ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการ run สคริปต์ภาษา Ruby ใน Windows, macOS และ Ubuntu หรือ Debian Linux ให้คุณเอง จะ run โปรแกรม Ruby ได้ ต้องติดตั้ง Ruby ในคอมก่อน ถึงปกติ macOS กับ Linux ทุกเวอร์ชั่นจะมี Ruby สักเวอร์ชั่นติดมาด้วยอยู่แล้ว แต่อยากให้ลองเช็คก่อนว่าใช้เวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว ค่อยลอง run โปรแกรม รวมถึงถ้าโค้ดภาษา Ruby ที่จะ run นั้นเป็นโค้ดที่คุณเขียนเองใน text editor หรือ developer environment ก็ต้องเซฟเป็นไฟล์ .rb ซะก่อน จะได้ run จากใน command line ได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

macOS

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ปกติ Mac จะมี Ruby interpreter หรือชุดโปรแกรมแปลโค้ด Ruby ติดมากับระบบปฏิบัติการอยู่แล้ว เลยทำให้ run สคริปต์ภาษา Ruby ได้สะดวกรวดเร็ว คุณเปิด Terminal ได้โดย
    • คลิกไอคอน Launchpad ใน Dock (สี่เหลี่ยมสีๆ)
    • พิมพ์ terminal ในช่องค้นหา
    • คลิกไอคอน Terminal
  2. เวอร์ชั่นที่ติดมากับ Mac อาจจะตกรุ่น ไม่ได้อัปเดตพร้อมระบบ ก็ติดตั้งเวอร์ชั่นล่าสุดได้โดย
    • ถ้าไม่ได้ติดตั้ง Homebrew ไว้ ให้พิมพ์ /bin/bash -c "$(curl -fsSL https://raw.githubusercontent.com/Homebrew/install/HEAD/install.sh )" แล้วกด Return เพื่อติดตั้ง Homebrew [1]
    • พิมพ์ brew install ruby แล้วกด Return
    • พิมพ์ open -e ~/.zshrc แล้วกด Return เพื่อเปิดไฟล์ shell configuration ใน TextEdit [2]
    • เพิ่มโค้ดต่อไปนี้ต่อท้ายโค้ดในไฟล์ ถ้าเป็น Mac ที่ใช้ Intel
      • if [ -d "/usr/local/opt/ruby/bin" ]; then
      • export PATH=/usr/local/opt/ruby/bin:$PATH
      • export PATH=`gem environment gemdir`/bin:$PATH
      • fi
    • เพิ่มโค้ดต่อไปนี้ต่อท้ายโค้ดในไฟล์ ถ้าเป็น Mac ที่ใช้ Apple silicon
      • if [ -d "/opt/homebrew/opt/ruby/bin" ]; then
      • export PATH=/opt/homebrew/opt/ruby/bin:$PATH
      • export PATH=`gem environment gemdir`/bin:$PATH
      • fi
    • เซฟแล้วปิดไฟล์
    • ปิดแล้วเปิดหน้าต่าง Terminal ขึ้นมาใหม่
    • พิมพ์ brew pin ruby แล้วกด Return
  3. พอเปิด Terminal แล้ว จะเจอ home directory ให้เปิด directory ที่เซฟสคริปต์ภาษา Ruby ไว้ เช่น ถ้าสคริปต์อยู่ที่หน้า desktop ก็พิมพ์ cd Desktop แล้วกด Return
    • จะเห็นรายชื่อไฟล์ใน directory ปัจจุบัน ถ้าพิมพ์ ls -a แล้วกด Return
  4. เปลี่ยน scriptname.rb เป็นชื่อสคริปต์ Ruby ที่จะ run เพื่อ execute สคริปต์ Ruby
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

Windows

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้ายังไม่ได้ทำ ให้ติดตั้ง Ruby สำหรับ Windows ก่อน ดาวน์โหลดได้ที่ https://rubyinstaller.org/downloads ขั้นตอนการติดตั้งก็ง่ายมาก แค่ดับเบิลคลิกไฟล์ที่ดาวน์โหลดมา แล้วทำตามขั้นตอนในหน้าจอ
    • ถ้าไม่แน่ใจว่าต้องดาวน์โหลดเวอร์ชั่นไหน ให้เช็คคอลัมน์ขวามือของเว็บ น่าจะมีแนะนำไว้ [3]
    • ตอนติดตั้ง ให้เลือก defaults settings ไม่ต้องเปลี่ยนอะไร เว้นแต่พอมีประสบการณ์อยู่บ้าง ค่า defaults คือสร้าง Ruby directory ใน path ของระบบ จะได้ run คำสั่ง ruby จาก command prompt ได้เลย
  2. ปกติอยู่ในเมนู Start หลังติดตั้ง Ruby [4]
    • หรือคลิกแถบ Search (หรือไอคอนแว่นขยาย) ข้างปุ่ม Start พิมพ์ Command แล้วคลิก Start Command Prompt With Ruby ในผลการค้นหา
  3. ให้พิมพ์ cd ถ้าจะเปลี่ยน directory ไปตรงที่มีสคริปต์ Ruby. พอเปิด Command Prompt แล้ว จะเจอ home directory (ปกติจะเป็น C:\Users\ชื่อคุณ) ถ้าสคริปต์ Ruby อยู่ในหน้า desktop ให้พิมพ์ cd Desktop หรือ C:\Users\ชื่อคุณ\Desktop แล้วกด Enter
  4. เปลี่ยน scriptname.rb เป็นชื่อสคริปต์ Ruby ที่จะ run ขั้นตอนนี้จะ run สคริปต์ Ruby
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

Debian และ Fedora Linux

ดาวน์โหลดบทความ
  1. โดยกด Control + Alt + T หรือคลิกไอคอน Terminal ในรายชื่อแอป
  2. เพื่อเช็คเวอร์ชั่น Ruby ถ้าใช้เวอร์ชั่นเก่ากว่า 2.7.1 ต้องอัปเกรด
  3. ถ้าไม่มี Ruby หรือใช้เวอร์ชั่นเก่าอยู่ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
    • พิมพ์ sudo apt-get update แล้วกด Enter เพื่ออัปเดต package list
    • พิมพ์ sudo apt-get install ruby-full แล้วกด Enter เพื่อติดตั้ง Ruby เวอร์ชั่นล่าสุด
  4. ให้พิมพ์ cd ถ้าจะเปลี่ยน directory ไปตรงที่มีสคริปต์ Ruby. เช่น ถ้าสคริปต์อยู่ในโฟลเดอร์ code ใน home directory ให้พิมพ์ cd code แล้วกด Enter
    • พิมพ์ ls -a แล้วกด Enter ถ้าจะเช็คว่ามีไฟล์ไหนบ้างใน directory ปัจจุบัน
  5. เปลี่ยน scriptname.rb เป็นชื่อสคริปต์ Ruby ที่จะ run เท่านี้ก็ run สคริปต์ Ruby เรียบร้อย
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 856 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา