ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าคุณรู้สึกว่ากัญชากำลังควบคุมชีวิตคุณและเข้ามาแทนที่เพื่อนๆ งานอดิเรก และวิธีฆ่าเวลาในแบบที่คุณชอบไปทั้งหมด ก็ถึงเวลาที่จะต้องเลิกแล้วดึงชีวิตให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง กัญชามีฤทธิ์เสพติดทางจิตใจ ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องเตรียมและเต็มใจที่จะเลิกนิสัยนี้ ดังนั้น ถ้าคุณกำลังมองหาความช่วยเหลือเพื่อให้ได้ชีวิตในวันเก่ากลับคืนมาและโยนนิสัยเก่าๆ ทิ้งไปเสีย คุณมาถูกที่แล้วล่ะ

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

เลิกแบบหักดิบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคุณกำจัดสิ่งที่จะทำให้คุณกลับไปสูบกัญชาได้ง่ายขึ้นออกไปหมดแล้ว คุณก็มีโอกาสเพลี่ยงพล้ำต่อความอยากน้อยลง สิ่งที่คุณควรทำคือ [1]
    • ทิ้งไฟแช็ก ไม้ขีด ที่หนีบมวนกัญชา บ้องหรือภาชนะสูบกัญชาให้หมด ค้นดูในกระเป๋าเสื้อ/กางเกงด้วยเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่
    • เอากัญชาที่เหลือโยนใส่ชักโครกแล้วกดน้ำทิ้งให้หมด คุณจะได้ไม่ไปคุ้ยในถังขยะทีหลัง
    • ทำลายอุปกรณ์ทั้งหมด หรือถ้าคุณคิดว่าต่อให้ทิ้งไปก็ไม่ได้ผล ให้เอาไปทิ้งในกองขยะเน่าๆ เพื่อที่คุณจะได้ไม่อยากปีนขึ้นไปเอามันกลับมา (แต่คุณอาจจะต้องใส่อุปกรณ์ทั้งหมดลงในถุงขยะที่ผูกแน่นหนาเสียก่อน)
    • ทิ้งทุกอย่างที่ทำให้คุณอยากสูบกัญชา ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอเกมที่คุณชอบเล่นหรือโปสเตอร์ในห้อง มันอาจจะฟังดูเกินไปหน่อย แต่การกำจัดสิ่งที่กระตุ้นความอยากจะช่วยให้คุณเลิกนิสัยนั้นได้
    • ถ้าคุณซื้อกัญชาจากคนขายโดยตรง ให้ลบเบอร์และช่องทางติดต่ออื่นๆ ออกจากโทรศัพท์ให้หมด
  2. บอกความตั้งใจให้คนรอบข้างรับรู้อย่างชัดเจน. บอกเพื่อนๆ และคนในครอบครัวที่ไว้ใจได้ว่าคุณกำลังทำอะไรและขอให้พวกเขาช่วยคุณเลิกสูบกัญชาให้ได้ คุณอาจจะพบว่าพวกเขาดีใจที่เห็นคุณเลิกและพร้อมจะช่วยเหลือคุณเท่าที่พวกเขาจะทำได้
    • เรื่องนี้สำคัญมากหากคุณใกล้ชิดกับคนที่สูบกัญชาด้วยเหมือนกัน บอกพวกเขาว่าคุณไม่ได้พยายามทำให้ พวกเขา เลิก เพียงแต่คุณจะขอบคุณมากหากพวกเขาไม่กดดันให้คุณกลับไปสูบอีก ถ้าคุณไม่ได้รับความช่วยเหลือจากใครเลยหรือว่าพวกเขาพยายามที่จะให้คุณกลับไปสูบ "ด้วยกัน" อีก ก็ลองพิจารณาว่าคนๆ นั้นควรจะอยู่ในชีวิตของคุณหรือเปล่าถ้าเขา/เธอไม่สามารถเคารพการตัดสินใจและคำขอร้องของคุณได้
    • คุณอาจจะถึงขั้นต้องเลี่ยงเพื่อนๆ ที่คุณสูบกัญชาด้วยสักพัก ถ้าสังคมเพื่อนทั้งหมดในชีวิตของคุณคือการเมายาไปด้วยกัน คุณก็อาจจะต้องหาเครือข่ายสังคมใหม่ๆ อาจฟังดูใจร้าย แต่มันต้องทำจริงๆ
  3. ข่าวดีคือมันเป็นแค่อาการชั่วคราว อาการถอนกัญชาจะเกิดขึ้น 1 วันหลังจากที่คุณหักดิบ พุ่งสูงสุดหลังจากนั้น 2 หรือ 3 วัน และสุดท้ายจะลดลงหลังจากผ่านไป 1 หรือ 2 สัปดาห์ [2] คุณอาจจะไม่เกิดอาการถอนยาเลยหรืออาจจะไม่มีอาการทั้งหมด แต่คุณก็ต้องเตรียมแผนไว้ว่าคุณจะทำอย่างไรโดยที่ไม่กลับไปสูบอีก ข่าวร้ายคือมันจะมีอาการบางอย่างเกิดขึ้น [3] อาการที่อาจเกิดขึ้นกับคุณก็เช่น
    • นอนไม่หลับ: พยายามหลีกเลี่ยงกาเฟอีนช่วง 2-3 วันแรก และเข้านอนทันทีที่รู้สึกเหนื่อยตอนกลางคืน
    • ไม่อยากอาหาร: คุณอาจจะรู้สึกคลื่นไส้ในช่วงแรก พยายามรับประทานอาหารจืดๆ ที่ย่อยง่าย เช่น กล้วย ข้าว ขนมปังปิ้ง ข้าวโอ๊ต และแอปเปิล
    • หงุดหงิด: ขณะที่อารมณ์ของคุณขึ้นๆ ลงๆ ในช่วงถอนยา คุณอาจจะรู้สึกโกรธหรือร้องไห้ง่าย วางแผนสิ่งนี้ไว้ล่วงหน้า และพอมันเกิดขึ้นให้พยายามถอยออกมาแล้วรับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น บอกตัวเองว่า "นี่ไม่ใช่ตัวฉันและไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ด้วย มันเป็นแค่อาการถอนยาเฉยๆ" พูดย้ำกับตัวเองบ่อยแค่ไหนก็ได้
    • กระสับกระส่าย : อาการฉุนเฉียวหรือโมโหง่ายโดยทั่วไปเป็นอาการปกติของการถอนยาที่เกิดขึ้นเวลาที่เรากำลังเลิกยาเสพติดอะไรก็แล้วแต่ เมื่อมีเวลาว่างสักพักให้หลับตา หายใจลึกๆ และจำไว้ว่าอาการถอนยาจะอยู่แค่ชั่วคราว
    • อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น: คุณอาจจะรู้สึกร้อนมากกว่าปกติและอาจจะเริ่มมีเหงื่อออกในบางครั้ง
  4. แทนที่จะกลับไปสูบกัญชา ให้เอาเวลาว่างที่ได้มาใหม่นี้ไปทำงานอดิเรกหรือเล่นกีฬา พยายามทำอะไรก็ได้ที่เร็วและง่ายพอๆ กับการจุดไฟแช็ก เช่น เล่นกีตาร์ หรือวิ่ง และหันไปทำกิจกรรมนี้ทุกครั้งที่อยากสูบกัญชา ถ้าคุณเบื่อหรือหดหู่เกินกว่าจะทำงานอดิเรกหรือเล่นกีฬา ให้ดูหนังที่ทำให้คุณยิ้มได้หรืออยู่กับเพื่อนสนิทที่ไม่ได้สูบกัญชา กิจกรรมที่น่าลองทำก็เช่น
    • เดินเล่นระยะทางไกลๆ
    • คุยโทรศัพท์กับเพื่อนเก่า
    • ว่ายน้ำ
    • ทำอาหาร
    • อ่านหนังสือ เช่น หนังสือพิมพ์ นวนิยายเบาสมอง หนังสือการ์ตูน เรื่องราวผจญภัย ชีวประวัติแซบๆ
  5. นอกจากจะหางานอดิเรกใหม่ๆ แล้ว คุณก็ควรเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันด้วยเพื่อไม่ให้คุณเริ่มอยากกลับไปสูบกัญชาอีกมากๆ ในช่วงเวลาที่ปกติแล้วคุณจะต้องเมากัญชาอยู่ สิ่งที่คุณทำได้ก็เช่น [4]
    • เปลี่ยนกิจวัตรในตอนเช้า ลองตื่นเร็วขึ้นหรือสายกว่าเดิมสักหน่อย เปลี่ยนอาหารเช้าหรือเปลี่ยนเวลาอาบน้ำ
    • เปลี่ยนกิจวัตรการไปทำงานหรือไปโรงเรียน ไปทำงานหรือไปโรงเรียนโดยใช้เส้นทางอื่น เปลี่ยนที่นั่งถ้าทำได้ และเปลี่ยนไปรับประทานอย่างอื่นในมื้อกลางวัน
    • เปลี่ยนกิจวัตรการทบทวนบทเรียน ถ้าปกติแล้วคุณจะทบทวนบทเรียนในห้องนอน (ซึ่งนำไปสู่การสูบกัญชา) ให้เปลี่ยนแล้วไปอ่านหนังสือทบทวนที่ร้านกาแฟหรือห้องสมุดแทน
    • แต่ก็อย่าเริ่มรับประทานอาหารน้อยลงเพื่อปรับเปลี่ยนกิจวัตร จริงอยู่ว่าคุณอาจจะหิวน้อยลง แต่คุณก็ควรรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
  6. คุณจะต้องเกิดอาการอยากหรืออาการเสี้ยนกัญชาค่อนข้างบ่อย และคุณก็ต้องรู้ว่าจะจัดการกับมันอย่างไรถ้าคุณอยากจะเลิกจริงๆ สิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อไม่ให้ตัวเองสยบต่อความอยากกัญชาก็เช่น [5]
    • หลีกเลี่ยงสถานที่ที่กระตุ้นความอยาก อย่าไปในที่ที่ทำให้คุณอยากสูบกัญชา ไม่ว่าจะเป็นห้องใต้หลังคาบ้านเพื่อนหรือใต้ถุนอัฒจันทร์ที่โรงเรียน
    • หนีจากที่นั้นๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกอยากสูบกัญชา ให้ออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เร็วที่สุดคือสิ่งที่ช่วยคุณได้มากที่สุด
    • หายใจลึกๆ หายใจลึกๆ ทางปากแล้วค้างอากาศไว้ในปอด 5-7 วินาทีจนกว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้น จากนั้นหายใจออกทางปากที่ห่อปากจู๋ และทำซ้ำจนกว่าความรู้สึกนั้นจะหายไป
    • หาอะไรใส่ปาก การหาอะไรใส่ปากแทนเวลาอยากกัญชา อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดชนิดอื่นช่วยควบคุมความอยากได้ ลองหมากฝรั่งสูตรไม่มีน้ำตาล ลูกอมสูตรไม่มีน้ำตาล เครื่องดื่มควบคุมน้ำหนัก ไม้จิ้มฟัน ปากกาหรือดินสอ หรือจะเป็นหลอดก็ได้
    • ดื่มน้ำ การรักษาร่างกายไม่ให้ขาดน้ำจะช่วยรักษาร่างกายให้แข็งแรงและช่วยให้คุณต่อสู้กับการอาการอยากได้
  7. อาการที่แย่ที่สุดของการถอนยาควรจะหายไปภายใน 1 หรือ 2 สัปดาห์ และเราทุกคนก็เคยได้ยินที่เขาพูดกันว่าการจะสร้างนิสัยหรือเลิกนิสัยต้องใช้เวลา 3 สัปดาห์ พอครบ 1 เดือนคุณก็น่าจะหายจากการถอนยาและไม่ติดกัญชาอีกต่อไปแล้ว มันอาจจะดูเหมือนนานแสนนานตอนที่คุณรับมือกับอาการถอนยา แต่พยายามนึกไว้ว่ามันไม่ได้นาน ขนาดนั้น
    • วางแผนฉลองเล็กๆ 1 เดือนหลังจากวันที่คุณเลิก การมีหมุดหมายให้รอคอยจะช่วยให้คุณทำตามเป้าหมายต่อไปได้ และคุณก็สามารถใช้มันเป็นข้ออ้างในการให้รางวัลเล็กๆ กับตัวเองอย่างการไปเที่ยวกลางคืนหรือซื้อของขวัญให้ตัวเองได้ด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อายุรแพทย์หรือแพทย์แผนออสทีโอพาธีสามารถสั่งยาที่ช่วยให้คุณเลิกกัญชาได้ ถ้าคุณพยายามหักดิบหรือค่อยๆ เลิกก็แล้ว หรือถ้าคุณรู้ว่าคุณเลิกเองไม่ได้แน่ๆ การไปพบแพทย์นั้นเป็นวิธีที่ดีที่สุด
    • ถึงคุณจะยังไม่แน่ใจว่าจะเลิกกัญชาหรือเปล่า ก็ให้นัดแพทย์ไปก่อน ถ้าจะให้ดีคือเริ่มต้นจากบริการผู้ป่วยนอกในกลุ่มผู้ป่วยติดสารเสพติดก่อน อย่าให้ค่ารักษาทางจิตเวชมาทำให้ใจฝ่อจนไม่ไปรักษา เพราะมันมีกลุ่มบำบัดสำหรับผู้ป่วยนอกที่ค่ารักษาถูกกว่าการบำบัดผู้ป่วยติดสารเสพติดรายบุคคล การกลับไปติดสารเสพติดอีกครั้งเป็นเรื่องปกติ ถ้าคุณเข้ารับบริการผู้ป่วยนอกแล้วและยังกลับไปสูบกัญชาเหมือนเดิม ก็ให้ถามนักบำบัดเรื่องการรักษาผู้ป่วยสารเสพติดประเภทผู้ป่วยใน
  2. ถ้าการสูบกัญชามีสาเหตุมาจากปัญหาที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคซึมเศร้าหรือความวิตกกังวล การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญก็สามารถช่วยให้คุณเลิกกัญชาได้ ถ้าเป็นไปได้พยายามหาคนที่เชี่ยวชาญด้านการติดสารเสพติดโดยเฉพาะ
    • มองหาวิธีการรักษาในรูปแบบอื่นๆ การบำบัดมีหลายรูปแบบหรือหลายประเภทที่อาจจะเหมาะกับการเลิกกัญชา การบำบัดแบบพูดคุยเป็นการบำบัดประเภทที่ใช้กันมากที่สุด แต่คุณก็อาจจะพิจารณาการบำบัดทางความคิดและพฤติกรรมด้วย
  3. ถ้าคุณเลิกกัญชาเองไม่ได้เพราะคนรอบข้างหรือเพราะขาดความมั่นใจ กลุ่มสนับสนุนอาจเป็นทางออกสำหรับคุณ
    • ประเทศไทยมีสมาคมผู้ติดยาเสพติดนิรนามที่ให้คนเข้าร่วมเป็นสมาชิกและพบปะพูดคุยกันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คุณสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมผู้ติดยาเสพติดได้ในอินเทอร์เน็ต
  4. ถ้าวิธีการอื่นไม่ได้ผลและการเสพติดกัญชาของคุณเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความสุขของคุณอย่างมาก คุณก็อาจจะต้องพึ่งการบำบัดแบบผู้ป่วยใน ซึ่งก็เหมือนการไปพักร้อนที่มีจุดมุ่งหมายคือเพื่อสร้าง จินตนาการ และนิยามชีวิตขึ้นมาใหม่ บางคนเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งเดียวแล้วไม่กลับไปสูบอีกเลย แต่บางคนก็อาจจะต้องอาศัยความรักมากอีกสักนิดและเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในหลายครั้งหน่อย อย่าปฏิเสธการรักษา แต่ให้ขอความช่วยเหลืออยู่เสมอแล้วค่อยมาจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายทีหลัง
    • คุณควรใช้วิธีอื่นๆ ให้ครบทุกวิธีก่อน เพราะการบำบัดไม่ใช่เรื่องง่ายและมีค่าใช้จ่ายสูง และไม่ใช่สิ่งที่คุณจะทำเล่นๆ ได้ แต่ถ้าคุณไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ วิธีนี้ก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด
    • ลองหาว่าประกันสุขภาพของคุณครอบคลุมค่าใช้จ่ายการบำบัดแบบผู้ป่วยในกี่วัน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

เลิกแบบค่อยเป็นค่อยไป

ดาวน์โหลดบทความ
  1. กำหนดวันที่ที่คุณจะเลิกกัญชาได้อย่างเด็ดขาด. การกำหนดเวลาช่วง 2 สัปดาห์ไปจนถึง 1 เดือนเป็นช่วงเวลาที่สั้นพอที่คุณจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจไปเสียก่อน แต่ก็ไม่สั้นเกินไปจนคุณคิดว่าจะค่อยๆ เลิกไม่ได้ ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่สามารถเลิกกัญชาภายในระยะเวลาเท่านี้ได้ คุณก็อาจจะให้เวลาตัวเองเลิกสัก 2-3 เดือน ถ้ากัญชากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณไปแล้วจริงๆ มันก็ยากที่จะเลิกได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์
  2. วางแผนออกมาว่าตั้งแต่ตอนนี้จนถึงวันที่คุณจะเลิกเด็ดขาดนั้นคุณจะสูบกัญชาเท่าไหร่ พยายามวางแผนให้เป็นกระบวนการต่อเนื่อง เช่น ช่วงกึ่งกลางระหว่างวันนี้ถึงวันที่คุณเลิก คุณควรจะสูบกัญชาแค่ครึ่งหนึ่งของที่คุณสูบตอนนี้
    • เขียนแผนการไว้ในปฏิทิน กำหนดเอาไว้เลยว่าในแต่ละวันจะสูบกัญชาเท่าไหร่แล้วทำตามนั้นให้ได้ วางปฏิทินไว้ในที่ที่คุณจะต้องเห็นทุกวัน เช่น ข้างกระจกในห้องน้ำหรือบนตู้เย็น
  3. แทนที่จะค่อยไปสูบตามปริมาณที่วางแผนไว้ทีหลัง ให้คุณแบ่งกัญชาตามแผนนั้นล่วงหน้าไปเลย เพราะคุณจะได้ไม่ต้องมานั่งคิดทีหลังว่าจะสูบเท่าไหร่ แค่สูบตามปริมาณที่สัญญาไว้กับตัวเองเหมือนเวลาที่คุณกินยา
  4. ในขณะที่ปริมาณกัญชาน้อยลงและคุณก็ใช้เวลาสูบน้อยลง ให้หากิจกรรมทำหลังจากสูบเสร็จทันที พอสูบเสร็จปุ๊บก็เปลี่ยนไปทำงานอดิเรกหรือเล่นกีฬาอย่างอื่นที่คุณชอบปั๊บเพื่อที่คุณจะได้ไม่ทันรู้สึกถึงความแตกต่าง จริงอยู่ว่าคุณควรมีเวลาอยู่กับตัวเองและผ่อนคลายบ้าง แต่ก็ให้พยายามเติมงานอดิเรก กิจกรรมทางสังคม การบ้าน หรืออะไรแล้วแต่ที่คุณได้จดจ่อกับมันแทนที่จะคิดถึงการสูบกัญชาลงไปในแต่ละวัน
    • ดูตารางเวลาและพยายามเติมภาระหน้าที่และกิจกรรมทางสังคมลงไปให้ได้มากที่สุดโดยที่คุณไม่รู้สึกว่ามันเยอะเกินไป
  5. ถ้าคุณอยากจะเลิกกัญชาจริงๆ คุณต้องนึกถึงรางวัลที่จะได้รับอยู่เสมอ เตือนตัวเองว่าทำไมคุณถึงอยากเลิก ไม่ว่าจะเป็นเพราะว่าคุณอยากให้สุขภาพ ความคิด ชีวิตสังคม หรือมุมมองที่มีต่อชีวิตโดยรวมดีขึ้นก็ตาม และมุ่งมั่นทำตามเป้าหมายอย่างเข้มแข็ง เขียนลงไปในกระดาษและติดไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือ เขียนแรงจูงใจใส่กระดาษแผ่นเล็กๆ แล้วเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อ หรือแค่เขียนเป้าหมายไว้ในที่ที่คุณเห็นได้เพื่อที่คุณจะได้กลับไปหยิบมาดูได้ง่ายๆ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกหมดกำลังใจ
    • เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกอ่อนล้า ให้คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณจะได้ทำหลังจากที่คุณเลิกกัญชาได้อย่างเด็ดขาดแล้ว คุณจะกระตือรือร้นมากขึ้น กระปรี้กระเปร่ามากขึ้น และมีแรงจูงใจที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณอยากทำมากขึ้น
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คุณต้อง อยาก เลิกก่อนถึงจะเลิกได้ ชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ของการเลิกกัญชากับการสูบกัญชา หาข้อดีของการไม่สูบกัญชาที่ตรงกับความต้องการของคุณ แล้วตั้งสิ่งนั้นเป็นเป้าหมาย
  • เขียนสิ่งที่คุณจะสามารถซื้อได้หลังจากที่ไม่ต้องเอาเงินไปซื้อกัญชาและอ่านรายการนั้นบ่อยๆ
  • การออกกำลังกาย 20 นาทีในช่วงที่เกิดอาการถอนยาอย่างรุนแรงสามารถบรรเทาอาการได้
  • ช่วงที่เพิ่งเลิกใหม่ๆ ให้นอนเยอะๆ ถ้าคุณไม่อยากนึกถึงมัน
  • หาเว็บไซต์ในอินเทอร์เน็ตที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้และภาวะพึ่งพากัญชา การอ่านประสบการณ์ของผู้อื่นจะช่วยให้คุณรู้วิธีจัดการกับอาการเสพติดของคุณ
  • ถ้าเพื่อนๆ สูบกัญชา ก็อย่าอยู่กับเพื่อน วิธีนี้จะป้องกันไม่ให้เพื่อนๆ มากดดันให้คุณกลับไปสูบกัญชาอีก
  • พูดคุยเรื่องที่คุณอยากเลิกกับคนที่สูบกัญชา เพราะคำตอบของเขาอาจช่วยให้คุณเลิกได้สำเร็จ และทำให้คุณต้องแสดงให้เขาเห็นด้วยว่าคุณเลิกได้อย่างไร
  • ใช้ความคิดสะกดจิต นึกซ้ำๆ ว่า "ฉันอยากเลิกสูบกัญชา"
  • การเลิกแบบหักดิบเป็นวิธีที่ได้ผลมากที่สุด
  • โปรแกรมการออกกำลังกายเป็นระบบที่สร้างแรงจูงใจได้เป็นอย่างดีและมีแบบแผนที่ทำให้คุณไม่ออกนอกลู่นอกทาง และยังช่วยสร้างเอนโดแคนนาบินอยด์ที่ร่างกายเคยชินกับการได้รับจากกัญชาด้วย
  • คิดถึงคนที่คุณรัก เวลาที่เสี้ยนกัญชาก็ให้นึกภาพคนที่คุณรักแล้วบอกพวกเขาซ้ำๆ ว่าคุณจะเอาชนะมันให้ได้
  • คิดว่าร่างกาย จิตใจ สมอง และส่วนอื่นๆ จะแข็งแรงขึ้นแค่ไหนหลังจากที่คุณเลิกได้แล้ว
โฆษณา

คำเตือน

  • จำกัดการติดต่อและการใช้เวลาร่วมกับคนที่ยังหลงมัวเมาในกัญชา ถึงพวกเขาจะเป็นเพื่อนของคุณ แต่แรงกดดันจากคนรอบข้างก็มักจะเป็นอุปสรรคใหญ่ของการเลิกกัญชา
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 117,799 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา