ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

จัดแต่งทรงผมแล้วช่วยให้สวยดูดี หรือเปลี่ยนลุคให้แปลกตา แถมยังทำให้บุคลิกหรือเอกลักษณ์ส่วนตัวโดดเด้ง คุณจัดแต่งทรงผมได้หลายวิธีด้วยกัน แต่ต้องพยายามหาสไตล์ที่เข้ากับตัวเองให้มากที่สุด แล้วเลือกวิธีจัดแต่งทรงที่เหมาะสม ไม่ว่าจะผมสั้น/ยาวหรือลักษณะเส้นผมอย่างไรก็แล้วแต่

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

ดูแลสุขภาพผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คนเราไม่จำเป็นต้องสระผมทุกวัน ถ้าผมแห้งเป็นพิเศษ ให้สระทุก 2 - 3 วัน เฉพาะตอนที่ผมมันหรือเหนียวจริงๆ
    • ใช้แชมพูที่เข้ากับลักษณะเส้นผมของคุณ รวมถึงความหนา และความพรุน ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ครีมนวดหรือมูสด้วย
    • เอาจริงๆ ผม “เหนียว” ที่ไม่ได้สระมา 1 - 2 วันจะจัดทรงง่ายกว่าผมสะอาด อย่างม้วนแล้วลอนก็จะอยู่ตัวกว่า ให้หวีผมจากล่างขึ้นบน จะได้ไม่พันกันก่อนจัดทรง อาจจะใช้ครีมหรือสเปรย์ช่วยจัดทรงด้วย
  2. ถ้าผมหยิกหรือแตกปลาย แสดงว่าต้องการความชุ่มชื้น (และเล็มปลาย) ให้เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสมของน้ำมันธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์
    • ลงทุนซื้อน้ำมันบำรุงผมหรือครีมหมักผมดีๆ ผมจะได้แข็งแรงสุขภาพดี ทั้งตอนยาว ตัด หรือย้อมเป็นทรงตามต้องการ ถ้าไม่ใช้ครีมนวด ก็ให้ใช้น้ำมันธรรมชาติแทน เช่น น้ำมันมะพร้าว หรืออาร์แกนออยล์ โดยทาน้ำมันจากกลางผมลงมาจนถึงปลาย เพื่อให้ผมสุขภาพดีและเงางาม [1]
    • ถ้าผมบางหรือขาดวอลลุ่ม ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีไบโอติน คอลลาเจน หรือเคราติน เพราะช่วยเพิ่มความหนาและความแข็งแรงให้เส้นผม เวลาใช้ครีมนวด ให้ใส่หมวกอาบน้ำ แล้วนอนไปทั้งอย่างนั้นเลย พอถอดหมวกอาบน้ำก็ล้างผมตามปกติ
  3. แทบจะไม่มีอะไรทำผมเสียได้เท่าการแต่งทรงด้วยความร้อนมากเกินไป เช่น ไดร์เป่าผม แกนม้วนผม หรือที่หนีบ/รีดผม บอกเลยถ้าผมแห้งเสีย ทำทรงไหนก็ไม่สวย
    • พยายามปล่อยให้ผมแห้งเอง ถ้าจะใช้ไดร์เป่า ก็ต้องเสียบหัวไดร์ด้วย เพื่อลดผมเสียจากความร้อน
    • พ่นสเปรย์กันความร้อนเพื่อปกป้องเส้นผม โดยพ่นให้ทั่วผมที่จะม้วน แต่อย่าถือขวดสเปรย์ใกล้หัวหรือผมเกินไป ไม่งั้นผมจะแฉะจนม้วนยาก
  4. ตัดผมให้เนี้ยบๆ แล้วใช้หวีหรือแปรงให้เหมาะกับผม. ถ้าผมลีบแบนหรือไม่เป็นทรง ก็จัดแต่งยาก เพราะงั้นต้องไปตัดผมทุก 6 อาทิตย์ อย่างน้อยก็เล็มผมที่แตกปลายออก อย่าลืมถามช่างด้วย ว่าผมแบบคุณเหมาะกับแปรงแบบไหน [2]
    • แปรงมีหลายรูปทรง ขนแปรงก็ด้วย เลยส่งผลต่อเส้นผมคุณต่างกันไป ตอนเริ่มจัดทรง พยายามอย่าใช้แปรง เพราะทำให้ผมชี้ฟูหรือเสียได้ ให้เปลี่ยนเป็นหวีซี่ห่างแทน เพราะไม่ทำร้ายผมเท่า [3]
    • ถ้าตัดแบบมีเลเยอร์ จะทำให้ผมหยักศกหรือม้วนเป็นลอนตามธรรมชาติ แต่ถ้าชอบผมตรง ก็ต้องไว้ผมยาวหน่อย ถ้าใครผมหยิกมากไม่แนะนำให้ตัดสั้น ส่วนหนุ่มๆ บอกเลยอย่าหวังพึ่งเจลมันทุกทรง ต้องเริ่มจากทรงผมดีๆ เหมาะๆ ซะก่อน ถ้าใครผมยาวยิ่งสำคัญ ถ้าอยากได้ผมดูเป็นทรง ไม่ใช่ยาวรุงรัง
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

เลือกทรง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. อย่าลืมว่าช่างเขาทั้งมีความรู้และประสบการณ์ แล้วจะมาลองผิดลองถูกเองทำไม? รีบไปร้านตัดผมประจำเร็ว หรือจะเลือกร้านใหม่ที่น่าสนใจก็ได้ อีกทีคือเลือกทรงเองจาก tutorial ต่างๆ ในเน็ต บอกเลยมีมากมายหลายทรงเกินจินตนาการ
    • ช่างทำผม นี่แหละที่นอกจากออกแบบทรงผมให้คุณได้แล้ว ยังจะช่วยแนะนำวิธีจัดทรงให้ด้วย สอบถามได้เลยตามสะดวก
    • ถ้าต้องทำผมไปงานสำคัญ เช่น งานแต่ง หรือรับปริญญา ปล่อยเป็นหน้าที่ช่างมืออาชีพจะดีกว่า แต่ถ้าไม่สะดวกหรือไม่มีงบ ก็ต้องลองทำดูก่อนถึงวันจริง จะได้เห็นภาพว่าเหมาะกับคุณไหม
    • เข้า YouTube หรือเว็บอื่นๆ ดู tutorial สอนทำผม แนะนำ YouTube เพราะ search หาทรงผมที่ต้องการได้สะดวก มีคลิป how to เยอะแยะไปที่แนะนำละเอียดเลย
  2. ลองรวบรวมรูปทรงผมที่ถูกใจมานั่งพิจารณา แล้วคัดให้เหลือ 3 ทรงที่ชอบจริงๆ แต่ต้องเป็นทรงที่เข้ากับรูปหน้าและลักษณะการใช้ชีวิตของคุณด้วย (อยากไว้ผมยาวก็อย่าขี้เกียจดูแล)
    • อยากทำไฮไลท์หรือสีแปลกๆ ไหม? อยากได้ผมยาวประมาณไหน? จะทำสีไหม (สีอะไร)? มองหาดาราหรือเซเลบทั้งหลายที่ผมและรูปหน้าเหมือนคุณ เช่น ผมหยักศก หน้ากลม จะได้พอเห็นภาพ ว่าทำทรงที่เลือกแล้วจะออกมายังไง
    • ขอความเห็นจากเพื่อนๆ ครอบครัว และช่างทำผม ว่าทรงที่คุณเลือกจะเหมาะกับคุณไหม ถึงจะบอกว่าผมคุณสไตล์คุณ แต่รับรองจะได้มองมุมใหม่ หรือคำแนะนำดีๆ ในการจัดทรง ซึ่งก็ต้องเอามารวมกับความเห็นของคุณอีกที ทรงผมในโลกนี้ไม่ได้มีแค่รวบหรือปล่อยซะหน่อย
  3. ต้องรู้ก่อนว่าตัวเองผมหนา ยาว และงอกเร็วแค่ไหน จะได้เลือกสไตล์ที่ทำได้จริงและออกมาดูดี อย่างผมที่อยู่เหนือไหล่ขึ้นไป ถือว่าเป็น "ผมสั้น" ส่วน "ผมยาวปานกลาง" จะอยู่ประบ่า อาจยาวกว่านั้นเล็กน้อย ถ้ายาวกว่านั้นก็คือ "ผมยาว"
    • แค่ดูด้วยตาเปล่าและลองจับดู ก็รู้แล้วว่าผมตัวเองหนาแค่ไหน แต่หลักๆ แล้ว ผมของคนเรามี 2 แบบ คือเส้นเล็ก กับเส้นหนา คุณ ผมตรง ผมหยิก หรือผมหยักศกกันแน่?
    • ถ้าคุณผมสั้น ก็ดัดหยิก ลอนหลวม หรือติดกิ๊บน่ารักๆ ได้เลย ส่วนใครผมยาวปานกลาง ก็อาจจะถักเปีย หรือม้วนลอน/ดัดเป็นคลื่น/หนีบผมลอน/ยืด มุ่นเป็นบัน หรือมัดหางม้าก็แล้วแต่ และสำหรับคนผมยาว บอกเลยว่าโชคดีมาก เพราะทำได้แทบทุกทรง
  4. ถ้าเทรนด์ไหนกำลังมา หรือเห็นดาราทำแล้วสวย ก็ทำตามซะหมด บางทีก็พังมากกว่าปัง ต้องรู้จักเลือกทรงผมที่เข้ากับบุคลิกของตัวเอง รวมถึงถูกกาลเทศะด้วย ก็ต้องพิจารณาแล้วเลือกจากมากมายหลายทรง เช่น ถักเปีย หนีบลอน ผมสั้น ดัดหยิก ถักเดรดล็อค ไถข้าง ทำไฮไลท์ กระทั่งลวดลายหรือดีไซน์พิเศษ
    • ขั้นแรกคือต้องรู้จักตัวเองดีพอ ลองส่องกระจกแล้วถามตัวเองดูว่าคุณเป็นคนแบบไหน ที่สำคัญควรเลือกชุดก่อนทรงผม รวมถึงโอกาสที่จะจัดทรง ยิ่งถ้าเป็นเรื่องงานหรือทางการ ยิ่งต้องเลือกดีๆ
    • ควรเลือกทรงผมที่ขับเน้นลักษณะเด่นหรือความงามตามธรรมชาติของคุณ เพราะถ้าต้องมานั่งหนีบผมหยิกให้ตรง หรือดัดผมตรงให้หยิกหรือเป็นลอนทุกวัน ผมจะแห้งเสียได้ แถมเหนื่อยโดยใช่เหตุ
  5. รู้ รูปหน้า ของตัวเอง จะได้เลือกทรงที่ทำให้หน้ายิ่งเด่น. ใช่ว่าทุกทรงจะเหมาะกับทุกรูปหน้าหรือทุกคน ต้องคิดถึงข้อนี้ให้ดี เพราะงั้นต้องเลือกทรงที่จะช่วยขับเน้นรูปหน้าของคุณ [4]
    • ถ้าอยากรู้รูปหน้าของตัวเอง ให้ส่องกระจก แล้วใช้ลิปสติกวาดที่กระจกตามโครงหน้า ดูซิว่ารูปที่ได้เป็นรูปทรงคล้ายอะไร เช่น หน้ารูปหัวใจ แบบนี้ไม่เหมาะจะตัดผมสั้น เหมาะกับการรวบผมมากกว่า ถ้าหน้าเหลี่ยม ควรเน้นทรงที่ทำให้โหนกแก้มเด่น ไม่เน้นคาง เช่น ตัดเป็นเลเยอร์ ไล่จากติ่งหูลงมาถึงไหล่
    • ถ้าหน้าเป็นทรงระฆังหรือชมพู่ หน้าผากเล็กแคบ ก็อย่าตัดผมม้าหรือผมสั้น ถ้าหูใหญ่เป็นพิเศษ ให้ไว้ผมยาว ถ้าหน้าผากกว้าง ให้ไว้ผมม้าหรือม้าเบี่ยงจะดูดี ถ้าหน้ารูปไข่ ทำได้แทบทุกทรง แต่ถ้าหน้าเป็นเหลี่ยมเป็นสัน เช่น สี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือรูปเพชร ต้องเลือกทรงที่ทำให้หน้าดูกลมหรือรีขึ้น ไม่เป็นเหลี่ยมกว่าเดิม
    • มัดหางม้ารวบตึง หรือผมทรงหวีเสยเรียบแปล้ อาจไม่เหมาะกับคนที่กลัวหัวเถิกหรือไม่มั่นใจในโครงหน้าของตัวเอง ส่วนผมหน้าม้าเหมาะกับการสร้างกรอบหน้า ไม่ว่าจะม้าตรงหรือม้าเบี่ยงก็ตาม ผมบ๊อบจะทำให้คอดูยาวขึ้น ส่วนมวยหรือบันทำให้ดูเรียบหรู เหมือนเวลาเกล้าผมด้วยทรงต่างๆ แต่ถ้ามัดผมหางม้าก็ดูชิลๆ น่ารัก และร่าเริงดี
  6. Watermark wikiHow to จัดแต่งทรงผม
    สำคัญมากว่าควรลองทำผมทรงนั้นก่อนตัดสินใจ โดยเฉพาะก่อนลงมือเปลี่ยนแปลงแบบถาวร อาจจะทำแล้วถ่ายรูป จะได้เห็นภาพว่าออกมาเป็นยังไง
    • เช่น ลองใช้แกนม้วนผมดู 2 - 3 ครั้งก่อนดัดจริง อีกทีคือหาวิกทรงหรือสีคล้ายๆ กันมาใส่
    • ย้อมผมชั่วคราวก่อนย้อมจริงที่ร้าน หรือหาผมม้าปลอมแบบกิ๊บมาติดดู ไม่ก็ต่อผมแล้วใช้กรรไกรตัด หรือจะไว้ยาวก็ได้
    • มีหลายเว็บเลยที่ให้คุณอัพโหลดรูปตัวเองแล้วลองเปลี่ยนทรงผมดูได้ ว่าถ้าตัดแบบนั้นจริงๆ จะออกมาหน้าตายังไง [5] คุณอยากให้คนเห็นทรงผมแล้วคิดว่าคุณเป็นคนยังไง อย่างถ้าทรงออกธรรมชาติ ไม่เนี้ยบมาก แสดงว่าคุณเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ถ้าอยากดูเฮี้ยวๆ หน่อย ก็อาจจะทำสีหรือกระทั่งโกน/ไถหัว
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

จัดแต่งทรงผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. Watermark wikiHow to จัดแต่งทรงผม
    ที่คนนิยมใช้กันก็เช่น แว็กซ์หรือมูส ถ้าอยากให้ผมอยู่ทรง ก็ต้องใช้พวกเซรั่มป้องกันผมหยิกหรือชี้ฟู ถ้าผมบางก็เน้นเพิ่มวอลลุ่ม หรือใช้สเปรย์ฉีดผม
    • dry shampoo นี่แหละที่ควรมีติดบ้านหรือกระเป๋าไว้ จะได้เพิ่มวอลลุ่มและ texture หรือใช้ปกปิดผมเหนียวผมมันชั่วคราว ถ้ากลืนกันกับสีผมของคุณ
    • เลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีและปลอดภัย ไม่เน้นถูก เพราะแตกต่างแน่นอนทั้งผลที่ได้ สัมผัส และกลิ่น และอย่าใช้มากเกินไป เพราะอาจทำให้ผมดูมันได้ พยายามใส่ที่เส้นผม อย่าไปใส่แถวรากผม และกระจายผลิตภัณฑ์ให้ทั่วๆ โดยแบ่งผมออกเป็นช่อๆ
    • ลองใช้ accessories ต่างๆ อย่างผ้าคาดผมนี่เหมาะกับผมสั้นมากๆ เลย! ถ้าผ้าคาดผมหนาหน่อยก็ใช้ซ่อนผมที่เริ่มมันหรือผมม้าชี้โด่ชี้เด่ได้เลย อีกทีคือติดกิ๊บหรือผูกโบว์เป็นหางม้าหรือบัน
  2. ใครๆ ไม่ว่าหนุ่มๆ หรือสาวๆ ก็ชอบผมที่ใช้นิ้วมือสางได้ตามธรรมชาติทั้งนั้น เพราะงั้นจัดทรงได้ แต่อย่าให้แห้งกรอบหรือเหนียวมัน ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ให้ถูก และใช้แต่พอดี
    • ใช้แว็กซ์คุณภาพดี ถ้าอยากจัดทรงให้ดูดีและปลอดภัย ก็ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดีๆ และใช้แค่น้อยๆ ถูมือวอร์มแว็กซ์ก่อน แล้วลงให้ทั่วผมค่อยจัดทรง
    • สำหรับหนุ่มๆ ที่อยากได้ผมแหลมๆ ชี้ๆ ดูเถื่อนๆ หน่อย ก็ให้ใช้แว็กซ์หรือเจลที่ไม่ทำให้ผมแข็งโป๊ก จะดูเป็นธรรมชาติกว่า ให้บีบใส่มือแล้วปาดให้ทั่ว จากนั้นเอาไปใส่ผม สางขึ้นข้างบน เหมือนหวีเสยไปกลางกระหม่อม เท่านี้ผมก็ชี้ๆ แหลมๆ แล้ว ให้ลงแว็กซ์เป็นตัวจัดทรง แล้วเสยให้ผมพองๆ ข้างบน [6]
  3. ถ้าผมหยักศกหรือเป็นลอนนิดๆ อยู่แล้ว ก็ใช้วิธีนี้จัดทรงให้ยิ่งเป็นลอนสวยชัดกว่าเดิม ถ้าอยากได้ beachy curls เป็นลอนคลาย ดูสบายๆ ก็ให้ฉีดสเปรย์ sea salt ใส่ผมหลังพรมไปบางๆ แล้ว ผมจะออกมาหนา เป็นลอนเบาๆ ดูเป็นธรรมชาติ [7]
    • ตอนเพิ่งสระผมเสร็จ ให้เช็ดผมให้แห้ง แล้วใส่มูส แต่อย่าใส่เยอะเกินไป ให้ก้มหน้าให้ผมห้อยลงแล้วค่อยใส่มูส จากนั้นขยี้ๆๆ
    • รอจนผมแห้งเองประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง สุดท้ายเป่าด้วยไดร์ลมเย็นความเร็วต่ำ ถ้าผมหนัก ลอนคลายเร็ว พอไดร์เสร็จให้ขยี้และยีผมแถวๆ โคน ทั้งที่ก้มหน้าอยู่
    • ฉีดสเปรย์ใส่ผม เป่าให้แห้งด้วยลมเย็น ความเร็วต่ำ พอเงยหน้าสะบัดผมกลับมาก็สวยแล้ว!!
  4. Watermark wikiHow to จัดแต่งทรงผม
    คุณดัดหรือม้วนผมด้วยความร้อนได้หลายวิธีด้วยกัน คือที่หนีบ/รีดผม แกนม้วนผม และ Velcro หรือโรลไฟฟ้า บางทีก็ต้องใช้ความร้อนช่วย ลอนถึงจะอยู่ทรง [8]
    • ถ้าจะใช้ที่หนีบผม ต้องฉีดสเปรย์กันความร้อนก่อน ถ้าผมหนา ให้แบ่งผมเป็น 2 ชั้น แล้วหนีบแยกทีละชั้น อย่าหนีบมากกว่า 1 นิ้ว (2.5 ซม.) และระวังอย่าให้ไหม้ผิว
    • ถ้าจะใช้แกนม้วนผม ก็ต้องฉีดสเปรย์กันความร้อนด้วยเช่นกัน จะม้วนไปต่างทิศทาง หรือทางเดียวกันทั้งหมดก็ได้ (ม้วนเข้าหรือออก) ขอแค่ปัดผมไปไว้หลังไหล่ให้หมด พอม้วนเสร็จแต่ละช่อก็หยิบมาไว้ด้านหน้า จะได้แยกส่วนกันชัดเจน ถ้าผมยาว ให้แบ่งช่อละ 1 นิ้ว แล้วค่อยๆ ม้วนไป อย่าให้ทับกัน
    • ห้ามม้วนผมเปียกๆ ด้วยแกนร้อนๆ เพราะผมเสียดีนัก ให้แบ่งผมเป็นช่อ แล้วแต่ว่าผมหนาแค่ไหน ให้แบ่งประมาณ 2 - 6 ช่อ โดยปล่อยมาม้วนทีละช่อ ที่เหลือติดกิ๊บไว้ข้างบน ยิ่งผมสั้นก็ยิ่งต้องแบ่งผมหลายช่อ ถ้าอยากได้ลอนเด้งๆ ก็ต้องแบ่งเป็น 10 - 12 ช่อ แต่ถ้าอยากได้ลอนหลวมๆ ใหญ่ๆ เป็นคลื่น แค่ 8 - 10 ช่อก็พอ ยังไงต้องทดลองกับผมตัวเองดู
  5. Watermark wikiHow to จัดแต่งทรงผม
    ทำบันหรือ ถักเปีย . ถือเป็นตัวเลือกจัดทรงแบบด่วนทันใจ แต่สวยเก๋ มีระดับ ที่สำคัญคือทำง่ายมาก
    • เวลาถักเปีย ให้แบ่งผมเป็น 3 ช่อ เอาช่อซ้ายมาทับช่องกลาง ดึงให้ตึง จากนั้นเอาช่อขวาไขว้มาทับช่อกลาง ดึงให้ตึง ไขว้ช่อซ้ายมาทับช่อกลาง ดึงให้ตึง แล้วทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถักต่อไม่ได้ [9]
    • ถ้าอยากมุ่นผมเป็นบันแบบง่ายและเร็ว ให้ใช้ยางรัดผม 2 เส้น กิ๊บดำ และแปรงหวีผม ขั้นแรกให้มัดผมหางม้า จากนั้นบิดเป็นเกลียว เอายางอีกเส้นมารัดเป็นบัน แล้วติดกิ๊บดำยึดไว้ตรงกลาง [10]
  6. ทรงง่ายๆ สำหรับคนผมเส้นเล็ก ก็คือปล่อยผม จับปอยผม 2 ปอยด้านหน้า แล้วมัดไปไว้ด้านหลัง ตามด้วยมงกุฎดอกไม้ที่ใส่แล้วดูดีมีสไตล์ อินดี้ผสมฮิปปี้ซะไม่มี ม้วนผมสไตล์นี้ถ้าใช้ความร้อนควรฉีดสเปรย์ก่อน
    • ทรงผมง่ายๆ สำหรับคนผมหนา ก็คือมัดครึ่ง ข้างหลังปล่อยผม คือรวบผมด้านหลังครึ่งเดียวเป็นหางม้า ที่เหลือปล่อยตามปกติ ถ้ามีผมหน้าม้าก็ปล่อยไว้ น่ารักน่าเอ็นดู
    • วิธีจัดทรงแบบง่ายๆ สำหรับคนผมหยิกหรือหยักศก คือหางม้า 2 ชั้น โดยเริ่มจากรวบผมมาครึ่งหนึ่ง มัดหางม้า จากนั้นรวบผมที่เหลือเป็นหางม้าที่ 2 ข้างใต้ แบบนี้ผมจะดูยาวและหนาขึ้น ถ้าโพกผ้าหรือใช้ผ้าคาดผมก็ยิ่งดูดีมีสไตล์
  7. Watermark wikiHow to จัดแต่งทรงผม
    ถึงจะย้ำอยู่ตลอดว่าต้องระวังเวลาจัดทรงด้วยความร้อน แต่บอกเลยว่าถ้าใช้ไดร์เป่า จะช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ผมได้ [11]
    • เวลาจะ เป่าผมให้แห้ง ให้ใส่มูสเพิ่มวอลลุ่ม 1 ฝ่ามือ จากนั้นขยี้ไปในโคนผมให้ทั่วๆ สุดท้ายใช้ไดร์เป่าแบบก้มหัวลง อย่าลืมขยี้จากปลายไปถึงโคนผมด้วยระหว่างไดร์
    • พ่นสเปรย์ที่โคนผมเล็กน้อยตอนก้มหัว จะได้คงวอลลุ่มที่อุตส่าห์เพิ่มไปตลอดวัน ลองใช้หวีสางผมไม่ให้พันกัน (tangle teaser) มาใช้ดู นอกจากหวีง่ายแล้วผมยังเงางาม ปิดท้ายด้วยน้ำมันผมนิดหน่อย เพื่อเพิ่มมิติให้ผมเงาสวยยิ่งขึ้น
    • สำหรับสาวๆ ที่ผมตรง แล้วอยากได้ผมเป็นลอนหลวมๆ ให้อาบน้ำ สระผม แล้วลงครีมนวดตามปกติ ใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง จากนั้นรวบเป็นบันกลางกระหม่อมแล้วเข้านอน พอตื่นมารับรองได้ผมสวยมีวอลลุ่ม
    • สำหรับสาวๆ ที่ผมหยิกชี้ฟู ให้หาเครื่องลดความชื้น (dehumidifier) มาไว้ในห้อง ที่สำคัญคือห้องต้องเย็น อาบน้ำอย่างน้อย 2 ชั่วโมงก่อนนอน ผมจะได้แห้งสนิทก่อนนอน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อย่าสระผมบ่อยเกินไป เพราะผมจะสูญเสียน้ำมันผมตามธรรมชาติได้ ทีนี้หนังหัวก็เร่งขับน้ำมันจนผมเหนียวไปหมด ให้สระผมอาทิตย์ละ 3 ครั้ง ให้ผมไม่มันแต่ก็ไม่แห้งกรอบ หลายคนก็ว่าผมจัดทรงง่ายจัง เวลายังไม่ได้สระเนี่ย
  • ถ้าอยากให้ผมอยู่ทรง ลองฉีดสเปรย์ดู แต่ผมแต่ละคนก็ต่างกันไป ถ้าใครผมเส้นเล็กก็ต้องฉีดมากกว่าคนผมเส้นหนา ถ้าผมเส้นเล็กแล้วอยากจะดัดหรือม้วนผมให้อยู่ทรง ก็ต้องรีบฉีดสเปรย์ทันที
  • เลือกทรงผมที่จัดแต่งง่าย และอย่าจัดทรงให้เว่อร์วังอลังการเกินเหตุ
  • เปลี่ยนปลอกหมอนบ่อยๆ ผมจะได้ไม่มัน
  • ใช้ปลอกหมอนผ้าไหม ใครผมหยิกจะได้ไม่ชี้ฟู
  • ถ้าผมเหนียว/มัน ให้ใช้ dry shampoo
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,813 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา