://accounts.google.com/signin/recovery ในเบราว์เซอร์. หรือก็คือเว็บกู้คืนบัญชี Google นั่นเอง คุณเข้าเว็บนี้ในเบราว์เซอร์ไหนก็ได้ ทั้งในคอม มือถือ และแท็บเล็ต
-
พิมพ์อีเมลแล้วคลิก Next .
-
เลือก Try another way . กรณีนี้เราไม่รู้รหัสผ่าน ก็ต้องใช้วิธีการกู้คืนบัญชี Google
-
เลือก Text . ทางด้านล่างของหน้าจอ แล้ว Google จะส่งโค้ดยืนยันไปที่เบอร์โทรที่พ่วงไว้กับ Gmail
- คุณเลือก Call ได้ ถ้าอยากรับสายจาก Google แทน
- ถ้าไม่เคยพ่วงเบอร์โทรไว้กับบัญชี อาจจะเลือกให้ส่งโค้ดยืนยันไปทางอีเมลแทน จะมีตัวเลือกไหนโผล่มา ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เคยให้ Google ไว้
- อาจจะต้องยืนยันเบอร์โทรหรืออีเมลก่อน โดยพิมพ์เบอร์โทรในช่องพิมพ์ด้านล่างแบบฟอร์ม แล้วคลิก Next
-
รับโค้ดยืนยัน. เปิดแอพ SMS ในมือถือ (หรือแอพอีเมล ถ้าเลือกรับโค้ดทางอีเมล) เลือก SMS ที่ได้จาก Google แล้วจดโค้ด 6 หลักจากใน SMS
- ถ้าเลือกรับโค้ดทางโทรศัพท์ ก็ให้รับสายแล้วฟังเสียงอ่านโค้ดแทน
-
พิมพ์โค้ดยืนยัน. ในช่องกลางหน้า ให้พิมพ์โค้ด 6 หลักที่ได้จาก SMS (หรือโทรศัพท์) แล้วคลิกหรือแตะ Next
-
พิมพ์รหัสผ่านที่จะใช้ ซ้ำ 2 ครั้ง. พิมพ์รหัสผ่านที่จะใช้ ในช่องพิมพ์ด้านบน แล้วพิมพ์ซ้ำอีกทีในช่องด้านล่าง โดยรหัสผ่านทั้ง 2 ช่องต้องตรงกันเป๊ะๆ
-
เลือก Change password . ที่เป็นปุ่มสีฟ้า ด้านล่างของหน้า เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชีของคุณโฆษณา
เคล็ดลับ
- แนะนำให้มีบัญชีอีเมลสำรอง จะได้พ่วงกับ Gmail แล้วส่งข้อมูลรหัสผ่านไปที่อีเมลนั้น ในกรณีที่ลืมรหัสผ่าน Gmail
- ถ้าเบราว์เซอร์ที่ใช้ เซฟรหัสผ่านเก่าไว้ ไม่เซฟรหัสผ่านใหม่ ให้เปิด password manager ของเบราว์เซอร์ แล้วลบ entries ของ Gmail หรือ Google ทั้งหมด หลังจากนั้นจะมีให้เซฟรหัสผ่านใหม่ เมื่อล็อกอินครั้งต่อไป
- ระวังอย่าใช้รหัสผ่านเดียวกับที่เคยใช้ในอีเมลอื่น จะช่วยป้องกันการแฮกได้ระดับหนึ่ง
- จดรหัสผ่านไว้ในสมุดส่วนตัว หรือจะเซฟใน password manager ก็ได้ กันลืม
โฆษณา
คำเตือน
- ถ้าเข้ามือถือตัวเองไม่ได้ อาจจะรีเซ็ตรหัสผ่านไม่ได้ไปด้วย
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา