หูดเป็นเรื่องน่ารำคาญที่แสนจะรบกวนใจแต่โชคร้ายที่เกิดให้เห็นเป็นประจำ หนึ่งในวิธีรักษาหูดเองที่รู้จักกันดี (โดยเฉพาะหูดฝ่าเท้า) คือการใช้เทปกาวติดกล่องสีเทาที่ใช้ประจำวันนั่นเอง ในทางการแพทย์เรียกว่าการบำบัดโดยใช้เทปกาวอุดทับ (duct tape occlusion therapy – DTOT) คนที่เป็นหูดจะใช้เทปกาวมาปิดทับหูดเป็นเวลานานช่วงระยะหนึ่ง แล้วค่อยเล็มหูดออก วิธีการนี้ต้องทำซ้ำจนกว่าหูดจะหายไป DTOT ได้รับความเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นวิธีรักษาที่ได้ผลดีหลังจากการศึกษาโดยโฟคท์พบว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่าการแช่แข็งหูด [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อย่างไรก็ดี การศึกษาครั้งนั้นได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เหมือนกัน [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ไม่ว่าอย่างไร หลายแหล่งข้อมูลก็ยืนยันว่าวิธี DTOT นี้ได้ผล
ขั้นตอน
-
ทำความสะอาดผิวหนังรอบหูด. วิธีรักษานี้ต้องให้คุณปิดผิวรอบหูดนานคราวละประมาณหนึ่งสัปดาห์ ก่อนลงมือทำจึงควรทำความสะอาดหูดและบริเวณโดยรอบเพื่อให้มั่นใจว่าฝุ่นหรือเศษสิ่งสกปรกอื่นที่อาจทำให้ผิวอุดตันหรือเกิดระคายเคืองนั้นไม่ถูกกักเอาไว้ที่ผิวหนัง
-
ทิ้งไว้ให้ผิวแห้งสนิท. ก็เหมือนที่คุณไม่ต้องการสิ่งสกปรกติดอยู่ระหว่างผิวกับเทปกาว คุณก็ไม่ควรให้ความชื้นติดอยู่เช่นกัน การกักความชื้นไว้ตรงผิวจนอับทำให้ผิวระคายเคือง หรือในบางกรณีอาจติดเชื้อราได้ อย่างไรก็ดี สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ ก็คือ ความชื้นใต้เทปกาวจะทำให้กาวหมดสภาพและทำให้เทปกาวหลุดออก คุณต้องการให้เทปกาวติดบนผิวหนังแน่นๆ ฉะนั้นจงแน่ใจว่าทิ้งให้ผิวแห้งสนิทหลังทำความสะอาด
-
ใช้เทปกาวปิดทับหูด. ตัดเทปกาวหรือเทปพันสายไฟสีเทาเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็กๆ ให้ใหญ่พอปิดหูดได้มิดแต่ไม่ใหญ่กว่านั้นจนเกินไป ค่อยๆ แปะเทปกาวลงบนหูด กดเทปลงบนผิวว่ามันติดแน่น
- ใช้ เทปกาวสีเทาทั่วไป พบกันว่าเทปกาวแบบใสใช้ไม่ได้ผลเท่าเทปสีเทา เช่นในการศึกษาครั้งหนึ่งที่พบว่าเทปกาวแบบใสไม่ได้ผลเท่าพลาสเตอร์ปิดแบบผ้าด้วยซ้ำ [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง คาดกันว่าเทปกาวใสใช้กาวต่างชนิดจากเทปกาวสีเทา และความแตกต่างนี้ทำให้ประสิทธิภาพขาดหายไป
-
ทิ้งเทปกาวไว้อย่างนั้นนานหกวัน. DTOT จะได้ผลต้องใช้เวลา ในบางกรณีอาจใช้เวลานานถึงสองเดือน สำหรับในหกวันแรกนั้น ให้เทปกาวยึดแน่นกับที่ ถ้ามันเกิดหลุดออก ให้เปลี่ยนทันทีที่ทำได้
- กลไกที่ทำให้วิธี DTOT กำจัดหูดได้นั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แนวคิดหนึ่งที่แพร่หลายเสนอว่ากาวจากน้ำยางในเทปกาวสีเทานั้นจะทำให้ผิวเกิดระคายเคือง ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาตอบสนองในบริเวณนั้น ระบบภูมิต้านทานของเราจะเข้าโจมตีไวรัสเอชพีวี (human papilloma virus - HPV) ซึ่งทำให้เกิดการแบ่งเซลทวีคูณ (หรือหูด)
-
เอาเทปกาวออกในตอนเย็นของวันที่หก. หลังจากติดเทปกาวมาตลอดหกวัน ให้ดึงออกเพื่อตรวจดูหูด หากในจุดนั้น (หรือในระหว่างการตรวจดูในอนาคต) หูดนั้นอักเสบหรือดูแย่ลงกว่าเดิม ให้หยุดใช้เทปกาวและไปหาแพทย์ทางผิวหนัง
-
แช่หูดในน้ำอุ่นราวหนึ่งนาที. ใช้ผ้านุ่มๆ ชุบน้ำอุ่นมาปิดหูด หรือแช่บริเวณที่เป็นหูดในกาละมัง อ่างน้ำ หรืออ่างอาบน้ำ น้ำอุ่นนั้นจะช่วยให้ผิวอ่อนนุ่มลง (รวมทั้งหูดด้วย) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับขั้นตอนถัดไป ซึ่งคุณจะต้องเล็มมันออก
-
ใช้กากกะรุน หินพัมมิส หรือวัตถุที่มีเนื้อหยาบละเอียดอื่นๆ ถูหูดเบาๆ. โดยการใช้ของพวกนี้ถูหูด หมายถึงคุณได้ "ขูด" เนื้อเยื่อหูดที่ตายแล้วออกไป กระบวนการนี้เรียกว่า "การเล็ม" (เอาเศษที่ตายแล้วออก) ถ้าแช่ผิวในน้ำอุ่นก่อนจะช่วยให้ทำได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าเกิดทำแล้วรู้สึกปวดก็ให้หยุดทันที
- เวลาทำเสร็จ ให้แช่กากกะรุน หินพัมมิสหรืออุปกรณ์อื่นในสารละลายของน้ำยาฟอกขาวกับน้ำ เนื้อเยื่อหูดที่หลงเหลืออยู่บนนั้นยังมีเชื้อ HPV และสามารถแพร่กระจายได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฆ่าเชื้ออุปกรณ์หลังใช้ทุกครั้ง
-
ปล่อยหูดทิ้งไว้ข้ามคืนของวันที่หก แล้วติดเทปกาวใหม่ในตอนเช้า. ให้ผิวได้แห้งและพักในคืนวันที่หก อย่างไรก็ตาม ต้องดูแลอย่าไปสัมผัส ถู หรือเกาหูด เพราะหูดสามารถแพร่กระจายผ่านทางการสัมผัส [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง เปลี่ยนเทปใหม่ในตอนเช้า
- ในคืนวันที่หก ตรวจดูหูด จดความคืบหน้า ว่าหูดเล็กลงหรือเปล่า ไม่นูนขึ้นมาเหมือนเคยหรือไม่
-
ทำขั้นตอนเหล่านี้ซ้ำจนกว่าหูดจะหายไป. ทำขั้นตอนที่กล่าวมาเป็นวงจร เอาเทปกาวออกเมื่อครบทุกหกวัน ล้างและเล็ม ทิ้งผิวได้พัก แล้วติดเทปกาวใหม่ตอนเช้า หูดจะค่อยๆ ลดขนาดลงเมื่อเวลาผ่านไป อย่าหยุดทำจนกว่าคุณจะมั่นใจ 100% ว่าหูดหายหมดแล้ว ในการศึกษาของโฟคท์นั้นบอกว่าจะกินเวลาประมาณสองเดือน
- ถ้าหูดไม่ดีขึ้นหลังสองเดือนหรือดูแย่กว่าเดิม ให้ไปพบแพทย์ คุณอาจเป็นหูดชนิดหายยาก แต่โชคดีที่ยังมีวิธีรักษาอื่นที่ได้ผล เช่น รักษาด้วยกรดซาลิไซลิกและการบำบัดด้วยความเย็นจัด
โฆษณา
เคล็ดลับ
- จากการศึกษาพบว่าวิธีนี้ได้ผลในเด็กยิ่งกว่า
- หากหูดไม่แสดงสัญญาณว่าดีขึ้น ให้ลองวิธีอื่น
- พยายามทำให้บริเวณนั้นแห้งสนิทก่อนติดเทปกาว
คำเตือน
- มันอาจไม่ได้ผล (จากการศึกษาบางครั้งก็แสดงว่าวิธีนี้ไม่มีประสิทธิภาพ)
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://archpedi.jamanetwork.com/article.aspx?articleid=203979
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/news/20061108/removing-warts-with-duct-tape-may-not-be-effective
- ↑ http://www.nbcnews.com/id/17691264
- ↑ http://archderm.jamanetwork.com/article.aspx?articleid=411864
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/tc/warts-and-plantar-warts-topic-overview
- http://www.msnbc.msn.com/id/17691264