ดาวน์โหลดบทความ ดาวน์โหลดบทความ

ครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรประกอบด้วยสารเคมีรุนแรงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับครีมเปลี่ยนสีผมทั่วไปและไม่ทำร้ายเส้นผมของคุณจนเกิดความแห้งเสีย เพราะครีมเปลี่ยนสีผมชนิดนี้จะไม่แทรกซึมเข้าสู่แกนกลางเส้นผมแต่จะเพียงเคลือบอยู่บนเส้นผมเท่านั้นและหลุดลอกออกไปทีละน้อยทุกครั้งที่คุณสระผม และนอกจากจะปลอดภัยต่อเส้นผมและใช้งานได้ง่ายกว่าแล้ว ครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรยังมีโทนสีสว่างสดใสให้เลือกอย่างหลากหลายอีกด้วย หากคุณกำลังอยากเปลี่ยนลุคใหม่ให้ดูแตกต่างไปจากเดิม การลงมือทำสีผมด้วยครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว [1] [2]

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เลือกครีมเปลี่ยนสีผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรมีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ที่ต่างมาพร้อมกับโทนสีผมต่างๆ ให้เลือกมากมาย ซึ่งคุณสามารถหาซื้อครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรได้ทั่วไปตั้งแต่ซูเปอร์มาร์เก็ตไปจนถึงร้านอุปกรณ์ทำผมซึ่งมีตัวเลือกมากมายให้เลือกซื้อ เลือกสีผมที่คุณชื่นชอบ เหมาะกับสไตล์การแต่งตัว และ/หรือเข้ากับสีดวงตาและสีผมของคุณมากที่สุด ครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรสามารถใช้งานได้กับสีผมทุกสี ทั้งนี้ทั้งนั้นโทนสีจะออกมาดูสว่างมากกว่าบนพื้นผมสีอ่อนในขณะที่ผู้ที่มีผมสีเข้มเป็นพิเศษอาจเห็นเพียงประกายสีผมเล็กน้อย
  2. การฟอกสีผมเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้สีผมที่ทำออกมาดูสว่างยิ่งขึ้นไม่ว่าผมของคุณจะเป็นสีอะไร ดังนั้นสำหรับผู้ที่มีผมสีเข้มที่ต้องการทำสีสว่างสดใส คุณจำเป็นต้อง ฟอกสีผม ก่อนเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม จำไว้ว่าการฟอกสีผมอาจทำลายเส้นผมของคุณได้
  3. การทดสอบอาการแพ้ของผิวหนังเป็นวิธีง่ายๆ ที่สามารถใช้ตรวจหาอาการแพ้ด้วยตัวเองที่บ้าน ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะหากคุณลงมือทำสีผมทั้งศีรษะทันทีโดยที่ยังไม่ได้ทดสอบอาการแพ้เสียก่อน คุณอาจลงท้ายด้วยการมีอาการคันบนหนังศีรษะหรือสูญเสียเส้นผมอย่างถาวร
    • แตะครีมเปลี่ยนสีผมเล็กน้อยลงไปบนแผ่นก๊อซแบบมีกาวและปิดลงไปบนผิวหนังตรงบริเวณที่ไม่เกิดการแพ้ได้ง่ายหรือมักมีเสื้อผ้าปกปิดไว้ เช่น หลังส่วนบน
    • ปิดผ้าก๊อซไว้นานเท่ากับระยะเวลาที่คุณต้องการทิ้งครีมเปลี่ยนสีผมไว้บนเส้นผมของคุณ (โดยส่วนใหญ่คือ 1 ชั่วโมง)
    • ดึงผ้าก๊อซออกและล้างครีมเปลี่ยนสีผมออกให้สะอาด
    • รออีก 48 ชั่วโมงก่อนเริ่มลงมือทำสีผม
    • หยุดใช้ครีมเปลี่ยนสีผมดังกล่าวหากคุณมีอาการคัน รอยแดง หรือการบวมบนผิวหนังของคุณ หรือหากคุณรู้สึกคันในระหว่างที่ยังปิดผ้าก๊อซไว้ ให้คุณดึงผ้าก๊อซออกทันทีและถูให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำเปล่า [3]
  4. แบ่งช่อผมเล็กๆ ที่หลบอยู่ด้านในออกมาสักช่อหนึ่งและลองทดสอบทำสีผมบนช่อผมที่แบ่งออกมาตามขั้นตอนที่ระบุไว้ข้างขวดผลิตภัณฑ์ [4] อย่างไรก็ตาม คุณสามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้หากคุณไม่ได้สนใจมากนักว่าสีผมที่ทำออกมาจะได้ตรงตามชาร์ตสีหรือไม่ หากคุณไม่เคยฟอกสีผมมาก่อน คุณอาจจำเป็นต้องลองทดสอบกับช่อผมเล็กๆ ก่อนทั้งในการฟอกสีผมและการทำสีผม
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ลงมือทำสีผม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. สระผมด้วยแคลริฟายอิ้งแชมพูและเป่าผมให้แห้งสนิท. ตามปกติแล้วคุณควรหลีกเลี่ยงการเป่าผมให้แห้งด้วยไดร์เป่าผมเพราะอาจส่งผลให้เส้นผมของคุณแห้งเสียและถูกทำลายได้ อย่างไรก็ตาม ยิ่งคุณเป่าผมให้แห้งสนิทดีเท่าไหร่ สีผมก็จะสามารถแทรกซึมเข้าสู่เส้นผมได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้อย่าเพิ่งใช้ครีมนวดผมในตอนนี้และรอหมักผมด้วยครีมนวดผมทีเดียวหลังจากที่ทำสีผมเสร็จแล้ว
  2. ป้องกันผิวและเสื้อผ้าไม่ให้เปื้อนครีมเปลี่ยนสีผม. แม้ว่าครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรจะหลุดลอกออกไปจากเส้นผมในที่สุด แต่คราบสีย้อมผมกลับขจัดให้หลุดออกได้ค่อนข้างยากเมื่อเปื้อนติดพื้นผิวอื่นๆ อย่างผ้าประเภทต่างๆ โดยปกติแล้วคราบสีย้อมผมที่เปื้อนติดผิวสามารถล้างออกได้ไม่ยากนักด้วยการขัดถู แต่อาจต้องใช้เวลานานหลายวันกว่าที่คราบจะหลุดออกจนหมด ดังนั้นจึงแนะนำให้คุณป้องกันผิวและเสื้อผ้าไม่ให้เปื้อนครีมเปลี่ยนสีผมตั้งแต่แรกเพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องใช้แรงอย่างหนักในการทำความสะอาดในภายหลัง
    • สวมเสื้อผ้าที่คุณไม่กังวลหากเกิดรอยเปื้อน
    • นำผ้าขนหนูวางปูไว้บนพื้นตรงบริเวณในการลงมือทำสีผม
    • สวมถุงมือยาง
    • ใช้ปิโปรเลียมเจลลี่ทาบางๆ ตามแนวไรผม
  3. คุณสามารถทำสีผมเพียงโทนสีเดียวทั่วทั้งศีรษะหรือจะเลือกใช้โทนสีที่หลากหลายมาสร้างสรรค์สีผมด้วยเทคนิคต่างๆ เหล่านี้:
    • ไฮไลท์สีผมเป็นช่อๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มีผมสีเข้มจะนิยมเลือกใช้โทนสีที่อ่อนกว่าแซมเข้าไป
    • ทำสีผมเฉพาะส่วนปลายผมหรือที่เรียกว่า Dip dye เพราะมีลักษณะดูเหมือนกับการนำปลายผมจุ่มลงไปในถังสี โดยแบ่งส่วนของปลายผมที่ต้องการทำสีและหนีบไว้ด้วยกิ๊บหนีบผมพลาสติก คุณสามารถเลือกทำสีผมได้หลากหลายโทนสีสำหรับเทคนิคนี้
    • ครีมเปลี่ยนสีผม 2 โทนสีที่มียี่ห้อเดียวกันสามารถผสมเข้ากันได้โดยไม่มีปัญหา โดยคุณสามารถทำสีที่ปลายผมด้วยโทนสีหนึ่ง เลือกใช้อีกโทนสีหนึ่งสำหรับทำสีที่โคนผม และนำทั้งสองโทนสีมาผสมเข้ากันตรงจุดกึ่งกลางเพื่อทำสีผมแบบไล่สี
    • ลองไล่ระดับสีผมหลากหลายโทนสีให้เป็นสีรุ้งหรือทำสีผมให้เป็นลวดลายต่างๆ ด้วยการเว้นไม่ทำสีบนเส้นผมบางส่วน โดยคุณสามารถใช้ครีมนวดผมเล็กน้อยป้ายลงไปตรงจุดที่คุณไม่ต้องการทำสี
  4. ป้ายครีมเปลี่ยนสีผมหนาๆ ลงไปบนเส้นผมตรงจุดที่คุณต้องการทำสี ซึ่งวิธีการอาจแตกต่างกันไปตามเทคนิคการทำสีที่คุณเลือก:
    • หากต้องการทำสีผมเป็นบริเวณกว้างหรือทั่วทั้งศีรษะ คุณสามารถใช้มือทั้งสองข้างชโลมครีมเปลี่ยนสีผมลงไปบนเส้นผมได้เลย เริ่มจากบีบครีมเปลี่ยนสีผมลงบนฝ่ามือให้เต็มอุ้งมือและนวดเบาๆ ให้ทั่วศีรษะเหมือนกับการสระผมตามปกติ หากคุณไว้ผมยาว ให้คุณทำซ้ำ 2-3 ครั้งด้วยครีมเปลี่ยนสีผมในปริมาณมากขึ้นเพื่อให้กระจายบนเส้นผมได้อย่างทั่วถึง คุณยังสามารถใช้วิธีป้ายครีมเปลี่ยนสีผมเป็นช่อๆ ได้เช่นกันสำหรับผมที่หนา
    • หากต้องการทำสีผมเพียงบางส่วน ให้คุณใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างแปรงย้อมสีผมในการลงครีมเปลี่ยนสีผม เริ่มจากใช้แปรงย้อมสีผมจุ่มครีมเปลี่ยนสีผมและป้ายลงไปบนเส้นผม แปรงย้อมสีผมจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมทิศทางของสีผมได้ง่ายและแน่ใจว่าน้ำยาเคลือบบนเส้นผมอย่างสม่ำเสมอ ป้ายครีมเปลี่ยนสีผมลงบนเส้นผมทีละช่อซ้ำสัก 2-3 ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าน้ำยากระจายบนเส้นผมอย่างทั่วถึง
  5. ระยะเวลาที่เหมาะสมในการทิ้งน้ำยาไว้บนเส้นผมอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะกำหนดให้ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรไม่มีส่วนประกอบของสารเคมีรุนแรงที่อาจทำร้ายเส้นผมและผิวหนังเช่นเดียวกับครีมเปลี่ยนสีผมทั่วไป คุณจึงสามารถทิ้งระยะเวลาไว้ได้นานเท่าไรก็ได้โดยไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อเส้นผม หากคุณต้องการเดินออกไปจากบริเวณในการลงมือทำสีผมในระหว่างที่ทิ้งครีมเปลี่ยนสีผมไว้บนเส้นผม ให้คุณสวมหมวกคลุมอาบน้ำไว้เพื่อไม่ให้น้ำยาเลอะเทอะไปทั่ว
  6. การล้างครีมเปลี่ยนสีผมในซิงค์ล้างมือสามารถลดโอกาสการเปื้อนติดของน้ำยาบนผิวหนังได้แต่อาจเป็นวิธีที่ไม่สะดวกมากนัก หรือการล้างครีมเปลี่ยนสีผมในฝักบัวก็ไม่ทำให้เกิดการเปื้อนติดของน้ำยาบนผิวหนังเท่าไรนักแม้ว่าจะครีมเปลี่ยนสีผมโทนสีเข้มก็ตาม
    • เปิดน้ำให้ไหลผ่านเส้นผมเพื่อล้างครีมเปลี่ยนสีผมออกให้สะอาดหมดจด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณทิ้งน้ำยาไว้นานจนแห้งติดเส้นผม
    • ใช้แชมพูสำหรับผมทำสีขยี้เบาๆ ให้ทั่วศีรษะ ขั้นตอนนี้จะช่วยคงความชุ่มชื้นบนเส้นผมและรักษาสีผมให้คงอยู่นานยิ่งขึ้น
    • ล้างไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำที่ไหลลงมากลายเป็นน้ำใส เพราะหากคุณล้างครีมเปลี่ยนสีผมออกไม่สะอาด สีผมที่หลงเหลืออยู่อาจเปื้อนติดพื้นผิวอื่นๆ ได้
    • ปิดท้ายด้วยครีมนวดผมซึ่งเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ช่วยคงความชุ่มชื้นบนเส้นผม
    • ปล่อยให้ผมแห้งโดยธรรมชาติ เนื่องจากการใช้ไดร์เป่าผมจะทำให้เส้นผมของคุณแห้งจนเกินไปและส่งผลให้สีผมใหม่ของคุณหลุดลอกออกเร็วขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

รักษาสีผมใหม่ให้คงอยู่นาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. ครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรจะหลุดลอกออกไปทีละน้อยในทุกครั้งที่คุณสระผม ดังนั้นเพื่อให้สีผมใหม่ของคุณคงอยู่นานยิ่งขึ้น พยายามลดจำนวนครั้งในการสระผมให้น้อยลง ซึ่งหากคุณมีผมที่หนาและไม่ค่อยมันมากนัก คุณก็ไม่จำเป็นต้องสระผมบ่อยจนเกินไป [5]
  2. ในการสระผมทุกครั้ง ให้คุณเลือกใช้แชมพูที่ช่วยลดการหลุดลอกของสีผม โดยผู้ผลิตแชมพูยี่ห้อดังโดยส่วนใหญ่มักออกผลิตภัณฑ์แชมพูสำหรับผมทำสีอย่างน้อยหนึ่งตัว หากไม่สามารถหาซื้อแชมพูสำหรับผมทำสีได้ตามร้านเพื่อสุขภาพและความงามทั่วไป ให้คุณลองมองหาจากร้านที่จำหน่ายอุปกรณ์ทำผมโดยเฉพาะ
    • คุณควรเลือกใช้แชมพูปราศจากซัลเฟตที่ช่วยล็อกสีผมของคุณได้ดี ยกตัวอย่างเช่น แชมพูม่วงที่เหมาะสำหรับผมสีบลอนด์และสีเงิน
  3. เส้นผมที่แห้งและขาดความชุ่มชื้นอาจทำให้สีผมหลุดลอกออกได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้นคุณจึงควรหมั่นบำรุงเส้นผมด้วยครีมนวดผมอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นแบบล้างออกตามปกติหรือแบบไม่ต้องล้างออก หากคุณมีเส้นผมที่หยิกหยองไปทั่วทั้งศีรษะ ให้คุณลองใช้เชียบัตเตอร์บำรุงเส้นผมของคุณ
  4. โดยปกติแล้วสีผมที่ได้จากครีมเปลี่ยนสีผมชนิดกึ่งถาวรจะไม่คงอยู่ตลอดไป ดังนั้นคุณสามารถทำสีผมซ้ำอีกครั้งได้ตามขั้นตอนเดิมก่อนหน้านี้หลังจากที่สีผมของคุณเริ่มหลุดลอกออกจนกลายเป็นอีกสีหนึ่งที่คุณไม่ถูกใจเท่าไรนัก นอกจากนี้คุณยังอาจลองเลือกทำสีผมโทนสีใหม่ได้เช่นกัน หากคุณฟอกสีผมก่อนหน้านี้ อย่าเพิ่งฟอกสีผมซ้ำอีกครั้งจนกว่าโคนผมสีดำจะงอกยาวออกมา
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบหลังทำสีผมเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพราะแม้ว่าสีผมจะไม่ติดอยู่บนเส้นผมอย่างถาวร แต่คราบน้ำยาอาจเปื้อนติดตามเสื้อผ้า พรม และเฟอร์นิเจอร์จนเกิดความเสียหายได้
  • ครีมเปลี่ยนสีผมแบบกึ่งถาวรแต่ละตัวต่างมีขั้นตอนการใช้งานที่แตกต่างกัน ดังนั้นอย่าลืมอ่านคู่มือการใช้งานที่ระบุไว้ข้างขวดหรือกล่องบรรจุภัณฑ์ให้ละเอียดก่อนเริ่มลงมือทำสีผม
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,726 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

โฆษณา