ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การตัดสินใจแยกทางกับสามีเป็นเรื่องที่พลิกชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือและมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีลูกๆ มาเกี่ยวข้องด้วย ถ้าคุณกำลังพยายามตัดสินใจเรื่องที่ยากลำบากนี้อยู่ ก็ขอให้คุณรู้ว่าคุณไม่ได้ต่อสู้อยู่คนเดียว จากสถิติเมื่อปี 2559 ประเทศไทยมีคู่หย่าร้างกว่า 100,000 คู่ [1] เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะตัดสินใจกันได้ง่ายๆ และคุณยังต้องพิจารณาสถานะในปัจจุบันรวมถึงสถานการณ์ทางการเงินในวันข้างหน้าก่อนที่คุณจะตัดสินใจอีกด้วย แต่พอคุณตัดสินใจได้แล้ว คุณก็ต้องรู้ว่าสิ่งที่ต้องทำต่อจากนี้คืออะไร เพื่อที่คุณจะได้เริ่มสร้างความแข็งแกร่งทางอารมณ์และการเงินทันทีที่คุณเดินออกจากประตูบ้าน

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ตัดสินใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. การตัดสินใจจบชีวิตคู่เป็นหนึ่งในการตัดสินใจที่ยากที่สุดและสำคัญมากที่สุดที่คุณต้องทำ เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องแน่ใจ 100% ว่าชีวิตคู่ของคุณถึงทางตันแล้วจริงๆ ก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนต่อไป ถ้าคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะตัดสินใจแล้ว แต่เหตุการณ์ต่อไปนี้เป็นเหตุผลที่ยืนยันว่าชีวิตคู่ของคุณจบลงแล้วจริงๆ :
    • ถ้าคุณใช้ชีวิตแยกกันแล้ว หมายความว่าคุณกับสามีมีเพื่อนคนละกลุ่ม สนใจคนละเรื่อง ไม่ได้ใช้เวลาด้วยกันแล้ว และไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในชีวิตของกันและกันบ้าง
    • ถ้าสามีของคุณไม่เต็มใจจะพยายามอีกต่อไปแล้ว ถ้าคุณพูดถึงปัญหาชีวิตคู่ซ้ำแล้วซ้ำอีก และสามีของคุณก็ได้แต่สัญญาว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่ไม่เคยทำอย่างที่พูดเลยหรือบอกออกมาตรงๆ ว่าจะไม่เปลี่ยน ก็อาจถึงเวลาที่คุณต้องออกมาแล้ว
    • ถ้าคุณอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีการทำร้าย ให้ออกมา ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีการทำร้ายเกิดขึ้นหรือยืดเวลาความเจ็บปวดของคุณออกไปอีก ถ้าความสัมพันธ์ของคุณมีการทำร้ายกันเกิดขึ้นจริงๆ วิธีที่ดีที่สุดคือออกมาจากตรงนั้นทันทีและค่อยคิดอ่านต่อไปหลังจากที่คุณปลอดภัยแล้ว
    • ถ้าคนใดคนหนึ่งหรือทั้งคู่ไม่ซื่อสัตย์ต่อกันอยู่เรื่อยๆ เรื่องนี้ไม่เหมือนกับการที่คนใดคนหนึ่งเคยมีกิ๊กและพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก แต่ถ้าการนอกใจและการมีกิ๊กเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ในตอนนี้ ก็แปลว่ามันอาจจะเกินเยียวยาแล้ว
    • ถ้าคุณไม่ได้เป็นทีมเดียวกันแล้ว ถ้าคุณไม่ได้ตัดสินใจร่วมกัน พูดคุยกันหรือประนีประนอมกัน ก็อาจถึงเวลาต้องไปแล้ว
    • ถ้าคุณตกลงกันไม่ได้ว่าจะมีลูกหรือไม่มีลูก ถ้าคุณอยากมีลูกจะตายอยู่แล้วแต่สามีของคุณไม่อยากมีหรือในทางกลับกัน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องดำเนินความสัมพันธ์นี้ต่อไปถ้าคุณเห็นไม่ตรงกันในเรื่องสำคัญแบบนี้
    • ดูว่าคุณตัดสินใจเรื่องนี้ตอนใจเย็นหรือเปล่า คุณไม่ควรตัดสินใจแยกทางกับสามีในช่วงที่อารมณ์กำลังขึ้น แต่ให้ตัดสินใจหลังจากที่คุณคิดทบทวนเรื่องนี้จริงๆ สักพักแล้ว
    • ดูว่าคุณได้พยายามทำทุกอย่างแล้วแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหรือเปล่า ถ้าคุณลองเข้ารับคำปรึกษาชีวิตคู่ก็แล้ว คุยกับสามีอย่างละเอียดก็แล้ว และคุณทั้งคู่ก็ได้พยายามเปลี่ยนวิถีของตัวเองแล้วแต่ก็ยังไม่ได้ผล ก็อาจถึงเวลาต้องออกมาแล้ว แต่ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจแค่ชั่วครู่และสามีของคุณก็ดูจะไม่รู้ว่าคุณไม่พอใจ การพิจารณาก่อนว่าคุณสามารถคุยเรื่องนี้กันก่อนได้ไหมก็อาจเป็นสิ่งที่คุ้มค่า
  2. ขั้นตอนด้านล่างจะช่วยให้คุณวางแผนที่จำเป็นต่อการแยกทางจากสามีอย่างลับๆ ได้ ให้เขารู้เมื่อถึงตอนที่หรือหลังจากที่คุณเดินออกจากประตูไปแล้ว วิธีนี้จะมีประโยชน์เมื่อคุณไม่แน่ใจว่าสามีของคุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหรือคุณคิดว่าเขาจะพยายามยั้งไม่ให้คุณไป แต่ถ้าคุณทั้งคู่พร้อมที่จะคุยกันอย่างเปิดใจ ถ้าเขาสนับสนุนการตัดสินใจของคุณมากๆ และถ้าคุณคุยกันอย่างตรงไปตรงมาและเปิดอกกันมาตลอด คุณก็อาจจะอยากคุยกับเขาก่อนและดูว่าคุณสองคนสามารถจัดการปัญหาต่างๆ ได้ไหม
    • คุณอาจจะประหลาดใจที่ได้รู้ว่าสามีของคุณรู้สึกเหมือนกันกับคุณมากแค่ไหน หรือสามีของคุณเต็มใจที่จะพยายามมากแค่ไหนเพื่อไม่ให้เสียคุณไป
    • ไม่ได้หมายความว่าคุณควรให้สามีมาโน้มน้าวให้คุณอยู่ แต่ถ้าคุณยังลังเลและไม่แน่ใจว่าจริงๆ แล้วคุณอาจจะแก้ไขปัญหานี้ได้ การคุยกับเขาก่อนอาจสร้างความแตกต่างได้มากมาย
  3. มันอาจเป็นเรื่องยาก แต่ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในหลายๆ แง่ การจบชีวิตคู่เป็นสถานการณ์ขึ้นลงได้ง่าย และการอยู่เงียบๆ ก็จะทำให้คุณมีเวลาเตรียมตัวและตั้งตัวก่อนที่คุณจะเดินออกจากประตูจริงๆ บอกแค่คนสนิทไม่กี่คนที่สนับสนุนการตัดสินใจของคุณ บอกเฉพาะคนที่สามารถให้ความช่วยเหลือและแนวทางคุณได้ ไม่ใช่คนที่ไม่สามารถเก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวได้
    • ถ้าคุณไม่อยากคุยกับสามีให้รู้เรื่องและอยากจะหนีออกมาจากสถานการณ์ที่เลวร้าย ก็ให้เก็บเรื่องนี้ไว้กับตัวจะดีกว่าเพื่อที่คุณจะได้มีเวลาคิดรายละเอียด ถ้าสามีของคุณรู้เรื่องแผนการของคุณและไม่อยากให้คุณไป เขาก็อาจจะขัดขวางแผนการของคุณหรือทำให้คุณจัดการเรื่องต่างๆ ได้ยากมากๆ
    • มันอาจจะฟังดูลับๆ ล่อๆ แต่เป้าหมายของคุณควรจะเป็นการเดินออกจากชีวิตคู่ด้วยรากฐานทางการเงินที่ดีที่สุด เพราะคุณคงไม่อยากให้สามีเข้ามาขวางในเรื่องนี้
    • มันอาจเป็นเรื่องยากที่จะไม่เดินออกมาทันทีที่ตัดสินใจ แต่มันอาจต้องใช้เวลา 2 – 6 เดือนในการวางแผนที่จะออกมาจากชีวิตคู่ในแบบที่จะทำให้คุณรักษารากฐานทางการเงินเอาไว้ได้ แม้ว่าคุณอาจจะพร้อมเดินออกจากประตูทุกเมื่อ แต่ให้รู้ว่ามันอาจจะดีกว่าในระยะยาวหากคุณให้เวลาจัดการตัวเองก่อนเดินออกมา
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

วางแผน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ขั้นตอนนี้จะค่อนข้างลำบากเป็นพิเศษสำหรับคุณแม่ที่อยู่บ้านและไม่มีรายได้ข้างนอก แต่การมีเงินเก็บสำรองไว้บ้างจะช่วยให้คุณก้าวไปข้างหน้าด้วยรากฐานทางการเงินที่ดีกว่าเดิม การเริ่มจากการมีบัญชีธนาคารแยกออกมาก่อนแม้ว่าคุณจะไม่มีเงินฝากมากนักสามารถช่วยให้การเงินของคุณเข้าที่เข้าทางได้ วิธีนี้จะช่วยให้คุณจัดการการเงินได้ง่ายขึ้นเมื่อคุณแยกทางกับสามีแล้ว
    • การเอาเงินออกมาจากบัญชีร่วมควรเป็นหนทางสุดท้าย เป็นสิ่งที่คุณทำตอนจะออกมาแล้ว
  2. ถ้าคุณกำลังจะออกจากบ้านที่อยู่ร่วมกับสามี คุณต้องหาที่อยู่ใหม่ ในบางกรณีการอยู่กับคนอื่นสักระยะอาจช่วยคุณได้ แต่ในระยะยาวคุณจะต้องหาบ้านในราคาที่คุณจ่ายไหว ซึ่งจะนำไปสู่คำถามใหญ่ก็คือคุณจะอยู่ที่ไหน ถ้าคุณไม่มีลูก การย้ายข้ามฝั่งประเทศไปอยู่ใกล้ครอบครัวอาจเป็นเรื่องที่ทำได้ค่อนข้างง่าย คุณอาจจะอยากลองอะไรใหม่ๆ และอยากจะอยู่ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศต่างออกไป ไม่ว่าสิ่งที่คุณต้องการจะเป็นอะไร การวางแผนและมีที่อยู่ชั่วคราวหรือแม้กระทั่งการเช่าที่อยู่ไว้อีกที่หนึ่งก็จะทำให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายของคุณมากขึ้น
    • ถ้าคุณกับสามีเข้าใจและรับรู้เรื่องการหย่าทั้งคู่และสบายใจมากพอที่จะคุยกันเรื่องนี้ คุณก็อาจจะคุยกันว่าใครจะเป็นคนย้ายออกจากบ้านที่คุณอาศัยอยู่ด้วยกัน ถ้ามีเรื่องลูกๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องนี้ก็อาจจะกลายเป็นคำถามที่สำคัญมากขึ้น
  3. ตลอดการแต่งงานที่ผ่านมา คุณจะต้องรวบรวมเอกสารสำคัญไว้มากมาย เช่น เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจำนองบ้าน พาหนะ แผนการเกษียณ และอื่นๆ อีกมากมาย คุณจึงต้องแน่ใจว่าคุณมีสำเนาเอกสารเหล่านี้เพราะว่าทรัพย์สินที่ว่านี้อาจกลายเป็นประเด็นในการหย่าร้างได้
    • ถ้าคุณเห็นว่ามีเอกสารหลายอย่างที่คุณไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องใช้ไหม ก็ให้ทำสำเนาไว้ก่อนเผื่อว่ามันสำคัญขึ้นมา เมื่อเป็นเรื่องของการรวบรวมเอกสาร ปลอดภัยไว้ก่อนย่อมดีกว่ามาเสียใจทีหลัง
    • ถ้าคุณอยากจะเก็บสำเนาเอกสารทุกสิ่งทุกอย่างไว้จริงๆ คุณก็อาจจะต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญมาเก็บสำเนาไว้ที่ hard drive คอมพิวเตอร์ที่บ้านและอาจจะถึงขั้นถ่ายภาพทรัพย์สินมีค่าบางอย่างเอาไว้ด้วย วิธีนี้อาจช่วยคุณได้ในวันข้างหน้าหากเงินของคุณเกิด "หายไป" บางส่วนในระหว่างที่คุณกำลังลงหลักปักฐาน
  4. ถ้าคุณกับสามีมีลูกด้วยกัน คุณก็ต้องคิดว่าอะไรดีกับลูกมากที่สุด คุณคิดว่าสามีของคุณเป็นพ่อที่ดี (หรืออย่างน้อยก็ใช้ได้) ที่ควรมีส่วนร่วมในชีวิตของลูกหรือเปล่า หรือคุณมีเหตุผลที่ทำให้เชื่อได้ว่าลูกไม่ควรข้องเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปแล้ว คำถามนี้จะเป็นการตัดสินใจที่ใหญ่ที่สุดที่คุณต้องทำตลอดกระบวนการนี้
    • คุณแค่ต้องนึกไว้เสมอว่า คุณไม่สามารถตัดสินใจไม่ให้ลูกเจอสามีของคุณอีกเพราะ คุณ ไม่อยากเจอเขาแล้วได้ แต่คุณควรมีเหตุผลที่ดี (เช่น ติดเหล้า) ที่สมควรให้เขาอยู่ห่างจากลูก
    • คุณควรตัดสินใจเรื่องนี้อย่างใจเย็น เพราะการตัดสินใจครั้งนี้มีผลหลายอย่าง เช่น อาจจะเป็นที่ที่คุณจะอยู่ รวมถึงอนาคตของลูกๆ ด้วย
  5. การหย่าร้างต้องใช้เงินเยอะและเสียเวลามาก เพราะฉะนั้นคุณอาจจะต้องเลือกหาทนายความในราคาที่คุณจ่ายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณคิดว่ามันน่าจะเป็นกระบวนการที่ยืดเยื้อ แม้ว่าคุณอาจจะอยากประหยัดเงินและจัดการเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเองแค่ไหน แต่ทนายความที่ดีจะสามารถช่วยให้คุณจัดการกระบวนการต่างๆ นี้ได้ง่ายขึ้นและเจ็บปวดน้อยลง เพราะสุดท้ายคุณคงไม่อยากเข้าไปพัวพันอยู่ในความยุ่งยากทางการเงินที่คุณไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรเพียงเพราะคุณไม่อยากจ่ายเงินให้ทนายความ
    • ถ้าคุณไม่มีเงินสำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้จริงๆ คุณอาจจะลองจ้างทนายฝึกหัดดูก็ได้
  6. ถ้าคุณจัดการเรื่องเงินได้ดีมากๆ อยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นโบนัสอย่างแน่นอน แต่คุณต้องพิจารณาเงินค่าใช้จ่ายหลังจากที่คุณแยกทางกับสามีด้วย คุณต้องถามคำถามต่อไปนี้กับตัวเองก่อนที่คุณจะเดินออกจากประตูบ้านไปเพื่อที่คุณจะได้ไม่สับสนเมื่อถึงเวลานั้น โชคร้ายที่งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงหลายคนต้องรับมือกับมาตรฐานการครองชีพที่ลดลงไปถึง 1/4 หรือ 1/3 หลังหย่าร้าง แต่ก็อย่าให้เรื่องนี้มาทำให้คุณถอดใจ! ถ้าคุณวางแผนอย่างรัดกุม คุณก็จะวางแผนได้ตลอดรอดฝั่ง สิ่งที่คุณต้องหาคำตอบได้แก่ :
    • ค่าใช้จ่ายใหม่ๆ ที่คุณต้องรับภาระคืออะไร
    • คุณจะลดรายจ่ายส่วนไหน
    • ค่าเลี้ยงดูลูกอีกเท่าไหร่ (ถ้าคุณมีลูก)
    • คุณจะหารายได้ที่คุณจำเป็นต้องใช้มาจากไหน
  7. แน่นอนว่าค่าเลี้ยงดูหรือค่าอุปการะลูกจะเป็นส่วนหนึ่งของรายได้ในอนาคตของคุณอย่างแน่นอน แต่จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันมันอาจจะไม่สามารถการันตีได้ ถ้าคุณแน่ใจว่าสามีของคุณจะจ่ายเงินให้คุณได้ตลอดอย่างแน่นอน นั่นก็เรื่องนึง แต่คุณต้องถามตัวเองว่าจริงๆ แล้วคุณพึ่งพาสามีของคุณได้มากแค่ไหน
    • เรื่องนี้อาจจะยากขึ้นหากคุณเป็นผู้มีรายได้หลัก เพราะคุณจะต้องเป็นคนจ่ายค่าเลี้ยงดู
  8. ถ้าคุณไม่มีประวัติเครดิตที่แยกกับของสามี คุณก็ต้องสร้างประวัติเครดิตให้เร็วที่สุด คุณสามารถเริ่มสร้างเครดิตได้ด้วยการขอสำเนารายงานเครดิตของคุณ ซึ่งสามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ncb.co.th/salfenquiry.htm ลองตรวจสอบเครดิตของคุณและดูว่ามีข้อผิดพลาดหรือไม่ จากนั้นให้เริ่มสร้างเครดิตของคุณด้วยการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด จ่ายเงินตรงเวลา และจัดการการเงินอย่างละเอียดรอบคอบ
    • คุณอาจจะคิดว่าคุณมีประวัติเครดิตดีอยู่แล้วเพียงเพราะว่าประวัติเครดิตของสามีดี แต่ก็อาจจะไม่ใช่เสมอไปถ้าคุณไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเงินในชีวิตของคุณสองคนมากนัก
  9. หลังจากที่คุณเข้าใจมากขึ้นแล้วว่าคุณต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะพอกับค่าใช้จ่ายในชีวิต คุณก็ต้องคิดดูว่าคุณต้องเพิ่มรายได้เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายหรือเปล่า ถ้าคุณมีงานที่รายได้ดีอยู่แล้วและมีเงินเก็บมากมาย ก็ถือว่าดีมากๆ แต่ถ้าคุณต้องหางานทำและไม่ได้ทำงานมาสักพักแล้ว หรือถ้าคุณต้องหางานที่เงินเดือนมากกว่านี้ คุณก็ต้องขยับขยายไปในทิศทางนั้นให้ได้ นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องได้เป็น CEO ในบริษัทใหม่ก่อนถึงจะแยกทางกับสามีได้ แต่คุณสามารถขยับขยายเพื่อให้ง่ายต่อการมีรายได้มากขึ้นเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องแยกทางจากสามีจริงๆ ได้ ซึ่งสิ่งที่คุณสามารถทำได้ก็ได้แก่ :
    • เรียนเสริมในวิชาที่จะทำให้คุณเชี่ยวชาญในทักษะที่จำเป็นต่อการได้งานที่คุณอยากได้ ไม่ว่าจะเป็นการปัดฝุ่นทักษะคอมพิวเตอร์หรือการได้ใบรับรองจากการฝึกอบรมเฉพาะทาง
    • ซื้อสูทใหม่เพื่อให้พร้อมสำหรับการสัมภาษณ์หากมีเรียกเข้ามา
    • คุณควรเตรียมเรซูเมไว้ให้พร้อม คุณไม่จำเป็นต้องยื่นเรซูเมก่อนแยกทางกับสามี แต่คุณควรมีติดไว้เมื่อเวลานั้นมาถึง พอคุณแยกทางกับสามีแล้ว คุณน่าจะต้องแบกรับเรื่องต่างๆ มากมายยิ่งกว่าเดิมและคุณก็อาจจะไม่มีเวลาหรือไม่มีความแข็งแกร่งทางจิตใจมากพอที่จะทำสิ่งต่างๆ อย่างการอัปเดตเรซูเม
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

บอกลา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณอาจจะเริ่มเก็บของชิ้นเล็กๆ ที่ไม่เป็นที่สังเกตก่อน หรือคุณอาจจะตัดสินใจเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อยภายในวันเดียวเลยก็ได้ คุณต้องดูว่าวิธีไหนปลอดภัยกับสถานการณ์ของคุณมากที่สุด ถ้าคุณคิดว่าสามีของคุณจะใช้ความรุนแรงหรือขู่ถ้าเขาเห็นคุณเก็บข้าวของ ก็ให้วางแผนเก็บของตอนที่เขาไม่น่าจะอยู่บ้าน แต่ถึงอย่างไรถ้าจะให้ดีที่สุดต้องมีเพื่อนๆ หรือคนในครอบครัวอยู่ตรงนั้นด้วยเพื่อความปลอดภัยและปกป้องตัวคุณเอง
    • เก็บข้าวของตอนสามีไปทำงานจะดีกว่า ถึงเขาจะสนับสนุนให้คุณไป แต่การเก็บข้าวของตอนเขาอยู่บ้านก็อาจทำให้ปวดใจมากขึ้น
  2. คุณอาจจะบอกสามีเรื่องที่คุณจะย้ายออกมาแล้วหรือคุณอาจจะออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยก็ได้ ถึงคุณจะรู้ว่าตัดสินใจถูกแล้ว แต่ขั้นตอนสุดท้ายนี้เป็นขั้นตอนที่ยากที่สุดในด้านจิตใจ แน่นอนว่าแต่ละสถานการณ์ไม่เหมือนกัน ถ้าคุณกับสามีคุยเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้ว ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าตกอกตกใจอะไร แต่ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่มีการทำร้ายหรือคุกตามเกิดขึ้น การที่จู่ๆ ก็ย้ายออกไปเลยนั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
    • ไม่ว่าเหตุผลเรื่องการแยกทางจะเป็นอะไร ก็แล้วแต่คุณตัดสินใจเลยว่าวิธีการเดินออกมาแบบไหนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยอย่างจริงใจและตรงไปตรงมา หรืออาจจะออกไปโดยไม่ทิ้งข้อความไว้เลยก็ได้
  3. นี่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่จะอยู่เดียวดายกับความกังวล หลังจากที่คุณแยกทางกับสามี คุณควรหันหน้าหาครอบครัว เพื่อนๆ หรือแม้กระทั่งนักบำบัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะสิ่งนี้อาจเป็นสิ่งที่ยากที่สุดที่คุณจะต้องทำ และคุณก็จะสามารถรับมือกับความเจ็บปวดได้ดีขึ้นถ้าคุณได้รับกำลังใจและความรักจากคนที่ห่วงใยคุณมากที่สุด การขอความช่วยเหลือไม่ใช่เรื่องน่าอายเลย
    • แม้ว่าคุณอาจจะต้องอยู่ลำพังเพื่อจัดการกับความรู้สึกของตัวเองบ้าง แต่การออกไปข้างนอก วางแผนทำนู่นทำนี่กับเพื่อนๆ และเพลิดเพลินกับบทสนทนายาวๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน
    • อย่ากลัวที่จะโทรหาเพื่อนเก่าเพื่อขอความช่วยเหลือหรือแค่โทรไปคุย พวกเขาเข้าใจว่าคุณกำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมากๆ และพวกเขาก็จะให้กำลังใจคุณตลอดช่วงเวลานี้
    • โชคร้ายที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับแผนการของคุณ และระหว่างนี้คุณก็อาจจะเสียเพื่อนบางคนหรือการสนับสนุนจากครอบครัว อย่าให้สิ่งนี้มาเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจอันแน่วแน่ของคุณ และรู้ไว้ว่าการตัดสินใจของคุณอาจนำคุณไปสู่การสร้างมิตรภาพใหม่ๆ ที่ดีต่อไปในอนาคต
  4. สิ่งนี้อาจไม่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน คุณจะต้องฟื้นฟูตัวเองทั้งทางด้านอารมณ์และการเงิน และมันอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าคุณจะรู้สึกพึ่งพาตัวเองได้และสามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้อีกครั้ง สิ่งสำคัญก็คือคุณต้องรู้ว่าคุณกำลังอยู่บนเส้นทางของการฟื้นฟูตัวเอง และการตัดสินใจของคุณก็จะนำคุณไปสู่ความสุขที่มากขึ้นในระยะยาว แม้ว่าตอนนี้คุณจะยังไม่รู้สึกแบบนั้นก็ตาม และพอคุณกลับมาเข้มแข็งได้อีกครั้งหนึ่งแล้ว คุณจะชื่นชมตัวเองที่เข้มแข็งมากพอที่จะตัดสินใจแยกทางจากสามี และทำในสิ่งที่คุณคิดได้ตลอดรอดฝั่ง
    • แม้ว่าผู้หญิงจะสูญเสียด้านการเงินหลังจากการหย่า แต่สิ่งนี้ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสำรวจสิ่งใหม่ๆ ที่พวกเขาไม่รู้มาก่อนว่าตัวเองชอบ ความก้าวหน้าในอาชีพการงาน หรือการทำสิ่งพิเศษหลายอย่างที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ในช่วงที่แต่งงาน ในระยะยาวคุณจะไม่เพียงกลับมาเข้มแข็งได้เท่านั้น แต่ในระหว่างนี้คุณจะแข็งแกร่งขึ้น ฉลาดขึ้น และมีชีวิตที่เติมเต็มมากขึ้นด้วย
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คุณอาจจะต้องเก็บข้าวของของคุณไว้ในที่เก็บของหากคุณจะไปอยู่กับคนอื่นชั่วคราว คุณอาจต้องหาห้องเก็บของให้เช่าที่มีอัตราค่าเช่าและระยะเวลาการเช่าที่ยืดหยุ่น
  • ถ้าคุณมีลูก พยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติมากที่สุด การเปลี่ยนผ่านจากบ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวไปเป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวอาจเป็นเรื่องหนักหนาไม่น้อย จำไว้ว่าคุณต้องให้ลูกๆ พูดความรู้สึกของพวกเขาอย่างเปิดเผย
  • เปลี่ยนรหัสผ่านออนไลน์ของคุณ
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าโต้เถียงหรือทะเลาะกันต่อหน้าลูกๆ ตอนที่พวกเขาอาจจะอยู่บ้าน
  • อย่าใช้ความรุนแรงทางร่างกายกับสามีเด็ดขาด เพราะผลพวงทางกฎหมายจะไม่เป็นประโยชน์กับคุณในการหย่า เพราะฉะนั้นต้องนิ่งไว้เท่านั้น
  • อย่าทำลายข้าวของของสามี เพราะเขาสามารถบังคับให้คุณจ่ายค่าเสียหายตอนหย่าหรือเอาผิดทางกฎหมายกับคุณได้
  • อย่าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้ความรุนแรงในครอบครัว ทุกประเทศมีองค์กรที่ให้ผู้หญิงและเด็กสามารถออกจากสถานการณ์ที่มีการข่มขู่ได้อย่างปลอดภัย องค์กรเหล่านี้ยังสามารถช่วยให้คุณมีงานทำ มีที่อยู่ และอาจให้เฟอร์นิเจอร์พื้นฐานที่ช่วยให้คุณสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้
  • ถ้าเป็นไปได้อย่าเริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่จนกว่าการแยกทางและการหย่าร้างจะเริ่มขึ้น
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
จบความสัมพันธ์
เลิกชอบเพื่อนรัก
จิตวิทยาการรับมือเพื่อเอาชนะคนหลงตัวเอง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 22,850 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา