ดาวน์โหลดบทความ
ดาวน์โหลดบทความ
บางที คุณอาจต้องการให้ผมของคุณดูสุขภาพดีและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น หรือคุณอาจกำลังพยายามฟื้นฟูสภาพเส้นผม หลังจากละเลยไม่เหลียวแลมานานแสนนาน บทความนี้จึงจะมาพูดถึงวิธีการง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ เพื่อดูแลเส้นผมของคุณให้ยาวเร็วขึ้น และยาวยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ขั้นตอน
-
รับประทานผัก ผลไม้ ปลา และเนื้อสัตว์ให้มากๆ. การรับประทานอาหารนั้นอาจดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเส้นผมของคุณ แต่ความจริงแล้ว อาหารนั้นสามารถสร้างความแตกต่างได้อย่างเหลือเชื่อ อีกทั้งยังมีคุณประโยชน์ช่วยเสริมสร้างให้ร่างกายของคุณสดใสแข็งแรงได้ในเวลาเดียวกัน
- ผมของคุณมีโปรตีนเป็นส่วนประกอบหลัก ดังนั้น คุณจึงควรรับประทานโปรตีนให้มากๆ ในแต่ละมื้อ นอกจากนี้คุณยังเห็นได้ว่า ผู้ที่เป็นโรคอะนอเร็กเซีย หรือผู้ที่กำลังเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักขั้นสุดยอดมักจะพบว่าผมของพวกเขาไม่ยาวขึ้นเอาเสียเลย
- แหล่งโปรตีนที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปในมื้ออาหาร ได้แก่ เนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำ เช่น เนื้อไก่และไก่งวง ปลา ไข่ อาหารจากถั่วเหลือง ถั่วฝัก และถั่วเปลือกแข็ง อาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างการผลิตเคราติน ซึ่งเป็นสารอาหารหลักที่ทำให้เส้นผมของเรางอกขึ้นมาใหม่
-
เลือกรับประทานไขมันที่มีประโยชน์. ไขมันบางชนิดมีความสำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะช่วยสร้างเสริมสุขภาพแล้ว ยังช่วยให้ผมของคุณมีสุขภาพดีอีกด้วย การรับประทานไขมันในปริมาณที่เหมาะสมจึงช่วยให้ผมและผิวพรรณของคุณสดใสเปล่งปลั่งอยู่เสมอ
- ไขมันยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมวิตามินและเกลือแร่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินเอ ดี อี และวิตามินเค ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการดูแลสุขภาพผมของคุณทั้งสิ้น
- คุณจึงควรเลือกรับประทานไขมันที่มีประโยชน์ ไขมันชนิดอิ่มตัว กรดไขมันชนิดทรานส์ หรือไขมันไม่อิ่มตัวที่มีการเติมไฮโดรเจนเป็นตัวอย่างไขมันที่คุณควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด ในขณะที่ไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งพบได้ในสัตว์ทะเลและไขมันจากพืชนั้นเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อเส้นผมของคุณ
- ด้วยเหตุนี้ วิตามินบีรวมที่มีน้ำมันปลาเป็นส่วนประกอบจึงมีส่วนช่วยในการเร่งการเจริญเติบโตของรากผม
-
รับประทานธาตุเหล็กและสังกะสีในปริมาณที่เพียงพอ. เพราะธาตุเหล็กและสังกะสี รวมถึงวิตามินชนิดอื่นๆ มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ผมของคุณดูสวยสุขภาพดี [1] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ธาตุเหล็กนั้นทำหน้าที่ในการลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกาย โดยธาตุชนิดนี้สามารถลำเลียงออกซิเจนจากเลือดในนิ้วเท้าขึ้นไปจนถึงรากผมของคุณได้เลยเชียวล่ะ (และนี่คือสาเหตุที่เลือดของเรามีกลิ่นเหมือนเหล็ก) เนื้อสัตว์ที่มีไขมันต่ำนับเป็นแหล่งธาตุเหล็กที่ดีเยี่ยม แต่หากคุณเป็นคนทานมังสวิรัติแล้วล่ะก็ คุณสามารถเลือกทานถั่วฝัก ถั่วแขก และอาหารที่ทำจากถั่วเหลือง เช่น ถั่วแระญี่ปุ่นหรือเต้าหู้แทนได้เช่นเดียวกัน
- ธาตุสังกะสีมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ จึงช่วยให้ต่อมไขมันบริเวณรากผมของคุณทำงานได้อย่างเหมาะสม โดยคุณสามารถเสริมธาตุสังกะสีให้กับร่างกายได้ด้วยการรับประทานหอยนางรม เนื้อย่างแบบไขมันต่ำ จมูกข้าวสาลีคั่ว เมล็ดฟักทองและน้ำเต้าคั่ว ดาร์คช็อคโกแลต และผงโกโก้ [2] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
-
รับประทานวิตามินซีให้เพียงพอ. เพราะการขาดวิตามินซีอาจทำให้ผมของคุณอ่อนแอ ขาดง่าย และไม่เงางาม
- ร่างกายของคุณจำเป็นต้องใช้วิตามินซีในการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตของเส้นผม นอกจากนี้ วิตามินซียังมีส่วนช่วยให้การย่อยธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารอีกชนิดที่ช่วยให้เส้นผมของคุณงอกขึ้นใหม่ ดังนั้น การรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่เหมาะสมจึงจำเป็นต่อการดูดซึมธาตุเหล็กเป็นอย่างยิ่ง
- ร่างกายของคนเราไม่สามารถสร้างวิตามินซีได้ด้วยตัวเอง การรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีวิตามินซีสูงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง คุณจึงควรรับประทานผักและผลไม้จำพวกแคนตาลูป ผลไม้ตระกูลส้ม บร็อคโคลี่ พริกหยวก รวมถึงผักโขมให้มากๆ เพราะนอกจากจะอร่อยรสเลิศแล้วยังอุดมไปด้วยวิตามินซีอีกด้วย
- กระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่า เด็กที่มีอายุระหว่าง 9-13 ปีควรรับประทานวิตามินซี 45 มก./วัน ในขณะที่วัยรุ่นที่มีอายุ 14-18 ปีควรรับประทานประมาณ 70 มก./วัน ส่วนผู้ใหญ่นั้นควรรับประทานประมาณ 75-90 มก./วัน
โฆษณา
-
การทำผมมากเกินไปอาจทำร้ายผมของคุณ. แม้การทำผมจะทำให้คุณดูดีขึ้นเป็นกอง แต่มันไม่ค่อยดีสำหรับผมของคุณเท่าไรนักหรอกนะ เพราะการใช้สารเคมีและยาสระผมบางประเภทอาจทำให้เส้นผมของคุณบางลง ขาดเปราะง่าย และยังอาจทำให้ผมของคุณขาดหลุดร่วงหากใช้อย่างไม่เหมาะสม [3] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง และการทำผมบางวิธียังอาจทำให้ผมของคุณหลุดร่วงหนักกว่าเก่า แน่นอนว่าคุณสามารถทำผมได้บ้างเป็นครั้งคราว แต่การทำบ่อยๆ อาจทำให้ผมของคุณเสียมากยิ่งขึ้น
-
พยายามอย่าดัดผมหยิก ผมลอน ใช้สารเคมีหรือที่ยืดผม ม้วนผม กัดสี หรือทำสีผมบ่อยๆ. การจัดแต่งทรงผมในลักษณะต่างๆ เหล่านี้อาจทำให้ผมของคุณเสียหายอย่างหนัก เพราะมันจะไปทำลายสารเคลือบตามธรรมชาติของเส้นผม นอกจากนี้ การใช้ความร้อนมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการยืดหรือเป่าแห้งนั้นก็จะทำให้ผมของคุณไหม้ คุณจึงควรใช้วิธีเช็ดผมให้แห้งแทนในทุกครั้งที่สามารถทำได้
-
พยายามแปรงและหวีผมน้อยๆ. เคยมีความเชื่อแบบผิดๆ ที่ว่า การแปรงผม 100 ครั้งต่อวันจะช่วยให้ผมของคุณยาวเร็วขึ้น [4] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง แต่นอกจากมันจะไม่จริงแล้ว ความจริงแล้ว การแปรงผมมากเกินไปจะทำให้ผมของคุณหลุดร่วงออกมาจากหนังศีรษะมากขึ้นอีกต่างหาก
- หวีผมตอนผมแห้ง ไม่ใช่ตอนที่ผมของคุณยังเปียกอยู่ เพราะผมของคุณจะเปราะบางมากเป็นพิเศษในขณะที่ยังเปียก คุณจึงควรรอจนกระทั่งผมแห้งมากหน่อย แล้วจึงใช้หวีซี่ห่างสางไปบนเส้นผมสุดรักสุดหวงของคุณ
- พยายามอย่าสางหรือดึงผมโดยไม่ใช้ครีมปรับสภาพเส้นผมหรือสเปรย์ป้องกันผมพันกัน
-
อย่าใช้หนังยางรัดผมหรือผูกผมไปด้านหลัง. หากคุณจำเป็นต้องผูกผมขึ้นหรือผูกไว้ด้านหลังจริงๆ แล้วล่ะก็ ให้เลือกใช้ยางรัดผมชนิดผ้าแทน เพราะยางรัดผมที่ทำจากผ้าจะไม่ทำให้เส้นผมติดหนึบกับเส้นยางมากนัก และจะไม่ดึงเส้นผมของคุณจนหลุดกระจุยออกมาอีกด้วย
-
หลีกเลี่ยงการทำผมที่ต้องดึงผมจนตึงหากไม่จำเป็น. เพราะการทำผมอย่างเช่น การถักเปียและการผูกหางม้านั้นจำเป็นต้องตรึงผมไปด้านหลัง จนทำให้เกิดแรงตึงบริเวณต่อมรากผม คุณจึงควรพยายามเลือกวิธีการที่สามารถลดแรงตึง เพื่อให้ต่อมรากผมของคุณสามารถสร้างเส้นผมที่แข็งแรงใหม่ๆ ออกมาได้
-
สระผมอย่างใส่ใจ. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อทำความสะอาดเส้นผมของคุณ และควรสระผมรวมถึงใช้ครีมนวดเพียง 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยพิจารณาจากความมันบนเส้นผมของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องสระผมและใช้ครีมนวดในทุกๆ วัน เพราะการทำเช่นนั้นจะดึงเอาน้ำมันธรรมชาติที่มีอยู่ในเส้นผมของคุณออกมามากเกินไป
- สำหรับผู้ที่มีเส้นผมหยาบ หยักศก หรือมีผมแห้งน่าจะอยากสระผมเพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะน้ำมันธรรมชาติในเส้นผมถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผมของคุณแข็งแรงและสุขภาพดี แต่สำหรับผู้ที่มีผิวมันอาจต้องการสระผมมากกว่า 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะความมันที่เกิดขึ้นสามารถส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมได้
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่มีประโยชน์ต่อผมของคุณ ส่วนประกอบในยาสระผมจำพวก อโวคาโด มะพร้าว น้ำมันโจโจ้บา หรือน้ำมันมะกอกล้วนแล้วแต่มีประโยชน์หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะสารอาหารเหล่านี้สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นและน้ำมันภายในเส้นผมของคุณไว้ ในขณะที่ทำหน้าที่ลดผมแห้งเสียและแตกปลายไปในขณะเดียวกัน
-
วางแผนว่าจะตัดผมบ่อยแค่ไหน. มีผู้กล่าวว่า การตัดผมไม่ได้ช่วยให้ผมยาวขึ้นจากรากได้เร็วขึ้น แต่นั่นเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะความจริงแล้ว การตัดผมสามารถลดการสูญเสียเส้นผมส่วนปลายได้ เพราะการตัดผมจะช่วยลดการขาดร่วงเนื่องจากผมแตกปลาย
- ความถี่ที่คุณควรตัดผมจะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของเส้นผมของคุณ และขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้ผมยาวเร็วแค่ไหน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณล้วนๆ
- เส้นผมทั่วไปจะยาวเพิ่มขึ้นประมาณ 1.3 - 1.6 ซม. ต่อเดือน โดยช่างทำผมส่วนใหญ่แนะนำให้ตัดผมในทุกๆ 6-10 สัปดาห์ นั่นหมายความว่า แม้คุณจะตัดผมออกถึง 1/4 - 1/2 นิ้ว ผมของคุณก็ยังจะยาวขึ้น
โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 5:
การออกกำลังกายและความเครียดมีผลอย่างไรต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
ดาวน์โหลดบทความ
-
การดำเนินชีวิตโดยดูแลสุขภาพเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้ผมของคุณยาวเร็วขึ้นได้. เพราะร่างกายของคนเราทำงานเหมือนเครื่องจักรที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี ด้วยเหตุนี้ กิจกรรมบางประเภทอย่างเช่น การนอนหลับจึงช่วยให้ร่างกายของคุณสามารถผลิตเซลล์ใหม่และยังทำให้สุขภาพโดยรวมของคุณดีขึ้นอีกด้วย
- ความเครียดจากหลายๆ สาเหตุ เช่น ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนรัก หรือความเหงาทางอารมณ์นั้นอาจทำให้ร่างกายของคนเราปรับเข้าสู่โหมดเพื่อความอยู่รอด ซึ่งจะทำให้ร่างกายผลิตเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อความอยู่รอดของตัวมันเองเท่านั้น และในช่วงเวลาเช่นนี้ ผมของคุณก็อาจหยุดการเจริญเติบโตไปโดยสิ้นเชิง [5] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ในทางตรงกันข้าม เมื่อร่างกายของคุณตุนสารอาหารและพลังงานไว้มากเพียงพอในระดับที่ทำให้มันไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องความอยู่รอดของคุณมากนัก ร่างกายก็จะสามารถจัดแบ่งสารอาหารเพื่อไปสร้างและปกป้องเส้นผมของคุณได้ ดังนั้น คุณจึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อให้ร่างกายของคุณมีแหล่งพลังงานกักตุนไว้ใช้ในชีวิตประจำวันได้มากที่สุด
-
ขจัดความเครียดทางร่างกายออกไปจากชีวิตของคุณ. การผ่าตัด อุบัติเหตุร้ายแรง หรืออาการบาดเจ็บอื่นๆ ล้วนแล้วแต่สามารถทำให้เส้นผมของคุณหยุดการเจริญเติบโต หรืออาจถึงขั้นทำให้ผมของคุณหลุดร่วงจำนวนมาก และเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านี้ เส้นผมของคุณอาจยาวช้ากว่าปกติเป็นระยะเวลานานถึง 3 เดือนเลยทีเดียว เพราะร่างกายของคุณกำลังวุ่นอยู่กับการซ่อมแซมเซลล์และอาการบาดเจ็บของคุณ
- ค้นหาต้นตอความเครียด แล้วปล่อยให้ร่างกายได้เยียวยา หากคุณเพิ่งผ่านพ้นเหตุการณ์ที่สร้างความเจ็บปวดทางร่างกายอย่างรุนแรง คุณควรให้เวลาร่างกายของคุณได้เยียวยารักษาตัวเอง ก่อนที่จะหวังว่าจะได้เห็นเส้นผมของคุณยาวขึ้นอีกครั้ง และเมื่อร่ายกายหายดี เมื่อนั้นคุณจะได้เห็นเส้นผมของคุณกลับมายาวสวยอีกครั้ง
- ภาวะโลหิตจาง เกล็ดเลือดต่ำ และความผิดปกติในต่อมไทรอยด์อาจเป็นอีกหนึ่งต้นตอความเครียดทางร่างกายที่ส่งผลโดยตรงทำให้เส้นผมของคุณหยุดการเจริญเติบโตชั่วคราว [6] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถตรวจพบโรคต่างๆ เหล่านี้ได้ง่ายๆ เพียงไปรับการตรวจเลือดซึ่งมีค่าบริการไม่แพง และลองปรึกษาแพทย์ หากคิดว่าคุณอาจเป็นโรคต่างๆ เหล่านี้
-
ขจัดความเครียดทางอารมณ์ออกไปจากชีวิตของคุณ. ลองหาวิธีการในการจัดการกับความเครียดที่ร่างกายของคุณสร้างขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากกิจกรรมในชีวิตประจำวันหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เพราะแม้ความเครียดจะไม่มีผลถึงขนาดทำให้ศีรษะของคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชายเกิดอาการล้าน แต่ก็มีผลอย่างมากต่อการหยุดชะงักการเจริญเติบโตของเส้นผม
- การออกกำลังเป็นวิธีการที่ดีเยี่ยมในการปลดปล่อยความเครียดที่ถูกเก็บกดไว้ การวิ่งออกกำลังกาย การว่ายน้ำ ยกน้ำหนัก หรือแม้กระทั่งการเดินธรรมดาๆ ก็ล้วนมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายสามารถย่อยอาหารและดูดซึมวิตามินต่างๆ ไปใช้ได้ดีขึ้น ช่วยให้คุณนอนหลับสนิท และยังช่วยลดความเครียดของคุณลงได้เยอะอีกด้วย
โฆษณา
-
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปัญหาสุขภาพที่คุณมีไม่ส่งผลต่อการหยุดชะงักการเจริญเติบโตของเส้นผม. เพราะปัญหาสุขภาพต่างๆ อาจทำให้เส้นผมของคุณยาวช้าลงทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย และในบางกรณี การจัดการกับปัญหาเหล่านี้สามารถทำให้เส้นผมของคุณกลับมายาวสลวยได้อีกครั้ง
- หากพบว่าตนมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง คุณควรลองปรึกษาแพทย์ เพราะปัญหาเหล่านี้อาจทำให้ผมของคุณขาดร่วงหรือไม่ยาวขึ้น และดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ภาวะเกล็ดเลือดต่ำและปัญหาไทรอยด์ รวมถึงความผิดปกติของฮอร์โมน ล้วนสามารถลดการเจริญเติบโตของเส้นผมของคุณทั้งสิ้น
- ลองปรึกษาแพทย์ดูว่ามีวิธีการรักษาใดที่คุณกำลังเข้ารับที่อาจเป็นปัจจัยทำให้ผมของคุณขาดหลุดร่วงหรือยาวช้าลง ตัวยาต่างๆ เช่น ยารักษาสิว ยาคุมกำเนิด สารสเตียรอยด์ ยาต้านการแข็งตัวของเลือด และยารักษาอาการซึมเศร้า ล้วนมีผลต่อการหลุดร่วงของเส้นผมทั้งในเพศหญิงและเพศชาย [7] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
- ควรปรึกษาแพทย์ก่อนหาซื้อผลิตภัณฑ์เร่งผมยาวตามเคาเตอร์ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจมีผลต่อการรักษาอาการอื่นๆ ของคุณ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการไดเอทอย่างหนัก เพราะการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เส้นผมของคุณยาวช้าลง
-
ตรวจหาอาการติดเชื้อบริเวณหนังศีรษะ. เชื้อราซึ่งเกิดจากการอักเสบของต่อมรากผมอาจทำให้หนังศีรษะเกิดอาการติดเชื้อ จนเป็นเหตุให้หนังศีรษะของคุณถูกทำร้ายและทำให้รากผมไม่เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง
- หากสงสัยว่าคุณอาจมีอาการติดเชื้อบริเวณหนังศีรษะ (ไม่ได้เป็นเพียงรังแคธรรมดาๆ) ให้ลองปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับยาแก้เชื้อราเฉพาะที่ที่คุณสามารถนำมาใช้เพื่อรักษาอาการติดเชื้อนี้ได้ จากนั้นจึงลองปรึกษาแพทย์เรื่องการเร่งผมยาว และเมื่ออาการติดเชื้อบริเวณหนังศีรษะได้รับการรักษา ผมของคุณมักจะกลับมายาวขึ้นตามปกติ
-
ตรวจหาความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมน. ความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมนอันเกิดจากช่วงวัยหมดประจำเดือน การตั้งครรภ์ หรือระดับเทสโทสเทอโรนเพิ่มสูงขึ้นล้วนมีผลต่ออัตราการเจริญเติบโตของเส้นผมทั้งสิ้น โดยคุณสามารถปรึกษาแพทย์ดูว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมของคุณยาวช้ากว่าที่เคยหรือไม่
- หากตรวจพบความผิดปกติในระดับฮอร์โมน แพทย์มักใช้ยายับยั้งการจับตัวของแอนโดรเจนในคนไข้เพศหญิง [8] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง ผู้เชี่ยวชาญทั่วไปมองว่าแอนโดรเจนนั้นเป็นฮอร์โมนเพศชาย เนื่องจากมีความสำคัญในกระบวนการเติบโตของอวัยวะสืบพันธุ์รวมถึงคุณลักษณะขั้นที่สองของเพศชาย ดังนั้น การที่ผู้หญิงมีฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินจึงมีความเชื่อมโยงกับการหลุดร่วงของเส้นผมด้วยเช่นเดียวกัน
- หากตรวจพบความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมนในเพศชาย แพทย์มักแนะนำให้ใช้ยาฟิแนสเทอไรด์ (Finasteride) (หรือที่เรียกอีกอย่างว่าโพรเพเชีย) ตัวยาโพรเพเชียจะทำงานโดยการสะกัดกั้นเอมไซม์ที่จะเข้ามาเปลี่ยนฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนของคุณเป็นฮอร์โมนแอนโดรเจน จนกลายเป็นฮอร์โมนไดไฮโดรเทสโทสเทอโรน (DHT) ในที่สุด และเจ้ายาโพรเพเชียตัวนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันสามารถช่วยลดระดับฮอร์โมน DHT บนหนังศีรษะของคุณได้ถึง 60% เลยทีเดียว [9] X แหล่งข้อมูลอ้างอิง
โฆษณา
-
ใช้ของจากธรรมชาติที่มีอยู่ในบ้านเพื่อเร่งความยาวของเส้นผม. แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณลองใช้ยารักษาเองที่บ้าน คุณก็ต้องระวังหน่อยนะ เพราะยาที่คุณใช้อาจย้อนกลับมาทำร้ายคุณแทนที่จะช่วยกระตุ้นให้ผมของคุณยาวขึ้น
- ผสมว่านหางจระเข้เข้ากับน้ำผึ้ง: โดยใช้เนื้อที่ขูดออกมาจากใบว่านหางจระเข้จำนวน 3 ใบ ผสมเข้ากับน้ำผึ้ง แล้วทาให้ทั่วหนังศีรษะของคุณ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วจึงล้างออกตามปกติ
- รับประทานอาหารเช้าที่อัดแน่นไปด้วยพลังงาน: โดยผสมเลซิตินจากถั่วเหลืองจำนวน 1 ช้อนพูน จมูกข้าวสาลีอีก 1 ช้อนพูน น้ำผึ้ง 1 ช้อนพูน บริเวอร์ยีสต์ 1 ช้อนพูน และโยเกิร์ตอีก 1 ถ้วยเข้าด้วยกัน ลองรับประทานอาหารสูตรโฮมเมดนี้เป็นมื้อเช้าในทุกวันของคุณดูนะคะ
- มะเขือเทศ น้ำมันมะกอก และว่านหางจระเข้: ผสมมะเขือเทศเข้ากับน้ำมันมะกอกหนึ่งช้อนเต็ม จากนั้นนำไปต้มจนอุ่น แล้วจึงทาลงบนหนังศีรษะ จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้นานที่สุด นอกจากนี้ คุณยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของยาสูตรนี้ได้ด้วยการใส่ว่านหางจระเข้ลงไป
- น้ำจากดอกโรสแมรี่: สำหรับสูตรนี้ ให้คุณล้างผมของคุณทุกวันโดยใช้น้ำจากดอกโรสแมรี่ โดยคุณสามารถหาซื้อแชมพูที่สกัดจากดอกโรสแมรี่ หรือจะทำน้ำโรสแมรี่ไว้ใช้เองก็ได้นะ
- ราชพฤกษ์: สาเหตุที่เราใช้ต้นราชพฤกษ์ หรือต้นเซนนา ออริคุลาตา (Senna auriculata) หรือ ต้นแทนเนอร์ แคสเซีย (Tanner cassia) เป็นส่วนผสมหลักในการทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรบำรุงเส้นผมนั่นก็เพราะพืชในสกุลขี้เหล็กเหล่านี้สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตตามธรรมชาติของเส้นผมได้โดยการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณหนังศีรษะ จึงช่วยลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมได้ในที่สุด [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ] นอกจากนี้สมุนไพรตัวยาเหล่านี้ยังสามารถยับยั้งการเกิดแบคทีเรียและช่วยบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นบนหนังศีรษะ อีกทั้งยังเป็นยาบำรุงที่ช่วยให้ผมของคุณดกดำ เงางาม มีวอลลุ่ม และยังทำให้ผมของคุณมีกลิ่นหอมสดชื่นอีกด้วย
- ชบา: ดอกฮิบิคัส หรือที่เราเรียกกันทั่วไปว่าดอกชบานั้น มีการนำมาใช้เป็นตัวยาเร่งความยาวเส้นผมมาอย่างยาวนาน เพราะดอกไม้ชนิดนี้สามารถป้องกันผมขาดหลุดร่วงและผมหงอกก่อนวัยได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยรักษาโรคต่างๆ บนหนังศีรษะของคุณได้อีกด้วย
- เฮนน่า: หรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อดอกเมเฮนดี พระราชาและพระราชินีต่างใช้ดอกไม้ชนิดนี้ในการทำสีผม ทำความสะอาดผม และบำรุงเส้นผมของพวกเขาให้สวยเงางามมาแล้วหลายศตวรรษ นอกจากนี้ ดอกเฮนน่ายังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดบนหนังศีรษะ และยังลดผมขาดหลุดร่วงรวมถึงช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผมของคุณได้อีกด้วย [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- หอมแขก: นอกจากหอมแขกจะช่วยเพิ่มรสชาติอันโอชะให้กับอาหารของคุณแล้ว มันยังสามารถสร้างความมหัศจรรย์ให้กับเส้นผมของคุณอีกด้วย เพราะในหอมแขกมีสารอาหารสำคัญที่สามารถฟื้นฟูสภาพเส้นผมได้ด้วยการเสริมความแข็งแรงให้กับรากผมของคุณ นอกจากนี้ หอมแขกยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ และยังช่วยให้ผมของคุณงอกใหม่ได้เร็วยิ่งขึ้น [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- หญ้าแฝก: สมุนไพรชนิดนี้จะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดและช่วยบำรุงเส้นผมของคุณ [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- กลีบกุหลาบ: กลีบกุหลาบเป็นตัวยาชั้นดีที่ช่วยบำรุง บรรเทาอาการอักเสบ และกำจัดผิวแห้งตกสะเก็ดออกจากหนังศีรษะของคุณ นอกจากนี้ กลีบกุหลายยังช่วยในเรื่องการไหลเวียนของเลือด ลดผมขาดหลุดร่วง และยังช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผมของคุณอีกด้วย [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
- สะเดา: กว่าพันปีมาแล้ว ที่มนุษย์เรานำสะเดามาใช้ในการลดผมขาดหลุดร่วง และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม เพราะในสะเดามีกรดไขมันสูงที่ช่วยให้ผมของคนเราแข็งแรงสุขภาพดี [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อได้ตามร้านค้าเพื่อเร่งความยาวผม. ผลิตภัณฑ์ตามร้านค้าบางประเภทนั้นแม้จะยังไม่มีการพิสูจน์อย่างแน่ชัดว่าสามารถเร่งความยาวผมของเราได้จริงหรือไม่ แต่ก็อาจช่วยได้ในบางกรณี
- ไบโอตินอาจช่วยได้: ไบโอตินเป็นวิตามินบีชนิดละลายน้ำได้ ซึ่งอาจช่วยให้ผมและเล็บของคุณยาวเร็วขึ้น นอกจากนี้ไบโอตินยังช่วยในเรื่องของสิว ช่วยรักษาผิวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และยังทำให้ผมของคุณแข็งแรงขึ้นอีกด้วย ลองตรวจสอบฉลากผลิตภัณฑ์ดูนะว่าคุณควรใช้ในปริมาณใด
- เอ็มเอสเอ็ม (MSM) อาจช่วยได้: MSM นั้นย่อมาจาก เมทิลซัลโฟนิลมีเทน สารชนิดนี้เป็นซัลเฟตตามธรรมชาติที่พบได้ในพืชบางชนิด และมีชื่อเสียงในด้านการสร้างคอลลาเจนและซ่อมแซมเนื้อเยื่อภายในร่างกาย สำหรับเส้นผมของคนเรานั้น สาร MSM ตัวนี้จะช่วยลดการขาดหลุดร่วงและเร่งความยาว และยังทำให้ผมของเราดูหนาเงางามอีกด้วย
โฆษณา
เคล็ดลับ
- นวดหนังศีรษะก่อนเข้านอน
- ดูแลผมเปียกอย่างใส่ใจ เพราะผมเปียกสามารถถูกทำร้ายได้ง่าย
- ใช้ความร้อนกับเส้นผมของคุณให้น้อยที่สุด
- การตัดผมไม่ได้ช่วยให้ผมของคุณยาวเร็วขึ้น แต่จะช่วยกำจัดผมแห้งแตกปลายและทำให้ผมของคุณดูยาวขึ้นได้ในที่สุด
- การทำผมทรงดังโงะทำให้ผมของคุณงอและขาดหลุดร่วงได้เช่นเดียวกัน และการมัดหางม้าก็ดีต่อผมของคุณมากกว่าการทำดังโงะอีกด้วยนะ อย่างไรก็แล้วแต่ คุณต้องระวังอย่ามัดผมจนตึงเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแรงตึงบริเวณต่อมรากผมของคุณ
- ลองผสมอาหารบำรุงต่างๆ เช่น น้ำมันมะกอกและมายองเนสเพื่อนำมาบำรุงเส้นผม และหากคุณมีเส้นผมที่แห้งกรอบ ลองอุ่นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์แล้วใส่ลงไปบริเวณรากผมและนวดๆ จนซึมลงไปยังต่อมรากผมของคุณ
- หากผมของคุณแห้งอย่างต่อเนื่อง ควรให้แพทย์ลองตรวจสอบหาโรคที่เกี่ยวกับต่อมไทรอยด์และความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมนดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ เพราะภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน (Hepothyroidism) นั้นอาจทำให้เส้นผมและผิวของคุณแห้ง และยังทำให้น้ำหนักตัวของคุณเพิ่มขึ้นอีกด้วยนะ
- ความเครียดอาจทำให้เส้นผมของคุณหยุดการเจริญเติบโตชั่วคราว แต่ไม่น่าจะเป็นบ่อเกิดของปัญหาหนังศีรษะล้านที่พบได้บ่อยในเพศชาย
- ลองก้มหัวในขณะเป่าผม เพื่อให้ผมของคุณดูหนามากยิ่งขึ้น
- ใส่น้ำมันมะกอก/น้ำมันมะพร้าวบริเวณปลายผมประมาณ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อลดผมแตกปลายให้ได้มากที่สุด แล้วคุณจะไม่ต้องมาคอยเล็มปลายผมบ่อยๆ อีกต่อไป
- ควรใช้มาส์กบำรุงผมเพียง 1 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น เพราะการใช้มากเกินไปอาจทำร้ายผมของคุณ แต่การใช้น้อยเกินไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเช่นกัน
- ใช้วิธีก้มหัวในขณะที่บำรุงเส้นผม (inversion method) เพื่อเร่งความยาวผมของคุณ
- ดื่มน้ำให้เยอะๆ
- ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ใช้หวีซี่ห่างเพื่อสางผมเปียก/แห้ง
- ใช้เศษผ้าม้วนผมทิ้งไว้ค้างคืน หรือผูกผมที่ยังเปียกไปด้านหลังหลังจากอาบน้ำ เพื่อให้ผมของคุณดูตรงขึ้น
- ทานวิตามินหลากหลายประเภท เช่น วิตามินเร่งผมยาว หรือไบโอติน (แต่อย่าทานวิตามินบำรุงครรภ์เป็นอันขาดหากคุณไม่ได้กำลังตั้งครรภ์ เพราะมันอันตรายมากๆ)!!
โฆษณา
คำเตือน
- สารสเตียรอยด์อาจทำให้ผมขาดหลุดร่วง เพราะสเตียรอยด์จะเร่งการผลิตฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของอาการหัวล้าน
- อย่าใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่มีส่วนผสมของสารเคมี (เช่น แชมพูหรือครีมนวดที่มีส่วนผสมของสารพาราเบน ซัลเฟต และแอลกอฮอล์) และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสมุนไพรในทุกครั้ง [ ต้องการเอกสารอ้างอิง ]
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://ods.od.nih.gov/factsheets/Zinc-HealthProfessional/
- ↑ http://www.healthaliciousness.com/articles/zinc.php
- ↑ http://books.google.com/books?hl=en&lr=&id=9-1jWuN4PBsC&oi=fnd&pg=PA105&dq=styling+techniques+damage+hair&ots=xPoXLMVHe_&sig=rgwuhV0fLKDEWa3oFq-dq_oLaSc#v=onepage&q=styling%20techniques%20damage%20hair&f=false
- ↑ http://www.webmd.boots.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/hair-loss-myth-buster
- ↑ http://www.ahlc.org/causes-f.htm
- ↑ http://www.ahlc.org/causes-f.htm
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/drug-induced-hair-loss?page=2
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/hair-loss-treatments
- ↑ http://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/hair-loss/hair-loss-treatments-men
โฆษณา
