ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เชื่อเถอะว่า ไม่ใช่แค่คุณคนเดียวหรอกที่อยากควบคุมค่าใช้จ่าย คนสมัยนี้มีแต่จะมองหาวิธียืดอายุการใช้งานเงินบาทให้ได้มากกว่าแต่ก่อน และมันก็เป็นเรื่องที่ทำได้จริงด้วย บางครั้งคุณเองก็ไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามันทำได้จริงๆ คุณจะไม่ได้แค่มีชีวิตรอดไปวันๆ เท่านั้น แต่คุณยังจะได้ใช้ชีวิตและสนุกไปกับชีวิตอย่างแท้จริงด้วย พร้อมแล้วก็รับคำท้าเลย!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ตั้งงบค่าใช้จ่าย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นี่คือขั้นตอนแรกของการตั้งงบค่าใช้จ่ายทุกประเภท เพื่อให้รู้ว่าตัวเองจะสามารถใช้เงินได้เท่าไหร่ คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณ หา เงินได้เท่าไหร่ และต้องเป็นรายได้ หลัง หักภาษีด้วย วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือตั้งงบค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน เพราะฉะนั้นดูสลิปเงินเดือนหรือเช็คค่าจ้างว่าประมาณ 4 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้คุณหาเงินได้เท่าไหร่
    • ถ้าคุณเป็นผู้รับเหมาอิสระหรือฟรีแลนซ์ คุณต้องรู้ว่าคุณจะต้องจ่ายอะไรบ้างในเดือนมีนาคม พอถึงเวลาจ่ายจริงๆ จะได้ไม่ตกใจเพราะคุณคำนวณเป็นรายปีไว้แล้ว
    • ถ้าคุณเป็นพนักงานธรรมดา ก็อย่าคิดว่าจะพึ่งการขอคืนภาษีได้ ถ้าคุณได้คืนจริงๆ ก็ดีไป แต่มันก็ไม่ได้แน่นอนขนาดที่คุณจะคิดพึ่งพาเงินส่วนนี้ได้ในตอนนี้
  2. ค่าใช้จ่ายมีทั้งแบบตายตัวที่คุณรู้ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ (เช่น ค่าเช่าบ้าน หนี้กยศ. ค่ารถ) และค่าใช้จ่ายที่ไม่ตายตัว เช่น อาหาร ค่าบันเทิง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ คุณต้องเขียนรายการตามความเป็นจริง และถ้าเป็นไปได้ ให้ประเมินค่าใช้จ่าย เกิน เข้าไว้ เค้นสมองให้ได้ว่าคุณลืมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง คุณบริจาคเงินให้มูลนิธิเด็กหรือเปล่า คุณกินลาเต้แก้วละ 120 บาทวันเว้นวันมั้ย คุณให้เขาหักเงินค่าเรียนโยคะจากบัญชีธนาคารโดยอัตโนมัติแม้ว่าคุณจะไม่เคยไปเลยหรือเปล่า นึกออกมาให้หมดเลยนะ!
    • ดูรายการใช้จ่ายเพิ่มเติมเผื่อนึกไม่ออก ข้อดีของสังคมที่บัตรเครดิตเฟื่องฟูก็คือ คุณสามารถเข้าเว็บไซต์แล้วล็อกอินดูได้เลยว่าคุณใช้เงินไปกับอะไรบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณละเลยงบเงินสดไปเลยนะ!
  3. ขณะที่นั่งมองรายการค่าใช้จ่าย ให้หาว่าพอจะมีตรงไหนที่คุณสามารถลดทอนตัวเลขเล็กๆ ที่น่าสงสารเหล่านั้นได้บ้างมั้ย คุณเลิกใช้โทรศัพท์บ้านได้มั้ย เคเบิลทีวีล่ะ ไม่กินลาเต้ได้มั้ย รายจ่ายที่น่าจะตัดออกได้ง่ายที่สุดก็คือรายจ่าย "เล็กๆ น้อยๆ" ที่คุณไม่รู้ตัวเลยว่าคุณจ่ายจนกระทั่งคุณจ่ายไปแล้ว
    • พอเป็นเรื่องเทคโนโลยี อย่ากลัวที่จะยกเลิกมัน คุณ สามารถ โทรศัพท์ไปหาผู้ให้บริการโทรศัพท์/อินเทอร์เน็ต/โทรทัศน์แล้วบอกว่าคุณไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายตรงนี้ได้อีกแล้ว แล้วคุณจะประหลาดใจว่าคุณประหยัดเงินจาก "สิ่งบันเทิง" เหล่านี้ไปได้มากแค่ไหน เพราะฉะนั้นถึงคุณจะมองไปที่รายการค่าใช้จ่ายแล้วบอกตัวเองว่า "ไม่มีตรงไหนตัดได้แล้วจริงๆ! ฉัน ต้องการ ของพวกนี้!" ก็เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะแค่คิดไปเอง
  4. ถึงตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าคุณจะมีเงินเหลือเก็บได้อย่างไรถ้าคุณตั้งใจจริงๆ กำหนดตัวเลขแล้วตั้งเป้าหมาย กำหนดเอาไว้ 2 จำนวน: 1) จำนวนเงินที่คุณควรใช้จ่ายในแต่ละเดือน และ 2) จำนวนเงินที่คุณต้องการเก็บ แล้วที่เหลือก็เอาไปถลุงได้เลย!
    • คุณอาจจะตั้งเป้าหมายรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือนก็ได้ตามใจชอบ คุณอาจจะตั้งงบค่ากินวันละ 300 บาท ค่าของชำสัปดาห์ละ 150 บาท หรือตั้งงบใช้จ่ายรายเดือนได้ตามแต่ใจจะไขว่คว้า แค่รู้ว่าอะไรจะช่วยให้คุณประหยัดเงินได้เป็นพอ
  5. เรื่องฉุกเฉินมักมีเข้ามาตลอด ไม่ว่าจะเป็นก๊อกน้ำรั่วหรือไม่ได้ไปทำงานเพราะท้องเสียโดยไม่ทราบสาเหตุ เรื่องฉุกเฉินจะเข้ามาหาคุณตลอด แบ่งเงินส่วนเล็กๆ ไว้ส่วนหนึ่งสำหรับใช้จ่ายยามฉุกเฉิน และถ้ามันไม่มีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้น เย้! คุณก็จะพอมีเงินไว้หายใจหายคอบ้างยังไงละ
    • ลองคิดดูนะว่า คุณเคยใช้จ่ายไปกับเรื่องที่คุณไม่ได้วางแผนจะจ่ายบ่อยแค่ไหน ถ้าคุณเป็นหนึ่งใน 99% ของมนุษย์เดินดินอย่างเราๆ คำตอบที่ถูกต้องมีเพียงคำตอบเดียวนั่นก็คือ ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นถึงเรื่องฉุกเฉินจะเป็นวันเกิดเพื่อนที่คุณลืมสนิท แต่คุณก็ยังมีเงินสำรองไว้
  6. หวังว่าคุณจะพอมีเงินเหลือลอยๆ ไว้ให้คุณใช้เล่นได้บ้าง แต่โชคไม่เข้าข้างก็ตรงที่เงินพวกนี้มันไม่ได้จู่ๆ ก็หล่นลงมาจากฟ้าและก็มีแบบจำกัดจำเขี่ยสุดๆ เพราะฉะนั้นคุณต้องจัดลำดับสิ่งที่คุณอยากได้ให้ได้ คุณอยากมีลูกหมาเต็มบ้านหรือได้สิทธิ์ไปทำเล็บทุกๆ 2 สัปดาห์ล่ะ ก็เลือกสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขแล้วกัน
    • เราไม่ได้กำลังบอกคุณว่า การมีลูกหมาเต็มบ้านหรือการไปทำเล็บเดือนละ 2 ครั้งเป็นสิ่งไม่ดี บางคนเขาอาจจะมองว่าสิ่งเหล่านี้ไม่จำเป็น แต่เรื่องของเรื่องคือ คุณเห็นว่ามันจำเป็น แค่นั้นก็พอแล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณ ให้เผื่อเงินไว้สำหรับส่วนนี้ แต่ก็ต้องมองตามความเป็นจริง ถ้าคุณไม่มีเงินเหลือจริงๆ ก็ต้องปล่อยกิเลสไป
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. นี่คือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตแบบพลิกฝ่ามือสำหรับเราๆ ท่านๆ หลายคน เพราะเราเคยชินกับการที่พอรับเงินปุ๊บก็ฉลองปั๊บจนกว่ามันจะหมด แต่เสียใจด้วยนะ คุณทำแบบนี้ไม่ได้อีกแล้วละ พอถึงวันศุกร์ปุ๊บ แบ่งก้อนเงินมหัศจรรย์ที่คุณสาบานกับตัวเองว่าจะเก็บ พอเงินสำหรับใช้จ่ายหมดแล้ว คุณก็ห้ามเอาเงินส่วนนี้ไปใช้นะ
    • ถ้าเป็นไปได้ ให้เก็บเงินไว้ในบัญชีออมทรัพย์ หรืออย่างน้อยก็เก็บแยกจากเงินสำหรับใช้จ่ายไว้ต่างหาก อาจจะเก็บเป็นเงินสดไว้ในลิ้นชักถุงเท้า (ถ้ามั่นใจว่าควบคุมกิเลสตัวเองได้) หรือไม่ก็ โอเค ฝากไว้ที่แม่แล้วกัน วิธีนี้จะบังคับให้คุณใช้เงินตามที่คุณตั้งงบไว้ได้
  2. ปัจจุบันนี้ในยุคที่เทคโนโลยีเป็นใหญ่ เรารู้ว่าเราอาจจะกำลังขอคุณมากไป เราเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอาหารแช่แข็ง อยากได้อะไรต้องได้เดี๋ยวนั้น และต้องการความบันเทิงอย่างไม่หยุดหย่อน แต่ถ้าคุณอยากจะตั้งงบใช้จ่ายจริงๆ คุณก็ต้องสละการใช้ชีวิตรูปแบบนั้น คุณต้องทำอะไรหลายอย่างด้วยตัวคุณเอง อย่างเช่น:
    • หัดทำอาหาร การทำอาหารกินเองไม่เพียงแต่ดีต่อสุขภาพมากกว่าเท่านั้น แต่ยังถูกกว่าด้วย และถ้าคุณสามารถทำอาหารในปริมาณมากๆ ได้ภายในครั้งเดียว คุณก็สามารถแช่แข็งแล้วเก็บไว้กินยามยากได้
    • ปลูกผักกินเอง นี่คืออีกขั้นของการทำอาหารกินเอง การปลูกผักผลไม้กินเองจะทำให้คุณได้กินผักและผลไม้ในราคาต้นทุน ที่นอกจากคุณจะไม่ต้องจ่ายค่าผักผลไม้ในราคาแพงระยับระดับซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว คุณยังได้ความภาคภูมิใจด้วยว่า คุณเลี้ยงตัวเองได้อย่างแท้จริง จะมีสักกี่คนที่พูดแบบนั้นได้ ตอบ!
    • หัดเย็บผ้า มีใครบ้างที่พอเสื้อผ้ามีรูปั๊บก็โยนทิ้งทันที เอาดีๆ ยกมือมาเหอะ รู้อยู่แก่ใจว่าทำ แทนที่จะฟุ่มเฟือย ลองมาตัด ซ่อมแซม และเย็บเสื้อผ้าเองดีมั้ย นอกจากเงินจะอยู่ยั้งยืนยงในบัญชีเงินฝากแล้ว คุณอาจจะกลายเป็นเจ้าแม่แฟชั่นในทันที คุณจะได้แต่งตัวในแบบที่ ไม่เหมือนใคร เจ๋งป่ะล่ะ
  3. ว่าไง มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นใช่มั้ย ถ้าคุณอยากได้เงินเพิ่ม คุณก็ต้องทำงานเพิ่ม แต่อย่าไปคิดถึงงานที่คุณต้องสวมผ้ากันเปื้อนหรือหมกอยู่ในกองเอกสาร แม้แต่งานเสริมอย่างการเป็นพี่เลี้ยงเด็กรายสัปดาห์ก็ช่วยทำให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคุณดีขึ้นได้แล้ว ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกดีกับการทำงานเสริมมากขึ้นอีกสักหน่อย (การสู้รบกับความคิดของตัวเองนี่แหละคือประเด็นหลัก) การหารายได้เสริมเป็นเรื่องของการทำให้ตัวเองมีความสุข ไม่ใช่เรื่องของความร่ำรวย
    • เข้าเว็บ Craigslist แล้วเลือก Thailand นี่พูดจริงๆ นะ มีงานเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่างที่คุณสามารถทำเพื่อหารายได้พิเศษได้ แม้ว่ามันจะเป็นงานช่วยคุณแม่เจ๊ดันที่เพิ่งผ่านการหย่าร้างย้ายข้าวของเข้าอพาร์ตเม้นต์ใหม่ก็เถอะ อย่าลืมถามเพื่อนๆ ด้วยละ! พวกเขาอาจจะรู้ว่ามีงานพิเศษครั้งเดียวจบที่เพิ่มเงินค่าขนมให้คุณได้สัก 1,500 บาท ถ้าไม่ถามก็ไม่มีวันรู้หรอก!
  4. อีกขั้นของการจำกัดค่าใช้จ่ายอย่างจริงจัง ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเมืองหรือย่านชุมชนที่มีสัญญาณไฟจราจรแค่ 1 ที่ มีผับ 6 ผับและมีวัด 9 วัด การมีรูมเมตจะช่วยประหยัดค่าเช่าห้องไปได้อีกครึ่ง และอย่าลืมว่าคุณยังจะมีเงินเหลือเพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อยด้วย! เพราะถ้ามีรูมเมตนั่นหมายความว่าคุณจะจ่ายค่าทิชชูแค่ครึ่งเดียว ค่าอาหารบางอย่างแค่ครึ่งเดียว และค่าไวน์ที่ดื่มฉลองคืนวันพุธแค่ครึ่งเดียว อย่างน้อยก็ถ้าคุณได้รูมเมตคูลๆ น่ะนะ
    • คุณอาจจะหารูมเมตมาหารค่าเช่าห้องคนละครึ่ง หรือ ย้ายไปอยู่ห้องที่ราคาเท่าเดิมแต่ใหญ่กว่า ทั้งสองวิธีก็ดีกันคนละแบบ (ถึงอย่างหลังจะไม่ได้ช่วยคุณประหยัดเงินโดยตรงก็เถอะ) และถ้าคุณต้องใช้ผ้าม่านกั้นเขตเตียง ก็ช่างมันปะไร ก็ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ นี่ ถึงจะต้องนอนบนพื้นมุมห้องก็ยังมีลมหายใจนะจ๊ะ!
  5. เพราะว่านิสัยที่ไม่ดีนั้นมีราคาแพง ที่เห็นได้ชัดๆ ก็เช่น สูบบุหรี่ กินเหล้า และติดยาเสพติด แน่ละว่าถ้าไม่หยุดพูดก็จะมีรายการงอกขึ้นมาอีกเรื่อยๆ อะไรที่ไม่จำเป็นต่อการมีชีวิตอยู่รอด ก็แสดงว่ามันไม่ได้จำเป็นสำหรับคุณ และถ้ามันไม่ดีต่อตัวคุณ นั่นหมายความว่ามันไม่จำเป็นสำหรับคุณ จริงๆ บางครั้งเราก็ต้องเอาจริงกับตัวเองบ้าง และแน่ว่านี่ก็ถือเป็นหนึ่งในเวลานั้น
    • ถึงแม้ว่าคุณจะแค่เสพติดการไปดูหนัง คุณก็ต้องเริ่มเปลี่ยนการใช้ชีวิตเสียใหม่ สำรวจตัวเองอย่างซื่อสัตย์ว่า: นิสัยอะไรที่ทำให้คุณต้องเสียเงินโดยไม่จำเป็น เราทุกคนต่างมีนิสัยแบบนี้ด้วยกันทั้งนั้น และถ้าคุณเลิกไม่ได้ คุณจะลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้อย่างไร ถ้าชอบดูหนัง เปลี่ยนมาดู Mono 29 แทนได้มั้ยล่ะ
  6. การถือสิ่งที่จับต้องได้จริงๆ ในมือสร้างความแตกต่างได้มากมาย ขณะที่เรายื่นบัตรพลาสติกใบจ้อยให้คนขายรูดบัตร เราจะไม่ค่อยมีสติรู้ตัวจริงๆ หรอกว่าเงินในบัญชีมันหายไป ลองจินตนาการว่าทุกครั้งที่คุณรูดบัตรจะมีก็อบลินตัวจิ๋วโผล่หน้ามาชูเงินที่จะไม่ได้เป็นของคุณอีกต่อไปแล้วให้คุณดู คุณอาจจะไม่รู้สึกอยากซื้อเท่าไหร่ก็ได้! เพราะฉะนั้นใช้เงินสดดีกว่า เพราะคุณมีแนวโน้มที่จะไม่อยากให้เงินมันหลุดลอยไป
    • อีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีเช่นเดียวกันก็คือ อนุญาตให้ตัวเองถือเงินสดที่กันไว้สำหรับใช้ทั้งสัปดาห์ พอเงินหมดแล้วก็แล้วกัน ขอโทษที่นะจ๊ะแม่สาวน้อย ฉันรู้ว่าชีวิตมันไม่ง่าย แต่บทเรียนนี้จะสอนเธอเรื่องการแบ่งสันปันส่วนเงินไว้ใช้จ่ายได้อย่างรวดเร็วเลยละ!
  7. จากที่กล่าวมาทั้งหมดถึงความเปลี่ยนแปลงในชีวิตเมื่อเริ่มเก็บเงิน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจิตใจ ถ้าคุณรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปถ้าไม่ได้กินข้าวนอกบ้านที่ร้านอาหาร 5 ดาว การเก็บเงินจะเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ แต่ถ้าคุณสามารถปรับเปลี่ยนมุมมองและไม่รู้สึกว่าตัวเองขาดอะไรไป การควบคุมค่าใช้จ่ายจะเป็นเรื่องที่แทบไม่ต้องใช้ความพยายามเลยสำหรับคุณ และคุณก็จะไม่ต้องเสี่ยงไปต่อสู้กับ "ความเหนื่อยยากจากการประหยัด" [1] และอาการฉุนเฉียวที่มีสาเหตุมาจากการพยายามบังคับตัวเอง การควบคุมค่าใช้จ่ายคงไม่คุ้มกันถ้ามันทำให้คุณประสาทกิน!
    • คุณไม่จำเป็นต้องไปยึดติดกับความอยากได้อยากมีและชื่อเสียงเพียงเพื่อที่จะแข่งกับเพื่อนๆ เชื่อมั้ยว่าจริงๆ แล้วคนเราไม่ได้มีภาพลักษณ์อะไรที่ต้องรักษาเลยด้วยซ้ำ คุณมีความสุขกับสิ่งที่คุณมีอยู่ได้ ชีวิตไม่เกี่ยวกับการครอบครองเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างอยู่ที่ความเชื่อที่มีผลต่อพฤติกรรมของคุณ ถ้าคุณมีความสุขกับสถานการณ์ตรงหน้าได้ ก็คือคุณมีความสุข ที่เหลือก็ไม่สำคัญแล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้เงินอย่างมีศิลปะ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ไม่เห็นจะน่าอายเลย เก๋จะตาย! ฝรั่งเขายังทำรายการเรื่องการใช้คูปองโดยเฉพาะเลย! นี่แหละคือขบวนการการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง! เพราะฉะนั้นรีบไปหยิบกรรไกรแล้วไปเสาะหาคูปองมาด่วนๆ ทั้งคูปองประจำสัปดาห์ของร้านโปรด และ คูปองที่ออกโดยผู้ผลิต อย่าลืมอันใดอันหนึ่งนะ
    • อย่าลืมคิดถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย ถ้าสัปดาห์นี้มันยังไม่ลดราคา มันก็อาจจะลดสัปดาห์หน้าก็ได้นะ พยายามอดใจไว้ก่อน และบางทีช่วงกลางสัปดาห์หรือหลังวันหยุดเทศกาลคุณอาจจะได้ราคาดีกว่าเดิมด้วยเช่นกัน
  2. นอกจากจะตัดกระดาษและเข้าไปดูคูปองที่เว็บไซต์ของผู้ผลิตแล้ว ให้เข้าไปที่เว็บไซต์ขายดีลด้วย เช่น Ensogo, Groupon, AllThaiCoupons.com หรือ Lazada ดีลที่ว่านี้ไม่ได้จำกัดแค่สินค้าตามซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้น แต่คุณยังจะได้ไปร้านอาหารและจ่ายค่าอาหารในราคาครึ่งเดียวของที่เคยจ่ายด้วย อาจจะดูไม่จริงใจไปสักนิด แต่ชีวิตปาร์ตี้ของคุณก็ยังไม่หลุดคอนเซ็ปต์นะ!
    • วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้ชีวิตคุณรวยขึ้น ไม่มีตังค์ไปเข้าฟิตเนสเหรอ ลองหาซื้อดีลเรียนต่อยมวยที่ลดราคา 80% ตามเว็บไซต์ขายดีลต่างๆ ดูสิ ต้องซื้อของขวัญวันคริสมาสต์เหรอ อืม คุณมีคูปองที่ไหนบ้างล่ะ การใช้คูปองน่ะไม่ได้จำกัดแค่ของที่คุณเอาไปถมบ้านได้เท่านั้นนะ!
  3. อันนี้ก็กำลังมาแรงเหมือนกัน ถ้าของที่คุณจะซื้อคุณสามารถซื้อแบบที่เป็นของมือสองได้ ก็ซื้อมือสองดีกว่ามั้ย กระแสวินเทจกำลังมาแรงและลัทธิบริโภคนิยมก็เชยสิ้นดี และนอกจากจะซื้อของร้านมือสองอย่างเป็นทางการแล้ว ลองไปซื้อของตามเปิดท้ายขายของ Kaidee.com งานประมูล และงานกิจกรรมในชุมชนต่างๆ (เช่นงานโละหนังสือห้องสมุดมาขายถูกๆ) รับรองว่าแป๊บเดียวคุณจะกลายเป็นนักล่าสมบัติเลยละ
    • ลองขอสิ่งของจากคนในครอบครัวด้วย เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการสะสมข้าวของจนกระทั่งเรามีสิ่งอำนวยสะดวกสำหรับการเก็บของมากมาย ลองนึกดูสิว่ามันกลับตาลปัตรกันขนาดไหน คุณรู้จักใครที่อยู่อย่างพอเพียงจริงๆ บ้าง เพราะฉะนั้นลองขอสิ่งของจากคนในบ้านเลย! พวกเขาอาจจะ (อันที่จริงคือต้องมี) ของที่พวกเขาจำเป็นต้องกำจัดกันบ้างแหละ
  4. คุณอาจจะรู้จัก Craigslist Thailand และเว็บไซต์หางานฟรีแลนซ์อื่นๆ อีกมากมาย แต่คุณเคยได้ยินเว็บไซต์ Freecycle Groups in Thailand หรือเปล่า [2] เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ จากนั้นก็เลือกว่ากรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่และหาคนที่ประกาศว่าตัวเอง ต้องการยกของให้คนอื่นแบบฟรีๆ และแน่ละว่าก็ต้องมีคนอีกมากมายที่อยากได้สิ่งของจากคนอื่นด้วย และนี่ก็เป็นแค่ 1 ในหลายๆ เว็บไซต์นะ!
    • จริงๆ แล้วคุณไม่ควรซื้ออะไรในราคาเต็มเลยด้วยซ้ำ นอกจากการซื้อดีลจากเว็บไซต์ที่เราพูดถึงกันก่อนหน้านี้แล้ว ยังมีเว็บไซต์อื่นๆ เช่น Kaidee และ Pramool ที่คุณสามารถซื้อของจากคนจริงๆ ได้โดยตรงในราคาที่มักจะถูกกว่ากันมาก
  5. วิธีนี้อาจจะอันตรายไปสักหน่อย ถ้าคุณเป็นพวกใช้เงินมือเติบ บัตรเครดิตอาจกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของคุณ แต่ถ้าคุณรู้ว่าคุณควบคุมตัวเองได้ (และคุณก็มีคะแนนการใช้บัตรเครดิตมากพอ) ลองเปิดใช้บัตรเครดิตที่มีการสะสมแต้ม ทุกครั้งที่คุณใช้บัตรเครดิตคุณก็จะได้สะสมแต้มไปในตัว และคุณก็สามารถใช้แต้มแลกสิ่งของ หรือ เงินสด ได้ เจ๋งป่ะล่ะ! รายได้เสริมมาแล้ว!
    • อย่าลืมอ่านเงื่อนไขการใช้บัตรที่เขียนไว้ตัวเล็กๆ ด้วย เพราะสิ่งสุดท้ายที่คุณอยากให้เกิดขึ้นในชีวิตของคุณก็คือการเปิดใช้บัตรเครดิตที่คิดอัตราดอกเบี้ยมากมายมหาศาล ที่พอคุณเริ่มใช้ก็กลายเป็นว่าคุณเป็นหนี้ท่วมหัวและต้องทำงานหนักหาเงินมาใช้หนี้ นั่นคือผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่คุณอยากให้เกิดขึ้น
  6. เป้าหมายอยู่ที่ประสบการณ์ ไม่ใช่การครอบครอง. คุณอาจจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ได้ยินว่า ประสบการณ์ทำให้มนุษย์มีความสุขมากกว่าการครอบครอง เพราะมันยั่งยืนกว่าและไม่พอกพูนอยู่บนชั้นวางทั้งที่ไม่ได้ใช้เหมือนสิ่งของ เพราะฉะนั้นถ้าคุณรู้สึกว่าชีวิตขาดอะไรไป ให้ตั้งเป้าหมายไปที่การหาประสบการณ์ การครอบครองสิ่งต่างๆ ไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น หรือถ้ามันทำได้จริงๆ มันก็จะอยู่กับคุณแค่สั้นๆ เท่านั้น
    • ใกล้จะถึงวันเกิดแล้วเหรอ ลองขอของขวัญเป็นค่าเรียนเสริมหรือค่าสมาชิกฟิตเนส ขอเครดิตสำหรับการท่องเที่ยว ขอในสิ่งที่คุณจะได้ใช้ จริงๆ แน่ละว่าถ้าได้ทีวีจอ 50 นิ้วเครื่องนั้นเป็นของขวัญมันก็ดี แต่ปีหน้าคุณก็จะอยากได้เครื่องใหม่อีกนั่นแหละ ทำชีวิตให้ร่ำรวยด้วยประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอื่นๆ เพราะน้ำเปล่านั้นเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าน้ำอื่นๆ ที่มีขายอยู่มากมาย นี่ยังไม่นับว่ามันถูกกว่านิดหน่อยด้วยนะ
  • พยายามลดค่าอาหารด้วยการออกไปซื้อวัตถุดิบสัปดาห์ละ 1หรือ 2 ครั้ง วันที่เหลือให้ดูเอาว่ามีอะไรในครัวที่ทำกินได้บ้าง
  • พยายามชำระหนี้หรือบิลที่ยังไม่ได้จ่าย ถ้าคุณยังไม่ได้จ่ายค่าบัตรเครดิตก็ให้รีบไปจ่ายให้เร็วที่สุด เพราะดอกเบี้ยจะทำให้คุณต้องจ่ายแพงขึ้น
  • ลดค่าไฟในไม่กี่ขั้นตอน ปิดไฟทุกดวงในห้องและถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นขณะที่ไม่ได้ใช้งาน อย่าแค่ปิดสวิตช์เฉยๆ เพราะมันอาจจะยังใช้กระแสไฟอยู่นิดๆ ที่อาจจะทำให้บิลค่าไฟคุณสูงขึ้น
  • ทำให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอด้วยการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและออกกำลังกาย คุณจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปหาหมอหรือซื้อยาโดยใช่เหตุ
  • ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ในบ้าน เช่นซักผ้าหรือทำอาหาร วิธีนี้นอกจากจะประหยัดเงินของคุณแล้ว คุณยังจะได้เผาผลาญแคลอรีไปในตัวด้วย
  • พยายามทำข้าวกล่องไปจากบ้าน แล้วคุณจะประหยัดค่ากินได้มากโข วิธีนี้นอกจากจะประหยัดเงินแล้วยังดีต่อสุขภาพด้วย
  • คุณสามารถใช้แอพฯ บางแอพฯ ในโทรศัพท์มือถือคำนวณงบค่าใช้จ่ายประจำวันได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ระมัดระวังเวลาเลือกรูมเมตมาแชร์ค่าห้องด้วย เพราะเขาอาจจะไม่ใช่คนที่คุณควรอาศัยร่วมชายคาด้วยเลยก็ได้ สาเหตุก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาหรือเธอมีประวัติอาชญากรรม หรือมีนิสัยบางอย่างที่ทำให้คุณรำคาญจนถึงขั้นที่คุณต้องเสียเวลามาหารูมเมตใหม่
  • ระมัดระวังเวลาใช้บัตรเครดิต หลายคนเป็นหนี้ท่วมหัวเพราะใช้บัตรเครดิตเกินกว่าที่จ่ายไหวและต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ หรืออาจจะเป็นปีๆ กว่าจะจ่ายหนี้หมด นอกจากหนี้บัตรเครดิตยังอาจทำให้คุณล้มละลายได้อีกด้วย ซึ่งอาจจะถึงขั้นทำให้คุณไม่มีที่ซุกหัวนอนเลยก็ได้
  • พยายามให้อภัยตัวเองถ้าคุณใช้เงินเกินกำหนดในบางครั้ง แล้วพยายามปรับงบค่าใช้จ่ายในกิจกรรมต่อไป
  • อดทนและยึดมั่นในหลักการที่คุณนำมาปรับใช้อยู่เสมอ เพื่อให้คุณควบคุมการใช้เงินในชีวิตได้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,485 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา