ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

แฟนของคุณเคยตื่นเต้นที่ได้เจอคุณแต่ตอนนี้มันรู้สึกเหมือนว่าเธอโกรธคุณหรือไม่ได้สังเกตว่าคุณอยู่ตรงนั้น เธออาจจะไม่ตอบข้อความของคุณหรือเธอใช้เวลาทั้งคืนที่งานปาร์ตี้ในการคุยกับคนอื่นยกเว้นคุณ ไม่ว่าจะอย่างไร หากคุณรู้สึกเหมือนถูกเมินโดยแฟนสาว โอกาสคือคุณรู้สึกเจ็บปวด หงุดหงิดและอาจจะโกรธ คุณอาจจะต้องการเมินเธอ ทำให้เธอหึงหรือเลิกกับเธอแต่วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับการถูกเมินคือการพูดออกไปตรงๆ

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

การคิดให้รอบคอบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. มันเป็นไปได้ว่าแฟนของคุณกำลังโกรธคุณแต่มันก็เป็นไปได้เช่นกันที่เธอกำลังเจอบางอย่างที่ลำบากที่ไม่เกี่ยวกับคุณ ไม่ว่าจะอย่างไร หากคุณได้รับความรู้สึกที่เป็นลบจากเธอก็อย่าบังคับให้เธอพูดทันที ให้เวลาเธอเพื่อใจเย็นลง วิธีนี้จะยังให้เวลาคุณในการคิดถึงความรู้สึกของตัวเองอย่างรอบคอบ
  2. พฤติกรรมของเธอที่มีต่อคุณเปลี่ยนไปจริงๆ เหรอ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าคุณรู้สึกหดหู่หรือกังวลเกี่ยวกับบางอย่างและทำให้คุณจินตนาการว่าพฤติกรรมของเธอนั้นแย่กว่าปกติ?
    • มันเป็นไปได้ว่าเธอทั้งตัวเย็นชากับคุณแต่เมื่อความสัมพันธ์ดำเนินไปเรื่อยๆ คุณเริ่มตระหนักว่าคุณไม่ชอบพฤติกรรมของเธอ
    • คุณได้ผ่านเรื่องที่ยากลำบากมาเร็วๆ นี้หรือไม่? บางทีคุณอาจจะต้องการความสนใจของเธอมากกว่าปกติในช่วงนี้และเธอไม่สามารถทำตามความต้องการของคุณซึ่งมีผลทำให้เธอถอยห่างออกไป
  3. เธออาจจะเมินคุณแต่หากเธอกำลังต่อสู้กับความซึมเศร้าเธอก็อาจจะไม่รู้ตัว
    • สัญญาณของความซึมเศร้า ได้แก่ ความยากลำบากในการตั้งใจและทำการตัดสินใจ ความเหนื่อยล้า ความรู้สึกไร้ประโยชน์ ความสิ้นหวังและ/ความไร้ค่า การนอนไม่หลับหรือการนอนมากเกินไป ความรำคาญ การสูญเสียความสนใจในกิจกรรมที่พึงประสงค์ เช่น เซ็กส์หรือการไปเดท การกินมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ความเครียด ความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายและ/หรือพฤติกรรมบ่อนทำลาย [1]
    • หากคุณคิดว่าแฟนของคุณกำลังรู้สึกซึมเศร้า มันมีวิธีที่คุณสามารถช่วยได้
  4. แม้คุณจะต้องการเมินเธอกลับหรือทำให้เธอหึงแต่วิธีนั้นไม่ใช่วิธีที่ดี อีกทั้งแฟนของคุณกำลังรู้สึกซึมเศร้าและต่อสู้กับปัญหาส่วนตัวที่ยากเย็น การเมินเธอกลับจะยิ่งทำให้สถานการณ์ลำบากมากขึ้นสำหรับเธอและอาจจะทำลายความสัมพันธ์ของคุณ
    • ทฤษฎีหนังยางเสนอว่าคุณสามารถทำให้บางคนต้องการคุณด้วยการถอยตัวออกห่างจากพวกเขา มันอาจจะได้ผลสำหรับบางคนในระยะสั้นแต่มันไม่ใช่พฤติกรรมที่คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีบนพื้นฐานของสิ่งนี้ [2]
    • 1 คำแนะนำที่ดีที่คุณสามารถนำมาใช้จากทฤษฎีหนังยางคือคุณที่อยู่ในความสัมพันธ์ต้องการพื้นที่เพื่อทำบางสิ่งของตัวเอง ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะเบื่ออีกฝ่ายหนึ่งหรือเริ่มที่จะมองอีกฝ่ายเป็นของตาย คุณสามารถใช้เวลาเป็นของตัวเองและยังคงปราณีและเคารพแฟน อย่าเมินเธอแต่ทำให้มั่นใจว่าคุณมีชีวิตนอกเหนือจากเธอ
  5. พยายามอย่าบ่นว่าพฤติกรรมของแฟนทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดหรือเสียใจแค่ไหน เตือนตัวเองว่าเธอไม่สามารถทำให้คุณรู้สึกอะไรได้และคุณมีทางเลือก คุณสามารถเลือกที่จะรับรู้ว่าคุณเสียใจแต่ไม่ปล่อยให้มันรั้งคุณไว้จากการมีความสุขในชีวิต
    • ทำสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกดี ไปหาเพื่อน ไปเข้าฟิตเนส ทำงานอดิเรก (เช่น เล่นกีต้าร์ สร้างหนังหรือเดินป่า)
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การพูดถึงมัน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. หากแฟนของคุณเมินคุณ คุณอาจจะไม่สามารถติดต่อเธอผ่านทางโทรศัพท์หรือเจอหน้าเธอได้ หากคุณรู้ว่าเธอยังคงได้รับข้อความ คุณสามารถลองส่งข้อความหาเธอที่แสดงความห่วงใยและขอให้เธอมาเจอเพื่อพูดคุย
    • เช่น “คุณไม่ตอบข้อความฉันเลย เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ฉันรู้สึกเจ็บปวดและสงสัยว่าคุณยังมีความสุขกับความสัมพันธ์ของเราหรือไม่ เรามาเจอกันและพูดได้ไหม?”
      • หากคุณดูตารางของเธอ คุณก็อาจจะเสนอวันและเวลาที่เธอมักจะว่างซึ่งทำให้มันง่ายขึ้นสำหรับการนัดพบ
  2. ข้ามขั้นตอนนี้หากแฟนของคุณตอบข้อความหรือโทรศัพท์ หากคุณไม่สามารถติดต่อเธอผ่านทางข้อความหรือโทรศัพท์แต่คุณรู้ว่าเธอยังสบายดี (เช่น ไปเที่ยวกับเพื่อน โพสต์ข้อความลงสื่อโซเชียล) คุณก็อาจจะลองส่งข้อความหาเธอซึ่งแสดงความรู้สึกและความห่วงใยผ่านทางกล่องข้อความใน facebook หรือในอีเมล
    • หากคุณเลือกที่จะส่งอีเมลหรือข้อความหาเธอก็ให้ใช้น้ำเสียงที่อ่อนไหว เขียนฉบับร่างจากนั้นจึงอ่านหลังจากที่คุณนอนเต็มอิ่ม ทำให้มั่นใจว่าข้อความงานไม่ใจร้ายหรือไม่เคารพเธอ
    • เจาะจง ยกตัวอย่างที่มีน้ำหนักของสิ่งที่เธอทำและสิ่งที่คุณรู้สึก คุณต้องเขียนมันในวิธีที่ไม่ใช่การกล่าวหา
      • “ตอนที่เราไปงานปาร์ตี้คืนวันเสาร์ เธอใช้เวลาทั้งคืนคุยกับคนอื่น เราไม่ได้มีโอกาสคุยกันเลยและเธอกลับบ้านโดยไม่ได้กล่าวลาแม้เราจะนั่งตรงข้ามกันในห้องเดียวกัน เมื่อเธอทำแบบนั้นฉันรู้สึกเจ็บปวด ฉันไม่แน่ใจว่าฉันทำอะไรผิด ฉันกังวลเกี่ยวกับเธอและเกี่ยวกับเรา ฉันอยากเจอเธอพูดคุยเรื่องนี้หรือหากเธอไม่สบายใจฉันก็ยินดีที่จะติดต่อเธอผ่านทางอีเมล์ในตอนนี้”
    • ก่อนที่จะส่งอีเมลก็ให้คุณลองเอาใจคุณไปใส่ใจของเธอเมื่อคุณอ่านข้อความนี้เป็นครั้งสุดท้าย คิดถึงว่ามันจะฟังดูเป็นอย่างไรสำหรับเธอและเธอจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบอย่างไรและแก้ไขมันเพื่อทำให้แน่ใจว่าคุณกำลังแบ่งปันความคิดและความรู้สึกในวิธีที่เป็นผลที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเธอเข้าใจคุณและไม่รู้สึกถูกข่มขู่ เธอก็น่าจะตอบ
  3. หากคุณสามารถเจอเธอเพื่อพูดคุยได้ก็ให้ใช้ภาษากายที่เห็นใจ วิธีนี้จะแสดงให้เธอเห็นว่าคุณพร้อมที่จะเข้าใจเรื่องราวของเธอและมันควรจะกระตุ้นให้เธอเปิดใจ
    • ภาษากายที่เห็นใจ ได้แก่ การหันหน้าเข้าหาคนที่คุยด้วยในแบบเปิด (เช่น ไม่กอดอกหรือถอยหนีหรือหันหน้าไปทางอื่น) การพยักหน้าและใช้สายตาคือสัญญาณว่าคุณได้ยินสิ่งที่เธอพูดและการทำเสียงตอบรับเพื่อแสดงความเข้าใจโดยไม่ขัดจังหวะ [3]
  4. ระบายความคิดและความรู้สึกโดยการใช้การสื่อสารที่ไม่รุนแรง. การสื่อสารที่ไม่รุนแรงคือคุณจดจ่อกับความคิดและความรู้สึกของตัวเองมากกว่าการกล่าวหาอีกฝ่ายในการทำบางอย่างผิดพลาด
    • เรียบเรียงสิ่งที่คุณพูดเป็นลำดับ: การสังเกต ความรู้สึก ความต้องการและคำขอ [4]
    • เช่น “เธอไม่รับสายและยกเลิกแผนการ 2 ครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันเริ่มกังวลว่าเธอไม่สนใจที่จะมีความสัมพันธ์กับฉันอีกต่อไป”
  5. หลังจากที่คุณได้ระบายความรู้สึกแล้วก็ทำให้เธอรู้ว่าคุณเปิดใจสำหรับการสื่อสารเรือการ์ตูนในเธอแบ่งปันความรู้สึก
    • เช่น “เธอไม่รับสายและยกเลิกแผนการ 2 ครั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฉันเริ่มกังวลว่าเธอไม่สนใจที่จะมีความสัมพันธ์กับฉันอีกต่อไป ฉันอยากให้เราได้พูดคุยกันเกี่ยวกับความสัมพันธ์ หากความสัมพันธ์ของเราไม่ใช่ปัญหา ฉันก็อยากให้เธอเปิดใจกับฉันว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น”
  6. หากเธอยอมรับว่าเธอไม่มีความสุขในบางอย่างก็ให้ถามเธอว่าเธอต้องการให้คุณทำอะไร เธออาจจะต้องการพื้นที่หรืออาจจะต้องการให้คุณทำบางสิ่งที่คุณไม่ทำ มันอาจจะเป็นสิ่งง่ายๆ เช่น การกอดเธอมากขึ้นหรือบอกเธอว่าเธอสวย
    • หากเธอขอพื้นที่ก็อย่าตกใจ สิ่งนี้อาจจะเป็นเรื่องของเธอและไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ
      • ถามเธอว่าเธอรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่หรือไม่ หากเธอพูดว่าเธอไม่รู้ก็ลองเสนอเวลาที่รู้สึกโอเคสำหรับคุณ อาจจะเป็นหนึ่งสัปดาห์ คุณต้องสนับสนุนเธอ ถามเธอว่ามีอะไรที่คุณสามารถทำได้หรือไม่ เช่น โทรหาตอนท้ายสัปดาห์เพื่อถามไถ่
      • หากคุณตัดสินใจที่จะให้พื้นที่กับทั้งสองฝ่ายก็ทำให้มั่นใจว่าคุณทั้งสองเข้าใจว่ามันแปลว่าอะไร สำหรับบางคน พื้นที่หมายถึงการคุยโทรศัพท์ 2 ครั้งต่อสัปดาห์แทนที่จะคุยทุกคืนหรือมันอาจจะหมายถึงการไม่ติดต่อสื่อสารตลอดสัปดาห์ การทำให้กระจ่างว่าพื้นที่แปลว่าอะไรสำหรับคุณจะทำให้ช่วงเวลานี้ง่ายขึ้น
    • รับรู้ว่าคุณไม่ต้องให้สิ่งที่เธอต้องการ หากคุณไม่สบายใจกับบางอย่างที่เธอขอ คุณก็สามารถบอกเธอ คุณสองคนอาจจะสามารถประนีประนอม คุณสองคนต้องเคารพความต้องการและขอบเขตของอีกฝ่าย
  7. เมื่อถึงเวลาที่เธอพูดก็รับฟังเธอ สิ่งนี้รวมไปถึงภาษากายที่เห็นใจ (การเปิดรับ การพยักหน้า การทำเสียงว่ารับรู้) เช่นเดียวกับการแสดงข้อความเข้าใจโดยการพูดซ้ำสิ่งที่เธอพูดหรือถามหาความกระจ่าง [5] หากคุณเจ็บปวดโดยบางอย่างที่เธอพูด คุณก็สามารถทำให้เธอรู้สิ่งนั้นแต่อย่าทำให้เธอรู้ในวิธีที่ไม่ประนีประนอม
    • เช่น “ขอบคุณที่เปิดใจกับฉัน เมื่อคุณพูดว่าฉันติดตัวเธอมากเกินไป ฉันรู้สึกเสียใจและสับสนเล็กน้อย ฉันชอบใช้เวลากับเธอแต่ฉันยินดีที่จะทำเรื่องส่วนตัวของฉัน ฉันอยากรู้บางสิ่งที่เจาะจงที่ฉันทำให้เธอคิดว่าฉันติดตัวเธอมากเกินไป บางทีฉันอาจจะสามารถเปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นได้”
      • หากเธอให้ตัวอย่างที่เจาะจง แม้คุณจะไม่เห็นด้วยกับมันแต่มันอาจจะทำให้คุณเห็นว่าเธอต้องการอะไรจากความสัมพันธ์ การรู้ว่าเธอต้องการอะไรจะทำให้คุณเห็นภาพกระจ่างว่าคุณสามารถหรือยินยอมให้มันกับเธอหรือไม่
    • อยากเกลือกตาหรือขัดจังหวะเวลาที่เธอพูด ปล่อยให้เธอพูดก่อนที่คุณจะตอบ สิ่งที่เธอต้องพูดอาจจะทำให้คุณเสียใจที่ได้ยิน คุณอาจจะไม่เห็นด้วยแต่ปล่อยให้เธอพูดก่อนที่คุณจะตอบ
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

การหาทางแก้ไข

ดาวน์โหลดบทความ
  1. เมื่อคุณค้นพบแล้วว่าปัญหาคืออะไรก็ช่วยกันหาทางแก้ไข
    • หากเธอพูดว่าเธอกำลังเมินคุณเพราะเธอรู้สึกว่าได้รับความสนใจจากคุณมากเกินไปก็ขอให้เธอยกตัวอย่างที่เฉพาะเจาะจงถึงสิ่งที่คุณทำให้เธอรู้สึกแบบนั้น
      • บางทีเธออาจจะไม่ชอบที่คุณโทรหาเธอ 3 ครั้งต่อวัน มื้อเช้ามื้อกลางวันและมื้อเย็น บางทีคุณจะสามารถตกลงพี่จะแค่ส่งข้อความทักทายตอนเช้าและโทรหาเธอหลังมื้อค่ำทุกวัน
  2. บางครั้งมันดีกว่าที่ต้องถอยออกเมื่ออารมณ์ร้อนและพูดคุยกันในภายหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทะเลาะกันมาหลายชั่วโมงแล้ว [6]
    • หากคุณพบว่าคุณตกอยู่ในวงจรเดิมและแก้ไขอะไรไม่ได้ มันอาจจะดีกว่าที่ถอยออกมา บางทีคุณอาจจะเจอกันไม่ได้อีก 2 วันและคุณต้องการแก้ไขมันในตอนนี้ ความต้องการนั้นเป็นปกติแต่มันจะไม่ช่วยอะไรคุณทั้งคู่เพราะคุณเน็ตเหนื่อยจากการทะเลาะกันเกินไปที่จะคิดอย่างกระจ่าง
  3. เข้าใจว่าหนึ่งในทางแก้ไขอาจจะเป็นการเลิกกัน. โอกาสคือเมื่อคุณกังวลเกี่ยวกับการที่แฟนของคุณกำลังเมินคุณ คุณต้องการรักษาความสัมพันธ์ไว้ หากมุมมองของคุณไม่ใช่ปัญหาและไม่ใช่เรื่องส่วนตัวและหากเธอเมินคุณเพราะเธอโกรธคุณ คุณก็ต้อง รู้ว่าเมื่อไหร่ที่คุณต้องบอกเลิก กับคนที่มักจะทำให้คุณเจ็บปวดมากกว่าบอกคุณว่าทำไมเขาถึงเสียใจ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • หากคุณพบว่าแฟนของคุณมักจะเมินคุณแล้วมันกลายเป็นกิจวัตร คุณก็อาจจะต้องการพิจารณาว่าความสัมพันธ์นี้คู่ควรที่จะเก็บรักษาไว้หรือไม่ มันเป็นไปได้ที่คุณอาจจะ รู้ทันแฟนประเภท-'จอมบงการ'
  • จำไว้ว่าเธออาจจะกำลังผ่านช่วงเวลาที่ยากเย็นซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับคุณ เธออาจจะหลีกเลี่ยงคุณเพราะเธอไม่รู้ว่าจะคุยกับคุณหรือคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร พยายามอย่าโกรธจนกว่าคุณจะรู้เรื่องทั้งหมด
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เริ่มความสัมพันธ์แบบ Friends with Benefits
ทำให้แฟนเก่ากลับมารักคุณอีกครั้ง
รู้ว่าเมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายไม่อยากคุยกับคุณแล้ว
รู้ว่าแฟนสาวของคุณแอบไปนอนกับคนอื่นหรือเปล่า
ทำให้ใครบางคนรู้สึกผิด
พิชิตหัวใจแฟนเก่ากลับมา หลังจากการเลิกรา
ทำให้แฟนเก่าคิดถึงคุณ
หาเสี่ยเลี้ยง
ปลอบโยนแฟนสาวของคุณเมื่อเธอรู้สึกแย่
ดูว่าเพื่อนอิจฉาคุณหรือไม่
ฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับมาดีเหมือนเดิม
จบความสัมพันธ์
เรียกความเชื่อใจจากเขาหรือเธอกลับมา
ดูว่าผู้ชายกำลังหลอกใช้คุณเพื่อเซ็กส์หรือไม่
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 4,580 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา