ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
คัพเค้กเป็นขนมหวานที่อร่อยและเหมาะสมกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าคุณต้องการจะจัดงานปาร์ตี้ ฉลองงานวันเกิด ฉลองวันพิเศษอื่นๆ หรือแม้กระทั่งแค่อยากมีของหวานกินเล่นๆ คัพเค้กจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน
- เวลาที่ใช้สำหรับเตรียมอุปกรณ์ (สูตรดั้งเดิม): 20-25 นาที
- เวลามี่ใช้ในการทำ: 17-20 นาที
- เวลาที่ใช้ทั้งหมด: 35-45 นาที
ส่วนประกอบ
- แป้งเค้ก(ไม่ใช่ชนิด self-rising) 1 3/4 ถ้วยตวง
- แป้งอเนกประสงค์ 1 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำตาล 2 ถ้วยตวง
- ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 3/4 ช้อนชา
- เนยจืด 4 แท่ง
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- นมสด 1 ถ้วยตวง
- กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
- น้ำตาลไอซิ่ง 6 ถ้วยตวง
- นมสด 1/2 ถ้วยตวง
- กลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา
- นมช็อคโกแลต 1 1/3 ถ้วยตวง
- นำ้มันคาโนลา 1/2 ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- ผงแป้งเค้กดาร์กช็อคโกแลตสำเร็จรูป 1 กล่อง (19.5 ออนซ์)
- เนยจืด 3 ช้อนโต๊ะ
- ครีมมาร์ชเมลโล่ 7 ออนซ์
- ดาร์กช็อคโกแลตชิพ 1 ถุง (10 ออนซ์)
- วิปปิ้งครีม 2/3 ถ้วยตวง
- แบะแซ 1 ช้อนโต๊ะ
- ฟรอสติ้งรสวนิลา 6 ออนซ์
- แป้งเค้ก (ร่อน) 1 1/4 ถ้วยตวง
- ผงฟู 3/4 ช้อนชา
- เกลือชนิดหยาบ 1/2 ช้อนชา
- นมสด 1/4 ถ้วยตวง
- วนิลา 1/2 ฝัก
- เนยจืด 4 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- ไข่แดง 3 ฟอง
- น้ำตาล 1 ถ้วยตวง
- กาแฟดำ 1/3 ถ้วยตวง
- มาซาลาไวน์ 1 ออนซ์
- น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง
- วิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวง
- มาสคาโปนชีส 8 ออนซ์
- น้ำตาลไอซิ่ง (ร่อน) 1/2 ถ้วยตวง
- ผงโกโก้
- เนย 125 กรัม
- น้ำตาล 122 กรัม
- แป้ง 130 กรัม
- ผงฟู 4 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ไอซิ่งหรือฟรอสติ้ง (ตามต้องการ)
ขั้นตอน
-
วางถ้วยคัพเค้กลงในถาดอบคัพเค้ก. พักถาดอบเอาไว้ก่อน
-
ผสมแป้ง น้ำตาล ผงฟูและเกลือลงในชามผสม. ผสมแป้งเค้ก(ไม่ใช่ชนิด self-rising) 1 3/4 ถ้วยตวง แป้งอเนกประสงค์ 1 1/4 ถ้วยตวง น้ำตาล 2 ถ้วยตวง และ ผงฟู 1 ช้อนชา เข้าด้วยกัน คนส่วนสมให้เข้ากัน ใช้เวลาประมาณ 3 นาที
-
ใส่เนยลงไป 4 แท่งลงไปในส่วนผสม. คนเข้าด้วยกันจนกระทั่งก้อนเนยคลุมด้วยแป้ง
-
เติมไข่ไก่ 4 ฟอง ใส่ลงไปทีละฟอง. ใส่ไข่ลงไปตีกับส่วนผสมที่เหลือจนกระทั่งเข้ากันดี
-
ใส่นมสด 1 ถ้วยตวง และกลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา ลงไปในส่วนผสม . คนส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน อย่าลืมขูดส่วนผสมที่ติดอยู่ข้างชามลงไปผสมให้หมดด้วย
-
ใส่แป้งผสมลงในถ้วยคัพเค้กที่เตรียมไว้ปริมาณ ⅔ ของถ้วย. การเหลือเนื้อที่ของถ้วยคัพเค้กไว้จะทำให้มีที่พอสำหรับตัวเนื้อเค้กที่จะฟูขึ้นมาได้อย่างสวยงาม
-
ใช้เวลาอบประมาณ 17-20 นาที. พออบได้ 15 นาทีแล้วให้ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเนื้อเค้กแล้วดึงออกมาดูว่าถ้าไม้จิ้มฟันไม่มีอะไรติด แปลว่าคัพเค้กสุกได้ที่แล้ว ให้นำออกจากเตาได้ แต่ถ้ายังมีแป้งเค้กติดไม้จิ้มฟันออกมา ให้เช็คด้วยวิธีนี้ทุกๆ 2 นาทีหลังจากนั้นจนกว่าไม้จิ้มฟันที่จิ้มลงไปจะออกมาสะอาด
-
ฟรอสติ้ง. คุณสามารถทำฟรอสติ้งระหว่างที่คัพเค้กกำลังอบอยู่ได้ ตีเนยที่นิ่มแล้ว 2 แท่งเข้าด้วยกันแล้วเติมน้ำตาลไอซิ่งลงไป 3 ถ้วยตวง นมสด ½ ถ้วยตวง และกลิ่นวนิลา 2 ช้อนชา คนส่วนผสมทั้งหมดด้วยพายจนได้เนื้อเนียน แล้วค่อยๆ เติมน้ำตาลไอซิ่งอีก 3 ถ้วยตวงที่เหลือ คนไปเรื่อยๆ จนได้เนื้อฟรอสติ้ง
-
รอให้คัพเค้กหายร้อน. พอเอาคัพเค้กออกจากเตาอบแล้วพักไว้ประมาณ 3-5 นาที เพื่อที่ความร้อนจากคัพเค้กจะได้ไม่ไปละลายฟรอสติ้ง
-
ตกแต่งคัพเค้กด้วยฟรอสติ้ง. ใช้ช้อนหรือพายตักฟรอสติ้งลงบนหน้าคัพเค้กปริมาณพอสมควร
-
เสิร์ฟ. คุณสามารถรับประทานคัพเค้กนี้ตอนไหนก็ได้แม้กระทั่งตอนที่มันหายร้อนแล้วโฆษณา
-
วอร์มเตาที่ 350ºF (176ºC). [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ใส่ถ้วยคัพเค้กลงในถาดอบแบบ 24 หลุม. วางถาดพักไว้ข้างๆ
-
ผสมนมช็อคโกแลต น้ำมัน ไข่และแป้งเค้กลงในชามผสมขนาดใหญ่. ใส่นมช็อคโกแลต 1 1/3 ถ้วยตวง, น้ำมันคาโนลา 1/2 ถ้วยตวง, ไข่ไก่ 3 ฟอง, และแป้งเค้กดาร์คช็อคโกแลตสำเร็จรูป 1 กล่องลงในชามผสม
-
คนส่วนผสม. ใช้เครื่องตีไฟฟ้าตีส่วนผสมเข้าด้วยกัน เปิดไปที่ความเร็วต่ำ ตีประมาณ 30 วินาที ใช้พายยางขูดส่วนผสมที่ติดอยู่ข้างชามลงมารวมกับส่วนที่เหลือแล้วตีต่อด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 2 นาที
-
ตักส่วนผสมที่ตีแล้วลงในถ้วยคัพเค้กที่เตรียมไว้. ใส่ส่วนผสมลงไปประมาณ 2/3 ของถ้วยคัพเค้ก เหลือที่ด้านบนให้คัพเค้กได้ฟูตัวขึ้น
-
ใช้เวลาอบแระมาณ 18 - 24 นาที. ให้ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มลงไปในเนื้อคัพเค้กเมื่ออบไป 15 นาที ถ้าไม้จิ้มฟันออกมาสะอาดแปลว่าคัพเค้กสุกได้ที่แล้ว ให้นำออกมาจากเตาอบได้ เช็คด้วยไม้จิ้มฟันทุกๆ 2 นาที จนได้คัพเค้กที่สุกสมบูรณ์ นำคัพเค้กออกจากถาดอบแล้วพักให้เย็น
-
ทำไส้มาร์ชเมลโล่. ใช้เวลาระหว่างรอคัพเค้กอบเสร็จผสมไส้สำหรับคัพเค้ก นำเนยจืด 3 ช้อนโต๊ะเข้าไปละลายในไมโครเวฟ ใส่มาร์ชเมลโล่ครีมทั้งขวดลงไปคนกับเนยละลาย แล้วนำส่วนผสมนี้เข้าไปอุ่นในไมโครเวฟอีก 1 นาที พักให้ส่วนผสมเย็น 2 นาทีแล้วตีด้วยเครื่องตีไฟฟ้าอีก 1 นาทีจนได้เนื้อเนียนเรียบ
-
เจาะหลุมขนาด ½ นิ้วใต้คัพเค้กแต่ละก้อน. ตักไส้มาร์ชเมลโล่ใส่ลงในถุงบีบ ใช้หัวบีบชนิดกลม บีบไส้ใส่ลงในหลุมที่ทำไว้
-
ผสมเฮฟวี่ครีม ⅔ ถ้วยตวงเข้ากับแบะแซ 1 ช้อนโต๊ะในกระทะ . คนส่วนผสมทั้งสองนี้เข้าด้วยกันโดยใช้ไฟปานกลางจนกระทั่งส่วนผสมเดือด แล้วเทดาร์กช็อคโกแลตชิพทั้งถุงลงไปคนผสมจนกระทั่งเนื้อเนียน พักไว้ให้ส่วนผสมเย็นลงและมีเนื้อที่หนาและเหนียวขึ้นประมาณ 4-5 นาที
-
จุ่มหน้าคัพเค้กลงในส่วนผสมช็อคโกแลต. ใช้มีดช่วยเกลี่ยให้หน้าช็อคโกแลตเนียน เสร็จแล้ววางคัพเค้กลงในถ้วยคัพเค้กอันใหม่แล้วรอให้ช็อคโกแลตแข็งตัวขึ้นเล็กน้อย
-
ตักฟรอสติ้งวนิลาใส่ลงในถุงบีบ. ใช้หัวบีบชนิดกลมขนาดเล็ก บีบเป็นเส้นวนๆ บนหน้าคัพเค้กแต่ละอัน แล้วพักคัพเค้กไว้ รอให้ทุกอย่างเซตตัว
-
เสิร์ฟ. เสิร์ฟคัพเค้กเปล่าๆ หรือเสิร์ฟคู่กับนมโฆษณา
-
วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 325ºF (162ºC). [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
วางถ้วยคัพเค้กลงในถาดอบมัฟฟิน
-
ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู และเกลือเข้าด้วยกัน. ร่อนแป้งเค้ก 1 1/4 ถ้วยตวง ผงฟู 3/4 ช้อนชา และเกลือ ½ ช้อนชา เข้าด้วยกัน
-
หั่นครึ่งฝักวนิลา. ขูดเอาเม็ดวนิลาออกมาจากฝัก
-
อุ่นนม ¼ ถ้วยตวง รวมกับเม็ดวนิลาด้วยไฟปานกลาง. อุ่นจนกระทั่งมีฟองอากาศเกิดขึ้นรอบๆ แล้วเอาหม้อออกจากความร้อน
-
ใส่เนยจืดลงไปคน 4 ช้อนโต๊ะจนละลายหมด . แล้วพักส่วนผสมไว้ประมาณ 15 นาที ให้เนื้อส่วนผสมหนืดขึ้น
-
กรองนมที่ได้ผ่านตะแกรงร่อน. เพื่อที่จะเอาเม็ดวนิลาออกไป
-
ตีไข่ไก่ ไข่แดง และน้ำตาลเข้าด้วยกัน. ใช้เครื่องตีไฟฟ้า ปรับระดับไปที่ปานกลาง แล้วตีไข่ไก่ 3 ฟอง ไข่แดง 3 ฟอง และน้ำตาล 1 ถ้วยตวงเข้าด้วยกัน
-
นำชามผสมไข่กับน้ำตาลไปวางเหนือหมอที่มีน้ำเดือดปุดๆ อยู่. ตีส่วนผสมในชามด้วยมือจนน้ำตาลละลายหมดและส่วนผสมมีความอุ่น ใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที แล้วเอาชามออกจากความร้อน
-
ตีส่วนผสมด้วยเครื่องตีไฟฟ้าด้วยความเร็วสูง. ตีไปเรื่อยๆ จนกระทั่งส่วนผสมกลายเป็นสีเหลืองอ่อน ฟูขึ้น และหนืดพอที่จะคงสภาพเป็นเส้นได้ 2-3 วินาทีเมื่อยกพายขึ้น
-
ตะล่อมส่วนผสมแห้งเข้ากับไข่. เริ่มจากคน ½ ถ้วยตวงของแป้งผสมเข้ากับนมเพื่อให้มันหนืดขึ้น แล้วเทส่วนที่ผสมนมแล้วกลับเข้าไปตะล่อมกับแป้งที่เหลือจนกระทั่งส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
-
แบ่งส่วนผสมลงในถ้วยคัพเค้ก ใส่ลงไป ⅔ ของถ้วย. การเหลือเนื้อที่ของถ้วยคัพเค้กไว้จะทำให้มีที่พอสำหรับตัวเนื้อเค้กที่จะฟูขึ้นมาได้อย่างสวยงาม
-
ใช้เวลาอบประมาณ 20 นาที. พอเวลาผ่านไปครึ่งหนึ่งให้หมุนถาดอบ อบไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเนื้อตรงกลางของคัพเค้กแข็ง ทดสอบโดยการจิ้มไม้จิ้มฟันลงไปตรงกลาง หรือดูจากสีของขอบคัพเค้กที่ควรเป็นสีน้ำตาลทอง นำคัพเค้กออกมาวางที่ตะแกรงพักเพื่อให้เย็นลง
-
ผสมน้ำเชื่อม. ผสมกาแฟดำ ⅓ ถ้วยตวงเข้ากับไวน์มาซาลา 1 ออนซ์ และน้ำตาล ¼ ถ้วยตวง คนจนน้ำตาลละลายจนหมด แล้วพักให้น้ำเชื่อมเย็นลง
-
ทาหน้าคัพเค้กด้วยน้ำเชื่อม. ทาไปเรื่อยๆ จนน้ำเชื่อมหมด พักให้น้ำเชื่อมได้ซึมลงไปในคัพเค้ก 30 นาที
-
ฟรอสติ้ง. ใช้เครื่องตีไฟฟ้า ปรับไปที่ระดับกลาง แล้วตีเฮฟวี่ครีม 1 ถ้วยตวง ให้ตั้งยอด ตีมาสคาโปเน่ชีส กับน้ำตาล จนเนียนแล้วค่อยๆ ใส่วิปปิ้งครีมที่ตีไว้ลงไปตะล่อมจนเนียนเข้ากันดี
-
ทาฟรอสติ้งลงบบนคัพเค้กฃ. นำคัพเค้กแช่ไว้ในตู้เย็นข้ามคืนในภาชนะที่มีฝาปิด
-
เสิร์ฟ. โรยผงโกโก้แล้วนำเสิร์ฟได้โฆษณา
-
รวบรวมส่วนผสมทั้งหมด.
-
วอร์มเตาที่ 180 องศา.
-
ผสมเนยกับน้ำตาล. ตีเนยกับน้ำตาลเข้าด้วยกันจนกระทั่งเป็นเนื้อเดียวกันและขึ้นฟูเล็กน้อย คุณอาจจะต้องเริ่มตีด้วยพายไม้เพราะเนยจะติดที่หัวตีไฟฟ้าได้ง่าย
-
เทไข่ไก่ใส่ลงไปทีละน้อย. ส่วนผสมอาจจะมีลักษณะเหลวมากกว่าปกตินิดหน่อย
-
ใส่ส่วนผสมแห้งลงไปพร้อมกับผงฟูทีละน้อยในส่วนผสมเปียก. ถ้าส่วนผสมทั้งหมดมีลักษณะเป็นก้อนๆเมื่อตีไปแล้ว ให้เพิ่มความเร็วในการตีเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดอ่อนลง
-
ใส่ส่วนผสมที่ตีเรียบร้อยแล้วลงในถ้วยคัพเค้กแล้วนำใส่เข้าเตาอบ ใช้เวลาประมาณ 20-25 นาที
-
ทาไอซิ่งหรือฟรอสติ้งลงบนหน้าคัพเค้กเป็นอันเสร็จเรียบร้อยโฆษณา
-
คัพเค้กช็อคโกแลต. ผสมแป้งเค้กช็อคโกแลตเข้ากับช็อคโกแลตชิพ
-
คัพเค้กวนิลา. ผสมไข่ไก่ แป้ง และส่วนผสมสำหรับทำเค้กอื่นๆ สำหรับคัพเค้กวนิลา และอย่าลืมฟรอสติ้งชนิดที่คุณโปรดปราน
-
คัพเค้กมังสวิรัติ. ถ้าคุณต้องการให้คัพเค้กของคุณเป็นมิตรสำหรับคนกินมังสวิรัติ ให้ใช้นมถั่วเหลืองแทนนมสดในสูตร
-
คัพเค้กสมอร์. ถ้าคุณชอบรสชาติของสมอร์ ให้ใช้แครกเกอร์และช็อคโกแลตในคัพเค้ก และปิดท้ายด้วยมาร์ชเมลโล่เป็นท้อปปิ้งด้านบน
-
ทำยูนิคอร์นคัพเค้กสำหรับปาร์ตี้ของเด็กๆ. คัพเค้กแบบนี้ทำให้เด็กสนุก เติมสีสันสายรุ้งและแต้มด้านบนด้วยเขายูนิคอร์นโฆษณา
ปัญหาที่พบบ่อย: การแก้ปัญหาในการทำคัพเค้ก
- คัพเค้กไม่ฟูตัวขึ้น... อย่าลืมใส่ผงฟูลงไปในส่วนผสม ผงฟูจะช่วยให้เนื้อเค้กฟูขึ้นตอนอบ ใส่แป้งผสมลงไปในหลุมแต่ละหลุมให้มากพอ การที่คุณใส่แป้งผสมน้อยเกินไปจะทำให้เค้กไม่ฟูขึ้นมา และอีกอย่างถ้าคุณตีแป้งนานเกินไป เนื้อเค้กก็จะไม่ฟูขึ้นเช่นกัน เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วให้หยุดตีทันที
- เนื้อคัพเค้กแห้งเกินไป... ครั้งต่อไปที่คุณอบคัพเค้ก เช็คให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้ใส่แป้งมากเกินไป อีกทั้งการใส่เนยหรือไข่น้อยเกินไปก็ทำให้เนื้อเค้กแห้งได้เช่นกัน อย่าลืมเช็คอุณหภูมิของเตาอบด้วยเพราะความร้อนจะดูดความชื้นออกจากเนื้อเค้ก
- คัพเค้กออกมามันมากๆ... เช็คให้มั่นใจว่าคุณใช้เนยในปริมาณที่ถูกต้อง เนยมากเกินไปทำให้คัพเค้กออกมามัน หรือไม่ก็ตอนผสมคนเนยให้เข้ากับส่วนผสมอื่นๆ ให้ดี เพราะการที่มีก้อนเนยหลงเหลือในส่วนผสมทำให้คัพเค้กออกมามันและไม่น่ารับประทาน
- เนื้อเค้กไม่ยอมเกาะกัน... อย่าลืมพักคัพเค้กให้เย็นลงก่อน ก่อนที่จะหั่นหรือตัดมันออก ถ้าคัพเค้กแยกตัวจากกันให้ใช้ฟรอสติ้งแทนกาวยึดเนื้อเค้กไว้ด้วยกัน ครั้งต่อไปที่จะทำคัพเค้ดให้ลองเพิ่มน้ำลงไปในส่วนผสม หรือไม่ก็ลองใส่วอลนัทลงไปช่วยให้เนื้อคัพเค้กเกาะกันได้ดี
- คัพเค้กออกมาไม่สุก... อาจจะเป็นเพราะคุณนำคัพเค้กออกมาจากเตาเร็วเกินไป ใส่ถาดอบกลับเข้่ไปในเตา แล้วใช้วิธีจิ้มไม้จิ้มฟันลงไปเพื่อเช็คว่าคัพเค้กนั้นสุกได้ที่แล้วหรือยัง ถ้ารอบๆ เค้กเริ่มกลายเป็นสีน้ำตาลแล้ว แต่เนื้อตรงกลางยังไม่สุกอยู่ให้ห่อรอบๆของคัพเค้กด้วยฟอยล์อบอาหาร ครั้งต่อไปที่อบเช็คให้ดีว่าเตาวอร์มได้ที่แล้ว หรือเพิ่มเวลาอบอีกซัก 5 นาที เตาอบแต่ละเตาไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้นเวลาที่ใช้ในการอบก็จะไม่เท่ากัน
- คัพเค้กไหม้...' เช็คว่าเวลาที่ใช้อบไม่ได้นานเกินไป หรือเช็คอุณหภูมิของเตาอบว่าถูกต้องหรือไม่ ถาดอบสีเข้มๆ จะทำให้คัพเค้กกลายเป็นสีน้ำตาลเร็วกว่าถาดสีอ่อน เพราะฉะนั้นเวลาอบควรเลือกใช้ถาดสีอ่อน
- คัพเค้กติดกับถาดอบ... ไม่ต้องกังวลไป คุณยังสามารถนำคัพเค้กออกจาถาดได้โดยใช้มีดแซะรอบๆ หลุมแล้วคว่ำถาด ในการอบครั้งต่อไปก็สเปร์ยน้ำมันลงบนถาดเล็กน้อยก่อนใส่เนื้อเค้กลงไปอบ อีกอย่างที่คุณสามารถทำได้ก็คือใช้ถ้วยกระดาษสำหรับคัพเค้กรองในหลุมก่อนใส่เนื้อเค้กลงไป
คำเตือน
- ระวังอย่าใช้เวลาในการอบมากเกินไปเนื่องจากอาจทำให้คัพเค้กสุกเกินละตัวเนื้อเค้กจะแห้งไม่อร่อย
โฆษณา
สิ่งของที่ใช้
- ถาดอบคัพเค้กชนิด 12 หลุม
- พายไม้
- ชามผสม
- ถาดอบขนม
- ตะแกรงร่อน
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,289 ครั้ง
โฆษณา