ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
หนึ่งในปัญหายอดนิยมของคนที่ไปเที่ยวเมืองจีน ก็คือรัฐบาลของเขาค่อนข้างคุมเข้มเรื่องการใช้เน็ตนี่สิ โดยเฉพาะเว็บดังอย่าง Facebook, Twitter และ YouTube ที่ถูกบล็อกด้วย firewall ของรัฐ รวมถึงแหล่งข่าวต่างๆ ที่พากันถูกสกรีน เพราะงั้นถ้าคุณเกิดอยากโพสต์หรือแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวของคุณกับเพื่อนๆ และครอบครัว คงต้องทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ ถึงจะทะลุบล็อกไปใช้งานได้
ขั้นตอน
-
หาเว็บ VPN ที่ตรงตามต้องการ. VPN (Virtual Private Network) คือการเชื่อมต่อแบบเข้ารหัส ไปยัง remote server ให้คุณใช้เน็ตทะลุการบล็อกของ firewall ได้ VPN จะมีผลกับทุก traffic เข้าออก แปลว่า Skype และโปรแกรมแชทอื่นๆ จะไม่ถูก firewall บล็อกเช่นกัน แต่ VPN เป็นบริการแบบเสียเงิน เช่น จ่ายค่าบริการรายเดือนหรือรายปี ถ้าคุณเป็นนักท่องเที่ยว ไปจีนแค่ช่วงสั้นๆ ก็เลือกใช้ตามสะดวก
-
เช็คว่า VPN นั้นใช้ในจีนได้หรือเปล่า. เว็บ VPN ดังๆ บางเว็บจะถูกทางการจีนบล็อกไว้ เข้าใช้งานไม่ได้ ให้เช็คก่อนว่าเว็บที่คุณจะสมัครนั้นใช้ในจีนได้หรือเปล่า รวมถึงอ่านรีวิวของคนที่เคยใช้งาน
-
ดาวน์โหลดโปรแกรมที่จำเป็น. บาง VPN จะมีโปรแกรม VPN client ที่ต้องติดตั้งในคอมก่อน บางเว็บก็ให้มาเป็นข้อมูลล็อกอินแทน เอาไว้ใส่ใน connection manager ของ Windows หรือ Mac
- แต่ส่วนใหญ่จะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม VPN ก่อนไปจีน เพราะโปรแกรม VPN ดังๆ หลายตัวถูกบล็อกไว้ เลยทำให้สมัครใช้หรือดาวน์โหลด client ตอนอยู่ในจีนไม่ได้ ให้ติดตั้ง VPN ให้เรียบร้อยตั้งแต่อยู่ไทย เผื่อไปจีนแล้วมีปัญหาอะไรจะได้ติดต่อฝ่ายบริการของ VPN ที่ใช้ได้
- บาง VPN มีแอพไว้ใช้ใน iPhone, iPad หรืออุปกรณ์ Android ได้
-
เชื่อมต่อ VPN. โดยเปิดโปรแกรม หรือใส่ข้อมูล VPN ใน connection settings ของระบบปฏิบัติการที่ใช้ โปรแกรม VPN มักตั้งค่ามาเรียบร้อยแล้ว แค่คุณกรอกข้อมูลล็อกอินก็ใช้งานได้เลย
- ถ้าใช้ Windows ให้หา VPN ในเครื่อง แล้วเลือก “Set up a virtual private network (VPN) connection” (Windows Vista/7) หรือ “Add a VPN connection” (Windows 8) จากนั้นใส่ข้อมูลล็อกอิน ปกติเว็บ VPN จะมีข้อมูลเซิร์ฟเวอร์ที่จะใช้เชื่อมต่อ รวมถึง username และรหัสผ่านให้ ก็ใส่ไปใน VPN connection settings ได้เลย
- ถ้าใช้ Mac OS X ให้คลิกเมนู Apple แล้วเลือก System Preferences คลิก Network คลิกปุ่ม Add (+) ท้ายรายการ แล้วเลือก VPN จากในตัวเลือก จากนั้นเลือกประเภท VPN ที่จะเชื่อมต่อ ปกติเว็บ VPN จะบอกข้อมูลตรงนี้มาให้ คุณก็ตั้งค่า VPN settings รวมถึงเซิร์ฟเวอร์ที่จะเชื่อมต่อ พร้อม username และรหัสผ่านของคุณไปตามนั้น
- คลิก Connect เพื่อเชื่อมต่อ VPN ส่วนใหญ่จะเชื่อมต่ออัตโนมัติ แต่ถ้าไม่สำเร็จ ให้ติดต่อฝ่ายบริการของ VPN ที่ใช้ เพื่อแก้ไขต่อไป
-
เข้า Facebook. พอเชื่อมต่อผ่าน VPN เรียบร้อย ก็เข้าเว็บต่างๆ ที่ตอนแรกถูกบล็อกไว้ได้เลย รวมถึงใช้งานโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องต่อเน็ต เช่น Skype อาจมีอืดๆ บ้าง แต่ถือว่าปกติ เพราะตัวคุณอยู่ห่างกับเซิร์ฟเวอร์ VPNโฆษณา
-
ลองใช้ proxy ฟรี. proxy เป็นเว็บที่ตำแหน่งที่อยู่มักแตกต่างจากสถานที่จริงของคุณ ทำให้เข้าเว็บที่ถูกบล็อกได้ เช่น ถ้า proxy อยู่ในอเมริกา ถึงอยู่จีนก็ยังเข้า Facebook ได้ เหมือนเล่น Facebook อยู่ในอเมริกา นี่คือ รายชื่อ proxy ฟรี ให้ลองใช้กัน ไม่ต้องรีบจ่ายเงินเสมอไป แต่บางทีก็ใช้เข้า Facebook ในจีนได้ไม่ค่อยดี เพราะ
- จีนก็หา proxy พวกนี้เจอเหมือนคุณ แล้วก็บล็อกซะเลย
- proxy พวกนี้ไม่ได้ออกมาให้เล่นอะไรซับซ้อนอย่าง social media
-
ลอง secure proxy. ตัวที่น่าสนใจ ใช้เล่น Facebook และ social media อื่นๆ ได้ก็เช่น Proxy Center มีแบบ free trial ให้ทดลองใช้กันด้วย จะได้แน่ใจว่าใช้ได้จริง แล้วค่อยใช้แบบเสียเงินที่ต้องพ่วงอีเมล ข้อดีของ proxy แบบนี้ (เทียบกับ VPN ที่พูดไปก่อนหน้า) ก็คือไม่ต้องติดตั้งอะไรลงคอม ใช้งานในรูปของเว็บอย่างเดียวโฆษณา
-
ดาวน์โหลด Tor browser bundle. Tor เป็น distributed network (เครือข่ายกระจาย) ฟรี ใช้เบราว์เซอร์แล้วปกปิดตัวตน ข้อมูลจะเด้งไปมาระหว่างรีเลย์จำนวนมหาศาลทั่วโลก Tor เลยให้คุณ bypass ทะลุ firewall หรือการบล็อกอื่นๆ ได้ แต่ข้อเสียคือเว็บจะโหลดช้าขึ้น เพราะข้อมูลต้องเดินทางไกลกว่าจะมาถึงคุณ
- Tor browser bundle เป็นโปรแกรมที่ใช้ได้เลย ไม่ต้องติดตั้ง จะใส่ไว้ใน USB แล้วเสียบเข้าคอมก็ยังได้ browser bundle หรือเบราว์เซอร์ Tor นี้มีให้ใช้กันทั้งใน Windows, Mac และ Linux
-
เปิดเบราว์เซอร์. เบราว์เซอร์ Tor ก็คือ Firefox เวอร์ชั่นปรับแต่งแล้ว ทำให้หน้าตาและเมนูต่างๆ คล้ายกัน เปิดแล้วจะมีหน้าต่างโผล่มาแสดงสถานะการเชื่อมต่อผ่าน Tor พอเสถียรแล้ว เบราว์เซอร์จะเปิดขึ้นมา
- เฉพาะ traffic ที่ส่งผ่านเบราว์เซอร์ Tor เท่านั้น ถึงจะผ่านเครือข่าย Tor แปลว่า Internet Explorer, Chrome, Safari และเบราว์เซอร์อื่นๆ จะไม่ปกปิดตัวตนให้คุณผ่านเครือข่าย Tor แม้ Tor จะเปิดอยู่ก็ตาม
-
เช็คการเชื่อมต่อ. พอหน้าต่างเบราว์เซอร์เปิดขึ้นมา จะมีหน้ายืนยันว่าคุณเชื่อมต่อ Tor เรียบร้อย เท่านี้ก็เข้าเว็บต่างๆ ที่ตอนแรกถูกบล็อกได้เลย และพอปิดหน้าต่างเบราว์เซอร์เมื่อไหร่ ก็เท่ากับปิดการทำงานของ Tor
- เฉพาะข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่าย Tor เท่านั้น ถึงจะถูกเข้ารหัสไว้ ข้อมูลที่ออกไปนอกเครือข่าย Tor นั้นไม่เกี่ยว แปลว่าข้อมูลก็อาจจะไม่ปลอดภัยเท่าที่คุณคิด (พอๆ กับที่ใช้เน็ตตามปกติ) เพราะฉะนั้นให้กรอกข้อมูลส่วนตัวเฉพาะในเว็บที่เปิดใช้ SSL ไว้เท่านั้น หรือก็คือเว็บที่ขึ้นต้นด้วย HTTPS:// ไม่ใช่ HTTP:// รวมถึงหน้าแถบ address ของเบราว์เซอร์ต้องมีรูปกุญแจล็อคไว้
โฆษณา
เคล็ดลับ
- กลับมาแล้วแนะนำให้เปลี่ยนรหัสผ่านทุกเว็บที่เคยใช้ในจีน
- อย่าพยายามใช้ VPN ฟรี เพราะส่วนใหญ่จะเป็นพวกหลอกลวง
โฆษณา
คำเตือน
- การเจาะ firewall ของทางการจีน จริงๆ แล้วถือว่าผิดกฎหมาย ระวังจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่ถ้าแค่เช็ค Facebook คงไม่เป็นไร ยังไงก็ใช้วิธีการต่างๆ ในบทความนี้อย่างระมัดระวังก็แล้วกัน
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,190 ครั้ง
โฆษณา