บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Lena Dicken, Psy.D
. ดร. ลีน่า ดิกเกนส์เป็นนักจิตวิทยาคลินิกอยู่ที่ซานตามอนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย ดร. ดิกเกนส์เชี่ยวชาญในการบำบัดผู้ที่มีความวิตกกังวล ซึมเศร้า เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต และผู้ที่ความสัมพันธ์มีปัญหา โดยมีประสบการณ์มากกว่า 8 ปี เธอใช้วิธีแบบบูรณาการซึ่งผสมผสานระหว่างจิตพลวัต การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม และสติบำบัด ดร. ดิกเกนส์ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการแพทย์บูรณาการ จากมหาวิทยาลัยฮาวาย วิทยาเขตมาโนอา ได้รับปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการปรึกษา จากมหาวิทยาลัยอาเกซี วิทยาเขตลอสแอนเจลิส และจบปริญญาเอกด้านจิตวิทยา (Psy.D) สาขาจิตวิทยาคลินิกจากโรงเรียนจิตวิทยาชีพชิคาโก วิทยาเขตเวสต์วูด งานของดร. ดิกเกนส์ได้มีบทบาทสำคัญใน GOOP และ The Chalkboard Magazine รวมทั้งบทความอื่นๆ จำนวนมากและพอดแคสต์ เธอเป็นนักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาตกับรัฐแคลิฟอร์เนีย
มีการอ้างอิง 21 ข้อ
ที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 3,178 ครั้ง
เมื่อพ่อหรือแม่ปั่นหัวคุณด้วยการพยายามปฏิเสธ บั่นทอน และควบคุมการรับรู้ความจริงของคุณ คุณก็คงนึกไม่ออกว่าจะต้องทำอย่างไร [1] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Domestic Violence Hotline ไปที่แหล่งข้อมูล ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ พฤติกรรมควบคุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพ่อหรือแม่นั้นอาจสร้างความเจ็บปวดและทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นที่ยอมรับ แต่โชคดีที่คุณสามารถทำอะไรบางอย่างเพื่อปกป้องจิตใจของตัวเองและอยู่ให้ห่างจากคนที่ปั่นหัวคุณได้ พร้อมกับปรับเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่ในครอบครัวให้ดีขึ้นและเสริมสร้างพลังในตนเองไปพร้อมกัน
ขั้นตอน
-
ใช้สัญชาตญาณและเชื่อความทรงจำของคุณว่ามันเกิดอะไรขึ้น. มันเป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดและสับสนมากๆ เวลาที่จอมปั่นหัวพยายามจะบอกคุณว่า “แม่ไม่ได้พูด/ทำแบบนั้นสักหน่อย” หรือ “เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย” เพื่อเอาตัวรอดจากพฤติกรรมแย่ๆ พวกเขาอาจจะถึงขั้นพยายามเปลี่ยนกฎหรือความคาดหวังที่มีต่อคุณหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้ว เช่น ถ้าพ่อ/แม่บอกว่าคุณต้องกลับบ้านไม่เกิน 4 ทุ่ม แต่พอคุณมาถึงบ้านตรงเวลา พ่อ/แม่จอมปั่นหัวกลับอ้างว่าเขาบอกให้คุณกลับถึงบ้านภายใน 3 ทุ่ม [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณสามารถเผชิญหน้ากับจอมปั่นหัวได้อย่างปลอดภัย ให้ตอบกลับโดยการพูดว่า “ไม่ใช่ค่ะ หนูรู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไง เรื่องมันเป็นแบบนี้…”
- ถ้าคุณไม่อยากเถียงกับจอมปั่นหัว ให้บอกว่า "หนูไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้หรอกนะคะ" แล้วเดินหนี ถ้าเดินหนีไม่ได้ ทำไม่รู้ไม่ชี้ใส่จอมปั่นหัวให้ได้มากที่สุด [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- แม้จอมปั่นหัวจะพยายามโกหกเพื่อให้คุณขอโทษหรือรู้สึกแย่ คุณต้องเข้มแข็ง อย่าขอโทษหรือพูดอะไรที่เป็นการตำหนิตัวเอง ประสบการณ์และความจริงของคุณเป็นสิ่งสำคัญ!
โฆษณา
-
ถ้ารู้สึกว่าปลอดภัย กำหนดขอบเขตให้ชัดเจนเพื่อปกป้องตัวเอง. เมื่อใครสักคนใช้ภาษาหยาบคายที่เป็นการล้ำเส้นขอบเขตทางอารมณ์ของคุณ คุณอาจจะรู้สึกเจ็บปวด โกรธ หรือไม่พอใจมาก รับฟังว่าร่างกายตอบสนองอย่างไรและรู้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ที่จะรู้สึกแบบนั้น จากนั้นก็ตอบโต้จอมปั่นหัวด้วยการบอกเขาว่าคุณรู้สึกอย่างไร และบอกให้เขารู้ว่าคุณจะไม่พูดกับเขาถ้าเขาทำแบบนี้กับคุณ ถ้าไม่สนใจขอบเขตทางอารมณ์ของคุณ พยายามเดินออกจากห้องหรือสถานการณ์ตรงนั้น [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บอกเขาว่า “หนูอยากให้แม่พูดกับหนูดีๆ กว่านี้”
- ตอบโต้การกล่าวอ้างหรือน้ำเสียงของจอมปั่นหัวที่สื่อถึงความเจ็บปวดด้วยการพูดประมาณว่า “หนูไม่รู้จะคุยกับแม่ยังไงเวลาแม่เรียกหนูเสียๆ หายๆ อย่างเช่น ‘ไอ้โง่’”
- ตอบโต้การกล่าวโทษอย่าง “ลูกใช้แต่อารมณ์” หรือ “ก็ถ้าลูกไม่ทำแบบนั้น แม่ก็คงไม่ทำโทษลูก” ด้วยการพูดว่า “หนูเข้าใจว่าทำไมแม่ถึงรู้สึกแบบนั้น แต่หนูไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกับแม่ หนูเลยคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ยุติธรรมเลย” [5] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ PubMed Central ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ใช้เวลานอกบ้าน ย้ายออก หรือหากุญแจมาล็อกประตู. ถ้าคุณยังอาศัยอยู่ที่บ้านและยังเรียนหนังสืออยู่ ให้เข้าชมรมหรือเข้าร่วมโปรแกรมหลังเลิกเรียนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องอยู่บ้านมากนัก ถ้าคุณไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ให้ตั้งกฎว่าคุณจะติดต่อพ่อแม่บ่อยแค่ไหน ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองสามารถพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่ได้อย่างปลอดภัย ให้พูดคุยเรื่องขอบเขตกับพ่อแม่ [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- “ผมอยากให้พ่อมากินข้าวเย็นที่อะพาร์ตเมนต์ผมอย่างเดียว แต่ไม่ต้องค้างคืนวันเสาร์อาทิตย์”
- “ผมจะไปติวหนังสือที่บ้านเพื่อนทุกวันนะครับ จะกลับหลังมื้อค่ำ”
- “ผมจะรับโทรศัพท์แม่ทุกวันเสาร์ แต่ช่วงที่ผมทำงานผมจะไม่รับโทรศัพท์แม่นะครับ”
โฆษณา
-
ใช้วิธีนี้ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถเผชิญหน้ากับจอมปั่นหัวได้. คุณเป็นคนที่น่าทึ่งที่สามารถทำอะไรต่างๆ ได้มากมาย แต่คุณคงจำสิ่งนี้ไม่ได้เวลาที่ต้องรับมือกับจอมปั่นหัว แย้งคำพูดเชิงลบที่จอมปั่นหัวพูดเกี่ยวกับคุณและบอกตัวเองว่าคุณมีค่าด้วยการพูดเชิงบวกซ้ำๆ กับตัวเองไม่ว่าจะเป็นการพูดออกมาดังๆ หรือเขียนในสมุดบันทึกส่วนตัวก็ตาม [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- “ความรู้สึกของฉันสำคัญ” [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- “ฉันสมควรได้รับการเอาใจใส่และความรัก”
- “เวลาที่ฉันพูดความต้องการออกไปตรงๆ นั่นหมายความว่าฉันกำลังรับผิดชอบ ไม่ใช่ว่าฉันเห็นแก่ตัว”
- ให้กำลังใจตัวเองในการทำงานหรือกิจกรรมต่างๆ ด้วยการพูดประมาณว่า “วันนี้ฉันเล่นฟุตบอลได้ดีมากเลย” [9] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
-
ทำกิจกรรมต่างๆ และใช้เวลากับคนที่ส่งเสริมคุณ. คุณสมควรได้รับความรักและการยืนยันจากคนรอบข้าง เพราะฉะนั้นโอบกอดความสัมพันธ์ในชีวิตที่นำพาความสุขมาให้ ลองทำงานอาสาสมัคร งานอดิเรกใหม่ๆ หรือออกกำลังกายแบบใหม่กับเพื่อนๆ หรือตามลำพังเพื่อให้ตัวเองเห็นว่าคุณทำอะไรได้บ้าง! [10] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ถ้าคุณไม่สามารถเชื่อมโยงกับความเป็นตัวเองได้ คุณก็สามารถพูดคุยกับนักให้คำปรึกษาที่ยินดีช่วยคุณเสริมสร้างความมั่นใจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น [11] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- บันทึกเสียงตัวเองพูดว่า “ฉันรักตัวเอง ฉันสำคัญ ฉันมีค่า” เปิดเสียงพูดให้ตัวเองฟังหรือพูดกับตัวเองซ้ำๆ ทุกวัน [12] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ National Domestic Violence Hotline ไปที่แหล่งข้อมูล
- ทำกิจกรรมที่ช่วยฝึกใจให้สงบ เช่น นั่งสมาธิ หรือเล่นโยคะ
โฆษณา
-
บันทึกพฤติกรรมปั่นหัวผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลหรือหาพยานมายืนยันพฤติกรรมนั้น. เมื่อคุณมีหลักฐานมาพิสูจน์คำโกหกของจอมปั่นหัวที่ไม่ตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง คุณก็สามารถยืนยันได้ว่าสิ่งที่คุณรู้เป็นความจริง ยิ่งไปกว่านั้นหากคุณถูกทำร้ายหนักขึ้น คุณก็สามารถนำหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ดูได้ด้วย [13] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- คุณสามารถบันทึกเสียงหรือวิดีโอไว้ในโทรศัพท์เพื่อจับจอมปั่นหัวให้ได้ว่า เขากำลังทำร้ายคุณด้วยคำพูดหรือคำโกหก
- ถ้าคุณมีเพื่อนที่ไว้ใจหรือรู้จักผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต ให้โทรหาเขาและขอให้เขาถือสายไว้เมื่อคุณทะเลาะกับพ่อ/แม่จอมปั่นหัว คุณจะได้มีพยาน
- ระมัดระวังเรื่องการเก็บหลักฐานไว้ในที่ที่จอมปั่นหัวสามารถเข้าถึงได้ให้มากๆ อัปโหลดบันทึกเสียงดิจิทัล ภาพถ่าย และวิดีโอไว้ในคลาวน์เพื่อสำรองไว้ด้วย
-
ปลดปล่อยพลังทางอารมณ์ด้วยการปล่อยความสัมพันธ์นั้นไป. การละทิ้งความสัมพันธ์กับใครสักคนอาจเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ก็เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้คุณได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์ที่ดี จอมปั่นหัวมักเป็นผู้ที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่งหรือหลงตัวเองโดยที่เขาเองอาจจะไม่เคยตระหนัก ไม่เคยขอโทษอย่างจริงใจ หรือรู้สึกผิดที่ทำกับคุณแบบนั้น คุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้! เมื่อคุณเลือกที่จะก้าวออกมาแทนที่จะรอคำขอโทษ ก็เท่ากับว่าคุณเปิดประตูให้ความสัมพันธ์ที่มีความหมายและมีคุณค่ากับคนอื่นๆ ได้เข้ามาในชีวิตของคุณ [14] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ขยายเครือข่ายช่วยเหลือด้วยการใช้เวลากับเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวคนอื่นๆ ที่ยืนยันอารมณ์และประสบการณ์ของคุณ [15] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
เลือกว่าจะโทรหา ส่งข้อความ และไปเยี่ยมพ่อแม่เมื่อไหร่. จอมปั่นหัวอาจจะคาดคั้นให้คุณอธิบายและพยายามทะเลาะกับคุณเรื่องที่คุณอยากลดการติดต่อ ตอบกลับให้ชัดเจนและหนักแน่นด้วยการบอกเขาว่าคุณยินดีที่จะติดต่อกับเขามากน้อยแค่ไหน การเลือกลดการติดต่อคือการที่คุณให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ดีที่ของตัวเองมากกว่าความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ [16] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- “หนูยินดีที่จะกลับมาอยู่บ้านสองวันในช่วงวันหยุด แต่ระหว่างนั้นหนูไม่มานะคะ”
- “หนูสบายใจที่จะคุยกับพ่อก็ต่อเมื่อมีคนอื่นเช่นแม่หรือน้องสาวอยู่ด้วยเท่านั้น”
- ถ้าพ่อ/แม่จอมปั่นหัวพยายามติดต่อคุณผ่านทางเพื่อนของครอบครัวหรือญาติ ให้บอกว่า “หนูอยากเก็บความสัมพันธ์ของเราไว้เป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ หนูไม่อยากพูดถึงแม่/พ่อ/พ่อแม่”
- เข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนผู้ผ่านการถูกปั่นหัวหรือรอดพ้นจากการถูกคนหลงตัวเองทำร้าย
-
เข้าสู่การเยียวยาและประนีประนอมกับจอมปั่นหัว. เวลาที่คุณเข้ารับการบำบัดครอบครัว คุณทุกคนจะต้องเข้าไปคุยกับนักจิตบำบัดด้วยกันเพื่อระบุความขัดแย้งในครอบครัวและแก้ไขปัญหา [17] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้าคุณมีปัญหากับการที่คนในบ้านไม่รับฟังคุณ นักจิตบำบัดสามารถช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะต้องได้พูดมุมมองของตัวเอง อย่างไรก็ตามจำไว้ว่าการจะทำให้จอมปั่นหัวเข้ารับการบำบัดนั้นเป็นเรื่องยากมากๆ และพวกเขาก็มักจะไม่ยอมรับว่าตัวเองกำลังสร้างปัญหา [18] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ในการค้นหานักจิตบำบัดนั้น คุณสามารถขอให้แพทย์ประจำตัวแนะนำนักจิตบำบัดให้คุณหรือค้นหาทางออนไลน์ นอกจากนี้คุณก็อาจจะขอให้คนใกล้ชิด องค์กรสุขภาพจิต หรือโปรแกรมช่วยเหลือพนักงานแนะนำนักจิตบำบัดให้คุณก็ได้
โฆษณา
-
เสริมสร้างความมั่นใจขึ้นมาอีกครั้งและทำความเข้าใจสถานการณ์ที่ยากลำบากในระหว่างการบำบัด. ระหว่างหรือหลังจากเผชิญกับการถูกปั่นหัว ไม่ใช่คุณคนเดียวที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับความเชื่อและประสบการณ์ของตัวเอง และอาจถึงขั้นรู้สึกสิ้นหวังหรือซึมเศร้าเลยก็ได้ คุณสามารถค้นหานักให้คำปรึกษาหรือนักจิตบำบัดเพื่อช่วยเหลือเส้นทางการเยียวยาของคุณผ่านศูนย์สุขภาพจิตของโรงเรียนหรือที่ทำงาน แพทย์ประจำตัว หรือองค์กรสุขภาพจิตใกล้บ้าน ค้นหาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตที่มีใบอนุญาตเพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะได้พูดคุยกับนักให้คำปรึกษาที่มีความสามารถ [19] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ American Psychological Association ไปที่แหล่งข้อมูล
- ถ้าคุณไม่มีใบขับขี่ ให้ลองเข้ารับการปรึกษาผ่านทางออนไลน์
- ถ้าคุณไม่สามารถจ่ายค่าบำบัดได้ คุณก็สามารถสร้างเครือข่ายสนับสนุนที่ทรงพลังได้ด้วยการเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุนผู้ที่เคยผ่านการถูกทำร้ายจิตใจที่อยู่ใกล้บ้านหรือทางออนไลน์ [20] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- หากคุณเป็นนักศึกษา อีกทางเลือกหนึ่งในการเข้ารับคำปรึกษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายคือ สอบถามศูนย์ดูแลสุขภาพนักศึกษาหรือองค์กรสุขภาพจิตในชุมชนที่เปิดให้คำปรึกษาฟรี [21] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
การดูถูก ปฏิเสธ และด่าทออย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณของการทำร้ายจิตใจ. [22] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล ถ้าพ่อ/แม่ไม่เคารพขอบเขตของคุณและคุณต้องประสบกับการถูกปั่นหัวเป็นประจำหรือรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่บ้าน ให้ขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับคุณแบบนี้! คุณสามารถรายงานการถูกทำร้ายจิตใจได้ด้วยการเล่าให้ผู้ใหญ่ที่คุณไว้ใจฟัง เช่น หมอ โค้ช ผู้ดูแล หรือครู
- ครู ผู้ดูแล และโค้ชที่โรงเรียนสามารถรายงานให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง (ซึ่งได้แก่ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและตำรวจ) รับทราบได้หากสงสัยว่าเด็กถูกทำร้าย
- คุณสามารถโทรศัพท์ไปที่มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก (02-412-1196) หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม (1300) เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการแจ้งเหตุเด็กถูกทำร้ายและการส่งเรื่องต่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง [23] X แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้ Mayo Clinic ไปที่แหล่งข้อมูล
โฆษณา
บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.thehotline.org/resources/what-is-gaslighting/
- ↑ https://www.jucm.com/thats-not-what-happened-how-to-deal-with-gaslighting-in-the-workplace/
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=29gI1S75LnQ&t=465s&ab_channel=JuliaKristinaCounselling
- ↑ https://www.youtube.com/watch?v=HfU3vliw_08&t=266s&ab_channel=KatiMorton
- ↑ https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5961625/
- ↑ https://www.youtube.com/watch?t=228&v=HfU3vliw_08&feature=youtu.be&ab_channel=KatiMorton
- ↑ https://psychcentral.com/blog/7-ways-to-extinguish-gaslighting
- ↑ https://psychcentral.com/blog/childhood-neglect/2019/02/38-daily-affirmations-for-healing-your-childhood-emotional-neglect
- ↑ https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/adult-health/in-depth/self-esteem/art-20045374
- ↑ https://www.domesticshelters.org/articles/after-abuse/rebuilding-your-self-esteem-after-abuse
- ↑ https://psychcentral.com/blog/7-ways-to-extinguish-gaslighting
- ↑ https://www.thehotline.org/resources/5-powerful-self-care-tips-for-abuse-and-trauma-survivors/
- ↑ https://www.domesticshelters.org/articles/legal/collecting-evidence-of-abuse-without-danger
- ↑ https://www.wpr.org/how-identify-and-deal-gaslighting-behavior
- ↑ https://psychcentral.com/blog/7-ways-to-extinguish-gaslighting
- ↑ https://www.abc.net.au/news/2019-04-21/gaslighting-is-domestic-violence-happens-to-children-too-expert/11003116
- ↑ https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/family-therapy/about/pac-20385237
- ↑ https://www.wpr.org/listen/1351681
- ↑ https://www.apa.org/ptsd-guideline/patients-and-families/finding-good-therapist
- ↑ https://psychcentral.com/blog/what-to-do-when-you-cant-afford-therapy
- ↑ https://psychcentral.com/blog/what-to-do-when-you-cant-afford-therapy
- ↑ https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/child-abuse/symptoms-causes/syc-20370864
- ↑ https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/child-abuse/diagnosis-treatment/drc-20370867