ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เครื่องประดับก็ยังดูงดงามได้แม้จะได้ไม่ทำจากเพชรพลอยแท้ๆ แต่การดูแลรักษาให้มันคงความสวยนี่อาจเป็นเรื่องยากสักหน่อย ของปลอมนี่ไม่สามารถใส่ได้อย่างสมบุกสมบันได้เท่าที่อัญมณีดีๆ ทำได้ ทั้งน้ำ อากาศ หรือกระทั่งครีมและโลชั่นก็อาจสร้างความเสียหายให้มันได้ ฉะนั้นการเรียนรู้ที่จะดูแลมันเพื่อคงความสวยให้ได้นานที่สุดย่อมเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งถ้าคุณอยากใส่มันต่อไปอีกหลายๆ ปีแล้วด้วยล่ะนะ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

สิ่งแรก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มันไม่มีกฎตายตัวหรอกว่าควรจะนำมันมาทำความสะอาดเมื่อไร ปกติแล้วจะขึ้นอยู่กับว่ายิ่งใส่บ่อยแค่ไหนก็ยิ่งควรทำความสะอาดบ่อยเท่านั้น ทำความสะอาดสักครั้งหนึ่งต่อสองสามเดือนหรือตอนที่มันเริ่มหมองๆ ก็ได้
    • จำไว้ว่าเครื่องประดับปลอมย่อมไม่ใช่ทองหรือเงินสเตอร์ลิงแท้ และก็ไม่ได้มีอัญมณีล้ำค่าใดๆ ประกอบอยู่ด้วย แม้ว่าเงินสเตอร์ลิงจะดูหมองลงได้ แต่ก็ไม่ควรใช้วิธีทำความสะอาดเหมือนวิธีที่ใช้ทำความสะอาดเครื่องประดับปลอมๆ ส่วนทอง"แท้"นั้น จะไม่หมองลงเลยแม้แต่น้อย
    • ถ้าคุณมีปัญหาในการแยกชนิดระหว่างอัญมณีแท้และปลอม จำเอาไว้เลยว่าเครื่องประดับชุบมักจะเป็น"ของแท้" เพราะชั้นบนสุดของโลหะเป็นเงินหรือทองแท้ นั่นก็แปลว่ามันคือเครื่องประดับ"ของจริง"นั่นเอง แม้ว่ามันจะไม่ได้แท้ทั้งชิ้นก็ตาม ในกรณีนี้สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องประดับในการทำความสะอาดทองชุบหรือเงินชุบได้ แทนที่จะใช้วิธีเหล่านี้ [1]
    • ถ้าคุณยังไม่มั่นใจว่าเครื่องประดับนั้นเป็นของจริงหรือแท้ ก็ให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ตรวจสอบโลหะและอัญมณีให้สิ [2]
  2. สังเกตดูว่ามีอัญมณีอยู่ในนั้นไหม ถ้ามี ก็ต้องระมัดระวังเรื่องปริมาณของของเหลวที่จะใช้ทำความสะอาดบริเวณนั้นเสียหน่อย
    • ของเหลวนั้นอาจไหลไปอยู่ใต้อัญมณีและไปละลายกาวที่ติดอยู่จนหลุดออกมาได้ และถ้าใส่น้ำมากไป ก็จะทำให้ฟอยล์เสียหายได้ ซึ่งมันเป็นตัวที่ทำให้อัญมณีปลอมดูแวววาวขึ้นมานั่นเอง
    • อย่าปล่อยให้มีน้ำขังด้านใต้อัญมณี เพื่อที่กาวจะได้ไม่หลุดออก [3]
  3. ใช้ก้านสำลีหรือแปรงสีฟันทำความสะอาดเครื่องประดับ. ของง่ายๆ ที่ใครๆ ก็มีติดบ้านนี่แหละ ที่ช่วยทำความสะอาดรอยแยกหรือรอบๆ อัญมณีนั้นได้ดีเลย หรือจะใช้ฟองน้ำยางลบแทนก็ได้
    • เมื่อใช้ก้านสำลี มันควรมีฝุ่นมีอะไรสกปรกติดมาที่ปลายด้วย
    • แปรงสีฟันที่ใช้ต้องเป็นของใหม่ ยังไม่มีใครเคยใช้มาก่อน เพราะคุณคงไม่อยากเอาสิ่งต่างๆ ที่ติดกับแปรงสีฟันอันเก่าไปไว้ในเครื่องประดับหรอกนะ และเมื่อใช้ทำความสะอาดไปแล้ว ก็ห้ามนำกลับมาใช้แปรงฟันด้วย [4]
    • ถูแปรงสีฟันขนนุ่มหรือก้านสำลีแห้งๆ บนเครื่องประดับเพื่อกำจัดสนิมเขียว สนิมเขียวคือก้อนสีเขียวๆ ที่จะก่อตัวขึ้นในเครื่องประดับบางชนิด ก้านสำลีและแปรงขนนุ่มจะแข็งตัวกว่าเมื่อมันแห้ง ฉะนั้นถือว่าใช้ช่วยขูดเอาก้อนนี้ออกไปได้อยู่ แต่ถ้ายังเอาไม่ออก ลองใช้ไม้จิ้มฟันช่วยก็ได้นะ [5]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

ใช้ของในบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลมอนถูกใช้มานานนับเพื่อกำจัดชั้นออกไซด์ที่ก่อตัวขึ้นบนโลหะเมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง คุณอาจต้องใช้มันร่วมกับเบกกิ้งโซดาก็เป็นได้ [6]
    • เลมอนเป็นกรดตามธรรมชาติ และการถูเลมอนผ่าครึ่งลงบนเครื่องประดับก็เป็นการทำความสะอาดเครื่องประดับได้อย่างรวดเร็วเชียวล่ะ หรือจะเอาเครื่องประดับเงินแช่ในน้ำเลมอนผสมเกลือสักถ้วยเป็นเวลาหนึ่งคืนก็ได้ เพราะมันทำความสะอาดเงินได้ดีเชียว [7]
    • จะคั้นน้ำเลมอนใส่จานเล็กๆ แล้วเอาน้ำมาถูเครื่องประดับที่จะทำความสะอาด จากนั้นก็ใช้ผ้าขัด (หรือสกอตไบรท์) ขัดแรงๆ ก็ได้
  2. แช่เครื่องประดับในสารละลายนั้น แล้วใช้แปรงสีฟันขนนุ่มขัดทุกซอกมุมไปเลย [8]
    • การทำความสะอาดเครื่องประดับด้วยน้ำส้มสายชูยังทำให้สายมันดูแวววาวขึ้นมาอีกด้วย ขนแปรงที่อ่อนนุ่มจะช่วยให้อัญมณียังติดอยู่กับเครื่องประดับ หรืออาจหยดน้ำส้มสายชูลงบนฟองน้ำแล้วถูเอาก็ได้
    • ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอีกอย่างที่ใช้ทำความสะอาดเครื่องประดับได้คือน้ำมันมะกอกนั่นเอง ตัวน้ำมันมะกอกจะทำให้มันแวววาวก็จริง แต่ต้องล้างออกให้สะอาดด้วยนะ นอกจากนี้จะใช้น้ำยาย้อมคราบฟันละลายน้ำ แล้วเอาเครื่องประดับไปแช่ ขัดด้วยแปรงสีฟันก็ได้
  3. ถึงจะไม่ได้ทำให้เครื่องประดับสวยขึ้นมากนัก แต่ก็ทำให้มีกลิ่นหอมอยู่นะ โดยให้ซับน้ำเล็กน้อยกับเครื่องประดับ และกำหนดเวลาอย่าให้นานเกินไปล่ะ ถ้าไว้นานเกินไป เครื่องประดับก็อาจขึ้นสนิมได้
    • ใช้ผ้าเช็ดเครื่องประดับเบาๆ อย่าปล่อยเครื่องประดับปลอมเอาไว้ในน้ำนานๆ ล่ะ ไม่อย่างนั้นผลออกมาแย่แน่ๆ ส่วนวิธีนี้จะใช้ได้ดีกับเครื่องประดับสีทองที่มีอัญมณีประดับอยู่ด้วย
    • หรือเทน้ำร้อนใส่ในชาม แล้วผสมเกลือ โซดา น้ำยาล้างจานลงไป วางเครื่องประดับไว้ด้านบนแล้วทิ้งไว้ 5 ถึง 10 นาที จากนั้นนำไปล้างในน้ำเย็น และใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดให้แห้งสนิท
  4. แชมพูเด็กก็คือแชมพูสูตรที่อ่อนโยน เหมาะแก่การนำมาทำความสะอาดเครื่องประดับปลอมด้วย โดยเฉพาะส่วนที่เป็นไข่มุก [9]
    • ผสมแชมพูเด็กกับน้ำอย่างละหนึ่งส่วน ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มหรือก้านสำลีทำความสะอาดบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก ผสมส่วนผสมจนกว่าจะได้น้ำข้นๆ ออกมา แต่ถ้าข้นเกินไปก็เพิ่มน้ำอีกสักหน่อย [10]
    • ล้างแชมพูเด็กออกให้ไวในน้ำเย็น จากนั้นก็เช็ดให้แห้งด้วยผ้าเช็ดมือนุ่มๆ สะอาดๆ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ก็ได้
  5. มีผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมากมายในบ้านที่ผู้คนนิยมนำมาล้างเครื่องประดับปลอม อย่างน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์และยาสีฟันก็ใช้ได้ดีกับเครื่องประดับบางชนิดเช่นกัน
    • แต่ต้องระวังให้มากๆ เข้าล่ะ! อ่านฉลากก่อนนำมาใช้เสมอ อย่านำน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์มาใช้กับของแท้ และระวังสีจะหลุดด้วย และถ้าคุณมีผิวที่บอบบางก็อย่าใช้เลย แนะนำให้อย่าใช้กับต่างหูด้วย
    • ยาสีฟันจะมีปัญหาน้อยกว่าในการนำมาใช้ทำความสะอาด โดยแค่บีบลงแปรงสีฟันแล้วถูกับเครื่องประดับ โดยวิธีนี้ใช้กับเครื่องประดับได้หลากหลายรูปแบบ เช่น กำไล
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลดีกว่า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ซื้อยาขัดเงาเครื่องประดับที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้กับเครื่องประดับโดยเฉพาะ. โลหะของปลอมหรือไม่บริสุทธิ์จะเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ขัดเงาที่ไม่ถูกต้อง
    • สามารถหาซื้อสำหรับขัดได้ทั้งทองทั้งเงินในร้านขายเครื่องประดับหรือตามห้าง และจำไว้ว่ายาทำความสะอาดเครื่องประดับบางชนิดทำมาเพื่อของแท้ ซึ่งถือว่าแรงไปสำหรับเครื่องประดับปลอม
    • เพียงแช่เครื่องประดับไว้กับยาขัดไม่นานเกิน 30 วินาที จากนั้นนำออกมาถูเบาๆ ไม่ให้เกิดรอยหรือไปทำให้เครื่องประดับหมอง หรือจะใช้แปรงสีฟันจุ่มแล้วเอาขึ้นมาขัดก็ได้
  2. ซื้อแอลกอฮอล์ล้างแผลมาจากร้านขายยาหรือร้านขายปลีก. เทแอลกอฮอล์ลงชามใบเล็กๆ แล้วแช่เครื่องประดับเอาไว้สักครึ่งชม.
    • จากนั้นนำเครื่องประดับออกมา เช็ดเอาแอลกอฮอล์ออก แล้วทิ้งให้แห้งประมาณ 15 นาที
    • ถ้ายังมีส่วนที่ไม่สะอาดอยู่ ใช้แอลกอฮอล์ถูไปเลย หรือจะทำขั้นตอนด้านบนซ้ำก็ได้ ส่วนต่างหูนี่ จะแช่ไว้ในเปอร์ออกไซด์สัก2 ถึง 3 นาทีก็ได้ ตัวเปอร์ออกไซด์อาจขึ้นฟองฟู่มา ซึ่งแปลว่าต่างหูคุณสกปรกมาก และควรแช่ให้นานขึ้นอีกหน่อย
    • ถ้าถูไปแล้วรู้สึกว่าเหมือนจะถูเครื่องประดับให้หลุดแทนที่จะเป็นสิ่งสกปรก ก็หยุดซะ บางทีคุณอาจถูแรงไป ให้ถูเบาๆ พอ เครื่องประดับจะได้ไม่พัง
  3. หลังจากใช้ส่วนผสมนั้นๆ ทำความสะอาดไปแล้ว ให้ล้างออกด้วยน้ำเย็นในทันที ล้างพอให้น้ำยาออกจากเครื่องประดับพอนะ
    • ใช้ไดร์เป่าให้แห้ง หลังจากล้างเครื่องประดับสะอาดหมดจด ก็ให้วางไว้บนผ้าขนหนูเพื่อซับเอาน้ำออก จากนั้นก็ตั้งไดร์ให้เป่าลมเย็นออกมา แล้วเป่าให้เครื่องประดับแห้งอย่างรวดเร็ว
    • คอยเลื่อนไดร์ไปทั่วๆ เครื่องประดับเพื่อกระจายอากาศรอบๆ ยิ่งเป่าให้แห้งไวๆ ก็จะยิ่งลดโอกาสที่สนิมและคราบน้ำจะเกิดขึ้น เป่าต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเครื่องประดับจะแห้งสนิทเลยนะ [11]
    • พยายามอย่าจ่อไดร์ตรงกับส่วนที่เป็นอัญมณีเป็นเวลานาน โดยเฉพาะถ้าคุณจะใช้ลมร้อนแล้วล่ะก็ ไม่อย่างนั้นความร้อนอาจไปละลายกาวที่ติดอัญมณีอยู่จนหลุดก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

การบำรุงรักษา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ฉีดน้ำหอม สเปรย์แต่งผม และทาโลชั่นก่อนจะสวมเครื่องประดับ. เนื่องจากว่าอะไรก็ตามที่มีน้ำเป็นสารตั้งต้น สามารถทำให้เครื่องประดับคุณดูหมองลงได้ กระทั่งโลชั่นหรือน้ำหอมก็ทำได้เช่นกัน [12]
    • ถ้าคุณฉีดน้ำหอมและทาโลชั่นก่อน กลิ่นของมันก็จะไม่ติดไปกับเครื่องประดับของคุณด้วย ฉะนั้นควรรอให้ร่างกายแห้ง แล้วค่อยสวมเครื่องประดับปลอมซะ
    • และจะช่วยให้ไม่เกิดคราบก่อตัวขึ้นมาบนเครื่องประดับ ที่ทำให้มันดูหมอง และยิ่งต้องทำความสะอาดบ่อยๆ อีก
  2. ถ้าคุณเช็ดเครื่องประดับด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ทุกครั้งหลังใช้ ก็จะไม่ต้องมาคอยล้างทำความสะอาดบ่อยๆ
    • มันจะยังดูใหม่แม้เวลาจะผ่านไปนานก็ตาม
    • การเช็ดทำความสะอาดทุกวันยังช่วยจำกัดครั้งที่น้ำหรือสิ่งอื่นๆ มาถูกเครื่องประดับขณะที่สวมเครื่องประดับในวันนั้นๆ อยู่ด้วย
  3. อาจเก็บไว้ในถุงซิปล็อค โดยแยกหนึ่งชิ้นต่อหนึ่งถุง รีดอากาศออก แล้วปิดถุง
    • เมื่ออากาศถูกรีดออก โลหะก็จะไม่เกิดปฏิกิริยาออกซิดิเซชั่นหรือเกิดสนิมเขียวจากการสัมผัสกับอากาศ [13] ฉะนั้นมันก็จะดูสะอาดและใหม่ได้นานขึ้น
    • การเก็บเครื่องประดับไว้ในกล่องที่มีฝาปิดและบุกำมะหยี่เอาไว้ จะช่วยไม่ให้เครื่องประดับสัมผัสกับอากาศและทำให้ไม่เกิดรอยอีกด้วย [14]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทายาทาเล็บสีใสเคลือบเครื่องประดับปลอมเพื่อไม่ให้ล้างเสร็จแล้วออกมาเป็นสีเขียว
  • ถ้าจะแตะน้ำ ก็ถอดเครื่องประดับออกเสียก่อน อย่าล้างจาน อาบน้ำ หรือล้างรถขณะใส่เครื่องประดับปลอมอยู่ล่ะ
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าแช่เครื่องประดับในน้ำนานเกินไป ไม่งั้นมันอาจหมองได้
  • ทำให้เครื่องประดับแห้งทันทีหลังเปียก ไม่อย่างนั้นอาจทำให้เกิดรอยน้ำหรือสนิมขึ้นได้
  • ใช้แปรงสีฟันขนนุ่มทำความสะอาด เพื่อไม่ให้เกิดรอยเสียหาย
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 47,974 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา