ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ทุกวันนี้ตลาดอนุญาตให้นักลงทุนทั่วๆ ไปสามารถซื้อขายสกุลเงินต่างๆ ของโลกได้แล้ว ซึ่งการซื้อขายเหล่านี้มักเกิดขึ้นผ่านโฟเร็กซ์ (Forex) ซึ่งเป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างๆ แบบออนไลน์ โดยจะเปิดให้บริการสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 24 ชม. [1] ถ้าคุณมีความรู้เกี่ยวกับตลาด แล้วก็มีโชคอีกนิดหน่อย แค่นี้คุณก็สามารถซื้อขายเงินตราสร้างรายได้ให้ตัวเองได้แล้ว

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เรียนรู้เกี่ยวกับการซื้อขาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สำรวจอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่คุณต้องการซื้อ โดยเทียบจากสกุลเงินที่คุณต้องการขาย. คอยดูว่าคู่ของสกุลเงินที่คุณเลือกมีความผันผวนอย่างไรในแต่ละช่วง
    • อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินจะอ้างอิงกันเป็นคู่สกุลเงิน ค่าอ้างอิงของอัตราแลกเปลี่ยนจะเป็นตัวบอกว่าคุณจะได้รับสกุลเงินนั้นกี่หน่วยเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่คุณต้องการขาย เช่น ค่าอ้างอิงของดอลล่าร์สหรัฐ ต่อ ยูโร (USD/EUR) มีค่าเท่ากับ 0.91 หมายความว่า คุณจะได้รับเงิน 0.91 ยูโร ต่อ ทุกๆ ดอลล่าร์สหรัฐที่คุณขายไป [2]
    • ค่าของสกุลเงินผันผวนอยู่บ่อยๆ จากเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความไม่มั่นคงทางการเมือง ไปจนถึงภัยธรรมชาติ คุณควรรู้ว่าอัตราส่วนระหว่างแต่ละสกุลเงินมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา [3]
  2. การที่คุณจะสร้างกำไรได้นั้น คุณต้องซื้อสกุลเงินที่คุณคิดว่าจะมีมูลค่ามากขึ้น (base currency) โดยใช้สกุลเงินที่คุณคิดว่าจะมีค่าลดลง (quote currency) เช่น ถ้าคุณคิดว่าสกุลเงิน ก ซึ่งปัจจุบันมีค่าเท่ากับ 1.5 ดอลล่าร์ จะมีค่าเพิ่มขึ้น คุณสามารถซื้อ "call contract" ของสกุลเงิน ก ในปริมาณหนึ่ง และถ้ามูลค่าของมันเพิ่มขึ้นเป็น 1.75 ดอลล่าร์ คุณก็ได้กำไร [4]
    • ประเมิณความเป็นไปได้ที่สกุลเงินจะมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าไปมาก ยิ่งประเทศนั้นมีเศรษฐกิจที่ดีมากขึ้นเท่าไหร สกุลเงินก็จะมีเสถียรภาพหรือมีมูลค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศอื่น
    • ปัจจัยอื่น เช่น อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ หนี้สาธารณะ และความมั่นคงทางการเมือง สามารถมีผลต่อมูลค่าของสกุลเงินได้ [5]
    • ความเปลี่ยนแปลงในปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภคในประเทศ (CPI) และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สามารถบอกได้ว่าค่าของสกุลเงินนั้นกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป [6]
  3. การซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศมีโอกาสที่จะเกิดปัญหาได้ง่าย แม้กับนักลงทุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญก็ตาม นักลงทุนหลายคนใช้ leverage (อัตราทด) หรือการยืมเงินเพื่อช่วยให้พวกเขาซื้อสกุลเงินได้มากขึ้น เช่น ถ้าคุณต้องการซื้อสกุลเงินหนึ่งโดยใช้เงินจำนวน 10,000 บาท และคุณสามารถยืมเงินได้ในอัตรา leverage ที่ 200:1 ดังนั้นคุณมีเงินฝากในบัญชีมาร์จิ้นเพียงแค่ 100 บาทก็ซื้อได้ [7] แต่ถ้าการซื้อขายนั้นไปในทางที่แย่ลง คุณจะไม่จบแค่เสียเงินของคุณไป แต่ยังติดหนี้โบรกเกอร์มหาศาล มากกว่าที่คุณลงทุนในหุ้น หรือการซื้อขายฟิวเจอร์เสียอีก
    • นอกจากนี้ การจัดสรรว่าควรซื้อสกุลเงินครั้งละเท่าไร และเมื่อไรที่ควรซื้อก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นกัน ราคาของสกุลเงินมีการขึ้นลงอย่างรวดเร็ว บางครั้งใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น [8]
    • เช่น ในปี พ.ศ. 2554 ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ เมื่อเทียบเงินเยนของญี่ปุ่นหล่นลงถึง 4% ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุด และกลับเพิ่มสูงขึ้น 7.5% ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง
    • ด้วยเหตุผลนี้เอง มีการซื้อขายที่เกิดจากนักลงทุน "รายย่อย" เพียง 30% เท่านั้นที่ทำกำไรได้ [9]
  4. เพื่อให้คุณเข้าใจกลไกของการซื้อขาย
    • เว็บไซต์อย่าง FXCM อนุญาตให้คุณจำลองการลงทุนในสกุลเงินได้ และสามารถฝึกการซื้อขายสกุลเงินด้วยเงินจำลองก่อน [10]
    • อย่าพึ่งเริ่มซื้อขายในตลาดจริงก่อนที่คุณจะสามารถทำเงินจากบัญชีจำลองของคุณได้อย่างต่อเนื่อง
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ซื้อและขายสกุลเงิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. คุณต้องใช้เงินนี้เพื่อแปลงเป็นเงินในสกุลอื่น
    • รวบรวมเงินสดโดยการขายทรัพย์สินอื่นๆ ของคุณ เช่น ขายหุ้น พันธบัตร กองทุนรวม หรือถอนเงินออกจากบัญชีออมทรัพย์
  2. โดยปกติแล้ว นักลงทุนรายย่อยจะใช้บริการของโบรกเกอร์เพื่อส่งคำสั่งซื้อขายสกุลเงิน
    • ออนไลน์โบรกเกอร์อย่าง OANDA มีแพลทฟอร์มสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ใช้งานง่าย เรียกว่า fxUnity เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการซื้อหรือขายสกุลเงินต่างชาติ [11]
    • บริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์ Forex.com และ TDAmeritrade อนุญาตให้คุณซื้อขายได้ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา (Forex) ได้ด้วย
  3. โบรกเกอร์สำหรับซื้อขายสกุลเงินจะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่านายหน้าเพิ่ม แต่จะมีรายได้จากส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขายเงินสกุลหนึ่ง
    • ยิ่งส่วนต่างสูงเท่าไร คุณก็ต้องจายเงินให้โบรกเกอร์สูงเท่านั้น เช่น บริษัทโบรกเกอร์หนึ่งอาจจะซื้อเงิน 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ในราคา 0.8 ยูโร แต่ขาย 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ในราคา 0.95 ยูโร นั่นคือมีส่วนต่างที่ 0.15 ยูโร [12]
    • ก่อนที่จะสมัครบัญชีกับโบรกเกอร์ใดๆ ลองเช็กเว็บไซต์ของโบรกเกอร์หรือของบริษัทแม่ เพื่อดูให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์นั้นได้เป็นสมาชิกของ Futures Commission Merchant และได้รับการดูแลควบคุมโดย Commodity Futures Trading Commission.
  4. เริ่มต้นการแลกเปลี่ยนสกุลเงินกับโบรกเกอร์ของคุณ. คุณควรสามารถติดตามผลของการลงทุนของคุณด้วยโปรแกรมภาพหรือจากแหล่งอื่นๆ อย่า "ซื้อเกินตัว" หรือซื้อสกุลเงินมากเกินไปในครั้งเดียว ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าในการซื้อขายสกุลเงินแต่ละครั้งควรลงทุนด้วยเงินไม่เกิน 5% - 10% ของเงินในบัญชีทั้งหมดของคุณ [13]
    • ให้ความสนใจกับแนวโน้มของอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินก่อนที่จะทำธุรกรรม หากคุณซื้อขายตามแนวโน้มคุณจะมีโอกาสทำเงินได้มากกว่าการซื้อขายในทางตรงข้ามกับแนวโน้ม
    • เช่น หากค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินยูโรมีค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ถ้าคุณไม่มีเหตุผลที่ดีพอมาแย้งได้ คุณก็ควรขายเงินยูโรและซื้อเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ [14]
  5. คำสั่งตัดการขาดทุนเป็นส่วนที่จำเป็นมากในการซื้อขายสกุลเงิน เพราะคำสั่งตัดการขาดทุนจะทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น ขายสิ่งที่คุณซื้อมาเมื่อราคาลงมาถึงจุดที่กำหนดไว้ เพื่อเป็นการจำกัดการขาดทุนที่คุณจะได้รับหากสกุลเงินที่คุณซื้อมาเริ่มจะดำดิ่ง [15]
    • เช่น คุณซื้อสกุลเงินเยนมาด้วยดอลล่าร์สหรัฐ โดย 1 ดอลล่าร์ฯ ได้เงินเยนมา 120 เยน คุณสามารถกำหนดจุดตัดขาดทุนที่ราคาใดราคาหนึ่งได้ เช่น เมื่อ 1 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ลดค่าลงมาที่ 115 เยน
    • คำสั่งตรงข้ามกับคำสั่งตัดขาดทุนก็คือ คำสั่ง "ทำกำไร" ซึ่งจะถูกตั้งไว้ให้ขายอัตโนมัติเมื่อคุณมีกำไรถึงจุดหนึ่ง เช่น คุณอาจจะตั้งคำสั่งทำกำไรให้ขายโดยอัตโนมัติเมื่อ 1 ดอลล่าร์มีค่าสูงขึ้นไปถึง 125 เยน ซึ่งเป็นการการันตีว่าคุณจะได้กำไรจากการขายตามคำสั่งนี้
  6. ในบางประเทศ คุณอาจต้องใช้บันทึกนี้ในการยื่นภาษีรายได้ประจำปี
    • บันทึกราคาที่คุณซื้อสกุลเงิน ราคาขาย และวันที่ที่คุณทำการซื้อและขายสกุลเงิน
    • บริษัทโบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะส่งรายการเดินบัญชีประจำปีที่มีข้อมูลการซื้อขายเหล่านี้มาให้กับคุณ ในกรณีที่คุณไม่ได้จดไว้เอง
  7. โดยทั่วไปแล้วการซื้อขายสกุลเงินนั้นอันตรายมาก ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าคุณควรจำกัดปริมาณการซื้อขายสกุลเงินของคุณให้อยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำเมื่อเทียบกับพอร์ทเงินลงทุนทั้งหมดของคุณ [16]
    • ถ้าคุณเลือกผิดทาง เหมือนที่นักลงทุนรายย่อย 70% เลือกผิด การจำกัดปริมาณเงินที่คุณใช้ในการซื้อขาย และจำนวนเงินที่คุณลงทุนไปในพอร์ทซื้อขายสกุลเงินจะช่วยลดความเสียหายได้
    โฆษณา

คำเตือน

  • หลีกเลี่ยงการซื้อขายสกุลเงินที่มีความผันผวนมาก ถ้าคุณมีข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตจะทำให้คุณสามารถสร้างกลยุทธ์ในการซื้อขายให้เกิดกำไรได้ แต่คนที่ซื้อขายด้วยลางสังหรณ์หรืออารมณ์มักจะเสียเงิน
  • อย่าซื้อขายสกุลเงินมากเกินกว่าที่คุณจะรับการขาดทุนได้ จำไว้ว่าการซื้อขายสกุลเงินก็เหมือนกับการพนันไม่ว่าคุณจะมีข้อมูลที่ดีและมีกลยุทธ์การลงทุนที่แข็งแรงขนาดไหน ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าตลาดจะไปในทิศทางไหน
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 27,239 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา