ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ดังที่มีคำพูดกล่าวไว้ว่า “การแก้แค้นต้องอาศัยจิตใจที่เย็นชา” หากมีใครปฏิบัติต่อคุณอย่างน่าหงุดหงิด ชั่วร้าย และทำให้คุณคับข้องใจมากจนไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการแก้แค้นแล้วล่ะก็ มันอาจยากที่จะรู้ได้ว่า ควรเริ่มจากจุดไหนก่อน เพราะมีทางเลือกมากมายให้คุณลอง ไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้นเชิงรับ แก้แค้นเชิงรุก หรือจะแก้แค้นแบบโต้งๆ นี่แหละดี หากเลือกไม่ถูก วิกิฮาวช่วยคุณได้ เลื่อนลงไปอ่านเลยสิ รออะไร

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การแก้แค้นเชิงรับ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. บางครั้งการนั่งเฉยและไม่ทำอะไรเลย ก็เป็นการแก้แค้นที่ดีที่สุดต่อพวกเกเรหรืออันธพาลที่ต้องการหาเรื่องคุณ การตามล่าพวกเขา หรือกร่นด่าและเหวี่ยงกลับไปด้วยความโมโห จะเป็นการทำให้พวกเขารู้สึกถือไพ่เหนือกว่าและสะใจที่ได้หาเรื่องคุณ หากคุณเมินเฉยและตัดพวกเขาออกไปจากชีวิต พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจากซากศพที่ตายแล้วสำหรับคุณ ทุกอย่างจบแล้วและคุณควรลืมมันไป
    • การถูกเมินเฉยทำให้อีกฝ่ายรู้สึกคับข้องใจได้ไม่แพ้กัน หรืออาจมากกว่าการถูกตอบโต้ด้วยซ้ำ เทคนิคนี้มักใช้ได้ผลกับคนที่อยากทำให้คุณอับอายต่อหน้าคนอื่น เช่น พี่น้อง อันธพาลที่โรงเรียน หรือเพื่อนร่วมงานที่เห็นคุณเป็นตัวตลก
  2. "การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือ การมีความสุขกับชีวิตคุณเอง" จงทำราวกับว่าเรื่องที่ทำให้คุณอยากแก้แค้น ไม่ได้ส่งผลกระทบกับชีวิตคุณเลย กั้นกำแพงทางจิตเอาไว้ และดำเนินชีวิตต่อไปตามปกติ ต่อให้คุณสะดุดล้มลงเพราะการกระทำของใครบางคน ก็จงเชิดหน้าเข้าไว้และอย่าให้พวกเขาเห็นความเจ็บปวดของคุณ การแก้แค้นที่หอมหวานที่สุด อาจจะเป็นแค่การใช้ชีวิตของคุณให้ดี หรือดีกว่าคนที่ทำให้คุณเจ็บช้ำน้ำใจ
    • หากคุณจำเป็นต้องพบเจอเขาหรือเธอเป็นประจำ พยายามเตรียมเรื่องเล่าไว้ว่า ที่ผ่านมาคุณมีชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างไร หากใครทำให้คุณอับอายที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน พยายามเล่าให้พวกเขาฟังว่า คุณได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่อย่างสนุกสนานเพียงใดในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือเรื่องการไปออกทริปปั่นจักรยานมันส์ๆ ก็ได้
  3. หากมีคนกลั่นแกล้งคุณทางเฟสบุ๊ค เหน็บแนมถากถางคุณผ่านทวิตเตอร์หรือรูปภาพในอินสตาแกรม อย่าปล่อยให้มันส่งผลต่อชีวิตคุณต่อไป ยกเลิกสถานการณ์เป็นเพื่อน เลิกติดตาม และบล๊อคคนๆ นั้นไปเลยก็ได้ อย่าปล่อยให้การก่อกวนเล็กๆ น้อยๆ มาก่อตัวเป็นเรื่องราวใหญ่โต ไม่นานนัก ความทรงจำในเรื่องที่พวกเขาเคยโพสท์เสียดสีหรือใช้รูปภาพที่ถ่ายคู่กับแฟนเก่าคุณมาเยาะเย้ย ก็จะจางหายไปเอง
    • คุณอาจรู้สึกอยากจะใช้ข้อความหรือคำพูดโจมตีอีกฝ่ายในโลกออนไลน์ แข่งกันโพสท์ข่มอีกฝ่าย หรือแชทดราม่าโต้เถียงกันให้คนอื่นรับรู้ แต่จงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้เถอะ มันไม่มีวันจบง่ายๆ หรอก และก็ไม่มีประโยชน์เลย ที่จะเสียเวลาอันมีค่าของคุณ ไปกับการเสี่ยงที่จะอับอายต่อหน้าสาธารณะชน
  4. อย่าช่วยเหลือคู่แค้น เวลาที่เขาหรือเธอต้องการ. วิธีนี้ทำได้ผลดีในกรณีขัดแย้งกับคนที่ทำงานด้วย หรือกรณีที่พวกเขาชอบถากถางการให้ความช่วยเหลือของคุณ หรือตอนที่คุณแค่ทำงานของคุณตามปกติ ปล่อยให้พวกเขาแก้ปัญหาเอง เพื่อจะได้สำเหนียกว่า จะเป็นอย่างไรเมื่อไม่มีคุณช่วย พวกเขาจะรู้ได้เอง
    • หากคุณทำงานเป็นกลุ่มที่โรงเรียนและทุกคนต่างก็เยาะเย้ยในความพยายามของคุณ จงถอนตัวออกจากกลุ่มและเลือกทำคนเดียว เวลาที่ใกล้ถึงวันครบกำหนดส่งงานเมื่อไร ก็บอกคุณครูไปว่า กลุ่มเพื่อนคนไหนที่ไม่ช่วยงานคุณเลย
    • หากมีแฟน รูมเมท หรือพี่น้องคนใดของคุณ ชอบวิจารณ์ในความพยายามที่จะทำงานบ้านของคุณ ก็จงหยุดซักรีดเสื้อผ้า ล้างจาน หรืองานใดก็ตาม เพื่อส่งสาส์นให้รู้ว่า คุณก็ยินดีจะให้พวกเขาทำเองเหมือนกัน
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ลงมือทำ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากคุณมีหลักฐานยืนยัน ก็ใช้ช่องทางกฎหมายจัดการเลย. ปล่อยให้ผู้มีอำนาจจัดการคดีที่คุณถูกย่ำยีทั้งทางกายและใจ คุณควรจดบันทึกเหตุการณ์และรายละเอียดต่างๆ ตามลำดับเวลาที่เกิดขึ้น และมองหาช่องทางในการตั้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีต่อไป
    • หากคุณยืมรถคุณไปและทำให้เกิดความเสียหาย หรือใครยืมเงินคุณแล้วไม่คืน จดบันทึกรายละเอียดเอาไว้ ทั้งใบเสร็จ สัญญา อีเมล์ ฯลฯ และเขียนเรื่องราวหรือบทสนทนาที่พอจะนึกออกตามความเป็นจริง จากนั้น ก็ลองปรึกษาทนายหรือตำรวจดู ถึงความเป็นไปได้ในการจับกุมหรือดำเนินการในข้อหาลักทรัพย์ ยักยอกเงิน ทำลายทรัพย์สิน สะกดรอยตาม บิดเบือนเอกสาร หรือหมิ่นประมาท เป็นต้น
    • พยายามแก้แค้นด้วยช่องทางตามกฎหมาย หากคุณต้องการเจาะจงแก้แค้นใคร ก็อย่าล้ำเส้น การถือสิทธิใช้ศาลเตี้ยตัดสิน มักทำให้คนๆ นั้นติดคุกเอง และการไปทำร้ายใครก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา จงจำกัดตัวเองอยู่ในกรอบแห่งกฎหมายและจิตสำนึกส่วนตัวด้วย การขโมยเอกสารหรือข้อมูลจากคู่กรณีอาจจะทำให้คุณตื่นเต้นชั่วคราว แต่มันก็เป็นอาชญากรรมชนิดหนึ่ง คิดว่าคุ้มกันมั้ยล่ะ ไม่หรอก
  2. หากพวกเข้ามาหาเรื่องคุณ อย่าลังเลที่จะพูดสิ่งที่คุณต้องการออกไป ใช้ไหวพริบสักนิดในการเปรยให้พวกเขาสำนึกว่า พวกเขามีทัศนคติที่แย่หรือไร้หัวคิดเพียงใด ดูถูกพวกเขาให้หงายเงิบไปเลย
    • ระวังไว้หน่อยนะ การช่างจับผิดและคอยหาเรื่อง เท่ากับคุณลดตัวลงไปอยู่ระดับเดียวกับพวกเขา การเอาแต่คอยเฝ้าสังเกตพวกเขาและมองหาช่องทางเอาคืน ยังอาจทำให้คุณเหนื่อยล้าได้ และส่วนใหญ่แล้ว อีกฝ่ายก็ย่อมที่จะพยายามทำแบบเดียวกันคืนกับคุณบ้าง จนอาจกลายเป็นดาบสองคมและทำให้เกิดวงจรแก้เผ็ดกันไม่รู้จบ
    • หากมีใครพยายามสกัดดาวรุ่ง ด้วยการปล่อยข่าวลือนินทาคุณให้เสียหาย จนคุณอดเลื่อนตำแหน่งงาน พยายามทำงานให้หนักกว่าเดิมเพื่อหาทางขึ้นตำแหน่งให้ได้ในงวดถัดไป โฟกัสที่งานและออกห่างจากคนๆ นั้น จนกว่าผู้บริหารจะเห็นความจริงว่ามันเป็นเพียงข่าวลือ และเห็นว่าคุณคือของจริง พยายามเป็นตัวของตัวเองในทุกสถานการณ์
  3. จัดฉากสถานการณ์ที่ทำให้พวกเขาดูซุ่มซ่าม ไร้ระเบียบ หรือไม่ให้ความร่วมมือในการทำงาน โดยไม่ให้เป้าหมายของคุณรู้ว่า คุณกำลังวางแผนสร้างความเสียหายแก่พวกเขา พยายามเงียบและเนียนให้มากที่สุด สังเกตการณ์ไปเรื่อยๆ จนกว่าคุณจะเห็นจุดอ่อนหรือรูปแบบบางอย่างของเหยื่อ ที่คุณนำมาเล่นงานได้ ใช้มันให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม เช่น เรื่องงาน เรื่องน่าตลก โต๊ะที่นั่ง รถ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ห้องทำงาน ประตู หรือแม้แต่คนรอบข้างเขา เมื่อถึงเวลาแล้วค่อยลงมือ
    • หากคู่แค้นของคุณเอาแต่โอ้อวดในความสำเร็จของตัวเองในช่วงพักกลางวัน หรือในชั้นเรียนชั่วโมงใดก็ตาม ทำให้พวกเขาหน้าหงาย ด้วยการเข้าไปขัดจังหวะและควบคุมวงสนทนา อย่าปล่อยให้มีโอกาสโม้ต่อ
    • หากคู่แค้นของคุณชอบเล่นบทนางเอกหรือทำตัวน่าสงสาร พยายามสังเกตความผิดพลาดของเธอและแกล้งเปรยให้อับอายต่อหน้าผู้อื่น เช่น หากจอมคลั่งไคล้การทำตัวเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือต่อต้านการใช้วัสดุสังเคราะห์ เผลอใช้แก้วพลาสติกให้คุณเห็นล่ะก็ รีบโดดเข้าไปใส่ว่า “มันคงยากที่เธอจะคอยห่วงใยโลกนี้ตลอดเวลาสินะ”
  4. อีกทางเลือกในการทำลายความพยายามของศัตรู ก็คือ การทำตัวเสนอความช่วยเหลือ หรือเล่นบทแม่พระพร้อมให้อภัยในอดีต และแกล้งเข้าไปแทรกซึมในชีวิตของคนๆ นั้นเพื่อเสนอความเห็นหรือให้คำปรึกษาครั้งแล้วครั้งเล่า ให้พวกเขารำคาญ ทุกครั้งที่พวกเขาอยากอยู่คนเดียว จงเข้าไปร่วมวง ทุกครั้งที่พวกเขาอยากตัดสินใจ จงตัดสินแทน แต่หากพวกเขาตัดสินใจอะไรไปแล้ว ก็แกล้งเปรยถึงผลกระทบทางลบที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจนั้น การเล่นสงครามจิตชนิดนี้ จะทำให้อีกฝ่ายสับสนและรู้สึกพ่ายแพ้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เล่นสกปรก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การตัดสินใจว่าจะลดตัวลงไปและเล่นสกปรกแบบพวกเขาบ้างนั้น อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด แต่บางทีโอกาสก็ช่างหอมหวนเกินห้ามใจ พยายามทำให้แน่ใจว่า การกลั่นแกล้งเหนือแผนการของคุณ อย่างมากก็แค่สร้างความหงุดหงิดให้พวกเขาได้ ไม่ต้องถึงกับทำร้ายร่างกายหรือทำผิดกฎหมาย จงทำสิ่งที่ไร้วุฒิภาวะอย่างคนมีวุฒิภาวะ
    • จำไว้ว่า การลดตัวลงไปใช้แทคติกแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันกับใครบางคน อาจส่งผลให้คุณเสียเวลาในชีวิตไปมากกว่าการลืมๆ มันเสียและใช้ชีวิตต่อไป ขอเตือนก่อนนะว่า การเล่นสกปรกเท่ากับว่าคุณลงไปเล่นในเกมส์ของพวกเขา และอาจได้รับการตอบโต้อย่างสาสม
  2. หากคนๆ นั้นถูกก่อกวนด้วยโทรศัพท์ถามหาเรื่องอื่นหรือคนอื่นตลอดเวลา (หรือจะใช้มุกหยาบๆ กว่านี้ก็ได้) พวกเขาอาจจะรู้สึกหงุดหงิดจนถึงขั้นที่ต้องปลี่ยนโทรศัพท์หรืออีเมล์ไปเลยก็ได้
    • แปะเบอร์หรือที่อยู่ของพวกเขาไว้ตามสถานที่สาธารณะ หรือคุณอาจจะทำโปสเตอร์กลั่นแกล้งไปติดไว้ตามห้องน้ำสาธารณะ ในปั๊มย่านที่พวกคนขับสิบล้อและแท๊กซี่ชอบเข้ากัน ศัตรูของคุณก็อาจจะต้องรับสายที่ไม่ได้รับเชิญกันเพลินล่ะทีนี้
  3. กุ้งหรืออาหารทะเลสดต่างๆ หากวางทิ้งไว้นานๆ จะส่งกลิ่นแบบที่ยมบาลยังหวาดกลัว คุณอาจแอบเอากุ้งแช่แข็งไปวางไว้ใต้โต๊ะ ล็อคเกอร์ หรือชั้นวางของพวกเขา มันจะเริ่มส่งกลิ่นนรกภายในสองสามวัน พวกเขาจะเริ่มสับสนและคลื่นไส้ หรืออาจจะมีแมลงวันและสุนัขไปขอส่วนแบ่งจากพวกเขาด้วยๆ [1]
  4. สั่งซื้อสื่อลามกอนาจาร โดยกะเวลาให้ไปส่งถึงพวกเขาในเวลาที่กำหนดไว้ เช่น หนังโป๊เรื่องดัง หรือสื่อต่างๆ ที่ดูไร้สาระและน่าเย้ยหยัน ส่งไปที่ออฟฟิสของพวกเขา ต้องให้แนใจด้วยว่า พัสดุจะถูกส่งไปในขณะที่พวกเขากำลังอยู่ในห้องประชุมหรือมีงานสำคัญอยู่ คุณอาจจะแกล้งเอาเลขที่ออฟฟิสออกไม่ให้คนส่งสินค้าดังกล่าวหาเจอ เพื่อที่เขาจะได้ถามไปทั่วทั้งตึกหรือออฟฟิสของคนๆ นั้น ให้อับอายโดยทั่วถึงกันเป็นวงกว้าง
  5. ส่งของขวัญดีๆ อย่างดอกไม้ให้พวกเขา แต่ให้เหมือนกับว่ามาจากพวกโรคจิต ต้องให้แน่ใจด้วยว่า คุณส่งของขวัญเหล่านั้นโดยจ่ายเป็นเงินสดและไม่ระบุชื่อ เมื่อคนๆ นั้นได้รับของขวัญที่เขียนว่า "บ้านเธอที่อยู่ในซอยโชคชัย 4 มันสวยดีนะ ฉันว่าจะไปนอนเล่นดูสักคืน" หรือข้อความหลอนๆ อื่นๆ ก็ได้ ให้พวกเขาชวัญผวาเล่นๆ
    • การทำให้พวกเขาหลอนก็ถือว่าสาสมแล้ว อย่ายกระดับไปทำผิดกฎหมาย หรือไปนอนอยู่หลังบ้านพวกเขาจริงๆ ล่ะ
    • คุณอาจจะใช้ลิปสติกเขียนบนกระจกหน้ารถของพวกเขาว่า "นรกแตก" หรือเอาก้อนหินมาเรียงกันแบบพิธีกรรมขลังๆ ไว้หน้าประตูบ้านพวกเขา หรือจะวางตุ๊กตาสาปแช่งแปะรูปหน้าพวกเขา เอาไว้ในตู้จดหมายก็ได้ แล้วคอยดูขอบตาคล้ำๆ จากการอดหลับอดนอนของพวกเขา หลังจากวันถัดไป
  6. รู้จักเส้นแบ่งระหว่างการล่วงละเมิดกับการกลั่นแกล้ง. หากจะแกล้งใคร ก็ควรทำอย่างชาญฉลาดและมีชั้นเชิง เพราะหากคุณแก้แค้นด้วยการตราหน้า ดูหมิ่น หรือการขู่เข็ญใดๆ จะถือว่าเป็นการล่วงละเมิด ซึ่งผิดกฎหมาย อย่าเล่นแรงเกินไป
    • "คุณจะมีความผิดฐานล่วงละเมิดผู้อื่นโดยเจตนา หากจงใจทำการสะกดรอยตามผู้อื่น ไปยังสถานที่สาธารณะต่างๆ อย่างต่อเนื่อง หรือกระทำการใดๆ ที่ก่อให้เกิดความหวาดกลัวที่จะถูกทำร้ายต่อบุคคลผู้นั้น" [2]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ยืนหยัดเพื่อตนเอง อย่ากลัวที่จะทดลองบางสิ่ง
  • หัวเราะสร้างความฮึกเหิมก่อนเริ่มลงมือ
  • หากคุณต้องการแก้แค้นเป็นระลอกๆ แทนที่จะลงมือครั้งเดียว จงวางแผน วางกับดัก และอย่าโผล่ไปในบริเวณ 'จุดเกิดเหตุ' ดังกล่าวบ่อยเกินไป คุณอาจถูกสงสัยได้
  • เชิดหน้าเข้าไว้ อย่าไปมองพวกเขา ทำตัวให้อยู่เหนือเอาไว้
  • ศัตรูของศัตรูคือมิตร ลองหาพันธมิตรสักคนมาร่วมวงด้วย
  • พยายามผูกมิตรกับมิตรของศัตรูคุณ จะได้แทรกซึมเข้าไปทำลายจากภายใน
  • หากคุณมีพลังจิต การแก้แค้นจะง่ายขึ้นเยอะ
  • การแก้แค้นควรเป็นทางเลือกสุดท้าย พยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นก่อนคิดแก้แค้น
  • หากคุณวางแผนจะแก้แค้น เพราะคนๆ นั้นทำสิ่งที่เลวร้ายหรือทำให้มิตรภาพคุณพังทลายลง พยายามหาทางล่อหลอกให้เพื่อนของคนๆ นั้นมาเป็นฝ่ายคุณบ้าง แต่อย่าเล่นแรงเกินเหตุจนอาจทำให้อีกฝ่ายฆ่าตัวตาย เพราะหากมีใครรู้ว่า คุณมีส่วนที่เกี่ยวข้อง ก็อาจจะถูกดำเนินคดีข้อหาฆาตกรรมโดยเจตนาได้ มันจะจบไม่สวยเลยสำหรับคุณ
  • บอกเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวของคนที่มารังแกคุณไปว่า เขาหรือเธอรังแกคุณยังไงบ้าง คนเหล่านั้นจะต้องโมโหกับพฤติกรรมดังกล่าวแน่ๆ
โฆษณา

คำเตือน

  • ทำทุกอย่างๆ รอบคอบ อย่าล้ำเส้นเกินไป ไม่งั้น คุณอาจอยู่ในสถานการณ์เดือดร้อน และศัตรูของคุณก็จะสะใจเอาได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 88,138 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา