ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

เราอยากเข้าไปออกกำลังกายที่ยิม แต่มีเวลาแค่เพียงช่วงพักกลางวันเท่านั้นและไม่ได้จัดกระเป๋าสำหรับเข้ายิมเอาไว้ หรือจัดกระเป๋าเตรียมเอาไว้แล้ว แต่พอเข้าไปในยิม ก็นึกขึ้นมาได้ว่าลืมเอากางเกงสำหรับใส่ออกกำลังกายมา อย่าให้เหตุขัดข้องเหล่านี้มาขัดขวางไม่ให้เรามีโอกาสออกกำลังกาย ถ้าเราจัดของที่จำเป็นทุกอย่างเข้ากระเป๋าเรียบร้อยแล้ว ปัญหาเหล่านี้ก็จะหมดไปและเราก็จะได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เตรียมกระเป๋า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อต้องเลือกซื้อกระเป๋าสำหรับเข้ายิม เราต้องเลือกกระเป่าซึ่งมีพื้นที่เก็บของเพียงพอ ให้มองหากระเป๋าที่มีช่องเก็บของเยอะๆ เราจะได้เอาเสื้อผ้าเก็บไว้ในช่องหนึ่งของกระเป๋า เก็บรองเท้าไว้อีกช่องหนึ่ง และเก็บอาหารไว้อีกช่องหนึ่ง ถ้าเราเจอกระเป๋าสำหรับเข้ายิมที่มีช่องซิปเล็กๆ จะยิ่งดีเข้าไปใหญ่ เพราะจะช่วยให้เราสามารถจัดเก็บของต่างๆ แยกกันอย่างเป็นระเบียบ [1]
  2. เตรียมถุงพลาสติกไว้ใส่ของต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากกระเป๋าสำหรับเข้ายิมของเราไม่มีช่องเก็บของเยอะมากพอ เวลาจัดเก็บของลงในกระเป๋าสำหรับเข้ายิม เราจะต้องเก็บของต่างๆ ไว้แยกกันเพื่่อป้องกันไม่ให้ของเปียกหรือเปื้อนไปด้วยกัน หากมีสิ่งของในกระเป๋าเปียก เปื้อน หรือหก [2]
    • เตรียมถุงใบใหญ่ไว้สำหรับใส่รองเท้า เราคงไม่อยากเก็บรองเท้าผ้าใบชื้นเหงื่อปะปนกับเสื้อผ้า อาจลองหาถุงไว้สำหรับเก็บรองเท้าใส่เข้ายิมโดยเฉพาะก็ได้ การเก็บรองเท้าไว้ในถุงพลาสติกจะสามารถป้องกันไม่ให้กลิ่นและแบคทีเรียแพร่กระจายจนทำให้ทั้งกระเป๋าของเรามีกลิ่นเหมือนเท้าที่ชื้นเหงื่อและสกปรก [3]
    • ซื้อถุงซิปล็อคขนาดเล็กไว้ใส่เครื่องอาบน้ำ เสื้อใน และกางเกงใน เราอาจนำเสื้อในและกางเกงในตัวใหม่ใส่ไว้ในถุงพลาสติกเพื่อคงสภาพความใหม่เอาไว้ หลังจากเปลี่ยนมาใส่เสื้อในและกางเกงในตัวใหม่แล้ว ให้นำตัวเก่ามาใส่ไว้ในถุงพลาสติกนั้นแทน
    • เราอาจเตรียมถุงพลาสติกไว้ใส่น้ำแข็งด้วยเผื่อในกรณีที่ตนเองได้รับบาดเจ็บ [4]
  3. เริ่มด้วยการนำรองเท้าใส่กระเป๋าหรือใส่ช่องสำหรับใส่รองเท้าก่อน จากนั้นจัดของทั้งหมดใส่ลงในช่องเฉพาะของตน ต่อไปนำเครื่องอาบน้ำใส่ลงในกระเป๋า จากนั้นวางผ้าขนหนูและเสื้อผ้าไว้บนพวกเครื่องอาบน้ำเพื่อผ้าขนหนูและเสื้อผ้าจะได้ไม่เปียก ถ้าเครื่องอาบน้ำของเราเกิดรั่วหรือปิดไม่สนิท ให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือหนังสืออยู่บนสุด [5]
  4. ตอนเช้าเป็นช่วงที่เร่งรีบและวุ่นวาย บางครั้งเรานอนนานกว่าปกติ บางครั้งอาบน้ำนานเกินไป บางครั้งทำอาหารเช้าไหม้ หรือบางครั้งเผลอกดปุ่มปิดนาฬิกาปลุกถึงสามครั้ง ในตอนเช้าที่แสนเร่งรีบและวุ่นวายสิ่งสุดท้ายที่เราจะนึกถึงคือการจัดกระเป๋าสำหรับเข้ายิม ฉะนั้นเราจึงต้องจัดกระเป๋าสำหรับเข้ายิมให้เรียบร้อยในตอนดึกเพื่อจะได้ลดภารกิจในช่วงเช้าลง [6]
    • วางกระเป๋าไว้ข้างประตู หรือใกล้กระเป๋าเอกสาร รองเท้า กุญแจ หรือของที่ต้องพกติดตัวก่อนออกจากบ้าน ก่อนออกไปข้างนอกเราจะได้ไม่เผลอทิ้งกระเป๋าสำหรับเข้ายิมไว้ในบ้าน
  5. เราต้องจัดกระเป๋าสำหรับเข้ายิมอีกใบและนำไปใส่ไว้ในกระโปรงหลังรถเผื่อมีวันไหนที่ตนเองลืมเอากระเป๋าเข้ายิมใบหลักมา ให้ใส่เฉพาะของที่จำเป็นลงในกระเป๋าสำรอง เช่น เสื้อยืดหรือเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้นสำหรับออกกำลังกาย ถุงเท้า รองเท้าผ้าใบคู่เก่า และหูฟังที่มีราคาไม่แพง กระเป๋าสำรองใบนี้จะช่วยให้เราไม่พลาดการออกกำลังกาย [7]
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

จัดของที่จำเป็นลงในกระเป๋า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เลือกชุดออกกำลังกายที่เหมาะสมใส่ลงในกระเป๋า. เสื้อและกางเกงสำหรับออกกำลังกายเป็นสิ่งจำเป็นในการเข้ายิม เราต้องเลือกชุดออกกำลังกายที่ระบายอากาศได้ดีและพอดีตัว คิดสิว่าเราจะออกกำลังกายอย่างไรในวันนั้น ถ้าเราจะทำท่าสควอท ก็ไม่ควรใส่กางเกงเอวต่ำ ไม่อย่างนั้นกางเกงอาจเลื่อนลงต่ำจนเห็นกางเกงในได้ หรือถ้าเลือกทำท่าโยคะที่มีการต้องก้มตัว ก็อย่าเลือกใส่เสื้อที่อาจลงมาปกหน้าปกตาได้ พยามเลือกชุดออกกำลังกายที่เหมาะสมและใช้ประโยชน์ได้มากกว่าเลือกชุดออกกำลังกายตามแฟชั่น [8]
    • ลองคิดสิว่าเราจะใส่เสื้อกล้าม หรือเสื้อแขนสั้น และจะใส่กางเกงขาสั้น รัดรูป หรือกางเกงขายาวสำหรับใส่ออกกำลังกาย เราจะเลือกใส่ชุดออกกำลังกายแบบไหนก็ได้ตราบที่เราสามารถรักษากิจวัตรการออกกำลังกายได้
    • ในช่วงหน้าหนาวให้นำเสื้อแจ็กเก็ตและกางเกงวอร์มใส่ลงในกระเป๋า ถ้าหากเราต้องการจะเดินเล่นนอกยิม ให้สวมทับชุดออกกำลังกายเวลาออกมาเดินเล่น [9]
    • อย่าลืมเอาเสื้อในและกางเกงในตัวใหม่ใส่ลงในกระเป๋าด้วย โดยเฉพาะหากเราจะตรงเข้าที่ทำงานเลยหลังออกกำลังกายเสร็จแล้ว เราจะได้ไม่ต้องสวมชุดทำงานทับเสื้อในกางเกงในชุ่มเหงื่อ [10]
    • สุภาพสตรีอาจนำสปอร์ตบราใส่กระเป๋าด้วย พอถึงยิมแล้วค่อยเปลี่ยนมาใส่สปอร์ตบราก่อนออกกำลังกาย
  2. รองเท้าดีๆ นั้นสำคัญต่อการออกกำลังกาย ผู้เข้ายิมจะเลือกใส่รองเท้ากีฬาหรือรองเท้าสำหรับวิ่งก็ได้ ถ้าเราเป็นนักยกน้ำหนักระดับสูง ก็อาจเลือกใส่รองเท้าสำหรับยกน้ำหนักเลยก็ได้ ไม่ว่าเราจะเลือกใส่รองเท้าคู่ไหนออกกำลังกาย อย่าลืมนำรองเท้าคู่นั้นใส่กระเป๋าด้วย [11] เพราะรองเท้าสำหรับใส่ทำงาน เช่น รองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าหนังก็ไม่น่าจะใช่รองเท้าที่ใส่วิ่งบนลู่วิ่งได้ดีอยู่แล้ว
    • อย่าลืมจัดถุงเท้าใส่ลงในกระเป๋า การออกกำลังกายโดยไม่สวมถุงเท้าอาจทำให้เท้าเสียดสีกับรองเท้าจนเจ็บ ฉะนั้นเราต้องมีถุงเท้าหนึ่งคู่ใส่ไว้ในกระเป๋าเสมอ ถึงแม้เราจะสวมถุงเท้าอยู่แล้วก็ตาม เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมื่อไหร่ถุงเท้าของเราจะย้วยเข้าไปในรองเท้า เปียก หรือได้รับความเสียหายจนไม่สามารถนำมาสวมใส่เวลาออกกำลังกายได้ ฉะนั้นอย่าลืมจัดถุงเท้าลงกระเป๋าสำหรับเข้ายิมด้วย [12]
    • จัดรองเท้าแตะใส่ลงในกระเป๋า เราต้องเอารองเท้าแตะใส่ลงกระเป๋าไปด้วยหากเราจะอาบน้ำที่ยิมหลังจากออกกำลังกายเสร็จ อย่าเดินเท้าเปล่าในห้องอาบน้ำ ใส่รองเท้าแตะเพื่อป้องกันไม่ให้เท้าติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา [13]
  3. นำยางรัดผมหรือผ้าคาดศีรษะสำหรับกันเหงื่อใส่ลงในกระเป๋า. ยางรัดผมนั้นเป็นของจำเป็นสำหรับผู้หญิงเพราะจะได้นำมาใช้รวบผมเพื่อป้องกันไม่ให้ผมมาปรกหน้าเวลาออกกำลังกาย สำหรับผู้ชายและผู้หญิงที่มีผมสั้นผ้าคาดศีรษะสำหรับกันเหงื่อสามารถป้องกันไม่ให้ผมมาปรกหน้าและช่วยซับเหงื่อได้ [14]
  4. จัดเครื่องอาบน้ำที่จำเป็นทั้งหมดใส่ลงกระเป๋า. ถ้าเราจะเข้ายิมช่วงพักกลางวันหรือก่อนไปทำงาน เราต้องจัดเตรียมสิ่งของที่ช่วยให้ตนเองยังคงความสดชื่นและสามารถกลับไปทำงานในช่วงที่เหลือของวันได้ เครื่องอาบน้ำที่ควรจัดใส่กระเป๋ามีดังต่อไปนี้
    • ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและบอดี้สเปรย์หรือโคโลญจ์ ระวังอย่าฉีดโคโลญจ์และน้ำหอมมากเกินไปโดยเฉพาะถ้าเราไม่ได้อาบน้ำชำระร่างกายครบทุกส่วน
    • ครีมหรือเจลอาบน้ำ อย่าลืมนำครีมหรือเจลอาบน้ำและแชมพูสระผมใส่กระเป๋าสำหรับเข้ายิมด้วย
    • ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้าหรือแผ่นเช็ดทำความสะอาดใบหน้าและมอยส์เจอไรเซอร์ไว้สำหรับชำระล้างเหงื่อออกจากใบหน้า อาจนำโทนเนอร์หรือแอสทริงเจนท์ใส่กระเป๋าด้วยก็ได้
    • ครีมโกนหนวดและมีดโกนหนวด ถ้าต้องการโกนหนวดหลังออกกำลังกาย ก็ให้ติดของสองสิ่งนี้ไปด้วย
    • ดรายแชมพู ควรมีดรายแชมพูไว้ในกระเป๋าหากเราไม่มีเวลาสระผม รอให้ผมแห้ง และจัดแต่งทรงผมก่อนที่จะกลับไปทำงาน [15]
  5. อย่าลืมจัดผ้าขนหนูใส่กระเป๋าทุกครั้ง เพราะไม่ใช่ยิมทุกแห่งที่จะจัดหาผ้าขนหนูไว้ให้เราใช้ฟรี และถึงแม้ทางยิมจะมีการซักผ้าขนหนูอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็อาจยังไม่สะอาดเพียงพอ ฉะนั้นเราควรเอาผ้าขนหนูมาเองเพื่อเช็ดเหงื่อหรือเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ยิม
  6. เราต้องให้ร่างกายได้รับน้ำอย่างเพียงพอเวลาออกกำลังกาย ควรนำน้ำดื่มไปเอง เพราะเราจะสามารถดื่มได้บ่อยเท่าที่จำเป็น อย่าปล่อยให้ร่างกายของตนเองขาดน้ำหรือเสียเงินซื้อน้ำดื่มซึ่งบางครั้งก็ถูกนำมาจำหน่ายในราคาที่แพงเกินไป [16]
  7. จัดของว่างที่ดีต่อสุขภาพลงในกระเป๋า เราจะได้นำมากินเพื่อเพิ่มพลังงานก่อนและหลังออกกำลังกาย ของว่างที่แนะนำได้แก่ ถั่ว แอปเปิ้ล โปรตีนบาร์ [17] น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพ กล้วย และนิวทริชั่นบาร์
  8. จัดพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใส่ลงในกระเป๋าด้วย. การออกกำลังกายของเราคงจะไม่สมบูรณ์หากขาดเสียงดนตรี ฉะนั้นอย่าลืมนำหูฟังใส่กระเป๋าเพื่อจะได้เอามาเสียบกับสมาร์ตโฟนเวลาต้องการฟังเพลง ถ้าหากมีไอพอดหรือไอพอดชัฟเฟิล อย่าลืมนำมาใส่กระเป๋าด้วย
    • เราจะเอาเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ฟิตเนสแทรกเกอร์ (fitness tracker) หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องใส่กระเป๋าติดตัวมาด้วยก็ได้ [18]
  9. เรามีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคที่ยิมได้ เพราะเราต้องใช้อุปกรณ์ (และออกกำลังกาย) ร่วมกับสมาชิกคนอื่น ฉะนั้นกดเจลใส่มือและถูมือหลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้วเพื่อฆ่าเชื้อโรค
    • จะเลือกพกผ้าหรือทิชชู่เปียกสำหรับฆ่าเชื้อโรคแทนเจลล้างมือก็ได้ เราจะได้นำมาใช้เช็ดมือให้สะอาดและเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ออกกำลังกายก่อนที่จะใช้งาน อีกทั้งการพกผ้าหรือทิชชู่เปียกสำหรับฆ่าเชื้อโรคยังสะดวกกว่าการพกเจลล้างมือ เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรหกเลอะกระเป๋า [19]
  10. เราอาจบังเอิญได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างออกกำลังกาย อาจเกิดตุ่มพอง รอยบาดเล็กๆ และรอยถลอกจากการใช้เครื่องออกกำลังกาย การยกบาร์เบล หรือการวิดพื้น ฉะนั้นอย่าลืมนำพลาสเตอร์ปิดแผลและผ้าพันแผลขนาดเล็กใส่ไว้ในกระเป๋า [20]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พยายามจัดแต่ของที่จำเป็นต่อการเข้ายิมลงในกระเป๋า
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,126 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา