ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการติดตั้ง Java Runtime Environment (JRE) เวอร์ชั่นล่าสุดในคอมที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux
ขั้นตอน
-
คลิก Linux . ที่เป็นลิงค์กลางหน้า เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง Java ลงคอม
- หรือคลิกเวอร์ชั่น Linux X64 ถ้าจะติดตั้ง Java แบบ 64-bit
-
จดชื่อไฟล์ไว้. Java เวอร์ชั่นล่าสุดคือ 8 แต่ก็ต้องอัพเดทเลขเวอร์ชั่น ที่จะเขียนในชื่อไฟล์ ต่อท้าย "8u"
- เช่น ไฟล์ชื่อ "jre-8u151" แปลว่าเป็นเวอร์ชั่น 8 อัพเดท 151
-
เปิด command line. ขั้นตอนนี้จะต่างกันไปตาม Linux เวอร์ชั่นที่คุณใช้ แต่ปกติจะหา command line ได้โดยเปิดแอพ Terminal หรือคลิกแถบด้านบนหรือด้านล่างของหน้าจอ
-
เปลี่ยน directory ที่จะติดตั้ง. พิมพ์ cd ในคอนโซล กด spacebar หนึ่งครั้ง แล้วพิมพ์ path เช่น /usr/java/ แล้วกด ↵ Enter
-
พิมพ์คำสั่งติดตั้ง. พิมพ์ tar zxvf กด spacebar 1 ครั้ง แล้วพิมพ์ชื่อไฟล์เต็มๆ ซึ่งจะต่างกันไปตามเวอร์ชั่น Java และว่าคุณดาวน์โหลดมาเมื่อไหร่
- ตั้งแต่ตุลาคม 2560 เป็นต้นมา ให้พิมพ์ tar zxvf jre-8u151-linux-i586.tar
-
กด ↵ Enter . เพื่อติดตั้ง Java ในโฟลเดอร์ "jre1.8.0_[update]" ของคอม โดยที่ตรง "[update]" ก็คือเลขอัพเดทของเวอร์ชั่นนั้น (เช่น 151)โฆษณา
-
คลิก Linux RPM . กลางหน้า เพื่อดาวน์โหลดไฟล์ติดตั้ง Java แบบ RPM
- หรือคลิกเวอร์ชั่น Linux RPM X64 ถ้าจะติดตั้ง Java แบบ 64-bit
-
จดชื่อไฟล์ไว้. Java เวอร์ชั่นล่าสุดคือ 8 แต่ก็ต้องอัพเดทเลขเวอร์ชั่น ที่จะเขียนในชื่อไฟล์ ต่อท้าย "8u"
- เช่น ไฟล์ชื่อ "jre-8u151" แปลว่าเป็นเวอร์ชั่น 8 อัพเดท 151
-
เปิด command line. ขั้นตอนนี้จะต่างกันไปตาม Linux เวอร์ชั่นที่คุณใช้ แต่ปกติจะหา command line ได้โดยเปิดแอพ Terminal หรือคลิกแถบด้านบนหรือด้านล่างของหน้าจอ
-
ป้อนคำสั่ง root. พิมพ์ sudo su กด ↵ Enter แล้ว command line จะถามหารหัสผ่านผู้ใช้ [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
ป้อนรหัสผ่านที่ใช้กับบัญชีผู้ใช้. พิมพ์รหัสผ่านของบัญชีผู้ใช้ของคุณ แล้วกด ↵ Enter ขอแค่บัญชีคุณมี root access ก็จะมีสิทธิ์ติดตั้ง Java
- ถ้าบัญชีคุณไม่มี root access ก็ต้องใส่รหัสผ่านของบัญชีที่มี root access แทน
-
เปลี่ยน directory ที่จะติดตั้ง. พิมพ์ cd ในคอนโซล กด spacebar หนึ่งครั้ง แล้วพิมพ์ path เช่น /usr/java/ แล้วกด ↵ Enter
-
พิมพ์คำสั่งติดตั้ง. พิมพ์ rpm -ivh กด spacebar 1 ครั้ง แล้วพิมพ์ชื่อไฟล์เต็มๆ จากนั้นกด ↵ Enter เพื่อติดตั้ง Java ลงคอม
- ชื่อไฟล์จะต่างกันไป แล้วแต่ว่าคุณดาวน์โหลดมาเมื่อไหร่ ตั้งแต่ตุลาคม 2560 เป็นต้นมา ให้พิมพ์ rpm -ivh jre-8u151-linux-i586.rpm แล้วกด ↵ Enter
-
9อัพเกรดเวอร์ชั่นที่ดาวน์โหลดมา. พิมพ์ rpm -Uvh jre-8u73-linux-i586.rpm แล้วกด ↵ Enter เพื่อเช็คอัพเดทใหม่ของ Java package ถ้ามีก็อัพเกรดเลยโฆษณา
-
เปิด command line. กด Ctrl + Alt + T ที่คีย์บอร์ด หรือคลิกไอคอนกล่องสีดำที่มี ">_" สีขาวด้านบน ปกติอยู่ทางซ้ายของหน้าจอ
-
พิมพ์คำสั่งอัพเดท. พิมพ์ sudo apt-get update && sudo apt-get upgrade -y แล้วกด ↵ Enter เพื่อรีเฟรช package list แล้วติดตั้งอัพเดททั้งหมดที่มี
-
พิมพ์รหัสผ่านถ้าจำเป็น. ถ้ามีให้ใส่รหัสผ่านผู้ใช้ ก็พิมพ์ไป แล้วกด ↵ Enter
-
เช็คก่อนว่าไม่ได้ติดตั้ง Java ในคอมไว้แล้ว. พิมพ์ java -version แล้วกด ↵ Enter ถ้ามีข้อความขึ้นมาว่า "The program 'java' can be found in the following packages" แสดงว่ายังไม่ได้ติดตั้ง Java ในคอม
- ถ้าติดตั้ง Java ไว้แล้ว จะเห็นข้อความรายงาน Java เวอร์ชั่นล่าสุดแทน
-
พิมพ์คำสั่งติดตั้ง. พิมพ์ sudo apt-get install default-jre ใน command line แล้วกด ↵ Enter เพื่อติดตั้ง Java ใน default directory ของคอม Ubuntu
- ถ้าไม่ได้ผล ให้ลองพิมพ์ sudo apt-get install openjdk-8-jdk แทน
โฆษณา
-
ย้ำกันก่อนว่าเป็น 3rd party package ตัดจัดการเวอร์ชั่นของคุณจะตรวจติดตาม package นี้ไม่ได้ เพราะงั้นต้องใช้อย่างระวัง. ถ้าแน่ใจแล้วให้เปิด terminal โดยกด Ctrl + Alt + T
-
เช็คว่าอัพเดทระบบแล้ว. พิมพ์ sudo apt-get update && sudo apt-get upgrade -y อาจจะมีให้ใส่รหัสผ่านด้วย ก็ให้พิมพ์แล้วกด ↵ Enter ปกติจุดและดอกจันจะไม่ขึ้น ไม่ต้องตกใจ
- ถึงไม่ใช่ขั้นตอนบังคับ แต่ก็แนะนำให้ทำทุกครั้งก่อนติดตั้งอะไรก็ตาม ระบบจะได้อัพเดทอยู่เสมอ ไม่มีปัญหาต่างๆ เวลาใช้งาน
-
สร้าง PPA repository ในระบบ. พิมพ์ sudo add-apt-repository ppa:webupd8team/java แล้วกด ↵ Enter
-
อัพเด package lists อีกรอบ. พิมพ์ sudo apt-get update แล้วรอจนรีเฟรชรายการเสร็จ
-
ติดตั้ง package. พิมพ์ sudo apt-get install oracle-java9-installer -y
- อาจจะมีให้ใส่รหัสผ่าน ก็ให้พิมพ์แล้วกด ↵ Enter ปกติจุดและดอกจันจะไม่ขึ้น ไม่ต้องตกใจ
-
ตั้ง Java ของ Oracle เป็นค่าตั้งต้น. ใน Ubuntu เวอร์ชั่นต่างๆ OpenJDK จะเป็น default Java ที่ใช้งานเป็นหลัก ถ้าอยากให้ Java ของ Oracle เป็นค่า default ก็ต้องพิมพ์ sudo apt install oracle-java9-set-defaultโฆษณา
เคล็ดลับ
- จริงๆ แล้วคุณดาวน์โหลด Java ด้วยเมนูที่เห็นเป็นหน้าตา (เช่น GUI) ได้หลายวิธี แต่ขั้นตอนการติดตั้งจะเร็วกว่าเยอะถ้าใช้ command line
โฆษณา
คำเตือน
- ตอนนี้ Java ของ Oracle ใช้ใน Ubuntu ไม่ได้แล้ว ให้ใช้ OpenJDK แทน (เป็นเหมือนเวอร์ชั่นฟรีของ Oracle Java)
- Oracle ไม่ได้ทำ .deb packages ถ้าเห็น .deb packages ของ Oracle's Java เมื่อไหร่ แสดงว่าเป็น 3rd party ระวังจะเป็นอันตรายต่อระบบ
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,625 ครั้ง
โฆษณา