ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีใน iPad และปรับแต่ง settings ต่างๆ ให้ไม่เปลืองแบตเตอรี่ ใช้งานได้นานขึ้น แน่นอนว่าวันไหนใช้งาน iPad หนักๆ แบตก็จะหมดไวมาก ส่วนวันไหนไม่ค่อยหยิบมาเล่น ก็อยู่ได้นานเป็นวันๆ คุณแก้แบตหมดไวได้โดยปรับ data settings และหมั่นอัพเดทฟีเจอร์ต่างๆ ของ iPad อยู่เสมอ เท่านี้ก็จะใช้งานแบตได้คุ้มค่าเต็มประสิทธิภาพ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 7:

เปลี่ยนค่าการเชื่อมต่อ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาแล้วแตะไอคอนฟันเฟืองสีเทาในหน้า home หรือในโฟลเดอร์ app เพื่อเปิดเมนู Settings
  2. ที่เป็นตัวเลือกข้างไอคอน Wi-Fi สีฟ้าขาว ทางด้านบนของเมนู Settings เพื่อเปิดตัวเลือก Wi-Fi
    • ถ้า iPad ใช้เน็ตมือถือ พวก 4G หรือ LTE ได้ด้วย ก็ให้เปิดเมนู Cellular แล้วปิดสวิตช์ Cellular Data เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้เน็ตมือถือ ช่วยประหยัดแบตอีกทาง
  3. เพื่อปิดการใช้งาน Wi-Fi ใน iPad
    • ถ้าไม่ได้ต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi แล้วเปิดใช้ฟีเจอร์ Wi-Fi จะเปลืองแบตโดยใช่เหตุ
  4. ที่เป็นตัวเลือกข้างไอคอน สีฟ้าขาว ล่างตัวเลือก "Wi-Fi" เพื่อเปิดตัวเลือก Bluetooth
  5. เพื่อปิดการใช้ฟีเจอร์ Bluetooth ของ iPad
    • ปิด Bluetooth แล้วจะช่วยให้แบตหมดช้าลงเยอะ ถ้าปกติไม่ได้ใช้ Bluetooth แล้วเปิดฟีเจอร์นี้ไว้ ก็จะเปลืองแบตไปโดยปริยาย
  6. ที่เป็นตัวเลือกข้างไอคอนมือสีขาวในสี่เหลี่ยมสีฟ้า
  7. ที่เป็นตัวเลือกหัวลูกศรสีขาวในสี่เหลี่ยมสีฟ้า
  8. ถ้าปกติไม่ได้ใช้แผนที่หรือแอพ location services ต่างๆ แนะนำให้ปิดตัวเลือกนี้ไป จะช่วยประหยัดแบตได้
    • จะมีให้ยืนยันตัวเลือกใน pop-up ด้วย
  9. เพื่อยืนยันตัวเลือก และปิดการใช้งาน location services จะกลับมาเปิดเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการใช้แผนที่หรือ location services ต่างๆ
  10. ที่ด้านซ้ายบนของหน้าจอ คุณใช้เมนู Settings เปิดและปิดตัวเลือกการเชื่อมต่อต่างๆ ได้ เมื่อต้องการใช้ Wi-Fi, Bluetooth หรือ Location Services
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 7:

ใช้โหมดประหยัดพลังงาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาแล้วแตะไอคอนฟันเฟืองสีเทาในหน้า home หรือในโฟลเดอร์ app เพื่อเปิดเมนู Settings
  2. ที่เป็นตัวเลือกข้างไอคอนแบตเตอรี่สีขาวบนพื้นเขียว ปกติอยู่แถวๆ กลาง Settings
  3. ถ้าเปิดใช้ตัวเลือกนี้ไว้ iPad จะลดกิจกรรมในเบื้องหลังลงโดยอัตโนมัติ เช่น การดึงข้อมูลอัตโนมัติ เพื่อให้แบตใช้ได้นานขึ้น
    • ถ้าเป็น iPad รุ่นเก่าๆ บางทีก็ไม่มีตัวเลือกนี้
    • เช็คว่า อัพเดท iOS แล้ว ค่อยไปดูว่าใน iPad มีฟีเจอร์นี้ไหม
  4. แล้วจะปรับแต่งได้ ว่ามีตัวเลือกไหนใน Control Center ของ iPad บ้าง
  5. ปกติตัวเลือกนี้จะอยู่ในหัวข้อ "MORE CONTROLS" ของหน้า Customize
    • แล้วสวิตช์ปิด/เปิด Low Power Mode จะโผล่มาใน Control Center
    • ถ้าเพิ่มตัวเลือก Low Power Mode ไว้ใน Control Center อยู่แล้ว ก็จะอยู่ในหัวข้อ "INCLUDE" ทางด้านบน
  6. เพื่อเปิด Control Center
  7. ไอคอนแบตเตอรี่นี้คือ quick switch ให้คุณปิด/เปิด Low Power Mode ได้ทันที
    • ถ้าเปิด Low Power Mode ไว้ สวิตช์จะเป็นสีขาว โดยไอคอนแบตเตอรี่จะเป็นสีเหลือง
    • iPad รุ่นเก่าๆ อาจจะไม่มีตัวเลือกให้เพิ่มฟีเจอร์นี้ใน Control Center ได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 7:

ปิดการรีเฟรชแอพ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาแล้วแตะไอคอนฟันเฟืองสีเทาในหน้า home หรือในโฟลเดอร์ app เพื่อเปิดเมนู Settings
  2. เพื่อเปิดรายชื่อแอพทั้งหมดที่รีเฟรชข้อมูลอัตโนมัติที่เบื้องหลัง
    • แต่ละแอพที่เห็นตรงนี้จะใช้แบตทุกครั้งที่รีเฟรชข้อมูลที่เบื้องหลัง ถึงจะไม่ได้เปิดอยู่ก็เถอะ
  3. เพื่อเปิดตัวเลือก refresh ในหน้าใหม่
  4. เพื่อไม่ให้แอพต่างๆ รีเฟรชข้อมูลโดยอัตโนมัติที่เบื้องหลัง แบตจะใช้ได้นานขึ้น เต็มประสิทธิภาพ
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 7:

ปรับการดึงข้อมูลอัตโนมัติ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาแล้วแตะไอคอนฟันเฟืองสีเทาในหน้า home หรือในโฟลเดอร์ app เพื่อเปิดเมนู Settings
  2. ที่เป็นตัวเลือกข้างไอคอนกุญแจสีขาวบนพื้นเทา ปกติอยู่แถวๆ กลางเมนู Settings
  3. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านล่างของหน้า
  4. เพื่อไม่ให้ Mail, Contacts, Calendar และบัญชีอื่นๆ ดึงข้อมูลอัตโนมัติตลอดที่เบื้องหลัง
    • Data fetching ใช้อัพเดทข้อมูลบัญชีและแอพโดยอัตโนมัติที่เบื้องหลัง โดยจะไปดึงข้อมูลอย่างแจ้งเตือนอีเมลและฟีด RSS มา
    • ถ้าเปิด Push ไว้ อัพเดทข้อมูลจะถูกส่งมาที่ iPad ตลอดที่เบื้องหลัง ทำให้เปลืองแบตได้
  5. ถ้าเลือกข้อนี้ไว้ แอพต่างๆ อย่าง Mail, Contacts และ Calendars ก็จะหยุดดึงข้อมูลอัตโนมัติตามเวลาที่กำหนด
    • Automatically จะเช็คอัพเดทใหม่เรื่อยๆ ตามเวลา
    • Manually จะเช็คอัพเดทเฉพาะตอนเปิดแอพ Mail หรือ Calendar แบบนี้จะใช้แบตได้คุ้มค่ากว่า
    • หรือจะเลือก Hourly หรือ Every 30 Minutes ก็ได้ เพื่อจำกัดช่วงเวลาที่แอพดึงข้อมูล
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 7:

ปรับ Auto-Lock

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาแล้วแตะไอคอนฟันเฟืองสีเทาในหน้า home หรือในโฟลเดอร์ app เพื่อเปิด Settings
  2. ที่เป็นตัวเลือกข้างไอคอน "AA" สีขาวบนพื้นฟ้า คุณเปลี่ยน display settings ทั้งหมดได้ที่นี่
  3. เพื่อตั้งค่าล็อคเครื่องรวมถึงปิดหน้าจอ iPad อัตโนมัติ หลังปล่อยเครื่องไว้เฉยๆ ครบตามเวลาที่กำหนด
  4. ถ้าเลือกข้อไหนในนี้ไว้ หน้าจอก็จะดับไปอัตโนมัติ หลังปล่อยเครื่องไว้เฉยๆ ตามเวลาที่กำหนด ทำให้ประหยัดแบตได้ [1]
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 7:

ปรับความสว่างของหน้าจอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หาแล้วแตะไอคอนฟันเฟืองสีเทาในหน้า home หรือในโฟลเดอร์ app เพื่อเปิด Settings
  2. เพื่อเปิดฟีเจอร์ accessibility ทั้งหมดในหน้าใหม่
  3. เมนูนี้ให้คุณใช้และปรับแต่งฟีเจอร์ display ต่างๆ ได้
  4. ถ้าเปิดตัวเลือกนี้ไว้ iPad จะลดความสว่างของหน้าจอโดยอัตโนมัติถ้าอยู่ในที่มืดๆ ช่วยประหยัดแบตได้
  5. เพื่อเปิด Control Center
    • คุณยังปรับความสว่างของหน้าจอได้ตามต้องการตลอดเวลาใน Control Center
  6. แถบนี้ใช้ปรับความสว่างของหน้าจอ
  7. เพื่อลดความสว่างของหน้าจอเวลาอยู่ในที่มืดๆ ช่วยประหยัดแบตได้
    • ถ้าเป็น iPad รุ่นเก่าๆ ให้ลากแถบเลื่อนไปทางซ้ายแทน ถ้าจะลดความสว่างของหน้าจอ
    • ให้ลดความสว่างของหน้าจอมากที่สุดเท่าที่ยังสบายตา อย่าประหยัดแบตจนเสียสายตา หลักการก็คือยิ่งหน้าจอสว่าง ก็ยิ่งเปลืองแบตของ iPad มากขึ้นเท่านั้น
    โฆษณา
วิธีการ 7
วิธีการ 7 ของ 7:

แนะนำวิธีดูแล iPad เบื้องต้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Apple แนะนำให้อัพเดทระบบบ่อยๆ เพราะทีมวิศวกรเขาพัฒนากันเรื่อยๆ ให้คุณใช้แบตได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ทุกครั้งที่อัพเดท iOS ใหม่ [2]
    • ถ้าไม่แน่ใจว่าจะอัพเดท iOS ยังไง ให้ลองอ่าน บทความนี้ ดู เพราะมีขั้นตอนโดยละเอียด
  2. แอพที่ภาพคมชัด เน้น 3D จะกินแบตเร็วยิ่งกว่าอะไรดี
  3. อุณหภูมิร้อนจัดหรือเย็นจัดก็ทำให้แบตหมดเร็วขึ้นได้ เพราะงั้นให้พยายามใช้ iPad ในอุณหภูมิระหว่าง 0ºC ถึง 35ºC (32ºF ถึง 95ºF) [3]
    • เวลาชาร์จแบตอย่าพยายามใส่เคส iPad ไว้ เพราะถ้าเป็นเคสห่วยๆ หน่อยจะทำให้ระบายอากาศได้ไม่ดี iPad จะร้อนง่าย แบตเสื่อมเร็ว
  4. เป็นวิธีปิดการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้งหมดของ iPad เช่น เน็ตมือถือ, Wi-Fi, GPS และ location services แบบรวดเร็วทันใจที่สุด เพื่อประหยัดแบต
    • เปิด Airplane Mode แล้วจะโทร-รับสายไม่ได้ เพราะปิดสัญญาณมือถือไว้
    • ถ้าไม่แน่ใจว่าจะเปิด Airplane Mode ยังไง ให้ลองค้นหาเพิ่มเติมในเน็ตดู
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ชาร์จแบตให้เต็มก่อนออกจากบ้าน โดยเฉพาะถ้าต้องเดินทางไกล ถ้าต้องค้างคืนหรือไปนาน ก็อย่าลืมเอาสายชาร์จติดไปด้วย ปกติแบต iPad จะอยู่ได้ประมาณ 10 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานบ่อย แบตก็จะหมดเร็วกว่านั้น
  • อันนี้เป็นความเชื่อผิดๆ ว่ารีสตาร์ทช่วยได้ แต่จริงๆ แล้วถ้าปิดแล้วเปิด iPad ขึ้นมาใหม่ จะทำให้เปลืองแบตหนักกว่าเดิม เพราะดึงแบตไปใช้ตอน iPad เปิด/ปิดเครื่อง
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

แก้ไขเมื่อมือถือขึ้นข้อความเตือนว่าไม่มีซิม
ใช้งาน WeChat
กำจัดฟองอากาศบนฟิล์มกันรอย
หา PUK Code ของมือถือ
ปลดล็อคซิมโดยไม่ใช้รหัส PUK
เช็คเบอร์มือถือตัวเองจากซิม
โทรออกแบบไม่โชว์เบอร์
แก้ไขเมื่อมือถือขึ้นว่าโทรฉุกเฉินเท่านั้น
โทรเข้าเบอร์ต่อ (extension)
ค้นหา Apple Watch ที่หายไปอย่างไรเมื่อแบตเตอรี่หมด
เช็คว่ามือถือปลดล็อคเครือข่ายหรือยัง
โกงจำนวนนับก้าวในมือถือแบบไม่ต้องเดิน
หาเบอร์มือถือสำหรับใช้ชั่วคราว
เช็คผ่าน iPhone หรือ iPad ว่าอีกฝ่ายอ่านข้อความของคุณหรือยัง
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 60,425 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา