ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

การปั่น สมูตตี้ น่าจะเป็นหนึ่งในวิธีรับประทานผักหรือผลไม้ที่อร่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ โชคดีที่จริงๆ แล้วคุณสามารถทำสมูตตี้แสนอร่อยได้โดยไม่ต้องใช้สูตร ดูว่าคุณมีอะไรอยู่บ้างและคุณอยากได้สมูตตี้รสชาติแบบไหน เช่น ปั่นโยเกิร์ตกับพีชถ้าคุณอยากได้สมูตตี้เนื้อครีม หรือใส่เนยถั่วลิสงลงไปด้วยถ้าคุณอยากได้เครื่องดื่มโปรตีนสูง ใช้วัตถุดิบทดแทนได้ตามใจชอบ แล้วดื่มสมูตตี้ที่คุณดัดแปลงเองให้จุใจ!

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ทำสมูตตี้ตามใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ) ลงในเครื่องปั่น. ถ้าคุณเติมของเหลวลงในเครื่องปั่นก่อน เครื่องปั่นก็จะสามารถปั่นวัตถุดิบเป็นเนื้อเดียวกันได้ง่ายขึ้น แม้ว่าโดยทั่วไปจะนิยมใช้นมและน้ำผลไม้เป็นของเหลวในสมูตตี้ แต่คุณก็สามารถใช้น้ำเปล่า กะทิ โยเกิร์ต หรือนมที่ไม่ใช่นมวัว เช่น นมถั่วเหลือง นมกัญชง หรือนมอัลมอนด์ได้ด้วย [1]

    ถ้าคุณอยาก ลดความหวานของสมูตตี้ คุณก็สามารถใช้ชาเย็น น้ำผัก หรือน้ำผลไม้กับน้ำเปล่าอย่างละครึ่งก็ได้

  2. Watermark wikiHow to ทำสมูทตี้
    ) ลงในเครื่องปั่น. สมูตตี้ส่วนใหญ่จะใส่ผลไม้ลงไปด้วย คุณจะเลือกผลไม้ชนิดเดียวหรือหลายชนิดผสมกันก็ได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถเลือกได้ด้วยว่าจะใช้ผลไม้สดหรือผลไม้แช่แข็ง ผลไม้แช่แข็งจะทำให้สมูตตี้ข้นขึ้นเล็กน้อย เพราะฉะนั้นเวลาปั่นก็อาจจะไม่ต้องใส่น้ำแข็งลงไป จำไว้ว่าผลไม้บางชนิด เช่น กล้วยหรือมะม่วงนั้นหวานมากจนคุณอาจจะไม่ต้องใส่สารให้ความหวานใดๆ เพิ่มเติม ลองนำผลไม้ดังต่อไปนี้มาทำสมูตตี้: [2]
    • เบอร์รี : สตรอว์เบอร์รี บลูเบอร์รี ราสป์เบอร์รี แบล็กเบอร์รี
    • ผลไม้ตระกูลส้ม : ส้ม เกรปฟรุต
    • ลูกแพร์
    • ผลไม้เมล็ดแข็ง : ลูกพีช ลูกพลัม เนคทารีน เชอร์รี
    • มะม่วง
    • กล้วย
    • มะละกอ

    เคล็ดลับ : นำเปลือก ก้าน หรือเม็ดออกจากผลไม้ก่อนทุกครั้ง ถ้าคุณใช้ผลไม้ที่มีขนาดใหญ่ ให้หั่นเป็นชิ้นก่อนใส่ลงในเครื่องปั่น

  3. ใส่ผลิตภัณฑ์นมเพิ่มเติมหากคุณอยากให้สมูตตี้ข้นขึ้น. แทนที่จะใส่นมลงไปเพิ่มซึ่งจะยิ่งทำให้สมูตตี้เหลว ให้เติมกรีกโยเกิร์ตหรือโยเกิร์ตแช่แข็งลงไป 1 ถ้วยตวง กรีกโยเกิร์ตจะเพิ่มโปรตีนและทำให้สมูตตี้จับตัวกันได้ดีขึ้น ในขณะที่โยเกิร์ตแช่แข็งจะทำให้สมูตตี้ทั้งหมดกลายเป็นเนื้อครีมข้น
    • ทดลองโดยการใช้โยเกิร์ตรสชาติต่างๆ คุณอาจจะจับคู่โยเกิร์ตที่มีรสชาติเดียวกับผลไม้หรือจับคู่รสชาติที่เข้ากันก็ได้ เช่น คุณอาจจะใส่กรีกโยเกิร์ตรสพีชลงในสมูตตี้ลูกพีช หรือใส่โยเกิร์ตแช่แข็งรสช็อกโกแลตลงในสมูตตี้เนยถั่วลิสง
  4. ใส่เครื่องเทศ สมุนไพร หรือสารแต่งกลิ่นรสเพื่อให้ได้รสชาติแปลกใหม่. คุณจะได้รสชาติแสนอร่อยมากมายจากผลไม้ที่คุณใช้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องเทศลงไปอีกยกเว้นว่าคุณต้องการรสชาติแบบใดแบบหนึ่งเป็นพิเศษ เช่น ถ้าคุณอยากได้รสชาติเผ็ดร้อน ให้ใส่อบเชย ขิง ขมิ้น หรือกระวานเทศลงไป 2-3 หยิบมือ แต่ถ้าอยากได้รสชาติสมุนไพรชัดเจน ใส่สมุนไพรสด เช่น โหระพาหรือลาเวนเดอร์ลงไปสัก 1-2 ก้าน

    นอกจากนี้คุณยังสามารถ ใส่สารสกัดลงไป 2-3 หยด ได้ด้วย ลองใส่สารสกัดจากวานิลลา เลมอน สะระแหน่ หรืออัลมอนด์ลงไป

  5. Watermark wikiHow to ทำสมูทตี้
    เติมเนยถั่วลิสง ข้าวโอ๊ต หรือถั่วเปลือกแข็งลงในสมูตตี้เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่อยู่ท้อง. ถ้าคุณอยากเพิ่มโปรตีนในสมูตตี้ เติมเนยถั่วลิสงที่คุณชอบ โรลโอ๊ต หรือเต้าหู้ลงไป 1-2 ช้อน คุณอาจจะเพิ่มเนื้อสัมผัสแปลกใหม่ด้วยการผสมถั่วเปลือกแข็งหรือเมล็ดพืช เช่น เมล็ดเจีย เมล็ดแฟลกซ์ หรือเมล็ดทานตะวันลงไป 1 กำมือ
    • เมื่อคุณปั่นสมูตตี้แล้ว คุณอาจจะเพิ่มเนื้อสัมผัสที่ยิ่งไม่เหมือนใครลงไปอีก คุณอาจจะใส่ผลไม้แห้ง 1 กำมือ มะพร้าวอบ 2-3 ช้อน ช็อกโกแลตชิป 1 ช้อนตวงเล็ก หรือแครกเกอร์เกรแฮมป่น 1 กำมือคนลงในสมูตตี้ด้วย
  6. Watermark wikiHow to ทำสมูทตี้
    ถ้าคุณอยากเพิ่มโปรตีนในสมูตตี้แต่ไม่อยากให้รสชาติออกมาเหมือนเนยถั่วลิสง ให้ใส่ผงโปรตีนลงไป 2 ช้อนโต๊ะ (28 ก.) ผงโปรตีนจะละลายเป็นเนื้อเดียวกับสมูตตี้อย่างรวดเร็ว และถือเป็นโอกาสที่คุณจะได้ใส่อาหารเสริมชนิดผงที่คุณรับประทานอยู่ลงไปด้วย
    • เช่น ลองปั่นอาหารเสริมคอลลาเจนลงในสมูตตี้มื้อเช้า
  7. คุณสามารถเติมสารให้ความหวานชนิดใดก็ได้ที่คุณชอบเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับสมูตตี้ ถ้าคุณไม่อยากใช้น้ำตาลทั่วไป ลองใส่อินทาผลัมหรือมะเดื่ออบแห้ง ลูกพรุน หรือแอปริคอตลงไปสัก 2-3 ลูก หรือคุณจะโรยน้ำผึ้ง เมเปิลไซรัป หรือน้ำเชื่อมจากต้นอากาเวลงในสมูตตี้ก็ได้ [3]
    • ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าต้องใส่สารให้ความหวานเพิ่มแค่ไหน คุณอาจจะปั่นสมูตตี้ก่อนแล้วลองชิมดู วิธีนี้จะทำให้คุณรู้ว่าต้องใส่สารให้ความหวานมากแค่ไหน
  8. Watermark wikiHow to ทำสมูทตี้
    ). ถ้าคุณอยากได้สมูตตี้เนื้อข้น ให้เริ่มจากใส่น้ำแข็งลงไปอย่างน้อย 1 ถ้วย (220 ก.) ก่อนแล้วค่อยเพิ่มทีหลังตามต้องการ ถ้าคุณใช้ผลไม้แช่แข็ง คุณก็อาจจะไม่ต้องใส่น้ำแข็งลงไปอีกเพราะผลไม้แช่แข็งก็เหมือนเป็นน้ำแข็งอยู่แล้ว จำไว้ว่าถ้าคุณปั่นผลไม้สดโดยไม่ใส่น้ำแข็ง สมูตตี้ของคุณจะเหมือนน้ำผลไม้มากกว่า [4]
    • คุณสามารถนำวัตถุดิบสำหรับทำสมูตตี้ไปแช่แข็งเพื่อให้เครื่องดื่มจับตัวกัน เช่น แทนที่จะใช้เบอร์รีสด เปิดถุงเบอร์รีแช่แข็งแล้วเทลงในเครื่องปั่นเลย
  9. Watermark wikiHow to ทำสมูทตี้
    ปั่นไปเรื่อยๆ จนวัตถุดิบผสมกันเนียนละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันตามต้องการ จากนั้นเทสมูตตี้ลงในแก้วเสิร์ฟ 1-2 ที่แล้วยกดื่มได้เลย!
    • ถ้าคุณจำเป็นต้องเก็บสมูตตี้ส่วนที่เหลือ ให้เทลงในภาชนะที่ฝาปิดสนิทและแช่ไว้ในตู้เย็นได้ไม่เกิน 3 วัน หรือในช่องฟรีซไม่เกิน 8 เดือน จำไว้ว่าสมูตตี้จะเริ่มละลายเมื่อแช่ไว้ในตู้เย็นและคุณอาจจะต้องนำมาปั่นกับน้ำแข็งเพิ่มก่อนเสิร์ฟ ส่วนในการเสิร์ฟสมูตตี้แช่แข็งนั้น ให้เทใส่เครื่องปั่นแล้วปั่นจนกว่าเนื้อจะเนียน

    คุณสามารถ ตกแต่งสมูตตี้ด้วยผลไม้ที่เป็นวัตถุดิบ ได้ตามชอบ เช่น เสียบส้มหั่นแว่นไว้ตรงขอบแก้วถ้าคุณทำสมูตตี้จากผลไม้ตระกูลส้ม

  10. ใส่ผักถ้าคุณอยากได้สมูตตี้รสชาติสดชื่นที่ไม่หวานมาก. ลดปริมาณผลไม้ที่คุณใส่ลงไป โดยให้มีส่วนประกอบของผักผลไม้สดรวมกันทั้งหมด 2-3 ถ้วย (350 - 525 ก.) เช่น คุณอาจจะใช้ผลไม้ 1 ถ้วย (175 ก.) และผัก 1 ถ้วย (175 ก.) ผักใบเขียว เช่นผักปวยเล้งและเคลสามารถปั่นเป็นสมูตตี้ได้ง่าย [5]
    • หรือคุณจะใส่เซเลอรี แตงกวา หรือพริกหวานลงไปก็ได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ทำสมูตตี้ตามสูตร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ทำสมูตตี้ผลไม้ที่ดื่มแล้วกระปรี้กระเปร่าด้วยการใส่มะม่วงหั่น 3 ถ้วย (495 ก.) กับลูกพีชหั่น 2 ถ้วย (450 ก.) กรีกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย (285 ก.) นม ½ ถ้วย (120 มล.) และขิงขูด 1 ช้อนชา (2 ก.) จากนั้นลองชิมสมูตตี้แล้วเติมน้ำผึ้งจนกว่าจะได้ความหวานตามต้องการ [6]
    • ถ้าคุณอยากได้รสมินต์เล็กน้อย เติมใบสะระแหน่สดลงไป 4 ใบก่อนปั่น
    • เปลี่ยนไปใช้โยเกิร์ตประเภทอื่นตามใจชอบ เช่น ใช้โยเกิร์ตรสพีชเพื่อให้ได้รสชาติผลไม้เข้มข้น
  2. สมูตตี้รสหวานจากธรรมชาติสูตรนี้เป็นสมูตตี้ยอดนิยมเพราะใครๆ ก็ชอบ ใส่สตรอว์เบอร์รีแช่แข็ง 2 ถ้วย (300 ก.) กับกล้วยสด 1 ลูก นม 1 ถ้วย (240 มล.) น้ำแข็ง 1 ถ้วย (220 ก.) และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (21 ก.) คุณสามารถชิมรสชาติและเติมน้ำผึ้งเพิ่มได้ถ้ายังไม่ได้ความหวานตามที่ต้องการ [7]
    • ถ้าอยากให้ได้รสชาติสตรอว์เบอร์รีเข้มข้น ลองเปลี่ยนไปใส่นมสตรอว์เบอร์รีดูสิ!
    • ถ้าคุณชอบเบอร์รีเป็นชีวิตจิตใจ คุณก็สามารถทำสมูตตี้เบอร์รีอื่นๆ ได้เช่นกัน เช่น สมูตตี้เบอร์รีรวมและราสป์เบอร์รีชนิดต่างๆ
  3. ปั่นปวยเล้งรวมกับเบอร์รีเพื่อทำเป็นสมูตตี้ผักสูตรวีแกน. สมูตตี้คือเครื่องดื่มที่คุณสามารถแอบใส่ผักทั่วไปลงไปได้ ใส่ผักปวยเล้งสด 2 ถ้วย (450 ก.) ลงในเครื่องปั่นกับกล้วย แช่แข็ง 1 ลูก และเบอร์รีรวมแช่แข็ง ½ ถ้วย (50 ก.) จากนั้นเติมเมล็ดแฟลกซ์ 1 ช้อนโต๊ะ (7 ก.) เนยถั่วลิสงรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ (16 ก.) และนมพืช เช่น นมถั่วเหลืองหรือนมกัญชง ½ - ¾ ถ้วย (120 - 180 มล.) ก่อนนำไปปั่นเป็นสมูตตี้ [8]
    • ถ้าคุณไม่ชอบเมล็ดแฟลกซ์หรือเนยถั่วลิสงก็ไม่ต้องใส่ หรือจะใช้เนยหรือสเปรดถั่วชนิดอื่นๆ ที่ชอบก็ได้
    • ถ้าอยากให้สมูตตี้สูตรนี้ข้นขึ้น ให้เติมเนยถั่วลิสงเพิ่มครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ (16 ก.) แต่ถ้าอยากให้จางลง ผสมของเหลวลงไปครั้งละ 2-3 ช้อนโต๊ะ (30 - 44 มล.)
  4. ปั่นบลูเบอร์รีแช่แข็งกับกะทิเพื่อให้ได้สมูตตี้ที่ดื่มแล้วสดชื่น. สำหรับสมูตตี้ที่ไม่ใส่ผลิตภัณฑ์นม นม หรือกล้วยนั้น ให้ปั่นบลูเบอร์รี 1 ถ้วยครึ่ง (232 ก.) กับกะทิรสธรรมชาติ ½ ถ้วย (120 มล.) ใบสะระแหน่สด 1 ช้อนโต๊ะ (1 ก.) น้ำมะนาว 1 ช้อนชา (5 มล.) น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา (7 ก.) และน้ำแข็ง 1 ถ้วย (220 ก.) [9]
    • คุณจะใช้เบอร์รีชนิดไหนทำสมูตตี้สูตรนี้ก็ได้ เช่น ลองใช้แบล็กเบอร์รีหรือราสป์เบอร์รี

    ทางเลือกอื่น : เพื่อให้สมูตตี้สูตรนี้เป็นเนื้อครีมและอิ่มท้องมากขึ้น ให้เติมโยเกิร์ตรสธรรมชาติหรือรสผลไม้ ½ ถ้วยกับข้าวโอ๊ต 1 ช้อนโต๊ะ (6 ก.)

  5. ปั่นกาแฟเย็นกับนมเพื่อทำเป็นสมูตตี้โปรตีนรสกาแฟ. แทนที่จะดื่มกาแฟร้อนสักถ้วยในตอนเช้า ลองเปลี่ยนไปทำสมูตตี้กาแฟที่อยู่ท้อง ผสมกาแฟเย็น 1 ถ้วย (240 มล.) กับนมอัลมอนด์ 1 ถ้วย (240 มล.) กล้วย แช่แข็ง ½ ลูก โปรตีนผงรสช็อกโกแลตหรือวานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ (14 ก.) และน้ำแข็ง 2 ก้อน [10]
    • ถ้าคุณไม่ชอบนมอัลมอนด์ คุณก็สามารถเปลี่ยนไปใช้นมชนิดอื่นๆ เช่น นมวัว นมถั่วเหลือง นมโอ๊ต หรือนมกัญชงได้ตามใจชอบ
    • เพื่อให้ได้สมูตตี้ที่ดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้นไปอีก ให้เติมโรลโอ๊ต ¼ ถ้วย (22 ก.) ลงไปด้วย
  6. ปั่นผลไม้ตระกูลส้มกับมะม่วงและสับปะรดเพื่อให้ได้สมูตตี้สีเหลืองสดใส. ปอกเปลือกและหั่นส้ม 1 ลูกกับเลมอน ¼ ลูกออกเป็น 4 ส่วน ใส่ส้มกับเลมอนลงในเครื่องปั่นพร้อมกับสับปะรดหั่นชิ้น ½ ถ้วย (75 ก.) มะม่วงหั่นชิ้นแช่แข็ง ¼ ถ้วย (60 ก.) และน้ำแข็งก้อน 1 ถ้วย (220 มล.) ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดจนกว่าน้ำของส้มกับเลมอนจะออกมาและผสมเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน [11]
    • ถ้าคุณอยากให้สมูตตี้เป็นเนื้อครีมมากขึ้น ให้เติมโยเกิร์ตรสธรรมชาติหรือแต่งกลิ่น ½ ถ้วย (140 ก.) ลงไป
  7. ปอกเปลือกกล้วย 2 ลูกแล้วใส่ลงในเครื่องปั่นพร้อมกับเนยถั่วลิสงเนื้อละเอียด ¼ ถ้วย (62 ก.) นม ½ ถ้วย (120 มล.) โยเกิร์ตรสธรรมชาติหรือรสวานิลลา ½ ถ้วย (120 ก.) ผงโกโก้ 2 ช้อนโต๊ะ (14 ก.) และน้ำแข็ง ¾ ถ้วย (165 ก.) ปั่นส่วนผสมจนกว่ากล้วยจะละเอียดและเป็นเนื้อเดียวกัน [12]
    • ลองใช้เนยถั่วที่คุณชอบทำสมูตตี้สูตรนี้ คุณอาจจะเปลี่ยนไปใช้เนยอัลมอนด์ เฮเซลนัต หรือมะม่วงหิมพานต์แทนก็ได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ดื่มสมูตตี้ทันทีหลังจากปั่น เพราะสมูตตี้ส่วนใหญ่จะเริ่มแยกชั้นถ้าแช่ตู้เย็นไว้หลังปั่น
  • ถ้าคุณเป็นเบาหวานหรือจำกัดปริมาณน้ำตาล อย่าใส่สารให้ความหวาน เช่น น้ำผึ้งเพิ่มเติม จำไว้ว่าผลไม้จะแตกตัวเป็นน้ำตาลเมื่อร่างกายนำไปย่อย
  • คุณสามารถใช้สมูตตี้เป็นส่วนผสมหลักเวลาดื่มโทนิกรสเปรี้ยว เช่น น้ำส้มสายชูหมักจากมอลต์ได้
โฆษณา

คำเตือน

  • ระมัดระวังเวลาทำความสะอาดใบมีดในเครื่องปั่น เพราะมันหมุนง่ายและคมมาก
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • มีดและเขียง
  • เครื่องปั่น
  • ช้อน
  • แก้วเสิร์ฟ

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 21,089 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา