ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อยากเล่นคอมแบบ "เต็มตา" ขึ้นอีกนิดไหม? ถ้าต้องนำเสนอโครงการบางอย่างแต่ดันไม่มีโปรเจ็กเตอร์ซะงั้น หรือถ้าอยากใช้แล็ปท็อปให้เหมือนคอมตั้งโต๊ะ แต่ไม่มีจอแยก ทำไมไม่ลองใช้จอ HD TV 50 นิ้วของคุณดูล่ะ คอมสมัยนี้แทบทุกเครื่องต่อขึ้นจอทีวีรุ่นใหม่ๆ ได้สบาย เท่านี้คุณก็ได้จอคอมเฉพาะกิจแบบอลังการแล้ว

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

Windows

ดาวน์โหลดบทความ
  1. จะจอคอมกับทีวีได้ ต้องมีสายวีดีโอ ที่หลังคอมของคุณ คุณจะเห็นพอร์ทกับช่องเสียบหรือปลั๊กต่างๆ เต็มไปหมด ช่องเสียบวีดีโออาจจะอยู่แถวช่องเสียบ USB ลำโพง หรือ Ethernet หรือคุณอาจมีการ์ดจอแยกที่ด้านล่างก็ได้ มี 3 ช่องที่คุณต้องลองมองหาที่คอมของตัวเองดู [1]
    • HDMI - นี่คือหัวเสียบแบบมาตรฐานของอุปกรณ์ HD สมัยนี้ คอมรุ่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะมีพอร์ท HDMI ที่หลังเครื่อง โดย HDMI จะถ่ายทอดทั้งภาพและเสียง พอร์ท HDMI จะหน้าตาเหมือนพอร์ท USB แต่ยาวกว่า
    • DVI - นี่คือหัวเสียบดิจิตอลที่มีเข็ม (pin) ด้วย หัวเสียบ DVI จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า และมีเข็มเรียงกัน 3 แถว แถวละ 8 เข็ม โดย DVI จะถ่ายทอดเฉพาะสัญญาณภาพเท่านั้น
    • VGA - นี่คือหัวเสียบจอแบบเก่าที่เคยนิยมกัน จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู มี 15 เข็มแบ่งออกเป็น 3 แถว และมักจะเป็นสีน้ำเงิน ถ้าคุณมีสาย DVI หรือ HDMI ก็ขอให้เลี่ยงสายแบบนี้ เพราะสาย VGA นั้นคุณภาพต่ำสุด โดย VGA จะถ่ายทอดเฉพาะสัญญาณภาพเท่านั้น และไม่ใช่ภาพแบบ HD ด้วย
  2. พอรู้ชนิดของสายที่คอมคุณรองรับแล้ว ก็ถึงเวลาเช็คว่าทีวีคุณรองรับสายแบบไหนบ้าง ทีวีส่วนใหญ่จะมีพอร์ท input ที่หลังเครื่อง แต่บางทีก็อยู่ที่ด้านข้างแทน
    • HDTV สมัยนี้ส่วนใหญ่จะมี 1 พอร์ท HDMI ขึ้นไป เป็นสายที่เสียบง่ายและเร็วทันใจที่สุด แถมภาพยังชัดแจ๋วอีกด้วย HDMI เป็นสายแบบเดียวที่ถ่ายทอดทั้งภาพและเสียงในตัวเอง
    • DVI เป็นสายที่คนเริ่มไม่นิยมใช้กันแล้ว แต่ HDTV กับทีวีทั่วไปบางรุ่นก็ยังมีพอร์ทนี้หลงเหลืออยู่บ้าง
    • HDTV ไม่มีพอร์ท VGA อีกต่อไปแล้ว แต่ถ้าทีวีทั่วไปก็อาจยังพอมีอยู่
  3. จะได้รู้แล้วเลือก input ให้ถูกตอนเปลี่ยนมาใช้แทนจอคอม
  4. เรารู้ว่าตอนจะเลือกสายเสียบนี่บางทีก็มึนไปหมด เพราะแต่ละบริษัทต่างก็อวดสรรพคุณสายของตัวเองซะเลิศเลอไปหมด แต่จริงๆ แล้วผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่ได้รู้หรอกว่าแต่ละสายแต่ละยี่ห้อที่มีถูกมีแพงนั้นแตกต่างกันยังไง ถ้าคุณจะหาซื้อสาย HDMI สักเส้น บอกเลยว่าถ้ามันใช้งานได้ก็พอแล้ว เพราะจะสายราคาหลักร้อยหรือสายราคาหลักพันอัพ คุณภาพก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย
    • ถ้าทั้งคอมกับทีวีไม่ได้มีสายที่ใช้งานร่วมกันได้เลย ก็คงต้องหา adapter มาใช้แล้วล่ะ เช่น ถ้าคอมคุณมีช่องเสียบ DVI แต่ทีวีมีแค่พอร์ท HDMI ก็ให้ไปหา adapter หรือสายแบบ DVI เป็น HDMI มาใช้ แต่แบบนี้ HDMI จะไม่ถ่ายทอดเสียงด้วยนะ เพราะ DVI ไม่รองรับเสียงนี่สิ
  5. ถ้าคุณต่อ HDMI กับ HDMI ก็จบข่าว ไม่ต้องหาสายไหนมาเพิ่ม แต่ถ้าต่อแบบอื่น ก็ต้องมีสาย audio ให้มีเสียงด้วย
    • ถ้าจะต่อสาย audio จากแล็ปท็อป ให้ต่อสาย 3.5 มม. เข้าช่องเสียบหูฟังของแล็ปท็อป แต่ถ้าเป็นคอมตั้งโต๊ะให้เสียบที่ช่อง audio สีเขียวหลังคอม ส่วนเวลาเสียบสาย audio เข้าทีวี คุณจะใช้ปลั๊ก audio แบบ 3.5 มม. หรือสาย stereo (RCA) แบบ 2 ปลั๊กก็ได้
    • ถ้าใช้สาย VGA ให้เปิดคอมกับทีวีก่อน แต่ DVI กับ HDMI ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้
  6. ต้องเลือก input ที่ต่อสายไว้กับทีวี รีโมททีวีส่วนใหญ่จะมีปุ่ม "Input" หรือ "Source" ให้กดเลือกได้อยู่แล้ว
  7. คุณเลือกในคอมได้หลายวิธี แล้วแต่ว่าคอมคุณเป็นแบบไหน
    • แล็ปท็อปส่วนใหญ่จะมีคีย์ "Display" ไว้ใช้สลับจอที่ต่ออยู่ คุณอาจจะต้องกด Fn ก่อนถึงจะใช้ได้ แต่บางทีก็เป็นแค่สัญลักษณ์แทน ไม่มีคำว่า "Display"
    • ใน Windows 7 และใหม่กว่า คุณกด Windows + P เพื่อเปิดเมนู Project ได้เลย แล้วเลือก display mode หรือลักษณะการแสดงภาพที่จะใช้ (จอคอมพิวเตอร์ จอทีวี ต่ออีกจอให้ภาพยาวขึ้น หรือจะใช้ 2 จอแสดงภาพเดียวกันก็ได้)
    • ใน Windows ทุกเวอร์ชั่น ให้คลิกขวาที่หน้า desktop แล้วเลือก "Screen Resolution" หรือ "Properties" คุณเลือก display mode ในเมนู "Multiple displays" ได้ (จอคอมพิวเตอร์ จอทีวี ต่ออีกจอให้ภาพยาวขึ้น หรือจะใช้ 2 จอแสดงภาพเดียวกันก็ได้)
  8. จอคอมกับจอทีวีอาจจะมี resolution ต่างกัน ทำให้ภาพในจอทีวีดูเบลอๆ ตอนสลับจอ ให้คุณเลื่อนแถบ "Resolution" ในหน้าต่าง "Screen Resolution/Properties" ปรับเปลี่ยน resolution ตามสะดวก
    • HDTV ส่วนใหญ่จะใช้ resolution 1920x1080 ถ้าเป็นไปได้ให้เลือก "Recommended" resolution
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

Mac

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปกติ Mac หรือ Macbook จะมีพอร์ท 4 แบบด้วยกัน ถ้ารู้ไว้แต่เนิ่นๆ จะได้หาอุปกรณ์ที่จำเป็นถูก [2]
    • HDMI - พอร์ท HDMI จะหน้าตาเหมือนพอร์ท USB แต่ผอมและยาวกว่า และแต่ละข้างจะหุบเข้ามาเล็กน้อย ที่พอร์ทจะเขียนไว้เลยว่า "HDMI" ซึ่งนี่คือหัวเสียบมาตรฐานของอุปกรณ์ HD สมัยนี้ เพราะงั้น Mac กับ MacBook รุ่นหลังปี 2555 ก็จะมีพอร์ทที่ว่า ถ้ามี HDMI แล้วก็ไม่ต้องหา adapter เพิ่มเติมแต่อย่างใด
    • Thunderbolt - จะเป็นพอร์ทที่เล็กกว่าพอร์ท USB นิดหน่อย และมีไอคอนเล็กๆ รูปสายฟ้าติดอยู่ข้างบนด้วย แบบนี้ต้องใช้ adapter แบบ Thunderbolt เป็น HDMI ถึงจะต่อกับจอ HDTV ส่วนใหญ่ได้
    • Mini DisplayPort - พอร์ทนี้หน้าตาเหมือนพอร์ท Thunderbolt ยังกับแกะ แต่จะมีโลโก้เป็นกล่องเล็กๆ และมีเส้นตรงขนาบ 2 ข้าง
    • Micro-DVI - นี่คือหนึ่งในพอร์ทเก๋ากึ้กที่ยังพอหลงเหลือมาให้เห็น ไอคอนจะเหมือนกับ Mini DisplayPort แต่ตัวพอร์ทจะเหมือนพอร์ท USB ย่อส่วน
  2. บางทีก็อยู่ด้านหลัง บางทีก็อยู่ข้างเครื่อง พอร์ท input ของทีวีที่พบมากที่สุดก็คือ HDMI, DVI แล้วก็ VGA ถ้าคุณต่อตรง HDMI กับ HDMI ได้เลย ก็ใช้แค่สายเส้นเดียวจบทั้งภาพและเสียง แต่ถ้าเป็นแบบอื่นก็ต้องมีสาย audio แยก
    • สังเกตชื่อพอร์ท input ของทีวีไว้ จะได้สลับ input ง่ายๆ
  3. พอรู้แล้วว่าเครื่อง Mac และทีวีของคุณมีพอร์ทไหนบ้าง ก็ถึงเวลาหา adapter [3]
    • ถ้าทั้ง Mac และทีวีมีพอร์ท HDMI ก็ใช้สาย HDMI เส้นเดียวจบ
    • แต่ถ้าทีวีมีพอร์ท HDMI แต่ Mac ใช้ Thunderbolt หรือ Mini DisplayPort คุณต้องหา adapter แบบ Thunderbolt/Mini DisplayPort เป็น HDMI มาใช้แทน
  4. พอมี adapter แล้ว ก็ถึงเวลาตามหาสายเสียบ ถ้า adapter ของคุณแปลงเป็น HDMI ก็ต้องใช้สาย HDMI สาย HDMI ถูกๆ ก็ไม่มีปัญหา ใช้ดีเหมือนแบบแพง ส่วนถ้าเป็นพอร์ท DVI หรือ VGA ก็ต้องใช้สาย audio ด้วย ไม่ใช่แค่สายวีดีโออย่างเดียว
  5. ต่อ adapter ที่พอร์ทจอของ Mac
  6. ถ้าทั้งคอมและทีวีมีพอร์ท HDMI ก็ใช้แค่สาย HDMI ธรรมดาต่อ 2 เครื่องเข้าด้วยกัน
    • แต่ถ้าไม่ได้ต่อ HDMI กับทีวี คุณต้องมีสาย audio ด้วย เพื่อดึงเสียงจาก Mac มาที่ทีวีหรือระบบโฮมเธียเตอร์ ให้คุณใช้สาย audio 3.5 มม. ต่อช่องเสียบหูฟังของ Mac กับพอร์ท Audio In ของทีวีหรือเครื่องรับสัญญาณ
  7. เลือก input ที่ต่อคอมอยู่ ทีวีบางเครื่องอาจมีหลาย input ของประเภทเดียวกันให้เลือก ก็ต้องเช็คให้ชัวร์ก่อนเลือก
    • แต่ส่วนใหญ่คอมจะสแกนหาจอทีวีแล้วแสดงภาพเองอัตโนมัติอยู่แล้ว
  8. เพื่อปรับ resolution ของจอทีวีที่ต่อไว้
  9. เพื่อแสดงลักษณะการวางตัวและใช้งานของทั้ง 2 จอ โดยจะกำหนดว่าคุณใช้เมาส์บังคับจอไหนได้บ้าง
  10. เพื่อสลับจอหลักที่ใช้แสดงภาพไปเป็นทีวี
  11. ใน tab "Output" ให้เลือก "HDMI" ถ้าต่อผ่านสาย HDMI อยู่ แต่ถ้าใช้สายอื่น ให้เลือก audio cable แทน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • บอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อสายสัญญาณดิจิตอลแพงๆ อย่างสาย "Monster Cables" นี่ถือว่าทุ่มทุนสร้างเกินไป ใช้แค่สาย HDMI หรือ DVI ยาว 6 ฟุต (2 เมตร) ราคาไม่กี่ร้อยก็พอแล้ว ถ้าจ่ายเกินกว่านั้นถือว่าขาดทุน อ้อ แต่ถ้าสาย VGA นี่ถูกเมื่อไหร่เป็นเรื่อง เพราะสัญญาณ VGA เป็นแบบ analog แค่สัญญาณห่วยนิดห่วยหน่อยภาพก็เริ่มไปแล้ว (ยิ่งสาย VGA ยาวและจอทีวีใหญ่เท่าไหร่ สายราคาถูกจะทำให้ภาพออกมา "เบลอ (ghosting)" ได้ใจ เพราะงั้นต้องเลือกสายคุณภาพดีหน่อย) ให้คุณเลือกสาย VGA หนาๆ ที่ถูกที่สุด และสายต้องสั้น (ไม่เกิน 6 ฟุต) ภาพถึงจะออกมาดีในจอขนาดประมาณ 20 นิ้ว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 35,472 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา