ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

อย่าว่าแต่คุณ ใครๆ ก็ต้องสยองถ้ากำลังจะแช่อ่างแต่เห็นคราบสกปรกชวนขนลุก เวลาอ่างชื้นนานๆ แน่นอนว่าเชื้อโรคกับเชื้อราจะสะสมในอ่าง จนเกิดคราบฝังแน่นที่ทั้งสกปรกและสยองในเวลาเดียวกัน แต่ถ้าหมั่นทำความสะอาด ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้คราบสกปรกเหนียวเหนอะสะสมเกินรับมือ สำหรับคนที่ปล่อยทิ้งไว้นานจนสายไปแล้ว บทความวิกิฮาวนี้ก็มีวิธีขจัดคราบฝังแน่นในอ่างอาบน้ำมาฝากกัน ส่วนใหญ่จะเป็นวิธีง่ายๆ ใช้แค่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดทั่วไปหรือของใช้ที่มีในบ้านไม่กี่อย่างเท่านั้น ว่าแล้วก็มาออกแรงขัดกันเลย!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ขจัดคราบในอ่างอะคริลิค

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เวลาล้างอ่างอะคริลิค ต้องระวังพวกผงทำความสะอาดที่มีฤทธิ์ฝาดสมาน เช่น ยี่ห้อ Comet หรือ Ajax รวมถึงสารเคมีแรงๆ อย่างน้ำยาฟอกขาว เพราะอะคริลิคเป็นวัสดุเนื้ออ่อน เสียหายง่าย ถ้าใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทที่ว่า ผิวเคลือบของอ่างเสียถาวรแน่นอน [1]
    • ให้เริ่มจากน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนที่สุดที่หาได้ ถ้าไม่ได้ผลก็ค่อยขยับขยายไปใช้สูตรที่แรงขึ้นอีกนิด แบบนี้ไปเรื่อยๆ
  2. น้ำส้มสายชูกลั่นขาวนี่แหละน้ำยาทำความสะอาดสูตรธรรมชาติที่ใช้แล้วเห็นผลดี โดยเฉพาะเวลาขจัดคราบบนพื้นผิวบอบบางอย่างอะคริลิค นิดเดียวคราบก็หลุด ให้กรอกน้ำส้มสายชูใส่ขวดสเปรย์แล้วใช้ล้างทำความสะอาดห้องน้ำเป็นประจำซะเลย โดยฉีดพ่นให้ทั่วบริเวณที่เป็นคราบ [2]
    • น้ำเลมอนก็ใช้แทนน้ำส้มสายชูได้ ถ้าบังเอิญมีติดตู้เย็นอยู่แล้ว
  3. ระหว่างนั้นกรดของน้ำส้มสายชูจะไปละลายรา คราบสกปรก และด่างดวงต่างๆ ให้เช็ดออกง่าย จริงๆ แล้วจะเห็นคราบเริ่มไหลย้อยตั้งแต่ยังไม่ทันขัดถูเลย [3]
    • ก่อนเริ่มเช็ดหรือขัดถู ควรฉีดพ่นน้ำส้มสายชูทิ้งไว้สักพัก
    • ถ้าเป็นคราบที่ติดแน่นทนนานเป็นพิเศษ ให้โรยเบคกิ้งโซดานิดหน่อยใส่น้ำส้มสายชูอีกทีหลังฉีดพ่น [4]
  4. ใช้ฟองน้ำด้านสีเหลืองของสก็อตไบรท์นั่นแหละ พอฉีดพ่นน้ำส้มสายชูจนชุ่มแล้ว คราบและสิ่งสกปรกต่างๆ จะละลาย เช็ดออกง่ายมาก ให้ขัดขึ้น-ลงเร็วๆ ถ้ายังเหลือคราบก็ทำซ้ำตามขั้นตอนจนสะอาด [5]
    • หรือจะใช้อุปกรณ์ขจัดคราบโดยเฉพาะอย่าง Magic Eraser ก็ได้ ทำจากโฟมเมลามีนที่มีรูพรุน แบบนี้คราบยิ่งสะอาดเร็ว [6]
  5. เปิดก๊อกราดน้ำใส่อ่างประมาณ 2 - 3 นาที เพื่อชะน้ำส้มสายชูและคราบเศษสิ่งปรกต่างๆ ให้เหลือแต่อ่างใสๆ ถ้าล้างอ่างด้วยฝักบัวแบบมีสายยาว ก็ฉีดพ่นตามคราบได้เลย พออ่างใสกิ๊งแล้วก็ต้องเช็ดหรือรอจนแห้งสนิท เชื้อโรคก่อคราบจะได้ไม่กลับมา
    • คราบตามอ่างอาบน้ำส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อโรคสะสมจนเกิดชั้นฟิล์มลื่นๆ เคลือบไว้
    • เปิดม่านที่อ่างอาบน้ำทิ้งไว้ แล้วเปิดพัดลมด้านบนระบายอากาศ ใครไม่มีพัดลมก็เปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ให้ลมไหลเวียนจนอ่างแห้งสนิท
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ขจัดคราบในอ่างเคลือบ Enamel

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถึงจะเป็นน้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ สูตรธรรมชาติ แต่ก็แรงพอจะขจัดคราบส่วนใหญ่ถ้าใช้เยอะพอและทิ้งไว้สักพัก ให้ฉีดพ่นน้ำส้มสายชูทั่วอ่าง จากนั้นทิ้งไว้ 2 - 3 นาที แล้วขัดคราบออกด้วยฟองน้ำหรือแปรงขัดที่ขนแปรงแข็งหน่อย ถ้าใช้น้ำส้มสายชูแล้วไม่ได้ผลดีอย่างที่คาด ค่อยขยับขยายไปใช้วิธีที่แรงกว่า
    • จะรู้ว่าควรเปลี่ยนไปใช้วิธีอื่น ก็คือเพิ่มปริมาณน้ำส้มสายชูและทิ้งไว้นานขึ้นแต่ก็ยังไม่ได้ผล
  2. พ่นน้ำยาทำความสะอาดทั่วไปแบบไม่มีน้ำยาฟอกขาว. จะยี่ห้อไหนก็ได้ที่เขียนว่าเป็นผลิตภัณฑ์ All Purpose Cleaner หรือน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ โดยเฉพาะที่ใช้ทำความสะอาดอ่างอาบน้ำ พวกนี้จะช่วยขจัดคราบฝังแน่นโดยไม่ทำให้ผิวของอ่างเสียหาย น้ำยาที่ว่าส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมคล้ายๆ กัน เพราะฉะนั้นจะเลือกใช้ยี่ห้อไหนก็ตามสบาย ขอแค่อย่าผสมน้ำยาฟอกขาว เพราะจะไปกัดชั้นเคลือบ enamel บนสุดของอ่างได้ [7]
    • เลือกน้ำยาทำความสะอาดที่ทดสอบแล้วว่าใช้กับพื้นห้องน้ำที่เคลือบ enamel ได้ ให้อ่านฉลากให้ละเอียดก่อนซื้อและใช้งานเพื่อความปลอดภัย
  3. ถ้าไม่อยากใช้น้ำยาสำเร็จรูป จะลองผสมน้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์สำหรับล้างห้องน้ำเองก็ได้ โดยใช้น้ำอุ่น เบคกิ้งโซดา สบู่น้ำมันมะกอก (Castile soap) และน้ำมันหอมระเหย ผสมรวมกันแล้วกรอกใส่ขวดสเปรย์ พวกนี้เป็นวัตถุดิบที่หาง่ายหน่อยและปลอดภัย แต่ก็มีประสิทธิภาพพอจะขจัดคราบ ผสมเสร็จแล้วใช้ฉีดพ่นที่คราบ ทิ้งไว้ 2 - 3 นาทีให้ออกฤทธิ์ จากนั้นก็ขัดถูหรือเช็ดออกได้เลย [8]
    • ถ้าหาสบู่น้ำมันมะกอกหรือ Castile soap ไม่ได้ ให้ใช้ hydrogen peroxide แทน
    • น้ำมันหอมระเหย เช่น tea tree หรือเปปเปอร์มินต์ มีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อด้วย [9]
  4. ฉีดพ่นส่วนผสมที่คราบให้ชุ่ม ทิ้งไว้หลายๆ นาทีหน่อย. ฉีดพ่นส่วนผสมด้านบนที่คราบแล้วทิ้งไว้สักพัก พ่นเยอะเป็นพิเศษบริเวณที่คราบติดแน่นทนนานหรือเป็นด่างดวง จะเริ่มเห็นคราบละลายไหลย้อยก่อนทันขัดถูด้วยซ้ำ [10]
    • ยิ่งฉีดพ่นแล้วทิ้งไว้นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งขจัดคราบอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
    • ก่อนฉีดพ่นน้ำยาทำความสะอาดทั้งที่เป็นสูตรธรรมชาติหรือสารเคมี ต้องสวมถุงมือและเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท
  5. ให้ใช้ฟองน้ำนุ่มๆ หรือผ้าไมโครไฟเบอร์ อ่างจะได้ไม่เป็นรอยขีดข่วน โดยขัดเบาๆ วนเป็นวงกลม เสร็จแล้วราดน้ำชะล้างทั้งน้ำยาและเศษสิ่งสกปรกออกไป จากนั้นรอจนอ่างแห้งสนิท [11]
    • ถ้ายังหลงเหลือคราบ ให้ทำซ้ำตามขั้นตอน จากนั้นขัดถูหรือเช็ดออก จนกว่าผิวเคลือบ enamel ของอ่างจะสะอาดหมดจด
    • ห้ามใช้อะไรที่หยาบกว่าฟองน้ำนุ่มๆ (ฝั่งสีเหลืองของสก็อตไบรท์) เพราะขัดถูแล้วเคลือบ enamel จะเสียหายได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ขจัดคราบในอ่างกระเบื้องพอร์ซเลน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ถ้าคราบบนผิวพอร์ซเลนค่อนข้างจับตัวหนา ต้องขัดด้วยอะไรที่หยาบหน่อย เช่น ผงขัดยี่ห้อ Comet หรือ Ajax (ในไทยหาซื้อได้ตามร้านรับหิ้วในเน็ต) ผงจะเล็กพอแทรกซึมเข้าไปในคราบที่ฝังแน่นในผิวอ่าง ให้ขัดถูออกง่ายขึ้น [12]
    • ผงขัดทำความสะอาดจะมีสารเคมีที่เรียกว่าสารลดแรงตึงผิว (surfactant) ลักษณะหยาบเล็กน้อย ช่วยขัดถูคราบที่ติดแน่นทนนานได้ดียิ่งขึ้น [13]
    • ใช้ผงขัดแต่น้อย ส่วนใหญ่กระป๋องเดียวก็เหลือเฟือ [14]
  2. ถ้าไม่ใช้น้ำยาทั่วไป ก็ขจัดคราบสนิมหรือคราบน้ำแห้งกรังโดยใช้ hydrogen peroxide ผสมครีมออฟทาร์ทาร์ (cream of tartar) ได้ ให้ปั่น 2 อย่างนี้เข้าด้วยกันจนหนืดประมาณครีมแต่งหน้าเค้ก แล้วเอาไปทาที่คราบโดยตรง ทิ้งไว้ 10 นาที จากนั้นขัดคราบออกด้วยแปรงไนล่อนหรือหินภูเขาไฟจนสะอาด [15]
    • ส่วนผสมทำเองอย่าง hydrogen peroxide กับ cream of tartar เหมาะสำหรับคนที่กังวลเรื่องความปลอดภัยทั้งต่อตัวคุณเองและสิ่งแวดล้อม ไม่อยากใช้น้ำยาทำความสะอาดทั่วไปที่ผสมสารเคมี
    • นอกจากนี้ hydrogen peroxide ยังทำให้อ่างเก่าสีตุ่นกลับมาขาวสะอาดเหมือนเดิมได้ด้วย [16]
  3. โรยให้ทั่วแต่ไม่ต้องมากก็เอาอยู่แล้ว ผงทำความสะอาดจะไม่เหนียวติดผิวพอร์ซเลน แต่พอโดนน้ำก็จะกลายเป็น paste เหนียวข้น เคลือบไปทั่วคราบ [17]
    • ก้นอ่างนี่ตัวดี เพราะราชอบไปกระจุกอยู่ จนลื่นล้มตอนอาบน้ำได้
  4. พ่นน้ำกลั่นหรือน้ำก๊อกธรรมดาใส่ผงทำความสะอาด พอเจอน้ำ ผงจะเหนียวข้นขึ้น ออกโฟมๆ ให้ใช้ paste นี้ทาคราบที่อ่าง แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีจนออกฤทธิ์ [18]
    • หรือเอาฟองน้ำหรือผ้าขนหนูชุบน้ำ แล้วไปขัดถูที่ผงทำความสะอาดจนเหนียวข้นแทนก็ได้ [19]
    • อย่าเติมน้ำเยอะเกิน ถ้าส่วนผสมเจือจางไปจะไม่ได้ผล
  5. กระเบื้องพอร์ซเลนเนื้อค่อนข้างแข็งทนทาน เลยขัดได้แบบไม่ต้องกลัวเป็นรอย ถ้าจะให้ได้ผล คราบออกแน่นอน ก็ต้องใช้หินภูเขาไฟ (pumice stone) หรือแปรงขนแข็งๆ ขัดจนคราบหมดจด จากนั้นล้างอ่างด้วยน้ำสะอาด แล้วรอจนอ่างแห้งสนิทค่อยใช้งาน [20]
    • ถ้าไม่มีแปรงขัด ให้ใช้ด้านหยาบ (สีเขียว) ของสก็อตไบรท์ล้างจานแทน
    • อย่าขัดอ่างพอร์ซเลนด้วยฝอยขัดหม้อหรืออะไรที่ใกล้เคียง เพราะถึงพอร์ซเลนจะไม่เป็นรอยง่าย แต่ถ้าเจอฝอยขัดหม้อก็อาจเสียหายถาวรไปเลย [21]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ขัดอ่างอาบน้ำเป็นประจำ 1 - 2 อาทิตย์ขัดทีได้ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องมานั่งขจัดคราบด้วยวิธีต่างๆ ให้ยุ่งยาก
  • เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ปลอดภัยต่อวัสดุที่ใช้ทำอ่างอาบน้ำ
  • แชมพูทั่วไปก็ใช้ขจัดคราบจางๆ ได้ เพราะเน้นละลายสิ่งสกปรกและน้ำมัน
  • ตอนลงมือขจัดคราบ ให้เปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ อากาศจะได้ถ่ายเท
  • จัดเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดทั้งหลายไว้แถวๆ ห้องน้ำ จะได้ไม่เป็นข้ออ้างผัดวันประกันพรุ่ง
  • หาซื้อแปรงขัดแบบด้ามยาว จะได้ไม่ก้มจนเอวเคล็ดปวดหลัง หรือคุกเข่าจนเจ็บตอนขัดคราบ
โฆษณา

คำเตือน

  • ระวังอย่าผสมน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นสารเคมีหลายอย่างเข้าด้วยกัน เช่น ห้ามผสมแอมโมเนียกับน้ำยาฟอกขาว เพราะจะเกิดแก๊สพิษ สูดดมเข้าไปหรือโดนผิวแล้วเป็นอันตราย
  • ทดสอบอุปกรณ์ขัดและน้ำยาทำความสะอาดที่อ่างแค่จุดเล็กๆ หรือตรงที่ลับตาก่อนใช้จริง เผื่อทำอ่างลอก ด่าง หรือเป็นรอยขึ้นมา
  • สารเคมีแรงๆ สามารถกัดวัสดุสังเคราะห์อย่างอะคริลิคจนด่างได้ เพราะไปกัดสีเคลือบ แก้ไขอะไรทีหลังไม่ได้
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 16,029 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา