ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แม้ว่าคุณจะมีสามีที่เพียบพร้อม แต่การเป็นภรรยาที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณจะต้องเรียนรู้ที่จะสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำชีวิตรักให้ซู่ซ่าอยู่เสมอ เป็นเพื่อนรักของสามีโดยที่ยังคงความเป็นตัวเองไว้ได้ ถ้าคุณอยากรู้ว่าการเป็นภรรยาที่ดีต้องทำอย่างไรแล้วละก็ ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดู

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

เป็นเพื่อนที่ดีของกันและกัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าเขาอยากมีเซ็กส์บ่อยขึ้น ก็เปิดใจดูว่าคุณพอจะมีเซ็กส์กับเขามากขึ้นได้หรือเปล่า ถ้าเขาอยากมีเวลากับเพื่อน ๆ หรือทำงานอดิเรกก็ปล่อยให้เขาทำไป เขาจะมีความสุขมากขึ้นและขอบคุณที่คุณให้เกียรติเขา คุณควรจะให้ในสิ่งที่เขาต้องการ หรืออย่างน้อยก็ให้บ้างเป็นบางอย่างโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง
    • ถ้าเขาอยากมีเซ็กส์บ่อยขึ้น ก็ลองคิดดูว่าพอจะทำให้เขาได้ไหม หรือถ้าไม่อยากก็ลองนึกดูว่าทำไมคุณถึงไม่อยาก
    • ถ้าเขาอยากมีเวลาสนุกกับเพื่อน ๆ ก็ให้เขาไปสนุกสุดเหวี่ยงกับเพื่อน ๆ ของเขาสักคืน และคุณก็แยกไปกับเพื่อน ๆ ของคุณด้วย
    • ถ้าเขาอยากมีเวลาทำงานอดิเรกส่วนตัว ก็ปล่อยให้เขาทำไป เขาจะเติบโตจากสิ่งที่เขาทำซึ่งจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ด้วย
  2. ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่แนบแน่นกันอย่างแท้จริงและยอมรับกันและกันอย่างไม่มีเงื่อนไข ทำให้เขาเห็นว่าคุณยินดีที่จะให้เขาเห็นคุณในมุมที่อ่อนแอ และเชื่อมั่นว่าคุณทั้งคู่จะฝ่าฟันอุปสรรคด้วยกันได้ คุยเรื่องอดีตหรือพูดเรื่องตลก ๆ ที่รู้กันแค่สองคนบ้าง ส่งบทความที่คุณคิดว่าเขาน่าจะสนใจ หรือแค่นั่งเงียบ ๆ เป็นเพื่อนเขาก็ได้ เพราะความเงียบบอกอะไรได้มากมายถ้าชีวิตคู่ของคุณตั้งอยู่บนพื้นฐานของมิตรภาพ
    • แม้ว่าคุณจะต้องรักษามิตรภาพและความสัมพันธ์ในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อเติมเต็มชีวิตด้วยความรักและเสียงหัวเราะ แต่ก่อนนอนสามีคือคนที่คุณควรใช้เวลาด้วยมากที่สุด
    • ทำตัวเองให้เป็นคนที่สามีอยากใช้เวลาด้วยมากที่สุด แทนที่จะเป็นเพื่อนสนิทหรือลุงคนโปรดของเขา คุณจะต้องเป็นคนแรกที่เขาอยากเจอไม่ว่าเขาจะกำลังดีใจหรือเสียใจ
  3. อย่าลืมความฝันที่มีร่วมกัน ไม่ว่าฝันของคุณจะเป็นการใช้ชีวิตวัยเกษียณในที่ที่อากาศอบอุ่นหรือไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อฉลองการแต่งงานครบรอบ 20 ปี จงยึดมั่นในความฝัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและหาวิธีที่จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริง ถ้าความฝันของคุณกับสามีขัดแย้งกัน ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่อาจจะจบลงขณะกำลังเดินตามความฝันหรือเมื่อคนใดคนหนึ่งไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ [1]
    • คุณมีความฝันส่วนตัวได้ แต่ต้องไม่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิงกับความฝันของสามี
    • แม้ว่าความฝันของคุณทั้งคู่จะอยู่ไกลเกินเอื้อม แต่คุณก็ยังต้องคุยกันเสมอเพื่อไม่ให้ฝันของพวกคุณแห้งเหี่ยวไป
  4. สนุกกับชีวิตและทำให้ชีวิตส่วนตัวของคุณน่าสนใจอยู่เสมอ ลองนึกดูว่าถ้าพรุ่งนี้สามีไม่อยู่กับคุณแล้ว คุณจะยังมีเพื่อน ๆ ที่นัดเจอกันอย่างน้อยเดือนละครั้งหรือเปล่า คุณยังมีกลุ่มชมรมงานอดิเรกหรือกีฬาให้เข้าร่วมอยู่ไหม ถ้าคำตอบคือไม่ นั่นเท่ากับว่าสามีของคุณจะต้องพยายามเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายให้คุณอยู่เสมอ ซึ่งแน่นอนว่าเขาจะไม่สามารถอุดรอยรั่วทุกอย่างในชีวิตของคุณได้และเขาก็จะรู้สึกว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดีพอ แต่ถ้าคุณสามารถเติมเต็มชีวิตตัวเองได้ คุณจะเก็บเกี่ยวอะไรหลาย ๆ อย่างที่ช่วยให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปได้ด้วยดี คุณจะทำหน้าที่คู่ชีวิตได้ดีขึ้นเมื่อคุณสามารถดึงสิ่งที่คุณสนใจ ประสบการณ์ และความเข้าใจโลกในแบบของคุณมาปรับใช้กับการดำเนินชีวิตได้ [2]
    • ถ้าสามีคิดว่าเขาคือสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวในชีวิตของคุณ สักวันเขาจะต้องรู้สึกว่าตัวเองติดกับดักชีวิตคู่
    • พอแต่งงานแล้ว อย่าเลิกทำงานอดิเรกหรือสิ่งที่คุณสนใจก่อนแต่งงาน คุณอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำทุกอย่างที่เคยทำ แต่ทำต่ออย่างน้อยสัก 2-3 อย่างที่มีความหมายกับคุณมากที่สุดก็ยังดี
  5. ทุกคนไม่ว่าชายหรือหญิงต่างก็ผจญกับความเครียดในชีวิตประจำวันด้วยกันทั้งคู่ แต่การที่คุณมั่นใจว่าคุณสามารถรับมือกับความเครียดได้จะช่วยลดความกดดันในชีวิตคู่ไปได้มาก แต่ถ้าคนใดคนหนึ่งเป็นคนเครียดง่าย แล้วอีกคนก็ไม่พยายามจะเข้าใจเลยว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเป็นแบบนั้น รับรองว่าชีวิตคู่มีปัญหาแน่
    • ช่วยสามีรับมือกับความเครียดด้วยการชวนเขาคุยถึงปัญหานั้นและเอาใจเขาให้มากเป็นพิเศษในวันที่เขาเจอเรื่องแย่ ๆ ไม่ใช่ทำให้เขารู้สึกแย่ลงไปอีกด้วยการโมโหใส่เขาที่เขาเหนื่อยหรือไม่พูดไม่จา
    • บอกให้สามีรู้เมื่อคุณเครียด เขาจะได้ทำงานในบ้านแทนคุณและช่วยคุณหาทางออก
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บอกความรู้สึกและความต้องการของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ. สามีของคุณไม่ได้มีพลังวิเศษอ่านใจคุณได้ เพราะฉะนั้นเวลาอยากได้อะไรก็บอกเขาไปตามตรง ถ้าคุณไม่ชอบการกระทำบางอย่างของเขา ก็แค่บอกเขาไป อย่าทำเป็นบอกใบ้หรือคิดว่าเขาน่าจะ “รู้เอง” ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่คุณต้องการเลย ถ้าคุณอยากจะบอกเขาว่าคุณไม่ชอบนิสัยบางอย่าง คุณก็ต้องบอกเขาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ และรับฟังสิ่งที่สามีคุณพูดบ้างแทนที่จะกล่าวโทษเขาอย่างเดียว วิธีการก็เช่น:
    • บอกเขาว่า "คุณ" ต้องการอะไร แทนการพูดว่า "เขา" ต้องทำอะไร เช่น บอกเขาว่า "ฉันรู้สึกเหมือนโดนทิ้งยังไงไม่รู้เวลาที่คุณไม่ได้กลับบ้านก่อนหกโมงครึ่ง"
    • รับฟังในสิ่งที่เขาพูด เวลาที่เขาบอกอะไรคุณ ให้คุณพูดสิ่งนั้นซ้ำให้เขาฟังอีกทีเพื่อให้เขารู้ว่าคุณเข้าใจแล้วจริง ๆ เช่น "ฉันได้ยินคุณบอกว่าคุณเครียดเรื่องเงิน คุณก็เลยต้องทำงานล่วงเวลา"
    • อย่าด่วนตัดสิน ฟังเขาพูดให้จบก่อนแล้วค่อยตอบโต้ และพอเขาพูดจบก็เสนอวิธีแก้ปัญหา เช่น บอกเขาว่า "ฉันยินดีที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายถ้ามันจะทำให้ฉันได้อยู่กับคุณมากขึ้น"
  2. เรื่องบางเรื่องก็ใหญ่โตพอที่จะทะเลาะกันได้ แต่บางเรื่องที่ปล่อยได้ก็ควรปล่อยไป ถ้าคุณมัวแต่จับผิดสามีในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาจะไม่มีวันฟังความเห็นของคุณในเรื่องใหญ่ ๆ เลย
    • คำวิพากษ์วิจารณ์สามารถทำลายชีวิตคู่ได้ ตราบใดที่จานยังสะอาดดีและไม่ตกแตก คุณก็ไม่ต้องไปบ่นเขาว่าต้องล้างจานอย่างไรถึงจะ "ถูก" ปล่อยให้เขาทำของเขาไป อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
    • ถ้าจะติ ก็ติเพื่อก่ออย่างเดียวเท่านั้น และหลีกเลี่ยงการใช้อารมณ์เพราะอาจจะทำให้ทะเลาะกันได้ พยายามสงบสติอารมณ์และใช้เหตุผลให้มาก ๆ ถ้าคุณติเขาในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จำไว้เลยว่าเขาจะทำเป็นหูทวนลมทันที
    • ชื่นชมเขาเวลาเขาทำดีให้บ่อยกว่าบ่นเขาเวลาเขาทำอะไรไม่ถูกใจ คำชมจะทำให้เขาฟังคุณมากขึ้นและมีความสุขเวลาอยู่ข้าง ๆ คุณ
  3. ทะเลาะกันให้ถูกเรื่อง อย่าปล่อยให้ความโกรธเข้าครอบงำเพราะคุณอาจจะเผลอพูดในสิ่งที่คุณต้องเสียใจภายหลัง ถึงคุณจะไม่เห็นด้วยกับเขา คุณก็ต้องเคารพในความคิดเห็นและมุมมองของเขา การจะเป็นภรรยาที่ดีนั้นคุณจะต้องเข้าใจว่าคุณกับสามีอาจจะไม่ได้เห็นตรงกันในทุก ๆ เรื่อง ไม่มีสามีภรรยาคู่ไหนที่มีหลักคุณธรรมและความเชื่อเหมือนกันเป๊ะ คุณทั้งสองคนต้องเรียนรู้ที่จะรับมือกับความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันบ้าง
    • ดูอารมณ์เขาด้วย ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ คุณจะพ่นปัญหาของคุณให้เขาฟังเมื่อไหร่ก็ได้ อย่าหาเรื่องทะเลาะกันก่อนเวลาอาหารเย็น ตอนเขากำลังจ่ายบิลหรือกำลังแก้ปัญหายาก ๆ เช่นซ่อมรถให้คุณอยู่ และอย่าหาเรื่องทะเลาะกันต่อหน้าลูก ๆ เด็ดขาด [3]
    • เมื่อทำผิดก็ต้องยอมรับผิด คุณต้องเรียนรู้ที่จะตอบโต้อย่างมีเหตุผลเพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าคุณเป็นฝ่ายผิดหรือเปล่า และจะได้ขอโทษเขาเวลาที่คุณพลาดไป
  4. อย่าพูดเรื่องไม่ดีของสามีให้เพื่อน ๆ หรือครอบครัวฟังถ้าคุณยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับเขา การพูดถึงสามีลับหลังถือเป็นความไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่ครอง เมื่อคุณแต่งงาน คนที่คุณควรจะซื่อสัตย์ด้วยมากที่สุดคือสามีหรือภรรยาของคุณ ไม่ใช่ครอบครัวหรือเพื่อน ๆ
    • การบ่นสามีให้เพื่อน ๆ หรือครอบครัวฟังนอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังทำให้พวกเขามองชีวิตคู่ของคุณในทางลบอีกด้วย
    • เพื่อน ๆ และครอบครัวอาจจะคิดว่าพวกเขารู้ดีว่าอะไรเหมาะกับคุณที่สุด แต่จำไว้ว่าไม่มีใครรู้จักชีวิตคู่ของคุณเท่าตัวคุณเอง และพวกเขาก็อาจจะเผลอแนะนำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ทำใจยอมรับ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณทั้งคู่ไม่มีคนไหนสมบูรณ์แบบ และทุกคนก็มักจะทุกข์ใจเวลาคาดหวังในสิ่งที่ยังเป็นไปไม่ได้ ถ้าความคาดหวังของคุณอยู่สูงเกินเอื้อมหรือห่างไกลจากความเป็นจริง คุณก็ต้องปรับมาตรฐานลงมาบ้างด้วยการคาดหวังในสิ่งที่พอจะเป็นไปได้ เช่น คุณไม่ควรคาดหวังว่าจะมีของแพง ๆ ใช้ หรือคาดหวังว่าสามีจะต้องกินข้าวกับคุณทุกมื้อ ถ้าคุณอยากจะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ก็อย่าลืมว่าความคาดหวังของคุณมีราคาที่ต้องจ่ายด้วยเสมอ
    • จำไว้ว่าไม่มีความสัมพันธ์ไหนที่สมบูรณ์แบบ ถ้าคุณหวังว่าจะเข้ากับสามีและมีความสุขร้อยเปอร์เซ็นต์ คุณจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่คุณหวังเลย
    • คาดหวังเรื่องเงินตามความเป็นจริง เป็นไปได้ว่าคุณกับสามีอาจจะไม่ได้หาเงินได้มากอย่างที่คุณเคยคาดหวังว่าจะหาได้ในอีกห้าหรือสิบปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติ พยายามพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่แทนที่จะเอาใจไปจดจ่อกับความอยาก
  2. ยอมรับเขาในแบบที่เขาเป็น และทำให้เขารู้ว่าคุณไม่เคยคิดอยากจะให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อคุณเลย ถ้าคุณปล่อยให้เขาได้มีพื้นที่ของเขาบ้าง รับรองว่าเขาจะให้คุณได้มากกว่าที่คุณต้องการเสียอีก เขาเองก็เติบโตขึ้นมาในแบบของตัวเองเช่นเดียวกันกับคุณ เพราะฉะนั้นจงรักเขาในแบบที่เขาเป็น และเขาจะรักคุณอย่างหมดหัวใจเป็นการตอบแทน
    • ยอมรับว่าคุณกับสามีไม่ใช่คน ๆ เดียวกัน ไม่มีวันที่เขาจะเห็นดีเห็นงามกับคุณทุกเรื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องดี เพราะการที่ได้อยู่กับคนที่ไม่ได้เหมือนเราไปเสียทุกอย่างจะทำให้ชีวิตคู่ของคุณงอกงามขึ้น
    • การขอให้เขาช่วยทำความสะอาดรอบ ๆ บ้านให้มากขึ้นกับการบังคับให้เขาเป็นนักเดินป่าทั้ง ๆ ที่เขาเกลียดกิจกรรมกลางแจ้งนั้นต่างกันมาก คุณขอให้เขาปรับปรุงตัวเองในเรื่องต่าง ๆ ได้ แต่คุณบังคับให้เขาชอบเหมือนคุณทุกอย่างไม่ได้
  3. คุณทั้งคู่จะต้องเผชิญวิกฤตต่าง ๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นตกงาน พ่อแม่เสียชีวิต ปัญหาด้านการเงิน หรือคุณทั้งคู่อาจจะจู่ ๆ ก็รวยขึ้นมาแล้วไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปก็ได้ ชีวิตคู่ของคุณจะก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้ถ้ารู้จักพูดคุยกันอยู่เสมอและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ สิ่งที่คุณต้องระลึกอยู่เสมอเมื่อเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงคือ:
    • จำไว้เสมอว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คุณทั้งคู่คือทีมเดียวกันและจะต่อสู้กับปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่คนสองคนที่ยืนอยู่กันคนละฝั่ง การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงด้วยกันจะทำให้จัดการปัญหาต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
    • ยอมรับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตคู่ แม้ว่าคุณกับสามีอาจจะยังรักกันหวานชื่น แต่ก็ไม่ต้องเสียใจไปถ้าเขาไม่ได้มีเซ็กส์กับคุณทุกคืนหรือไม่ได้จูบคุณวันละยี่สิบครั้งเหมือนสมัยข้าวใหม่ปลามัน ชีวิตคู่ของคุณสามารถคงความหวานชื่นได้โดยไม่ต้องทำทุกอย่างเหมือนตอนแต่งงานกันใหม่ ๆ
    • ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ถึงคุณจะพยายามทำร่างกายให้ฟิตปั๋งและรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ คุณก็ต้องยอมรับว่าตัวคุณในวัย 50 ปีจะไม่มีวันผอมบางระหงเหมือนตอนอายุ 25 ปีซึ่งก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย
  4. ยอมรับว่าการมีลูกทำให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลง. เมื่อไหร่ที่มีลูก ความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับสามีย่อมเปลี่ยนไปแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง เพียงแต่ว่าคุณอาจจะต้องเปลี่ยนจากใช้เวลาว่างด้วยกันมาเป็นดูแลลูก ๆ แทน คุณควรยอมรับให้ได้ว่าการมีลูกย่อมทำให้ชีวิตคู่เปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะได้หาหนทางใหม่ ๆ มาช่วยให้ชีวิตคู่ของคุณกระชุ่มกระชวยได้เหมือนเดิม
    • เพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น ถ้ามีโอกาสลองใช้เวลาดูแลลูกด้วยกันแทนที่จะผลัดกันดู
    • ลองหากิจกรรมสนุก ๆ ที่ทุกคนในครอบครัวทำร่วมกันได้เพื่อให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่แข็งแรงดีแม้ว่าจะต้องเลี้ยงลูกไปด้วย
    • ทำให้ชีวิตคู่แข็งแรงขึ้นด้วยการอบรมสั่งสอนลูกด้วยกัน คุณทั้งคู่ต้องเลี้ยงลูกไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อที่ฝ่ายหนึ่งจะได้ไม่ต้องรับบทเป็น “พระเอก” และให้อีกฝ่ายเป็น “ผู้ร้าย” เวลาอบรมสั่งสอนลูก
  5. ถ้าคุณอยากให้เขายกโทษให้คุณในฐานะภรรยา คุณก็ต้องให้อภัยและรับคำขอโทษจากเขาด้วยใจจริงเวลาเขาทำผิดด้วย (ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนัก) ถ้าคุณมัวแต่โกรธนานเกินไป คุณก็จะพลาดสิ่งดี ๆ ที่เขาทำให้ ทางที่ดีที่สุดคือรับคำขอโทษจากเขาแล้วบอกเขาว่าต้องทำอย่างไรจึงจะไม่ผิดซ้ำเรื่องเดิมอีก และปล่อยให้เรื่องนี้จบไปแทนที่จะโกรธแล้วขุดคุ้ยเรื่องในอดีตมาพูด
    • เวลาทำผิดก็ยอมรับผิดด้วย อย่ามัวแต่ทำตัวเป็นภรรยาผู้สมบูรณ์แบบจนรู้สึกว่าการยอมรับผิดเป็นเรื่องเสียหน้า
    • การยอมรับผิดจะช่วยให้คุณทั้งคู่เติบโตไปด้วยกันในฐานะคู่ชีวิต
    โฆษณา


วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

จัดสรรเวลากุ๊กกิ๊ก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่ว่าคุณจะยุ่ง เครียดกับงาน หรือมีลูกกี่คน คุณก็ต้องมีคืนสวีทกับสามีบ้าง ถ้าคุณไม่มีลูกก็ควรจะมีคืนเดทสัปดาห์ละครั้ง แต่ถ้ามีลูกก็พยายามทำให้ได้สองสัปดาห์ครั้งหรือบ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงจะฟังดูซ้ำซากไปบ้าง แต่การได้แต่งตัวออกจากบ้านไปยังที่ที่มีบรรยากาศดี ๆ จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่กระชุ่มกระชวยขึ้น ทั้งยังเปิดโอกาสคุณได้ออกไปสูดอากาศนอกบ้านอีกด้วย
    • "คืนเดท" ของคุณไม่จำเป็นต้องทำแต่เรื่องกุ๊กกิ๊กเสมอไป คุณจะไปโยนโบว์ลิ่ง ตีกอล์ฟ หรือไปช้อปปิ้งกลางดึกด้วยกันก็ได้ ทำอะไรก็ได้ที่คุณอยากทำเพื่อให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน
  2. คุณอาจจะคิดว่าคุณควรมีเซ็กส์ก็ต่อเมื่อมีอารมณ์เท่านั้น แต่ถ้าคุณไม่จัดสรรเวลาให้เซ็กส์แล้วละก็ สักพักคุณอาจจะเริ่มเฉย ๆ กับเซ็กส์ไปเลยก็ได้ คนเราถ้าไม่ได้ใกล้ชิดหรือไม่ได้สัมผัสความรักที่ถ่ายทอดออกมาขณะมีเซ็กส์นาน ๆ จะทำให้กลายเป็นคนขี้หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี และทุกข์ทรมานจากการถูกปฏิเสธที่จะมีเซ็กส์ด้วยและอาจจะถึงขั้นโกรธได้ จำไว้ว่าเซ็กส์ช่วยเพิ่มความใกล้ชิดและเป็นการปลดปล่อยทางกายที่สำคัญกับคุณทั้งคู่
    • แต่ละคนมีความคาดหวังและความต้องการทางเพศไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นลองหาวิธีพบกันคนละครึ่งทางกับสามีดู เพราะคู่รักที่ต่างคนต่างรู้สึกว่าตัวเองมีหน้าที่เติมเต็มชีวิตเซ็กส์ของอีกฝ่ายมีแนวโน้มที่จะมีความสุขกับชีวิตคู่มากกว่า [4]
  3. หลังจากแต่งงานสักพัก แทนที่จะจูบกันอย่างดูดดื่มเหมือนเมื่อก่อนก็จะเหลือแค่จุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปาก ลองตั้งเป้าว่าคุณจะจูบสามีวันละครั้งอย่างน้อย 6 วินาที หรือทุกเช้าและก่อนนอนแม้ว่าคุณจะไม่มีเวลาแตะเนื้อต้องตัวกันไปมากกว่านี้ คุณคงไม่อยากให้สามีมองว่าการจูบคุณเป็นเพียงหน้าที่เหมือนที่เขาต้องจูบลูก ๆ หรอกนะ แล้วอย่าลืมใส่ความรักลงไปในรอยจูบด้วยละ
    • เวลาจะมีเซ็กส์กันอย่าจู่โจมไปที่การมีเซ็กส์ในทันที จูบกันสักนิดก่อน การจูบเป็นวิธีเล้าโลมชั้นเยี่ยมเลยนะ
  4. ทำห้องนอนให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับเซ็กส์. ห้ามนำทีวี โน้ตบุ๊กหรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับงานเข้าไปไว้ในห้องนอนโดยเด็ดขาด เพราะห้องนอนควรมีไว้เพื่อการนอนและเซ็กส์เท่านั้น คุณไม่มีทางเห็นห้องนอนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และพิเศษได้แน่นอนหากคุณยังเอาของเล่นลูก ๆ ข่าวภาคดึก หรืองานที่ยังค้างอยู่เข้ามาในห้องนอนด้วย การจัดสรรพื้นที่ในบ้านเพื่อการนอนและมีเซ็กส์โดยเฉพาะจะทำให้ชีวิตรักและชีวิตเซ็กส์ของคุณพิเศษและมีความหมายต่อความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น [5]
    • จะช่วยกันทยอยเอาของที่ไม่เกี่ยวกับการนอนและเซ็กส์ออกไปจากห้องนอนก็ได้นะ เป็นกิจกรรมที่ช่วยเติมความหวานให้ชีวิตคู่ได้ดีเลยละ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จำไว้ว่าเมื่อเกิดปัญหาต้องจับเข่าคุยกัน อย่าเดินหนีปัญหาไปเสียเฉย ๆ ในเมื่อคุณตัดสินใจแต่งงานกับเขาแล้ว คุณก็ต้องอยู่เคียงข้างเขาในทุกสถานการณ์ด้วย
  • ผู้หญิงที่มีความสุขกับตัวเองคือภรรยาที่ดีที่สุดในโลก จำไว้ว่า "ถ้าแม่ทุกข์ ทุกคนก็ทุกข์"
  • ถ้าชีวิตคู่ของคุณมีปัญหา ลองมองหาการให้คำปรึกษาดู เพราะการหย่าร้างถือเป็นการสร้างความเจ็บปวดให้แก่คุณและสามีรวมถึงลูก ๆ ด้วย ต่อสู้เพื่อชีวิตคู่ด้วยการทำความเข้าใจในสิ่งที่แต่ละฝ่ายต้องการและหาทางออกเพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเข้ารูปเข้ารอย
  • อย่าบังคับจิตใจสามีด้วยการยืนกรานให้เขาทำอะไรที่เขาไม่อยากทำ เพราะนอกจากจะยิ่งทำให้เขาไม่อยากทำเข้าไปใหญ่แล้ว ยังอาจทำลายชีวิตคู่ของคุณด้วย
  • ภรรยาหลายคนให้คำจำกัดความการเป็นภรรยาที่ดีตามความเชื่อทางศาสนา แต่สำหรับคู่ที่มีพื้นฐานทางศาสนาที่แตกต่างกัน ต่างฝ่ายต่างก็อาจจะมีแนวคิดเรื่องภรรยาที่ดีต่างกันก็ได้ และแนวคิดดั้งเดิมที่ว่าการยอมอ่อนข้อคือคุณสมบัติหนึ่งของการเป็นภรรยาที่ดีอาจทำให้คนที่เป็นภรรยาไม่สามารถพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นคู่คิดของสามีได้ เพราะฉะนั้นนอกจากจะเคารพความเชื่อของตัวเองแล้ว คุณก็ต้องเคารพความต้องการของตัวเองด้วย
  • คู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจะมีสุขภาพที่แข็งแรง ร่ำรวย และมีความสุขมากกว่าคนโสดหรือคนที่หย่าร้าง จากการศึกษาพบว่า ชีวิตคู่ที่มีความสุขช่วยชะลอการเกิดโรคหัวใจ มะเร็ง และเส้นเลือดอุดตัน นอกจากนี้ยังพบอีกว่ายิ่งคู่รักพึงพอใจกับเซ็กส์มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยลดความตึงเครียดและความรุนแรงในครอบครัวได้มากเท่านั้น
  • ถ้าชีวิตคู่ของคุณกำลังมีปัญหา ให้คุยกับผู้เชี่ยวชาญแทนการปรึกษาเพื่อนสนิทและญาติ ๆ เพราะแม้ว่าปัญหาจะจบไปแล้ว คนเหล่านั้นก็จะยังมองสามีของคุณในแง่ลบอยู่ดีและอาจจะให้คำแนะนำที่มีอคติปนอยู่ด้วย
  • จำไว้ว่าคุณกับสามีคือทีมเดียวกัน ถ้าคุณช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ ความสำเร็จนั้นก็เป็นของคุณด้วย และแน่นอนว่าความสำเร็จของคุณก็คือความสำเร็จของเขาด้วยเช่นกัน ช่วยให้เขาทำงานได้ง่ายขึ้นแล้วเขาจะรู้สึกเองว่าจะต้องตอบแทนคุณ
  • ถ้าคุณไม่ชอบกิจกรรมทางเซ็กส์บางอย่าง คุณมีสิทธิ์ที่จะบอกเขาและเขาก็ต้องให้เกียรติคุณด้วย
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าใช้ความรุนแรงกับสามี ศูนย์ควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริการายงานว่า แต่ละปีมีผู้ชายมากกว่า 800,000 คนที่ถูกภรรยาทำร้ายร่างกาย อย่าปล่อยให้ความโกรธครอบงำจนควบคุมตัวเองไม่ได้ และในทางกลับกันก็อย่าทนกับสามีที่ทุบตีคุณ [6]
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

วิธีการปลอบใจสำหรับคนที่เผชิญความสูญเสีย
โน้มน้าวให้พ่อแม่ซื้อโทรศัพท์มือถือให้
ทำให้แฟนหนุ่มที่คบกันมานานขอคุณแต่งงาน
ทำโทษด้วยการตีก้น
รู้ว่าสามีกำลังนอกใจคุณอยู่หรือเปล่า
ทำให้ภรรยาของคุณตกหลุมรักคุณอีกครั้ง
ทำชีวิตให้ง่ายขึ้น
รับมือกับการสูญเสียและความเจ็บปวด
วิธีการทำให้แฟนหนุ่มรู้สึกผิดที่นอกใจ
ทำให้สามีมีความสุข
ดำเนินชีวิตแบบนักเปลือยกาย
ดำเนินชีวิตแบบเปลือยกายในครอบครัว
รับมือกับพ่อแม่จอมปั่นหัว
เลิกรากับสามีที่นอกใจทั้งที่ยังรัก
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 38,770 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา